Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ มกราคม 25, 2018, 00:55:06
-
https://www.prachachat.net/general/news-106126 (https://www.prachachat.net/general/news-106126)
แล้วอย่าบอกว่าจะเอาโรงไฟฟ้าถ่านหินสำหรับรถไฟฟ้าด้วย
แค่รัฐรับซื้อไฟฟ้าคืนจากพลังงานทางเลือก และคืนภาษีให้กับบริษัทที่มีต้นทุนซื้อพวกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไฟฟ้าทางเลือก เช่นแผงโซล่าเซลล์ แค่นี้บริษัทเอกชนก็จะหาวิธีเิอาเองว่าจะทำยังไงให้กำไร
เท่าที่ทราบโรงงานใหญ่ก็เริ่มมีพลังงานเหลือตอนที่พนักงานพักทานข้าว เครื่องจักรต้องหยุดเดิน แต่โซล่าเซลล์ยังผลิตพลังงานอยู่ แต่รัฐไม่รับซื้อคืน =พลังงานศูนย์เปล่า
รัฐควรจะสนับสนุนพวกสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเก็บพลังงานให้มีราคาถูกลงได้ก็จะดีมากครับ เช่นบ้านคนที่มีแผ่นโซล่าเซลล์จะผลิตไฟฟ้าตอนกลางวันจะสามารถเก็บไว้ใช้ตอนกลางคืนได้ แต่ตอนนี้สิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้ราคามันสูง เพราะฉะนั้นรัฐจึวควรรับซื้อคืนไฟฟ้าที่เอกชนผลิตได้ตอนกลางวัน
-
อยากให้ค่า NOx ในกรุงเทพฯลดลง เปลี่ยนเอาเครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่ยังคงใช้วิ่งช้า ๆ มาเป็นเวลา 20-30 ปี ในเมืองออกไปก่อนเลยครับ นั่นแหละตัวผลิต NOx เลย ไม่ต้องไฮเทคมากก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้น DPF ล้ำยุคจนดูแลยาก เอาแค่ให้มันใหม่ขึ้นมาหน่อย ผมว่าแค่นี้ก็ลดค่าฝุ่นละอองในอากาศไปได้เพียบแล้ว
-
หลายอย่างเกิดยากจริงๆครับ
บ้างครั่งไม่มีแม้ดระทั่งช่องให้นักพัฒนาทุนน้อยด้วยซ้ำไป
ผิด กม อย่างเดียวเลย
-
จับพวกกระบะควันดำน่าจะลดได้เยอะครับ พวกนี้ไ่ม่ได้สนสิ่งแวดล้อมอะไรเลย
-
อยากให้ค่า NOx ในกรุงเทพฯลดลง เปลี่ยนเอาเครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่ยังคงใช้วิ่งช้า ๆ มาเป็นเวลา 20-30 ปี ในเมืองออกไปก่อนเลยครับ นั่นแหละตัวผลิต NOx เลย ไม่ต้องไฮเทคมากก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้น DPF ล้ำยุคจนดูแลยาก เอาแค่ให้มันใหม่ขึ้นมาหน่อย ผมว่าแค่นี้ก็ลดค่าฝุ่นละอองในอากาศไปได้เพียบแล้ว
รถบัส รถทัวร์ รถ10ล้อนี้ รถพ่นหมึกชัดๆเลยครับ
ขนาดออกกฏหมายแต่ก็ยังวิ่งกันปรกติ
-
แค่รัฐรับซื้อไฟฟ้าคืนจากพลังงานทางเลือก ... แค่นี้บริษัทเอกชนก็จะหาวิธีเิอาเองว่าจะทำยังไงให้กำไร
เห็นด้วยครับ บทบาทของรัฐคือ "ส่งเสริม" ไม่ใช่ไปเล่นเองซะทุกเรื่อง
แต่ๆๆ ซื้อคืนในราคาที่เอามาขายต่อได้กำไรนะครับ ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ที่ซื้อคืนในราคาแพงกว่าราคาขายต่อ
-
