Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มกราคม 17, 2018, 07:30:35
-
:( :( ต้นเหตุนิดเดียวจริงๆ ก็ต้องตีกัน ฆ่ากันง่ายดายจริงๆมีข่าวกันวันละหลายเคส. ยังไม่รวมที่ไม่เป็นข่าวอีกนับไม่ถ้วน. ทีเรื่องอื่นๆเวลาขัดแย้งกันไม่เห็นจะทำร้ายเข่นฆ่ากันเร็วเท่านี้. ทำไมเรื่องขับรถมันถึงเป็นเหตุให้ใช้ความรุนแรงเกินเหตุไปมากจริงๆๆครับ. นับวันยิ่งโหด. ทุกวันนี้ขับรถอยู่บนท้องถนน ต้องคอยเตือนตัวเองตลอดว่า. ระวังไว้เอาตัวให้รอดนะ จำไว้ทุกคนบนท้องถนนมีปืนมีมีดมีไม้ทุกคัน. อย่าไปกระทบเขา. จะเกิดอะไรขึ้นต้องพูดดีๆเข้าไว้นะ. มือไม้ให้อ่อน. ให้กลับบ้านไปถึงลูกถึงเมียให้ได้. _____เฮ้อ. บ้านเราอยู่ยากขึ้นจริงๆนะครับทุกท่าน. มันเป็นอะไรกันหมดแล้ว
-
ผมเคยขับรถแบบรีบเร่งมุดซ้ายมุดขวา แต่ครั้งหนึ่งรู้สึกว่าได้ไปปาดหน้ารถฟอร์จูนเนอร์ซึ่งวิ่งทางเลนขวาสุดโดยไม่ได้เจตนา แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกถึงความโกรธแค้นฉุนเฉียว (ไม่ตีไฟ ไม่บีบแตร) ผมรู้สึกสำนึกในความผิดพลาดครั้งนั้นและรู้สึกขอบคุณที่รถคันนั้นไม่ได้ดุด่าผม หลังจากนั้นผมก็ขับรถอย่างใจเย็นเพิ่มความระมัดระวังอย่างแรงและไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีกเลย
-
ไม่เสมอไปหรอกครับคุณ Red Bicycle
คนขับรถที่มีมารยาท ระมัดระวัง และพยายามใจเย็น ยังมีอยู่เยอะ :D
แต่... ส่วนที่น่าจะจริง ก็คือ รถติดมากขึ้น งานการ ความรับผิดชอบเยอะ ในขณะที่เวลาน้อย บางครั้งหลายคนก็ของขึ้น ไม่รู้ตัว
Social Media ทุกวันนี้เร็ว เราจึงมักได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆบ่อยขึ้น :-\
-
จิดใจคนเราเปลี่ยนไปมากจริงๆ
-
ผมยังโลกสวย หวังอยู่ลึกๆว่าที่เราเห็นเยอะขึ้นเพราะเทคโนโลยี (smartphone กล้องหน้ารถ fb YouTube) เอื้อให้เราเห็นมาขึ้น ... ไม่ใช่เพราะคนเราแย่ลงจริงๆ
10 ปีที่แล้ว กับตอนนี้ ผมเจอ "ความรุนแรง"บนถนนที่ประสบกับตัวเองน้อยลงนะครับ .. แต่ส่วนหนึ่งมาจาก "แก่" มากขึ้น "ห้าว" น้อยลง 8)
-
ผมเห็นต่างออกไปนะครับ
คลิปจากกล้องหน้ารถ มีอิทธิพลกับนิสัยการขับในปัจจุบันมากครับ
คนไทยเราขับรถดีขึ้น เพราะเห็นตัวอย่างแย่ ๆ ที่ได้รับผลลัพท์แย่ยิ่งกว่า
อย่างปาดหน้าแล้วลงมาหาเรื่อง คลิปอุบัติเหตุน่ากลัว
พวกนี้มีผลหมดเลยครับ
แต่มีบางพวกไม่เคยสำนึก
