Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: carenaruk ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2018, 21:25:48
-
ผมใช้รถbt50pro รถมีอาการเข้าเกียร์ไม่ได้ เอาเข้าศูนย์ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ช่างโทรมาบอกว่า ปั๊มคลัชบนเสีย วันนี้พอไปรับรถ เจอราคาค่าแรงไป ชม.600บาท 4ชม. 2400บาท ถ้าทำอู่ข้างนอกค่าแรงคงไม่ถึงขนาดนี้แน่ๆ เข็ดเลยครับแบบนี้ รถอายุ5ปี 2เดือน ซื้อคันหน้าผมคงมองยี่ห้ออื่นบ้างแล้วล่ะ แบบนี้
-
ค่าแรง 0 ก็ประมาณนี้ ทุกยี่ห้อ
-
นิสสัน 500
-
ที่ศุนยวิริยะมาสด้าแพร่ รุ้สึกว่าจะประมาณ 400 กว่าบาทต่อชั่วโมงนะ แต่ได้ลดลงอีก 10% เพราะผมมีบัตรวีไอพีการ์ด เหลือ 300 กว่าบาท แต่ก้แอบคิดในใจนิดๆว่าทำไมมันแพงจัง ก้เพิ่งมาเห็นนี่แหละคับว่าที่อื่นแพงกว่าอีก :-X
-
ผมเข้า มาสด้าสุขุมวิท 65 แพงกว่าอีกครับ
ชั่วโมงละ 850 บาท เปลี่ยนช่วงล่างหลายรายการ
-
HONDA ราคา 400 กว่าๆ ต่อชั่วโมง ครับ
-
บางศูนย์ 900 ครับ
:-[ :-[
-
ชม ละ 600 ว่าแพงแล้ว แถม 4 ชม ก็นานไป
ถอด 1 ชม ใส่ 1 ชม ก็น่าจะเสร็จแล้ว 1 แรงทำได้ ไม่ควรนับเวลาช่างเดินวนไปวนมา รอฝ่ายอะไหล่เบิกของ นู่นนี่นั่น
-
ทำไมราคาค่าแรงของแต่ละศูนย์ไม่เท่ากันครับ :o
-
ผมเคยคุยกับช่างซ่อมรถที่เป็นลูกค้า เล่าให้ฟังว่ารถกระบะ BT-50 มาซ่อมปั๊มคลัทช์ตัวบน
ช่างเจองานช้าง เพราะว่าต้องยกเกียร์ลงมาถึงจะทำได้ ผมได้ฟังก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่
ถ้าเจ้าของกระทู้ต้องจ่ายค่าแรงถึง 4 ชั่วโมง ก็แสดงว่าต้องรื้อเยอะเหมือนกันนะครับ
-
เข้าศูนย์ก็ราคานี้แหละครับ ปล.ผมก็เข้าศูนย์มาสด้ากับนิสสันประจำก็พอๆกัน เข้าศูนย์ราคาแรง แต่มีประกัน แต่..บางที่ค่าใช้จ่ายเราก็ไม่ไหวเหมือนกัน... :'(
-
พี่ผม เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ M3 Sky ที่ศูนย์
ค่าแรง2ชม. 1,000+ภาษี7%
ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ Vios , CRV , M2 ที่อู่ ค่าแรง2-300/ครั้ง
แล้วแต่รถนิยม ว่า จะเลือกศูนย์ แต่มีการรับประกันงาน หรือ เลือกอู่
-
เราเปลี่ยนมาเป็นแนะนำอู่นอกสำหรับมาสด้าดีกว่ามั๊ยครับสำหรับรถที่หมดประกันหรือไม่แคร์ประกัน
-
ทำไมราคาค่าแรงของแต่ละศูนย์ไม่เท่ากันครับ :o
นั่นสิ ขึ้นกับความยากง่าย หรือคิดแบบตายตัวของแต่ละที่?
สามารถสอบถามราคาก่อนได้มั้ยแล้วเลือกศูนย์ที่ถูก?
-
ฮอน 400 น่าจะบวก vat เท่ากันหมด ทำมาแถวบ้านสี่ห้าที่ เหมือนราคาลงในระบบเลย แต่ละศูนย์จะเอาพวกของเหลว+การล้างสีพ่นกันสนิม มาหารายได้เอาซึ่งบางทีก็น่าเกลียดไป
-
แพงทุกยี้ห้อ แล้วแต่แพงมากแพงน้อย คิดดู 0 ต้องเลี้ยงพนักงานอีกกี่คน :'(
-
600ยังเด็กๆครับ มี850กับ950ด้วย พรีเมี่ยมจริมๆ
-
ยังถือว่าดี น้องสาวโดนมา 690 บ./ ชม.