สมควรที่รัฐจะมาจัดการจริงๆจังๆเหมิอนประเทศจีนได้แล้วครับ ฝรั่งและคนจีนที่ทำงานที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มาเล่าให้ผมฟังว่า ปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ผู้คนอาศัยในเมืองดังกล่าวรู้สึกได้ว่าอากาศสดชื่นและฝุ่นควันน้อยจนมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจนในรอบหลายๆปีหลังจากรัฐออกมาตรการเข้มงวดกับรถเก่าๆที่ปล่อยมลภาวะไม่ให้ใช้งานต่อไปครับ
-
อยากให้ค่า NOx ในกรุงเทพฯลดลง เปลี่ยนเอาเครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่ยังคงใช้วิ่งช้า ๆ มาเป็นเวลา 20-30 ปี ในเมืองออกไปก่อนเลยครับ นั่นแหละตัวผลิต NOx เลย ไม่ต้องไฮเทคมากก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้น DPF ล้ำยุคจนดูแลยาก เอาแค่ให้มันใหม่ขึ้นมาหน่อย ผมว่าแค่นี้ก็ลดค่าฝุ่นละอองในอากาศไปได้เพียบแล้ว
ผมว่าต้องเอาจริงให้รถเหล่านี้ได้รับการแก้ไขเพื่อลดไอเสียครับ ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพ แต่ต้องเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องเห็นแก่ส่วนรวมครับ
-
ปัญหาจริงจากอะไร.......? กลับไปคิดก่อน ทุกวันนี้รถเก่า 20 ปี วิ่งควันดำ ยังเต็มเมือง ทั้งรถกะบะแต่งซิ่ง รถขนของ รถบัส รถเมล์ แถมมี taxi เก่าเก็บอีก สาเหตุที่ไม่มีรัฐบาลไหนห้ามจริงจัง เหมือนประเทศอื่นเพราะกลัวเสียคะแนนเสียง
-
ถ้ารัฐไม่ทำอะไร เราก็เริ่มจากตัวเราก่อนได้ครับ
ใช้รถที่มลพิษน้อยๆ เช่น คันเล็กๆ ใช้bts taxiบ้าง ไฮบริดก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่แคร์ราคาขายต่อ
เคยอ่านเจอว่า ถ้ากทม ไม่มีแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอาลมมาพัดฝุ่นออกไป ป่านนี้ กทม คงมีหมอกควันพิษปกคลุมแบบ เมืองจีนบางมณทลไปแล้ว
ช่วยๆกันคนละไม่คนละมือ เพื่อตัวเราในอนาคตกับลูกๆหลายๆครับ
-
อยากให้ค่า NOx ในกรุงเทพฯลดลง เปลี่ยนเอาเครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่ยังคงใช้วิ่งช้า ๆ มาเป็นเวลา 20-30 ปี ในเมืองออกไปก่อนเลยครับ นั่นแหละตัวผลิต NOx เลย ไม่ต้องไฮเทคมากก็ได้ ไม่ต้องถึงขั้น DPF ล้ำยุคจนดูแลยาก เอาแค่ให้มันใหม่ขึ้นมาหน่อย ผมว่าแค่นี้ก็ลดค่าฝุ่นละอองในอากาศไปได้เพียบแล้ว
รถบัส รถทัวร์ รถ10ล้อนี้ รถพ่นหมึกชัดๆเลยครับ
ขนาดออกกฏหมายแต่ก็ยังวิ่งกันปรกติ
เห็นด้วยเลย รถเมล์ ควันดำมาก
ต่างกับรถเมล์ที่ญี่ปุ่นลิบลับ ของเค้ามี auto stop เวลารถจอดนานๆ
แถมวิ่งผ่านหรือจอดติดเครื่องอยู่ควันไม่เหม็นเลย
ยิ่งรถบัสรับส่งพนักงาน :-X
-
ไหนๆก็เป็นรัฐบาลถือดาบศักดิ์สิทธ์แล้ว
กล้าลองมั๊ยครับ รถเมล์ ที่เข้ากรุงเทพชั้นในเป็น ngv ให้หมด
มอไซค์และรถเก๋งบังคับไฟฟ้าสถานเดียว
เอาแค่สีลม สุขุมวิท เพชรบุรี เป็นตัวทดลอง
ไม่ต้องฟังเสียงนก เสียงกาอะไรทั้งนั้น
เหมือนบางโซนของปักกิ่งเมื่อหลายปีก่อนที่หักดิบห้ามอไซค์และรถยนต์สันดาบเข้า โดยที่ยังไม่มีสินค้าขายเป็นชิ้นเป็นอันเลยตอนนั้น...