ผมเคยลงคลิปจากกล้องผมเอง ที่โดน GLA คันหนึ่งบังเลน แล้วปาดหน้าผม
วันก่อนก็ยังเจอคันนี้อยู่ และยังนิสัยแย่เหมือนเดิม (อยู่ ตจว เมืองมันเล็ก มีโอกาสเจอกันอีกสูงครับ)
ชาวบ้านเค้าต่อแถวรอยูเทิร์นกันเรียบร้อย แต่ไอ้ GLA คันเดิม พุ่งเข้าไปแซงคิวหน้าสุด
และแน่นอนว่าไม่เปิดไฟเลี้ยวเหมือนเดิม ผมขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ
มันจะมีคนอยู่ 2 ลักษณะ ที่จัดเป็นพวกเดียวกัน
1. พวกขับรถเก่าแล้วกร่างมาก เพราะกลัวคนอื่นดูถูกว่าจน ขับรถเก่า
2. พวกเพิ่งมีเงินออกรถยุโรป พยายามทำกร่างให้เด่นกว่าคนอื่น เพื่อที่จะอวดตัวเอง
-
พวกส่วนน้อยครับ
คนพวกนี้วินัยต่ำกว่าวัวควายอยู่แล้ว ผมเรียกพวกDNAแมลงสาป
ขับขี่ชั่วๆพอผิดแล้วไม่รู้จักผิด
ผมเคยพลาดชนท้ายbenzป้าคนนึง มัวแต่มองนักศึกษาสาว :-* ชนเบาๆ ผมรีบลงไปยกมือไหว้ขอโทษป้าอย่างเร็ว
ป้าแกเลยไม่เอาเรื่องผมทั้งที่รถผมมีประกันชั้น1 รถถลอกนิดเดียวไม่เป็นไรมีรอยเดิมอยู่แล้ว
คนไทยใจอ่อนครับเวฃายกมือไหว้ ::)
-
เป็นผลจากการดูแล และปลูกฝังความคิด
เด็กรุ่นใหม่(หลังปี 21) ถูกปลูกฝังให้มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น
แต่การสั่งสมสิ่งที่สอน มันขาดการควบคุม มันจึงเกินเลยไป จนเป็นวัตรปกติ
ประกอบกับ ภาวะปัจจุบัน การดำเนินชีวิตอยู่ในแบบแย่งกันกิน-ใช้ มากกว่าเมื่อก่อน ความเครียดย่อมมีมากขึ้นอีก แก้ไขยากครับ
-
พวกส่วนน้อยครับ
คนพวกนี้วินัยต่ำกว่าวัวควายอยู่แล้ว ผมเรียกพวกDNAแมลงสาป
ขับขี่ชั่วๆพอผิดแล้วไม่รู้จักผิด
ผมเคยพลาดชนท้ายbenzป้าคนนึง มัวแต่มองนักศึกษาสาว :-* ชนเบาๆ ผมรีบลงไปยกมือไหว้ขอโทษป้าอย่างเร็ว
ป้าแกเลยไม่เอาเรื่องผมทั้งที่รถผมมีประกันชั้น1 รถถลอกนิดเดียวไม่เป็นไรมีรอยเดิมอยู่แล้ว
คนไทยใจอ่อนครับเวฃายกมือไหว้ ::)
เปิดด้วย สกิลยกมือไหว้ ลด Damage ลง 50% ครับ hahaha
ผมเคยใช้
-
ผมมองว่า เพราะกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ เลยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนกันอยู่แบบนี้
ทุกวันนี้การติดกล้องหน้ารถมีหลายความหมายและหลายเหตุผลมากขึ้น เช่น ใช้เป็นพยานจากอุบัติเหตุ ใช้เป็นพยานจากเหตุการณ์บ้านป่าเมืองเถื่อน ใช้เป็นพยานให้กับคนอื่นที่เสียหาย ใช้เป็นพยานในการแจ้งความเมื่อคันอื่นไม่เคารพกฎหมาย ฯลฯ
ตำรวจไปไหนกันหมด??
