Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Mike ที่ มกราคม 09, 2018, 19:07:53
-
2.4 Mivec Clean Diesel นี่มี DPF ไหมครับ
ณ ตอนนี้ข้อสันนิษฐาน ที่ทำให้เกิดปัญหาใน Cx-5 2.2 ที่ผมอ่านจากหลายๆที่
เขม่าเยอะ > DPF ไม่มีโอกาสเผ่าหมด>นมช.ไหลคืนอ่าง ผสม นมค.>นมค.เสื่อม หรือล้นขีด X>ความร้อนขึ้น>ปะเก็นรั่ว,ฝาสูบพัง>น้ำดัน
ผมเข้าใจถูกไหม? ที่ติดตามเพราะก็เล็งไว้
ถ้าใช่ ผมก็ไม่กลัวนะ แต่ต้องหมั่นตรวจสอบเอง, ขับทางไกล ความเร็วสูงบ้าง ให่เข้าเงื่อนไข การเผ่าเขม่า และ เช็คระดับ นมค. โดยไม่รอ รอบเช็คระยะ
แล้วใน เครื่องยนต์ดีเซล ค่ายพรีเมี่ยมยุโรป ที่มี DPF นี่เค้าเจอปัญหาคล้ายกันไหม
แว่วๆว่า Everest ก็มี DPF ประเภท CDPF
-
BWM มีปัญหาไหม
มีครับ แต่ไม่เยอะ เพราะคนใช้ไม่เยอะเท่าค่ายญี่ปุ่น
แล้วอีกอย่าง ปัญหาเขามีแต่มันไม่ใช่ขนาด Mazda นู้นเลยใช้ไปยาวๆกว่าเยอะ กว่าจะเจอปัญหากันจริงๆ
ระบบเขาทำมาดีกว่าครับ ผมใช้ 320d มาซักพักนึงตัว LCI
สมัย Euro4-5 ยังไม่หนักหนามากนัก
แต่
ตอนนี้มี EURO6 กันแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย
-
ใช้กระบะเครื่องดีเซลมาก็หลายเจน จนมาถึงเจนปัจจุบัน ไม่เคยใส่ใจเลยครับเรื่องนี้ เรื่อง DPF เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละครับว่าต้องหมั่นดูแลกันขนาดนั้นเลยเหรอ ? สรุปง่ายๆ Mazda ไม่เก่งเครื่องดีเซลจริงๆ สร้างมาผิดธรรมชาติเครื่องดีเซล ที่ต้องทน ถึก ดูแลรักษาง่าย + แรงด้วยในสมัยนี้
-
ไหนเมื่อก่อนอวยกันซะเว่อวัง Sky Active D
-
กะบะที่ขายในไทยไม่มี DPF ครับ อย่างมากสมัยใหม่ก็มีแค่ EGR ควันมันถึงเป็นปลาหมึกไงครับ มลพิษเยอะครับ
-
มีในประเทศที่เข้มงวดด้านมลพิษครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นระบบ EGR+DPFและSCR ที่รถยุโรปหลายๆรุ่น พี่น้อง T6 และ Hiace ญี่ปุ่นต้องคอยมาเติมน้ำยา Adblue
-
ส่วนใหญ่กระบะจะมีแต่ EGR นะครับ ซึ่งก็เอาไปอุดกันเยอะแยะ อุดแล้วไม่พังด้วย
-
รถกระบะ ยังไม่มี มีแต่ระบบEGR กับ ท่อแคท บำบัดไอเสียให้สะอาด ลดควันดำครับ
-
รถกระบะเดาว่ามกันตามกฏหมายของแต่ประเทศครับ ประเทศไทยกฏหมายยังไม่เข้มมากพอที่จะต้องใช้ DPF
ทางโรงงานเค้าไม่อยากใส่มาให้ต้นทุนสูงอยู่ ถ้าส่งนอกก็ใส่ adblue เอา
-
Captiva กับ Cruze ตัวดีเซลมี DPF ทั้งคู่ แต่ก็ไม่เห็นมีปัญหากันนะครับ
เวลาเผาเขม่าก็จะมีไฟ DPF ขึ้น ถ้าขับทางไกลอยู่แล้ว แปปๆ ไฟก็ดับ ถ้าขับในเมืองก็ขึ้นอยู่ 2-3 วัน
-
ก่อน 2.4 Mivec Clean Diesel ก็มี DPF แต่บ้านเราไม่ได้ใส่เพราะมาตรฐานยังไม่ถึง
-
ถ้าเป็นบีเอ็มก็หมดห่วงไร้กังวล ผมขับแต่ในเมืองแถวสุขุมวิทรถติดๆ ซะส่วนใหญ่ 8-9 เดือนไม่ได้ออกต่างจังหวัด
ก็ไม่เห็นเป็นอะไร
เคยอ่านเจอเคสเดียวไปชนจนอินเตอร์แตก ควันดำ DPF จึงตัน
-
ไหนเมื่อก่อนอวยกันซะเว่อวัง Sky Active D
พูดแบบนี้เดี่ยวตีตายเลยยย 555
-
