Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tanapol32500 ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2018, 23:38:17
-
ผมอยากได้รถที่สวย ดูแล้วไม่ตกรุ่น เพราะอยากเก็บไว้ใช้ยาว ไม่จำเป็นต้องDaily use ไม่อยากได้รถที่แรงมาก ขอแค่ดูนานๆแล้วไม่เบื่อ ขับสนุก และราคาซ่อมไม่โหดมาก
โดยผมสนใจAstonmartin V8vantage มากครับ แต่อีกใจหนึ่งยังอยากได้Porsche 991.1 carrera s อยู่ครับ ซึ่งผมยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับยี่ห้อ Astonmartin มากพอ จึงอยากขอคำแนะนำจากทุกท่านครับ คำถามของผมมีดังนี้
1. Astonmartin เหมาะกับคนที่ต้องการรถแบบไหนครับ
2. เป็นรถที่เหมาะจะเก็บไว้ในระยะยาวหรือไม่
3. ทำไมคนถึงไม่นิยม ยี่ห้อนี้
4. มีปัญหาอะไรที่พบบ่อยในรถรุ่นนี้บ้างครับ
5. ราคาซ่อม แพงมั้ยครับ หากเทียบกับ 911
6. เวลาเลือกซื้อมือสอง มีจุดไหนที่ควรจะระวังบ้างครับ
7. Astonmartin กับ Porsche สองยี่ห้อนี้ใครจุกจิกน้อยกว่ากัน
ขอบคุณครับ
-
ไม่ขอตอบคำถามอะไร. อยากบอกแค่ว่า. Vantage คือรถที่design ไม่มีวันเอ้าท์ ไม่ว่าจะยาวยานแค่ไหน
-
ทีเคยคุยกับคนเป็นเจ้าของน่ะครับ เค้าบอกว่า
เค้าชอบเพราะ brand อย่างเดียวครับ คือเอาหล่อไว้ก่อน แบบมาดผู้ดี
ที่คนไม่นิยมกัน เพราะว่า เงินที่จ่ายไปกับราคานี้ มันไม่คุ้มค่าเท่ายี่ห้ออื่นครับ Porsche พวกนี้ ขับดีกว่าเยอะ จุกจิกน้อยกว่า
Aston Martin ทุกคนพุดเป็นเสียงเดียวคือ ตัวรถหนักไป
ปัญหาที่พบบ่อยคือ อย่าเล่นเกียร์ ออโต้ครับ ไปเล่นเกียร์ธรรมดาดีกว่า เกียร์ ออโต้ เห็นว่าชอบมีปัญหา
-
ถ้ากังวลค่าซ่อมไปPorsheดีกว่าครับ น้องสาวผมเคยใช้ BMW 850CI รถน้อยอะไหล่แพงแถมรอนานอีก
-
ถ้ากังวลค่าซ่อมไปPorsheดีกว่าครับ น้องสาวผมเคยใช้ BMW 850CI รถน้อยอะไหล่แพงแถมรอนานอีก
+1
-
แต่ถ้าไม่ชอบPorsche จริงๆ ผมว่าไปที่ Bentley Continental GT อนาคตดีกว่าAston Martinครับ
-
ขอสอบถามเป็นความรู้ครับว่า
Vantage / DB9 /DBS นี่แตกต่างกันอย่างไรครับ ดูเผินๆ มันคล้ายกันมาก
-
ขอสอบถามเป็นความรู้ครับว่า
Vantage / DB9 /DBS นี่แตกต่างกันอย่างไรครับ ดูเผินๆ มันคล้ายกันมาก
Vantage ตัวเล็กกว่าอีกสองคันครับ เครื่องพื้นฐานเป็น V8 ส่วน V12 ที่เซ็ทมากึ่งๆรถแข่งออกมาทีหลัง