-
สังคมหล่อหลอมให้เป็นแบบนั้น
ศักดิ์ศรี แพ้ไม่เป็น
-
ส่วนตัวนะครับ ผมว่ารถยนต์บนถนนสมัยนี้ออกกันง่ายเกินไป บางทีคนไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนเลย พอทำงานสามารถออกรถได้ก็ออกกันเลย
ไม่เหมือนกับสมัยก่อน ที่ส่วนมากที่จะขับรถก็เริ่มจากรถเก่าๆของพ่อ ขับไปซ่อมไป ประกันภัยก็ไม่มี ต้องคอยขับกันอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุ จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายเสียเงินเสียทองกัน
พอมาสมัยนี้ รถออกง่าย ประกันภัยพร้อม คนขับไม่มีประสบการณ์ วุฒิภาวะน้อยอยู่แล้วด้วย เลยกลายเป็นเครื่องส่งเสริมให้คิดกันผิดๆ ฉันมีประกันนะใครขวาง ใครเบียด ฉันชนเดี๋ยวประกันฉันก็มาจ่ายไป พอมีคนที่มีความคิดแบบนี้เยอะๆบนถนน มันเลยวุ่นวาย เพราะผมเชื่อว่า บนท้องถนนมีอีกไม่น้อยที่รถยนต์มีแค่ พรบ บุคคลที่ 3 เท่านั้น คราวนี้ปัญหามันก็เกิดสิ ฝ่ายนึงประกันจ่าย แต่อีกฝ่ายต้องออกเอง อารมณ์ มันก็เลยขึ้นกันได้ง่ายขึ้น
อีกอย่างเรื่อง ประกันภัย บางคนถือว่ารถมีประกันภัย บางจังหวะบนท้องถนนที่พอถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้พวกดันไม่ยอม เลนฉัน ฉันอยู่ในเลนฉันถูกอยู่ เธออย่าเข้ามา เข้ามาฉันชนจริงๆนะ !!! อันนี้ตัวทำให้เกิดเรื่องบนถนนเลย เพราะบางทีคนที่เขาอยู่ในเหตุการณ์โดยตรงเอง เขามองกันออกว่า อันนี้เป็นการหาเรื่อง ตั้งใจทำแบบนี้ คราวนี้ก็เป็นเรื่องเพราะ มันไม่ได้เกิดเหตุจากความไม่ตั้งใจ
สรุป ขับรถบนถนนก็ควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่า ส่วนใครที่คิดว่ารถมีประกัน ชนไป ก็ซ่อมเอา ก็ควรเปลี่ยนความคิดกันได้แล้ว รถ ทุกคันเจ้าของรถเขาก็คงรักรถของเขา ถึงเราจะไม่รักรถของเราเพราะมองว่าเป็นของใช้ชนิดนึงเท่านั้น ชนก็ซ่อม เสียก็ซื้อใหม่ ก็ควรหันมามองถึงคนอื่นบ้างว่า ยังมีคนที่เขาต้องเก็บหอมรอมริบเงินสักก้อนนึงเพื่อมาซื้อรถทำมาหากินกันบ้าง บางคนผ่อนงวดแรกก็ยังไม่ได้ผ่อน แต่ต้องมานั่งซ่อมรถก็มี
-
สมัยนี้สื่อไว รับรู้ไว ระบายอารมณ์ไว โทสะเลยไวไปด้วย :o
หลายๆคนห่วงแต่สิทธิของตัวเอง จนลืมไปว่าคนอื่นก็มีสิทธิเช่นเดียวกัน
-------
มีภาษิตว่าไว้ ผู้ที่อ่อนน้อมต่อสิ่งใด ก็จะได้สิ่งนั้นตอบแทน
เรายกมือไหว้ขอโทษก่อน เราก็ได้อายุ(ที่อาจจะสั้นขณะนั้น)คืนมา ;D ;D ;D
-
เรื่องแบบนี้มีมานานแล้วครับ เพียงแค่ว่าสมัยก่อนเรื่องราวต่างๆมันไม่ได้แชร์กันง่ายและไวขนาดนี้
+ ล้านๆๆๆ เลยครับ เป็นที่นิสัยส่วนลึกของคน มันมีมานานมาแล้ว
-
https://youtu.be/Oo_FoKctn-M
-
คือ มันไม่ใช่เฉพาะคนไทยหรอกนะครับ มันก้มีแบบนี้ทุกที่ทุกประเทศทุกเชื้อชาติ แต่เราอยู่ในประเทศไทย เราก็เลยได้ยินแต่ข่าวประเทศไทยไงครับ
อย่างเช่น ถ้ามีคนขับรถปาดหน้าแล้วต่อยตีกันบนถนนในประเทศเลบานอน งี้ ข่าวแค่นี้ท่านคิดว่าเค้าจะเอามาประกาศให้ทั่วโลกรู้กันหมดมั๊ยละครับ?
