Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ มกราคม 30, 2018, 20:13:07
-
https://www.beartai.com/news/promotion-news/219317
EA จับมือ กฟน. เปิดตัว EA Anywhere สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมประเดิมแล้ว 100 แห่ง
-
ต่างจังหวัดแบบผม รอไปก่อน555
-
ต่างจังหวัด ก็รออีกไม่นานครับ
-
กลัวจะมีเครื่องชาร์จไฟแบบ DLC จัง XD
-
เปิดแยอะมันก็ดีครับ แต่เช็คราคาบริการแล้วรึยัง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ รถยุโรปที่เป็น plug in วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 40กิโล+- การชาร์จไฟแต่ละครั้งตกประมาณ 40-50 บาทตามเรทไฟบ้าน แต่แท่นชาร์จในข่าวคิดค่าบริการจนไฟเต็มประมาณ 120 บาท เข้าใจว่าต้องมีค่าโน่นนี่ ธุรกิจต้องมีกำไรบ้าง แต่เฉลี่ยออกมาเอาเงินตรงนี้ไปเติมน้ำมันยังคุ้มกว่าชาร์จที่แท่นนี้เลย ไม่ต้องคิดถึงต้องมาจอดเสียเวลารออีก ไว้กลับไปชาร์จบ้านยังคุ้มกว่า
-
เปิดแยอะมันก็ดีครับ แต่เช็คราคาบริการแล้วรึยัง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ รถยุโรปที่เป็น plug in วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 40กิโล+- การชาร์จไฟแต่ละครั้งตกประมาณ 40-50 บาทตามเรทไฟบ้าน แต่แท่นชาร์จในข่าวคิดค่าบริการจนไฟเต็มประมาณ 120 บาท เข้าใจว่าต้องมีค่าโน่นนี่ ธุรกิจต้องมีกำไรบ้าง แต่เฉลี่ยออกมาเอาเงินตรงนี้ไปเติมน้ำมันยังคุ้มกว่าชาร์จที่แท่นนี้เลย ไม่ต้องคิดถึงต้องมาจอดเสียเวลารออีก ไว้กลับไปชาร์จบ้านยังคุ้มกว่า
ชาร์จ นานมั้ยครับถ้าจะขับให้ได้ 40km
-
ไอเดียผมนะ เอาแท่นชาร์ตไปติดตั้งไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดิน น่าจะ work กว่า......
ตอนเช้าขับมาทำงานจอดรถไฟฟ้าแล้วเสียบปลั๊กไว้ ตัวก็ขึ้นรถไฟฟ้าเข้าเมืองไป
ตกเย็นก็นั่งกลับมาเอารถขับกลับบ้าน ... ได้ชาร์ตไฟแถมไม่ต้องขับเข้าไปให้รถติดหนักๆในเมืองด้วย
อีกหน่อยรถไฟฟ้าเสร็จหลายสาย สู้ทำที่จอดรถไว้ตามชานเมืองหลายๆจุดแล้วมีที่ชาร์ตไฟด้วย คนจะได้ไม่ต้องขับรถเข้ามาแออัดในเมือง
-
กลัวจะมีเครื่องชาร์จไฟแบบ DLC จัง XD
จ่ายแบบ Season Pass สิครับ จบๆไปเลย 55555555
-
ไอเดียผมนะ เอาแท่นชาร์ตไปติดตั้งไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดิน น่าจะ work กว่า......