คนมีตังค์หน่อยก็ใช้รถกอล์ฟมีหลังคา
คนธรรมดาก็สกู๊ตเตอร์ถีบ
แต่แค่ไม่นาน รถยนต์ไฟฟ้ามอไซค์ไฟฟ้าจากแบตตะกั่วก็เกิด
ตอนนี้เป็นลิเที่ยมหมดแล้ว
กล้ามั๊ยครับ ม.44 ยังอยู่ ตอนนี้ยังทำได้นะ
แต่ถ้าหลังเลือกตั้งแล้ว ก็ทำอะไรยากแล้วล่ะ ต่อให้รู้ๆกันอยู่ว่าลุงยังเป็นนายกฯ
-
ถึงว่า เวลาบินมาจาก ตจว
มองท้องฟ้า กทม กลางวัน ช่วงจะลงดอนเมือง นึกว่าหมอก
ที่ไหนได้ ชั้นบรรยากาศควันพิษ :'(
-
มีใคร รู้ไหม มันเกิน ทั่วประเทศ
หรือเฉพาะ บริเวณ เมืองใหญ่
ถ้าทั่วประเทศ ไม่น่าจะมาจาก ยานยนต์
-
เกิดจากภาวะอากาศนิ่ง ไม่มีลมพัดเอาควันพิษออกไป
https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10156253548733291
เวลาไป ตปท รู้สึกหายใจเต็มปอดมาก สะอาด ไม่คัดจมูก กลับมากทมนี่จมูกตันตลอด
สำหรับเรื่องลดรถที่ปล่อยปริมาณของเสียมากๆ เห็นด้วย แต่ก็จะมีคนออกมาแย้งว่ารังแกคนจน
แต่พวกเค้าไม่มองว่าสิ่งที่คุณทำไม่ใข่ทำร้ายแค่คนจน แต่ทำร้ายทุกคน
-
แก้ที่ต้นเหตุเลยก็น้ำมันครับ ปรับเป็นยูโร5 เหลือค่าอะไรซักอย่างที่ปล่อยออกมา50ppmจาก500ppmยูโร4
รถเก่ามากเติมไม่ได้ก็เป็นไปตามกลไก แก้ที่น้ำมัน เดี๋ยวรถปรับเอง กลัวคนเดือดร้อนก็ตั้งกองทุนมาช่วย
ปัญหาคือโรงกลั่นค้าน เรื่องลงทุนจะสูง เค้าคืนทุนช้ากำไรน้อย ...