ตั้งใจมาประกบ 911 โดยเฉพาะ แต่ขับจริงๆเทียบระหว่าง Vantage กับ 911 ที่แรงม้าเท่ากัน Vantage
สู้ไม่ได้ เพราะมันหนักกว่าเยอะมากกก ร่วมๆครึ่งตัน
DB9 (2004-2016) คันใหญ่กว่า Vantage วางเครื่อง V12 6.0 กำลัง 456 แรงม้ามาแต่กำเนิด แต่พอ 2013-2016 อัพเป็น 510 แรงม้า setting มาดผู้ดี สุขุมนุ่มลึก เหมาะไว้ขับทางไกลข้ามประเทศ คันนี้คู่แข่งที่โดนเปรียบเทียบบ่อยๆคือ Bentley Continental GT
DBS (2008-2012) พื้นฐานมาจาก DB9 แต่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเยอร์เยอะกว่าเพื่อลดน้ำหนักตัวรถ และเพิ่มความแรงเครื่องยนต์ จาก 456 เป็น 510 แรงม้า ปรับเน้นการขับขี่ให้ดุดันมากขึ้นกว่า DB9 ซึ่งในระหว่างนี้ Aston ส่ง Virage 490แรงม้า มาขั่นกลางระหว่าง DB9 และ DBS แต่ทำออกมาขายได้ปีเดียวก็ยกเลิกไป (2011-2012)
-
ตอบได้แต่ข้อ 3 ผมมองว่ายี่ห้อนี้เหมือนเป็น super car คันที่ 2 ที่ 3 ของบ้าน เลยทำให้ไม่ค่อยดังเปรี้ยงป้าง เมื่อเทียบกับ Ferrari, porsche และ Lamborghini ที่มักจะมาเป็นตัวเลือกแรกๆๆ ของคนมีเงินซื้อ super car อีกอย่างชื่อเสียงเรื่องการขับขี่ในช่วง DBS ยังเป็นรอง super car จากฝั่งอิตตาลี่ และเยอรมันอยู่มาก ดูได้จาก DBS 6.0 v12 ทำม้าได้แค่ 510 0-100 ล่อไป 4.x วินาที ในขณะที่ Ferrari 599 6.0 V12 ทำม้าได้ 600 กว่า 0-100 3.6 วิ และ Lamborghini Murcielago เครื่องยนต์ 6.2 ลิตร V12 ทำแรงม้าได้ 580 ตัว และ 0-100 ประมาณ 3.7 วิ
-
เอาทีละข้อเท่าที่พอจะตอบได้นะครับ
1.แล้วแต่ความชอบนะครับ ส่วนตัวผมถ้าจะจัดรถแบบนี้ซักคัน ยี่ห้อนี้อยู่ใน top 3 แน่นอน
2.เหมาะครับ unique มากๆ เช่นเดียวกับค่ายอื่นรวมสัญชาติบางรุ่น, แต่เรื่องซ่อมบำรุงคุณต้องพร้อม 100% ทั้งงบประมาณ เวลา และความเอาใจใส่ครับ
3.คิดว่าคำตอบคล้ายๆ ข้อ 1 ครับ
4.ไม่ทราบครับ (แต่คหสต.ผมว่ารถอังกฤษวัสดุไม่ค่อยทนกับสภาพแวดล้อมประเทศไทย)
5.คิดว่าแพงกว่า 911 แน่นอนครับ ที่แน่ๆเรื่องอะไหล่ต่างๆ
6.ไม่ทราบครับ
7.คิดว่า Porsche จุกจิกน้อยกว่าแน่ๆครับ (แต่ถ้าเอาตรงๆผมว่ารถอะไรก็ไม่จุกจิกนะครับ ถ้าซ่อมและดูแลให้ถึง แต่มันอาจจะใช้งบสิ้นเปลืองมากๆ)
ปล.ถ้าเอา Aston Martin แน่ๆ DBS น่าสนใจกว่าครับ รุ่นอื่นๆพวก DB9, Vantage ผมว่ามันธรรมดาไป