ถ้าไม่ใช่ข่าวระดับชาติจริงๆมันคงไม่กระจายออกนอกประเทศนั้นๆหรอกครับ แล้วก็อีกอย่าง ผมเคยได้คุยกับกับฝรั่งที่มาจากอเมริกา 2-3ท่าน
ที่อยู่เมืองไทยมาหลายปี เค้าบอกว่าเมืองไทยนี่ดีมากๆแล้วน่ะครับ แม้จะขับกันไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องด่าทอหรือต่อยตีกันบนท้องถนนให้เห็นบ่อยนัก
แต่ที่อเมริกานี่ไม่ใช่ การตะโกนด่ากัน หรือลงไปต่อยตีกันบนท้องถนนเนื่องจากไม่พอใจอีกฝ่ายที่อาจขับขี่ขัดหูขัดตากัน
ถือเป็นเรื่องที่พบเจอได้แทบทุกวันจนชินตา จนดูเหมือนเป็นปกติไปเลย
ก็อาจสืบเนื่องจากวัฒนะธรรมของคนนแต่ละชาติครับ แต่ที่ไทยนี่ถือว่าเบาแล้วนะครับ
-
ผมคิดว่าเป็นเป็นคน จะประเทศไหนก็อยู่ทีคน การเลี้ยงดู
หลัง ๆ ไทยมีเห็นการเยอะ เพราะกล้องหน้ารถนิยมกันมากขึ้น
แต่ความรุนแรงที่มากขึ้น เพราะกฎหมายที่ไม่ถูกใช้ตามความจริง
เวลามีปัญหาทะเลาะกัน คนเกินครึ่งจะพูดว่า รู้ไหมผมเป็นใคร ผมลูกใคร
ซืึ่งเป็นเพราะคนไทยเชื่อว่า กฎหมายมันเปลี่ยนได้ อยู่ที่คนบังคับ
จากผิดเป็นไม่ผิด จากถูกอาจจะเป็นผิด
บนถนน ผมจะลด Ego ตัวเองลง ใครอยากแซงก็แซง ใครจี้ตูดผมหลบ
ใครขับช้า ผมก็หาทางไปที่ไม่ประทบกับใคร
เวลา 1 นาทีที่ที่หน้าหงุดหงินของผมบนถนน ผมไม่เอามันมาทำให้ชีวิตที่เหลือของผมเสียหรอกครับ
ปัญหาพวกนี้มันเจอกับ คนแรง ปะทะ คนแรง
ถ้าแรง เจอ Soft ไม่เกิด
ปล่อยให้ Natural selection น่าจะดีกว่า
ผมคงไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้ เขาเป็นมาอย่างนั้นทั้งชีวิต
คงไม่สามารถเปลี่ยนเขาใน 1 นาทีได้
-
อาจจะเกิดจากสภาวะบีบคั้นทางสังคมบนท้องถนน ที่ถูกเอาเปรียบหรือเห็นความเห็นแก่ตัวของคันรอบข้าง สะสมจนระเบิดออกมาในวันหนึ่ง วันๆนึงเราก็บ่นด่าในรถกันทุกวัน แต่อาจมีสักวันที่ทนไม่ไหวจึงต้องลงไปมีเรื่องกัน ส่วนนึงผมมองไปถึงกฎหมายจราจร และกฎหมายทางสังคมที่ไม่เด็ดขาด จับปรับไม่กี่บาท ออกมาจับไม้มือขอโทษ สำนึกผิด แค่นี้ก็จบ มันถึงเป็นตัวอย่างให้คนที่เห็นว่า มันจบง่ายนี่หว่า บางคนก็อยากดังนั่นก็อีกเคส ในอดีตไม่ค่อยมีข่าวแบบนี้หรอกครับ ส่วนใหญ่เป็นข่าวอุบัติเหต่มากกว่า ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ข่าวมีเรื่องกันแบบนี้มันเพิ่งมีมาตอนโทรศัพท์มือถือระบาดนี่แหละครับ เอะอะก็ถ่ายคลิปประจาน
-
10-15% คือโอกาสที่ผมจะได้เหตุการณ์แบบนี้
-
ผมมองว่า เพราะกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ เลยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนกันอยู่แบบนี้
ทุกวันนี้การติดกล้องหน้ารถมีหลายความหมายและหลายเหตุผลมากขึ้น เช่น ใช้เป็นพยานจากอุบัติเหตุ ใช้เป็นพยานจากเหตุการณ์บ้านป่าเมืองเถื่อน ใช้เป็นพยานให้กับคนอื่นที่เสียหาย ใช้เป็นพยานในการแจ้งความเมื่อคันอื่นไม่เคารพกฎหมาย ฯลฯ
ตำรวจไปไหนกันหมด??