โรงงานก็มีส่วนเยอะ รถกี่คันปล่อยเท่าโรงงานโรงเดียว ยิ่งแถวที่มีปัญหาตามข่าวพระราม2 กาญจนา บางบอน
โรงงานกับขนส่งเยอะกว่ารถบ้านไปแล้ว พระราม2จรดสมุทรทั้ง2จังหวัด โรงงาน นิคม นอกนิคม เยอะและเก่า ใช้เชื้อเพลิงที่ใช้แล้วหมดไปเยอะ ถ่านหิน น้ำมันเตา lpg น้ำมัน
ส่งออกโตการผลิตยิ่งเยอะตาม ลมไม่พัด3วันนี่จะสะสมจนเห็นได้
-
การขัดขวางรถดีเซลเก่าไม่ให้เข้า กทม.ไม่น่าทำจริงได้เลย อย่างน้อยก็ใน Generation นี้ คิดแล้วเศร้าเนอะ
-
แก้ได้ยากมากครับ เพราะคนไทยเป็นชนชาติที่ความอดทนบนรถสูงมาก เคยอ่านงานวิจัยที่ไหนซักแห่งบอกคนไทยเมื่อเทียบระยะเวลาที่ต้องโดยสารแล้วไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่
มันเลยบอกกลายๆได้ว่าคนไทยไม่แคร์แม้จะรถติดยังไงก็จะใช้รถต่อไป ไม่สนใจเรื่องค่ามลพิษใดๆทั้งนั้น เอาเพื่อนๆผมที่ทำงานอโศกหลายๆคนเลือกที่ขับรถมากกว่าเพราะบอกรำคาญต้องไปเบียดกับคนบนรถไฟฟ้า
(แนวคิดนี้มัน) ฉะนั้นคนไทยส่วนใหญ่ก็ยังมองรถไฟฟ้าเป็นแค่ทางเลือกต่อไป ไม่ใช้เป็นพาหนะการเดินทางเป็นหลัก และค่านิยมนี้ก็เปลี่ยนได้ยาก ถ้าเริ่มจริงจังๆ กล้าปิดถนน สีลม สาธร ไหมละครับ เพราะพื้นที่ตรงนั้น
Infra ค่อนข้างครบถ้วน เอาแบบรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปไม่ได้ อนุญาตเฉพาะรถตู้ รถเมล์ รถจักรยาน รถขนของ รถยนต์ผู้พิการ และถ้าคนต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวเข้าไปเก็บเลยครับเดือนละ 5,000 บาท จะได้นำไปสร้างสิ่งที่สามารถแก้มลพิษได้ (อย่างเช่น https://www.posttoday.com/world/news/536244) ไม่งั้นก็แก้ปัญหาไม่ได้ซักที (ดูตึกเอมไพร์สเป็นตัวอย่างรถเยอะไปไหน) และสร้างไปเลยอาคารจอดรถ บริเวณพื้นี่รถไฟฟ้าให้คนขับรถเดินทางเข้ามาสะดวก
ฉะนั้นหลักๆเลยให้แก้่นิสัยคนไทย แก้ไม่ได้ครับ :-X :-X :-X
ป.ล. เครื่องยนต์ไม่ใช่ปัญหาปัญหาที่ตัวจิตสำนึกคนครับ ;) ;)
-
กรณี ข่าวนี้ จขกท น่าจะหลงประเด็นนะคับ
ค่าฝุ่นละอองช่วงปลายเดือน มกรา ไปจนถึง เดือน เมษา ค่าฝุ่นละอองมันจะ สูงทุกปี อยู่แล้วคับ
ช่วงเดือนดังกล่าว ค่าฝุ่นละอองส่วนใหญ่มาจากการเผาขยะ ใบไม้ เผาขยะ จากประชาชน และประเทสเพื่อนบ้าน
การเผาไหม้ไอเสียจะเป็น ก๊าซ การเผาขยะเป็น ฝุ่นละออง
-
อื้มม ใช่เลย
-