ตอนเช้าขับมาทำงานจอดรถไฟฟ้าแล้วเสียบปลั๊กไว้ ตัวก็ขึ้นรถไฟฟ้าเข้าเมืองไป
ตกเย็นก็นั่งกลับมาเอารถขับกลับบ้าน ... ได้ชาร์ตไฟแถมไม่ต้องขับเข้าไปให้รถติดหนักๆในเมืองด้วย
อีกหน่อยรถไฟฟ้าเสร็จหลายสาย สู้ทำที่จอดรถไว้ตามชานเมืองหลายๆจุดแล้วมีที่ชาร์ตไฟด้วย คนจะได้ไม่ต้องขับรถเข้ามาแออัดในเมือง
ผมเห็นด้วยนะครับอยากให้ติดตั้งแท่นชาร์ตไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าทั้งแถวๆ BTS และ MRT
รวมถึงที่จอดรถตามตึกออฟฟิศด้วยครับ ขับมาจอดตอนเช้าแล้วชาร์จทิ้งไว้ เลิกงานเสร็จก็ขับกลับทันที
แล้วก็อยากให้ติดตั้งไว้ตามที่จอดของห้างต่างๆด้วยครับ
-
เปิดแยอะมันก็ดีครับ แต่เช็คราคาบริการแล้วรึยัง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ รถยุโรปที่เป็น plug in วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 40กิโล+- การชาร์จไฟแต่ละครั้งตกประมาณ 40-50 บาทตามเรทไฟบ้าน แต่แท่นชาร์จในข่าวคิดค่าบริการจนไฟเต็มประมาณ 120 บาท เข้าใจว่าต้องมีค่าโน่นนี่ ธุรกิจต้องมีกำไรบ้าง แต่เฉลี่ยออกมาเอาเงินตรงนี้ไปเติมน้ำมันยังคุ้มกว่าชาร์จที่แท่นนี้เลย ไม่ต้องคิดถึงต้องมาจอดเสียเวลารออีก ไว้กลับไปชาร์จบ้านยังคุ้มกว่า
ชาร์จ นานมั้ยครับถ้าจะขับให้ได้ 40km
แท่นชาร์จใช้เวลาประมาณ 2 ชม ถ้าเสียบปลั๊กแบบอแดปเตอร์ใช้เวลา 3 ชั่วโมง อันนี้ตามโบรชัวร์ จริงๆมีรายละเอียดยิบย่อยมากกว่านี้นิดหน่อยคือ ในรถเราสามารถเลือกระดับความแรงในการชาร์จไฟได้ เร็วสุดคือ 3 ชั่วโมงตามโบรชัวร์ แต่ถ้าชาร์จเร็วระยะทางวิ่งจริงจะน้อยกว่าที่แจ้งไว้เพราะการเรียงตัวของกระแสไฟในแบตไม่ดี ถ้าชาร์จช้าอาจกินเวลาถึง 8 ชั่วโมง เหมาะกับกลางคืน กระแสไฟจะเรียงตัวดีทำให้วิ่งได้ระยะไกลมากขึ้น จริงๆไม่อยากให้ใส่ใจรายละเอียดตรงนี้มากเพราะมันเป็นรถไฮบริดต้องเติมน้ำมันอยู่แล้ว แบตมีการใช้และชาร์จอยู่ตลอดเวลา เอาไว้เป็นรถ ev แท้ๆค่อยมาสนใจรายละเอียดตรงนี้ดีกว่า
ประเด็นของกระทู้นี้คือทำไมเราต้องจ่ายเงินแพงกว่าน้ำมันแล้วต้องมานั่งรออีก เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการแท่นชาร์จต้องกลับไปคิด
-
E350e ชาร์จไฟที่บ้านผม จาก 8% กว่าจะเต็ม ล่อไปเกือบ 7 ชั่วโมง
-
สงสัยอย่างเดียวเวลาน้ำท่วม กทม แล้วท่วมสถานีชาร์จ ...
-
สงสัยอย่างเดียวเวลาน้ำท่วม กทม แล้วท่วมสถานีชาร์จ ...
ก็น่าจะมีระบบตัดไฟแบบอาคารนะครับ
-
ถ้าราคานี้ ตจว คงยาก
-
ไอเดียผมนะ เอาแท่นชาร์ตไปติดตั้งไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดิน น่าจะ work กว่า......
ตอนเช้าขับมาทำงานจอดรถไฟฟ้าแล้วเสียบปลั๊กไว้ ตัวก็ขึ้นรถไฟฟ้าเข้าเมืองไป
ตกเย็นก็นั่งกลับมาเอารถขับกลับบ้าน ... ได้ชาร์ตไฟแถมไม่ต้องขับเข้าไปให้รถติดหนักๆในเมืองด้วย
อีกหน่อยรถไฟฟ้าเสร็จหลายสาย สู้ทำที่จอดรถไว้ตามชานเมืองหลายๆจุดแล้วมีที่ชาร์ตไฟด้วย คนจะได้ไม่ต้องขับรถเข้ามาแออัดในเมือง
ผมเห็นด้วยนะครับอยากให้ติดตั้งแท่นชาร์ตไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าทั้งแถวๆ BTS และ MRT
รวมถึงที่จอดรถตามตึกออฟฟิศด้วยครับ ขับมาจอดตอนเช้าแล้วชาร์จทิ้งไว้ เลิกงานเสร็จก็ขับกลับทันที
แล้วก็อยากให้ติดตั้งไว้ตามที่จอดของห้างต่างๆด้วยครับ
ผมว่าคนสร้างคงไม่ทำอย่างนั้นเพราะจอดรถไปทำงานเสียเวลาไปอย่างน้อย6-8ชม. เท่ากับเสียโอกาสที่รถคันอื่นจะเข้ามาชาร์ท
แล้วรถที่ไม่ชาร์ทก็จอดไม่ได้ เสียพื้นที่ไปอีก
-
... ถ้่ารถปกติมาจอดตามที่ชาร์ท... หรือรถไฟฟ้ามาจอดแต่ไม่ชาร์ทนี่จะทำยังไงดีหว่า
-
แบกรับภาพาไปก่อน...