เห็นด้วยครับ กม.มันเอาผิดกับคนทำผิดไม่ได้
และก็ไม่แฟร์ด้วยในหลายๆกรณี
-
ผมมองว่า เพราะกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ เลยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนกันอยู่แบบนี้
ทุกวันนี้การติดกล้องหน้ารถมีหลายความหมายและหลายเหตุผลมากขึ้น เช่น ใช้เป็นพยานจากอุบัติเหตุ ใช้เป็นพยานจากเหตุการณ์บ้านป่าเมืองเถื่อน ใช้เป็นพยานให้กับคนอื่นที่เสียหาย ใช้เป็นพยานในการแจ้งความเมื่อคันอื่นไม่เคารพกฎหมาย ฯลฯ
ตำรวจไปไหนกันหมด??
ไปแถว ๆ วิตอเรียมั๊ง ...55555
-
ไม่ต้องไปไกล ตามโซเชียลดู เถียงกันไม่เป็นเรื่องเถียงแทนเค้ายังกับของตัวเองซะอีก
อาจจะด้วยสมัยนี้มันโซเชียลง่ายเลยติดแบบว่า ออกอาการเร็วเหมือนใจคิดพิมพ์
-
คนไทยเข้านิสัยอย่างนี้มานานแล้ว แต่ช่วงนี้ข่าวสารเข้าถึงง่ายมากกว่าแต่ก่อน
ส่วนหนึ่งเพราะตำรวจไม่ทำหน้าที่อย่างเด็ดขาดด้วยครับ
แนะนำว่าติดกล้องหน้ารถหลังรถถ่ายแล้วโพสเว็บ
มีโอกาสแก้ไขเรื่องจบเร็็วกว่ารอตำรวจ
8)
-
คนไทยไม่ค่อยได้ฝึกทักษะ EQ กันเลยตั้งแต่โรงเรียนแล้วหละครับ ทางบ้านก็มีส่วน
อยู่จากคอมเมนต์ในโลกโซเชียลก็บ่งบอกอะไรบางอย่างได้แล้ว บนถนนก็มาจากการควบคุมอารมณ์นี่แหละไม่ใช่เรื่องอื่น
-
แถวนี้เถื่อน 555
เห็นฝรั่งบีบแตรกันเเช่ยาว แต่ก็ต่างคนต่างไป ปล เยอรมัน
คนไทย ถึงลูกถึงคน
-
แถวนี้เถื่อน 555
เห็นฝรั่งบีบแตรกันเเช่ยาว แต่ก็ต่างคนต่างไป ปล เยอรมัน
คนไทย ถึงลูกถึงคน
+1
นึกถึงตอนผมอยู่ออสเตรียเลย บีบแช่ยาว กดกระจกด่า แจกกล้วยก็มี แต่ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป บางคนที่รู้ว่าผิดก็ยกมือขอโทษขอโพย และบ้างก็มียิ้มแบบเจื่อนๆ แต่ถ้าคนเอเซีย(ไทย)ก็จะหันหน้าเรียกพวกว่า "ดูมันสิ เป็นอะไรของมัน บ้ารึป่าว" หนำซ้ำยังหันมาหาผมทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนให้โดนหางเลขตามไปอี๊กกกกกกก (ลุงน่ะข้ามจุดที่ไม่ใช่ทางม้าลาย แถมไม่ดูสัญญาณไฟจราจร โดนฝรั่งด่าขนาดนั้น ไม่รู้สึกตัวอีกเหรอ???)