นึกถึงเกม uncharted4 แซวกทม.บอกว่าเหม็นควันรถ ;D
-
อยากรู้ว่า รถเมย์แดง ไม่ใช่รถแอร์
จอดอยู่ที่อู่ หรือจอดเฉยๆ มันจะสตาร์ทรถทำไม เป็นชั่วโมงๆ
ทั้งเปลืองน้ำมัน ทั้งปล่อยมลพิษ
-
กรณี ข่าวนี้ จขกท น่าจะหลงประเด็นนะคับ
ค่าฝุ่นละอองช่วงปลายเดือน มกรา ไปจนถึง เดือน เมษา ค่าฝุ่นละอองมันจะ สูงทุกปี อยู่แล้วคับ
ช่วงเดือนดังกล่าว ค่าฝุ่นละอองส่วนใหญ่มาจากการเผาขยะ ใบไม้ เผาขยะ จากประชาชน และประเทสเพื่อนบ้าน
การเผาไหม้ไอเสียจะเป็น ก๊าซ การเผาขยะเป็น ฝุ่นละออง
ตามนี้ครับ ขี้เกียจตอบตอนแรก
จะให้รับซื้อไฟจากเอกชน ถ้ารับค่าไฟแพงได้ก็ตามนั้นครับ ยังไงโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ต้องเกิด
-
คงไม่ใช่แค่รถไฟฟ้าหรอกครับ ต้องทำทั้งระบบ ไม่ว่าจะเรื่องขนส่ง กำจัดขยะ ปล่อยอากาศ/ของ/น้ำ เสีย
ตัวอย่างเช่น ผมเคยเห็นตอนน้ำท่วมแถวตลาดใกล้บ้าน แล้วน้ำไม่ลงท่อ พอเปิดฝาท่ออกมา พบว่าเป็นคราบไขมัน เกาะเป็นฟิล์มด้านบนท่อ ทำให้น้ำไม่ลงท่อ เนื่องจากแม่ค้าพ่อค้า เททุกอย่างลงท่อไปหมด ไม่ได้ผ่านการกรอง การแยกขยะใดๆเลย แล้วพอน้ำท่วม ก็ด่า กทม. ว่าไม่ดูแล
ผมมั่นใจเลยว่า กทม. ดูแลไม่ไหวหรอกครับ ถ้าคนในพื้นที่ไม่ช่วยดูแลกันเอง
-
นั่นล่ะฮะ เหตุผลที่ผมสนับสนุนว่าควรจะลดที่จุดต้นเหตุมากกว่าปล่อยให้กระจายออกไปตามจุดต่างๆ แทน แต่ก็มีบางคนค้านหัวชนฝาอยู่ดี เถียงก็ไม่ได้ เขาต้องถูกเสมอ :/
-
ยังจำกันได้รึป่าวว่า เคยมีการออกข่าวโยนหินถามทาง ว่าห้ามรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี เข้ามาวิ่งในกทม. ยังเดือดร้อนกันจะเป็นจะตาย 555
แล้วพอวันนี้ มีข่าวแค่ว่าค่ามลพิษดีดขึ้นสูง เพราะสภาพอากาศปิด ไม่กี่วัน วันรุ่งขึ้นก็จะดีขึ้นมา ก็มาคิดจะเอารถไฟฟ้ามาใช้แทน
เป็นอะไรที่โคตรย้อนแยงเลยว่ามะ
เอาแบบค่อยๆเป็นต่อยๆไปดีกว่าไหม เริ่มเป้นมาตรการจากเบาๆไปก่อน พอระบบโครสร้างพื้นฐานสมบูรณ์ค่อยบังคับใช้กันเต็มที่ แบบนี้ถึงจะเป็นไปได้หน่อย
-
:-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\
-
เห็นว่า การผลิตไฟไม่ค่อยจะพอใช้
-
สภาวะอากาศแบบลมนิ่งไม่ค่อยมีฝนตกมันต้องมีค่าฝุ่นละอองเยอะอยู่แล้ว พอฝนตกก็ลดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
-