ผมว่าจุดคุ้มคุนยังอีกยาวไกล
แต่เป็นการจุดประกายให้คนกล้ามาใช้รถประเภทนี้มากขึ้น..
-
คนใช้ EV หลักๆคือชาร์จที่บ้าน โอกาสจะได้ชาร์จตามปั้มมีสองกรณี
- ลืมชาร์จจนแบตจะหมด
- เดินทางไกล
ซึ่งการชาร์จตามปั้มมักจะเป็นแบบชาร์จเร็วต่างกับชาร์จบ้าน ดังนั้นจึงราคาแพงกว่าปรกติ (และชาร์จบ้านมักเป็นช่วงกลางคืนที่ค่าไฟถูกด้วย) อันนี้ก็ต้องไปคำนวณความคุ้มของแต่ละคน ถ้าเป็นคนที่ชาร์จบ้านประจำ ชาร์จปั้มนานๆทีก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าเดินทางไกลบ่อยๆต้องชาร์จปั้มทุกวันคงต้องเทียบกับค่าน้ำมันว่าคุ้มมั้ย
ส่วนที่จอดรถชานเมืองให้คนใช้รถไฟใต้ดินมาทำงานในเมือง อันนี้มันก็ควรเป็นกับรถทุกประเภท แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมขับรถเองมากกว่าใช้บริการขนส่งมวลชน มันถึงได้รถติด
ปล. ถ้าหากคนใช้ EV มากขึ้น ปั้มชาร์จไฟก็จะมากขึ้น มันก็มีการแข่งกันเรื่องราคาเอง เดี๋ยวก็ถูกลง
-
ยินดีกับชาว กทม. และพี่น้องชาวไทยด้วยเช่นกัน
ขอให้ก้าวต่อไปเรื่อยๆ แม้จะเหนื่อยและยาก
ทั้งจากจำนวนรถ EV, ราคาที่ดินไม่ว่าเช่าหรือซื้อ, ไม่รู้รวมถึงการมีนอกในอีกหรือไม่ อันหลังนี้น่ากลัวสุด เพราะ ที่นี่ประเทศไทย!!
แต่ยังไงก็ ขอให้สู้ครับ!!
-
แล้วจะแก้เรื่องจอดแช่ จนช่องเต็มยังไงครับ ต้องมีแน่ๆ ;D
-
ดีครับ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
ปัญหาอย่างไรก็ต้องมี คงต้องค่อยๆปรับปรุงไปครับ
-
ไอเดียผมนะ เอาแท่นชาร์ตไปติดตั้งไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดิน น่าจะ work กว่า......