กระบะดีเซลที่ไทยเราเข้าใจว่าบ้านๆนี่แหละครับ เครื่องตัวเดียวกันส่งออกไปบางประเทศมี DOC(หรือ cat นั่นแหละ) + EGR + DPF
และในบางตลาดเป็น DOC + DPF + EGR + SCR (urea หรือคล้ายๆ adblue)
ความจริงไม่ได้เพิ่งมามี dpf กันในเจ็นนี้นะ บางตลาด เครื่อง 1KD ก็ได้ dpf แล้วครับ
บางรุ่นมีปุ่มสำหรับทำ manual dpf regeneration ไว้กรณี auto regen ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ คือกดไว้แล้วรอบเครื่องจะตีขึ้นไป 2-3000 รอบ แล้วเร่งอยู่แบบนั้นราวๆ 30-45 นาที จนกว่าเขม่าจะหมด ถึงกับมีคำเตือนในคู่มือกันเลยทีเดียวว่าอย่าไปจอดใกล้พื้นหญ้าหรือใกล้วัตถุติดไฟ เพราะอุณหภูมิขณะทำ regen สูงมากจนอาจเกิดไฟไหม้ได้ (แน่นอนคนรับ cost ตอนเร่งเครื่องทำ dpf ก็กระเป๋าตังเจ้าของรถแต่เพียงผู้เดียวนะจ๊ะ) หันมาดูกระบะในไทยแล้วก็ยังคิด ตอนนี้ยังพ่นหมึกพ่นควันกันอยู่เลย ใส่ dpf มาคงตัดทิ้งกันอีกตามเคยใช่ป่าวครับ
รุ่นที่กล่าวมามีขายในไทยครับ แต่ที่ไทยยังไม่ถึงเวลาที่ระบบบำบัดไอเสียเหล่านี้จะมาถึงปัญหาเลยยังไม่มี ซึ่งผมมองว่าตอนนี้มันก็เหมือนกับปิดตาไว้ไม่รับรู้กับปัญหาที่กำลังจะมาแต่ยังมาไม่ถึง นู้นแหละกว่าจะใส่มาก็ตอนรัฐยกระดับมาตรฐานไอเสียเป็น euro 5 ถึงตอนนั้นดีเซลทั้งหลายจะเก๋งหรูหรือกระบะลูกทุ่งก็หนี dpf ไม่พ้นแน่
เมื่อ euro 5 และ dpf มา มันจะมาพร้อม cost ที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวซึ่งผมเองก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ากลุ่มลูกค้ารถกระบะส่วนใหญ่ของประเทศจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับจุดนี้อย่างไร
แต่สภาพแวดล้อมโดยรวมจะดีขึ้นครับถ้าคนไม่ไปตัดมันออกนะ
-
แล้วถ้าขับแบบวิ่ง 100-120 เช่น นวมินทร์ - มอเตอร์เวย์ - สนามบินสุวรรณภูมิ ทางยาวๆ 10-15 กม.
แบบนี้ DPF จะตันไหมครับ
-
กระบะดีเซลที่ไทยเราเข้าใจว่าบ้านๆนี่แหละครับ เครื่องตัวเดียวกันส่งออกไปบางประเทศมี DOC(หรือ cat นั่นแหละ) + EGR + DPF
และในบางตลาดเป็น DOC + DPF + EGR + SCR (urea หรือคล้ายๆ adblue)
ความจริงไม่ได้เพิ่งมามี dpf กันในเจ็นนี้นะ บางตลาด เครื่อง 1KD ก็ได้ dpf แล้วครับ
บางรุ่นมีปุ่มสำหรับทำ manual dpf regeneration ไว้กรณี auto regen ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ คือกดไว้แล้วรอบเครื่องจะตีขึ้นไป 2-3000 รอบ แล้วเร่งอยู่แบบนั้นราวๆ 30-45 นาที จนกว่าเขม่าจะหมด ถึงกับมีคำเตือนในคู่มือกันเลยทีเดียวว่าอย่าไปจอดใกล้พื้นหญ้าหรือใกล้วัตถุติดไฟ เพราะอุณหภูมิขณะทำ regen สูงมากจนอาจเกิดไฟไหม้ได้ (แน่นอนคนรับ cost ตอนเร่งเครื่องทำ dpf ก็กระเป๋าตังเจ้าของรถแต่เพียงผู้เดียวนะจ๊ะ) หันมาดูกระบะในไทยแล้วก็ยังคิด ตอนนี้ยังพ่นหมึกพ่นควันกันอยู่เลย ใส่ dpf มาคงตัดทิ้งกันอีกตามเคยใช่ป่าวครับ