จับพวกกระบะควันดำน่าจะลดได้เยอะครับ พวกนี้ไ่ม่ได้สนสิ่งแวดล้อมอะไรเลย
อันนี้น่าทำก่อนเลยครับ ลดควันก็ได้แถมลดอุบัติเหตุอีก
รถพวกนี้ทำอากาศเสีย ชาวบ้านก็สูญเสียไปเท่าไหร่แล้ว
-
ขนาดเมือ20กว่าปีก่อนผมว่ามันก็น่าจะเกินแล้วนะ สังเกตุเวลากลับบ้าน ตจว.แล้วกลับมากทม.นี่จะเป็นทุกครั้ง จาม แสบจมูก มึนงง แล้วก็ป่วยทุกครั้ง ผมว่ามันควรจะเริ่มจากภาครัฐควรจับปรับรถที่ปล่อยควันดำเอาแบบแพงๆไปเลย ถ้าถูกจับครั้งที่2-3ก็ยึดรถไปเลย มีมากมายนะครับรถพวกนี้แถวบ้านนอกก็จะเป็นรถบรรทุก10ล้อ สองแถว รถทัวร์ กะบะส่งของ กะบะซิ่ง รถส่งน้ำแข็งนี่ตัวดีเลยรถผุยังกะเศษเหล็กยังเอามาวิ่งอยู่ มอไซร์2จังหวะเก่าๆ ทำไมไม่จับจริงจัง จะลดมลภาวะได้อีกเยอะ ถึงแม้จะผลักดันรถไฟฟ้าไปก็ป่วยการกว่าจะลดได้โน่น30-40ปีมั๊ง ถ้าไม่กำจัดอย่างที่ผมบอกข้างบนซะก่อน พวกนี้มีแต่เพิ่มมลพิษมากมาย
-
จัดการระบบขนส่งมวลชนให้ดี
จัดการบ้านเมืองให้สะอาด ปรับปรุงสันดานคนทิ้งขยะไม่เป็นที่ทาง
จัดการรถกระบควันขโมง
เดี๋ยวนี้รถเมล์ใช้NGV ควันไม่ดำแล้ว แต่รถสกปรกไม่อยากขึ้นเลยครับ
ใช้รถไฟฟ้า ถ้าต้องปั่นไฟด้วยถ่านหินเป็นหลัก วิ่งผ่านสายส่งมาเข้าเครื่องชาร์จ เข้าแบต efficiency ต่ำ มลพิษไปปูดที่โรงเผาถ่านอยู่ดี
-
เอารถเมล์ ขสมก.กับรถร่วมออกก่อน น่าจะลดได้เยอะ
-
งง พี่คุยอะไรกัน
กระทู้จั่วหัวไว้ว่า ได้เวลาที่รัฐต้องทบทวนภาษีรถไฟฟ้าแล้ว
แต่มันจะเหลืออะไรให้ทบทวนอีกอ่ะครับ ในเมื่อภาษีรถไฟฟ้า
ตอนนี้อยู่ที่ 2% ต่ำสุดละ
หรือจะให้ทบทวนเพื่อปรับขึ้นอ่ะครับ ^^
-
กรณี ข่าวนี้ จขกท น่าจะหลงประเด็นนะคับ
ค่าฝุ่นละอองช่วงปลายเดือน มกรา ไปจนถึง เดือน เมษา ค่าฝุ่นละอองมันจะ สูงทุกปี อยู่แล้วคับ
ช่วงเดือนดังกล่าว ค่าฝุ่นละอองส่วนใหญ่มาจากการเผาขยะ ใบไม้ เผาขยะ จากประชาชน และประเทสเพื่อนบ้าน
การเผาไหม้ไอเสียจะเป็น ก๊าซ การเผาขยะเป็น ฝุ่นละออง
ตามนี้ครับ ขี้เกียจตอบตอนแรก
จะให้รับซื้อไฟจากเอกชน ถ้ารับค่าไฟแพงได้ก็ตามนั้นครับ ยังไงโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ต้องเกิด
ตามนั้น น่าจะมีการสำรวจนะว่าตอนที่ไม่มีรถยนต์ช่วงสงกรานต์มลพิษมันลดลงไปอีกเท่าไหร่ รถยนต์ทำให้เกิดมลพิษจริงหรือไม่