นิสัยลุงคนนั้นถ้าขับรถในไทยก็คงเป็นพวกขับไม่ดู5อะไร ช้าแช่ขวา ขับตามใจฉัน เป็นบ่อเกิดให้เพื่อนร่วมทางหัวร้อนกันได้ง่าย
นิสัยคนไทยไม่ค่อยยอมเสียหน้า ไม่ค่อยยอมใคร ผิดก็ไม่ค่อยยอมรับผิด จึงมีเรื่องรุนแรงกันเยอะแยะแบบนี้ล่ะฮะ
-
ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัดจริงๆครับถึงจะแก้ได้
-
ขยะสังคมมันเยอะ นิดหน่อยหัวร้อน ทั้งๆที่บางทีตัวเองผิดแท้ๆ
-
บางคน ใช้ไม้อ่อนไม่ได้ครับ ผมก็โดนมาแล้วตอนที่ออกจากข้างทางตอนกลางคืน รอจังหวะออกนานอยู่ พอคิดว่าได้จังหวะก็ออกมาเลย แต่พอออกมาแล้วได้ยินเสียงบีบแตรยาวจนน่าตกใจจากทางด้านหลัง คิดว่าตอนผมออกมาต้องไปปาดเขาแน่ๆ ผมไม่อยากมีเรื่องเลยเร่งเครื่องหนีไว้ก่อน แต่รถนักเลงคันนั้น เป็นกระบะแต่งซิ่ง ตามทัน แล้วปาดให้จอด ก่อนจะลงมามีพ่นควันใส่ด้วย แล้วลงมาเป็นวัยรุ่นชาย 2 คน มีผู้หญิงอีก 1 คน ท่าทางกร่างเอามากๆ ผมเห็นท่าไม่ดี ไม่ลงดีกว่า ล็อคประตู้ไว้แล้วแง้มกระจกนิดๆ คุย พอคนที่เป็นคนขับเดินมาถึงแจกกล้วยเลยครับ ด่าบุพการีผมด้วย ผมพยายามพูดเพราะๆ แต่วัยรุ่นทั้ง 3 คนนี่ gu-mung อย่างเดียว พอผมไม่ลง คนที่เป็นคนขับ พยายามทุบกระจก บอก mung ลงมา ถ้าผมลง คิดว่าโดนซ้อมแน่ แล้วผู้หญิงที่มาด้วยนี่ปากจัดด้วยนะ พูดว่า mung ขับรถแบบนี้ mung คงอยู่ได้อีกไม่นานหรอก พอผมตั้งสติได้ เข้าเกียร์ถอยหลัง แล้วเลี้ยวออก ตอนนั้นถ้าวัยรุ่นที่ขับกระบะวิ่งมาขวางก็คงต้องชน จากนั้นขับหนีสุดชีวิตเลย เข้าซอยที่ทะลุไปถึงบ้านผมได้ แล้วไปแจ้งความ
อันนี้คือ คนใจร้อนมาเจอคนใจเย็นนะครับ จะเป็นในรูปแบบนักเลงทำร้ายคนอื่น แต่ถ้า คนใจร้อนมาเจอคนใจร้อน แบบนี้มีมวยกลางถนนครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้หาดูได้ไม่ยาก
-
ผมมองว่า เพราะกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ เลยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนกันอยู่แบบนี้
ทุกวันนี้การติดกล้องหน้ารถมีหลายความหมายและหลายเหตุผลมากขึ้น เช่น ใช้เป็นพยานจากอุบัติเหตุ ใช้เป็นพยานจากเหตุการณ์บ้านป่าเมืองเถื่อน ใช้เป็นพยานให้กับคนอื่นที่เสียหาย ใช้เป็นพยานในการแจ้งความเมื่อคันอื่นไม่เคารพกฎหมาย ฯลฯ
ตำรวจไปไหนกันหมด??
เห็นด้วยนะครับ
เคยเจอเคสนึงบนวังน้ำเขียว รถกระบะขับเร็วมากเวลาเข้าโค้ง ก็ปาดจากเลนซ้ายสุดไปขวาสุด แล้วก็ปากจากขวาสุดมาซ้ายสุด คือพี่แกขับรถเร็ว
แล้วเข้าโค้งแบบไม่ยอมอยู่ในเลนเลย สักพักมีด่านตำรวจข้างหน้า ผมมั่นใจ 100% ว่าตำรวจเห็นเพราะเขาตั้งด่านบนเนิน มีตำรวจมองลงมาหลายคน
สุดท้ายพอขับเข้าไปในด่าน ตำรวจเรียกรถกระบะลดกระจกลง คุยนิดหน่อย แล้วก็ให้ผ่านไปได้
-
:( ตอนเดินอยู่ข้างนอก เดินชนกันแท้ๆ แต่ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกันเท่าไร. ขอโทษขอโพยกันไป ให้อภัยกันง่ายกว่า. แต่พอเป็นตอนขับรถ ยังไม่ทันจะมีอะไรกระทบกันซะหน่อย จะฆ่จะแกงกันซะแล้ว
-
บทลงโทษเบา และไม่จริงจัง
-
ใครว่าเหล้าคือน้ำเปลี่ยนนิสัย จะบอกว่า การจับพวงมาลัยขับรถ ก็เปลี่ยนนิสัยคนได้เหมือนกันนะครับ
น้องผู้หญิงคนนึง เรียบร้อย นิสัยดี พอขึ้นมาขับรถ กลายเป็นอีกคน
-
ผมว่าคงเป็นกันมานานแล้วครับ
เพียงแต่ตอนนี้เรามีกล้องหน้ารถเยอะ เลยมีเรื่องดราม่าบ่อย ๆ 8)