รุ่นที่กล่าวมามีขายในไทยครับ แต่ที่ไทยยังไม่ถึงเวลาที่ระบบบำบัดไอเสียเหล่านี้จะมาถึงปัญหาเลยยังไม่มี ซึ่งผมมองว่าตอนนี้มันก็เหมือนกับปิดตาไว้ไม่รับรู้กับปัญหาที่กำลังจะมาแต่ยังมาไม่ถึง นู้นแหละกว่าจะใส่มาก็ตอนรัฐยกระดับมาตรฐานไอเสียเป็น euro 5 ถึงตอนนั้นดีเซลทั้งหลายจะเก๋งหรูหรือกระบะลูกทุ่งก็หนี dpf ไม่พ้นแน่
เมื่อ euro 5 และ dpf มา มันจะมาพร้อม cost ที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวซึ่งผมเองก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ากลุ่มลูกค้ารถกระบะส่วนใหญ่ของประเทศจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับจุดนี้อย่างไร
แต่สภาพแวดล้อมโดยรวมจะดีขึ้นครับถ้าคนไม่ไปตัดมันออกนะ
ขนาดยุคนี้ ยังไปอุด EGR เปลี่ยน Cat เป็นท่อ ไอ้ระบบ DPF นี่ คงไม่เหลือ ถ้ามาไทยจริงๆในยุคนั้น
-
ขนาดในเว็บคลับนิวปา มีคนมาถามว่าอุด EGR ดีไหม
มีแต่พวกเชียร์ให้อุดกัน บอกดีอย่างนู้น ทนทานอย่างนี้
หารู้ไม่ ควันพิษทั้งนั้น ถอยรถเข้าบ้าน จอดติดเครื่องลงไปเก็บของท้ายรถ เจ้าของรถต้องสูดควันพิษเข้าไปทุกวันๆ แล้วยิ่งสมัยนี้รอบตัวเรามีแต่สิ่งเร้าให้มัน้ป็นมะเร็งได้ง่าย
อุด EGR แล้วเครื่องทน แต่อนาคตต้อจ่ายค่ารักษามะเร็งปอด แบบนี้ก็ไม่คุ้มกัน
-
ขนาดในเว็บคลับนิวปา มีคนมาถามว่าอุด EGR ดีไหม
มีแต่พวกเชียร์ให้อุดกัน บอกดีอย่างนู้น ทนทานอย่างนี้
หารู้ไม่ ควันพิษทั้งนั้น ถอยรถเข้าบ้าน จอดติดเครื่องลงไปเก็บของท้ายรถ เจ้าของรถต้องสูดควันพิษเข้าไปทุกวันๆ แล้วยิ่งสมัยนี้รอบตัวเรามีแต่สิ่งเร้าให้มัน้ป็นมะเร็งได้ง่าย
อุด EGR แล้วเครื่องทน แต่อนาคตต้อจ่ายค่ารักษามะเร็งปอด แบบนี้ก็ไม่คุ้มกัน
+++++1 ให้เลยครับ เราต้องพยายามช่วยกันคิดเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วยนะครับ ควันพิษที่ว่าก็เข้าบ้านของเจ้าของรถด้วยเหมือนกัน ถ้าอุด EGR แล้วเครื่องทนขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ผมว่ามันก็เป็นการออกแบบที่ผิดพลาดของบริษัทรถยนต์
-
ผมงงกับสายอุดมาก อุดเพราะกลัวอุปกรณ์ตัวนี้สกปรก อุดเพราะกลัวเครื่องสกปรก อุดเพราะกลัวเขม่ากลับเข้าเครื่อง
อ้าว แล้วที่เครื่องสันดาปภายในมันเผาไหม้ ของเสียมันไม่ได้เกิดในเครื่องหรือ?
เขม่า สิ่งสกปรกต่างๆมันก็มีอยู่แล้วในเครื่อง แค่คุณไม่เห็นมัน กลัวสกปรกหรอครับ ก็ทำตาม routine maintenance , หรืออยากล้าง egr ก็เห็นร้านรับล้างเยอะแยะไป หรือจะ diy ล้างเองผมว่าก็ไม่น่าจะยาก
เครื่องจักรยังไงมันก็คือเครื่องจักร สักวันก็ต้องเปลี่ยนต้องขาย ต้องพังไป ไม่เข้าใจยึดติดอะไรกันมากมาย
อ้อแล้ว egr เองมันไม่ได้ทำงานตลอดเวลาโดยเปิดเอาไอเสียเข้าตลอดนะครับ มีบางกรณีเช่นกดคันเร่งมิดมันก็มีลิ้นปิดของมันอยู่ครับ
-
ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น สังเกตได้ว่ารถบรรทุก รถหัวลากดีเซลที่นั่นท่อไอเสียสะอาดมากๆ ใสๆ ไม่มีเขม่าเลย ชอบมากครับ ทำให้ท้องถนน ฟุตบาธ ดูสะอาดไม่มีคราบเขม่าเลอะเทอะดีครับ