ส่วนเรื่องขายไฟฟ้า ตอนนี้โรงไฟฟ้าไม่รับซื้อไฟฟ้าแน่นอนแล้ว ใครใคร่ทำก็ทำไป เพราะถ้าให้ซื้อกลับมาไม่ไหวแน่ มีผลกับการสำรองไฟฟ้าในเวลากลางคืนด้วย
-
น่าเห็นใจคน กทม. ทุกท่าน
-
รถปกติน่ะมันไม่ปล่อยเกินอันตรายหรอก
พวกแต่งท่อไอเสีย ตัดกรองไอเสีย พวกควันดำ รถเมล รถบรรทุกควันดำๆนี่ยิ่งแล้วใหญ่
พวกเผาหญ้า เผาไร่นาก็ตัวดี
-
มาทำงาน ตจว. เกือบจะปีสบายมากอากาศดี รถไม่ติด
กทม. 1. รถเยอะ 2. ขนส่งสาธารณะไม่ดี 3. คนเยอะ
เรื่องเปลี่ยนมาเป็นรถระบบไฟฟ้า มันก็แค่ปลายเหตุ
แต่ก็คงเปลี่ยนยาก ในเมื่อ ตจว. ไม่สามารถจะสร้างอาชีพให้คนมากๆได้เลย
ยกเว้น โรงงาน และ ร้านข้าวแกง
-
เห็นด้วยครับ ตอนนี้รถยุโรปพรีเมี่ยมก็เริ่มที่จะเพิ่มปริมาณการขายรถไฮบริดแล้วด้วย
ส่วนตัวผมอยากเห็นรถยนต์ไฮบริด + รถยนต์ไฟฟ้า มากขึ้นบนท้องถนนนะ
แต่ที่สำคัญคนส่วนใหญ่ยังไม่นิยมใช้รถประเภทนี้
-
เรื่องรถเรื่องรานี่ มองไปทางไหนก็เจอแต่ปัญหาครับ
ถ้าจะแก้ปัญหากันจริงจัง จะแก้ได้แน่นอน
แต่ต้องใช้วิธีหักดิบ ซึ่งจะมีคนต่อต้านเยอะครับ
ผมนั่งคิดมาตรการเล่น ๆ ได้เยอะเลย ถ้าผมเป็นรัฐมนตรี ผมจะทำ
เอาให้มีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์เลยว่า มีคนเกลียดผมเยอะ 555555
-
งง พี่คุยอะไรกัน
กระทู้จั่วหัวไว้ว่า ได้เวลาที่รัฐต้องทบทวนภาษีรถไฟฟ้าแล้ว
แต่มันจะเหลืออะไรให้ทบทวนอีกอ่ะครับ ในเมื่อภาษีรถไฟฟ้า
ตอนนี้อยู่ที่ 2% ต่ำสุดละ
หรือจะให้ทบทวนเพื่อปรับขึ้นอ่ะครับ ^^
อ่านมาทั้งหมดทุกข้อความ ผมว่า ค.ห. นี้ตรงประเด็นกับหัวกระทู้สุดและ .... นอกนั้นออกทะเลกันหมด
ภาษีรถไฟฟ้า รัฐฯสนับสนุนสุดๆแล้วครับ ลองศึกษาดู เหลือ 2% ต่ำสุดในการเรียกเก็บรถยนต์แล้ว ต่ำกว่านี้ก็ 0 % ละมั้งครับ ....
เอกชนไม่ทำกันเองครับ สู้ต้นทุนไม่ได้แล้วมาโทษรัฐฯ .... คงต้องให้รัฐฯลงทุนให้ด้วยกระมังถึงจะพอใจ
-
งง พี่คุยอะไรกัน
กระทู้จั่วหัวไว้ว่า ได้เวลาที่รัฐต้องทบทวนภาษีรถไฟฟ้าแล้ว
แต่มันจะเหลืออะไรให้ทบทวนอีกอ่ะครับ ในเมื่อภาษีรถไฟฟ้า
ตอนนี้อยู่ที่ 2% ต่ำสุดละ
หรือจะให้ทบทวนเพื่อปรับขึ้นอ่ะครับ ^^
อ่านมาทั้งหมดทุกข้อความ ผมว่า ค.ห. นี้ตรงประเด็นกับหัวกระทู้สุดและ .... นอกนั้นออกทะเลกันหมด
ภาษีรถไฟฟ้า รัฐฯสนับสนุนสุดๆแล้วครับ ลองศึกษาดู เหลือ 2% ต่ำสุดในการเรียกเก็บรถยนต์แล้ว ต่ำกว่านี้ก็ 0 % ละมั้งครับ ....