ตอนเช้าขับมาทำงานจอดรถไฟฟ้าแล้วเสียบปลั๊กไว้ ตัวก็ขึ้นรถไฟฟ้าเข้าเมืองไป
ตกเย็นก็นั่งกลับมาเอารถขับกลับบ้าน ... ได้ชาร์ตไฟแถมไม่ต้องขับเข้าไปให้รถติดหนักๆในเมืองด้วย
อีกหน่อยรถไฟฟ้าเสร็จหลายสาย สู้ทำที่จอดรถไว้ตามชานเมืองหลายๆจุดแล้วมีที่ชาร์ตไฟด้วย คนจะได้ไม่ต้องขับรถเข้ามาแออัดในเมือง
ผมเห็นด้วยนะครับอยากให้ติดตั้งแท่นชาร์ตไว้ตามที่จอดรถของรถไฟฟ้าทั้งแถวๆ BTS และ MRT
รวมถึงที่จอดรถตามตึกออฟฟิศด้วยครับ ขับมาจอดตอนเช้าแล้วชาร์จทิ้งไว้ เลิกงานเสร็จก็ขับกลับทันที
แล้วก็อยากให้ติดตั้งไว้ตามที่จอดของห้างต่างๆด้วยครับ
ผมว่าคนสร้างคงไม่ทำอย่างนั้นเพราะจอดรถไปทำงานเสียเวลาไปอย่างน้อย6-8ชม. เท่ากับเสียโอกาสที่รถคันอื่นจะเข้ามาชาร์ท
แล้วรถที่ไม่ชาร์ทก็จอดไม่ได้ เสียพื้นที่ไปอีก
[/color]
มันมีแท่นชาร์จแบบช้าต้นทุนต่ำ(ต่ำกว่าแบบเร็วมากๆ)ครับ...........ถ้าจำไม่ผิดน่าจะต่ำกว่าหลาย10เท่า
-
แล้วจะแก้เรื่องจอดแช่ จนช่องเต็มยังไงครับ ต้องมีแน่ๆ ;D
อาจจะต้องมีค่าปรับ :) :)
-
จอดแช่ ก็คิดค่าจอดแพงๆ หลังชาร์จเต็ม (ค่าเสียโอกาส ของเจ้าของสถานีด้วย)
ถ้าให้ดี ทำเป็นเลน Wireless Charger จะดีเลย ไม่ต้องเข้าสถานี
(https://cbsnews1.cbsistatic.com/hub/i/2015/08/25/096424a2-bc40-4918-b538-a375972de68a/cbsn0825car-changing-lanes436962640x360.jpg)
-
.."สถานีชาจพวกนี้เป็น supercharge มีทั้ง AC และ DC ความเร็วในการชาจ 7 นาทีวิ่งได้ 100 โล สำหรับรถ EV ของ EA เอง (ไม่ใช่ยี่ห้อ EA แต่ใช้ชื่อยี่ห้อ อื่น) ตอนนี้รถเกือบสมบูรณ์แล้ว มอเตอร์โชว์เมษา นี้พบเจอได้แน่นอน ซีดาน สปอรต์ และ suv ราคาขาย จับต้องได้แน่นอน
ส่วนถ้าชาจกับ เบนซ์ บีเอ็ม เทสล่า อันนั้นก็ช้ากันไป 1 ชม.เต็ม หรือ นานกว่านั้น ก็ขึ้นกับ VCU ในรถว่า ออกแบบไว้อย่างไร ไม่ได้ขึ้นกับสถานีชาจ รถจะชาจเร็วหรือไม่เร็วขึ้นกับ VCU ของรถจะสั่งการ แต่เร็วกว่าชาจที่บ้านมหาศาล เพราะมันเป็น supercharge station แต่จ่ายไฟได้มากกว่าของ tesla ด้วยซ้ำ
ระบบการจองผ่านแอป ทำให้เข้าไปได้ตามเวลา ถ้าจอดเกิน จอดแช่ ก็คิดตังเพิ่ม เช่น เติมเต็มแล้วไม่ออกเป็นต้น
เรื่องราคา จะแปรผันไปตามสถานที่ และการลงทุน สมมุติคุณจะลงทุนทำที่กลางเมือง แน่นอน ก็ชม.ละ 60 แต่ ถ้าชานเมือง ก็ ชม. ละ 20 อะไรก็ว่ากันไป กลไกตลาดจะตอบสนองเอง และเขามีระบบร่วมลงทุนด้วย เงินที่คิด หารกันกับเจ้าของสถานที่ ถ้าคุณมีร้านที่คนไปเยอะๆ ก็ติดต่อได้ ดังนั้น ต่อไป ปั้มจะมีทุกๆ mall เลยก็เป็นไปได้ ทุกอย่างดูผ่าน app สบายมาก
อุปกรณ์ปั้มไฟฟ้า ทาง EA ผลิตได้เอง และสามารถ burst เรทการจ่ายไฟให้มากกว่านี้ก็ได้ ถ้ารถยนต์ vcu รองรับ ดังนั้น เรื่องราคาต้นทุนต่อจุด ถือว่า นำหน้าไปไกล ต้นทุนปั้มปกติ หัวละ 2 ล้านของ ABB สั่งเข้ามาทั้งชุด แต่ ของ EA ทำไม่ใช่ราคานี้ ถูกกว่านั้นเยอะ"..........
ข้อมูลจากคุณ panjap
-
รอดูว่าจะ work แค่ไหน
-
อย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ
เพราะการเริ่มต้นอะไรสักอย่างมันยากจริงๆครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