เอกชนไม่ทำกันเองครับ สู้ต้นทุนไม่ได้แล้วมาโทษรัฐฯ .... คงต้องให้รัฐฯลงทุนให้ด้วยกระมังถึงจะพอใจ
ถึงสรรพสามิต 0% เค้าก็ไม่มาลงทุนหรอกครับ ใครเอาเงินมาเสี่ยงลงทุนกับสินค้าที่ demand เป็นศูนย์!? สู้ใช้สิทธิ์ JTEPA กับอีกหน่อย TH-EU FTA ไปเลยยังดีกว่า
ถ้าฝั่งคิดแผนสงเสริมยังยึดติดกับกรอมความคิดเดิมๆที่ต้องผูกกับการผลิตในประเทศละก็ รถไฟฟ้าไม่มีทางเกิดแบบเปรี้ยงแน่นอนครับ
-
ถ้ารัฐไม่ทำอะไร เราก็เริ่มจากตัวเราก่อนได้ครับ
ใช้รถที่มลพิษน้อยๆ เช่น คันเล็กๆ ใช้bts taxiบ้าง ไฮบริดก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่แคร์ราคาขายต่อ
เคยอ่านเจอว่า ถ้ากทม ไม่มีแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอาลมมาพัดฝุ่นออกไป ป่านนี้ กทม คงมีหมอกควันพิษปกคลุมแบบ เมืองจีนบางมณทลไปแล้ว
ช่วยๆกันคนละไม่คนละมือ เพื่อตัวเราในอนาคตกับลูกๆหลายๆครับ
ชอบความคิดนี้มากครับ
-
ถ้าไม่เอาแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านะ
เอายั่งยืน ก็สร้างทางสาธารณะที่ครอบคลุมและดีกว่านี้
เช่น รถเมล์EV รถแท๊กซี่EV และรถไฟฟ้าหรือใต้ดินที่มีหลายสายกว่านี้(ตอนนี้ทำอยู่)
ถ้ารัฐจะเอาจริง มันทำได้ แต่ตอนนี้รัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไงครับ
ไม่สนหัวประชาชนอยู่แล้ว 8)
-
ลองเอารถล้างใหม่ๆยัฃไม่เช็ดไปแล้นบนถนน15นาทีดูจะรู้เลยครับ ฝุ่นและคราบเขม่าดำๆติดมาเยอะมากล้างใหม่อีกรอบ :-\
-
กำมะถันครับ
จากปัจจุบัน euro 4 = 50 ppm
euro 5 จะเหลือ 10 ppm
แต่ไม่ใช่แค่กำมะถันครับ ถ้า euro 5 จะมีเรื่อง PM (particulate matter) และเรื่องอื่นๆด้วย ทำให้รถดีเซลต้องมี dpf นั่นเอง
แก้ที่ต้นเหตุเลยก็น้ำมันครับ ปรับเป็นยูโร5 เหลือค่าอะไรซักอย่างที่ปล่อยออกมา50ppmจาก500ppmยูโร4
รถเก่ามากเติมไม่ได้ก็เป็นไปตามกลไก แก้ที่น้ำมัน เดี๋ยวรถปรับเอง กลัวคนเดือดร้อนก็ตั้งกองทุนมาช่วย
ปัญหาคือโรงกลั่นค้าน เรื่องลงทุนจะสูง เค้าคืนทุนช้ากำไรน้อย ...
โรงงานก็มีส่วนเยอะ รถกี่คันปล่อยเท่าโรงงานโรงเดียว ยิ่งแถวที่มีปัญหาตามข่าวพระราม2 กาญจนา บางบอน
โรงงานกับขนส่งเยอะกว่ารถบ้านไปแล้ว พระราม2จรดสมุทรทั้ง2จังหวัด โรงงาน นิคม นอกนิคม เยอะและเก่า ใช้เชื้อเพลิงที่ใช้แล้วหมดไปเยอะ ถ่านหิน น้ำมันเตา lpg น้ำมัน
ส่งออกโตการผลิตยิ่งเยอะตาม ลมไม่พัด3วันนี่จะสะสมจนเห็นได้