-
ค่าแรงแพงเพราะศูนย์มีต้นทุนสูงกว่าอู่ครับ
หากพี่เข้าอู่พี่จะไม่มีพนักงานมารับรถ คีย์ข้อมูลเข้าคอม มีแอร์เย็นๆ ห้องน้ำสะอาดๆ ห้องกว้างๆ มีโซฟาใก้นั่งรอ มี tv ให้ดู มีโต๊ะให้ทำงาน มีwifi มีอาหารรองรับ มาม่า หรือข้าวทั้งจานบางที่ก็มี มีน้ำเย็นๆ ทั้งน้ำหวาน น้ำอัดลม นี่เฉพาะในส่วนลูกค้านะครับ
ยังมีในส่วนของรถพี่ที่เค้าจะมี ฮ้อย เครื่องคอม และเครื่องมือเฉพาะด้านอีกมากมาย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ หลายส่วนอยู่ในค่าแรงที่พี่เข้าไปใช้บริการละครับ
อย่าเข็ดเลยครับ แต่อยากให้เข้าใจเขา เขาไม่ได้คิดพี่แพงหรอก แต่พี่เลือกจะเข้าไปใช้บริการเหล่านี้ต่างหาก หากไม่ต้อกการบริการเหล่านี้ พี่วิ่งเข้าอู่เลยครับ ค่าแรงออกมาถูกกว่าแน่นอน เหมือนซื้อรถตัด option น่ะครับ
-
ศูนย์ที่เข้ารับบริการ
Honda 485 บาท/ชม.
Mazda 600 บาท/ชม.
เช็กระยะแต่ละครั้ง CRV ถูกกว่า Mazda2 D พอสมควร
สิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างรอ Honda ดีกว่า
:P
-
ของโตโยต้าที่ผมเข้า 400 กว่า นะครับ นับตั้งแต่เปลี่ยน นมค.ไปจนถึงหาอาการที่ไม่ทราบสาเหตุ เพราะนั้นเรื่องมาตรฐานศูนย์บริการ การบริการพนักงาน ความสะดวกสบาย จึงเอามาอ้างไม่ได้ครับ
-
ผมมีคันนึง เสียวเลย 55
ว่าแต่ค่าปั๊มเท่าไหร่ครับ แล้วอาการเป็นอย่างไร ขอเก็บข้อมูลหน่อยครับ
ส่วนค่าแรง ชั่วโมงละ 600 ถือว่าค่อนข้างสูงไปนิดนะครับ แต่ไม่รู้ว่าต้องรื้อเยอะขนาดไหน
ถามเลยครับ ต่อไปต้องกล้าๆถามก่อนสั่งซ่อม เช่นจำนวนชั่วโมง ทำไมนานจัง อะไรแบบนี้
-
ค่าแรงแพงเพราะศูนย์มีต้นทุนสูงกว่าอู่ครับ
หากพี่เข้าอู่พี่จะไม่มีพนักงานมารับรถ คีย์ข้อมูลเข้าคอม มีแอร์เย็นๆ ห้องน้ำสะอาดๆ ห้องกว้างๆ มีโซฟาใก้นั่งรอ มี tv ให้ดู มีโต๊ะให้ทำงาน มีwifi มีอาหารรองรับ มาม่า หรือข้าวทั้งจานบางที่ก็มี มีน้ำเย็นๆ ทั้งน้ำหวาน น้ำอัดลม นี่เฉพาะในส่วนลูกค้านะครับ
ยังมีในส่วนของรถพี่ที่เค้าจะมี ฮ้อย เครื่องคอม และเครื่องมือเฉพาะด้านอีกมากมาย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ หลายส่วนอยู่ในค่าแรงที่พี่เข้าไปใช้บริการละครับ
อย่าเข็ดเลยครับ แต่อยากให้เข้าใจเขา เขาไม่ได้คิดพี่แพงหรอก แต่พี่เลือกจะเข้าไปใช้บริการเหล่านี้ต่างหาก หากไม่ต้อกการบริการเหล่านี้ พี่วิ่งเข้าอู่เลยครับ ค่าแรงออกมาถูกกว่าแน่นอน เหมือนซื้อรถตัด option น่ะครับ
งานช่างบางทีลองทำดูจะเข้าใจครับว่ามันไม่ง่ายเลย อย่างกรองแอร์ในห้องโดยสารดูคู่มือทำง่ายๆแต่ทำเองจริงไม่ง่ายครับ ต้องก้มมุดแบบผิดสรีระปวดกล้อมเนื้อนานๆแล้วร้อนด้วย ไหนจะเอาน็อตเอาสายไฟที่บังอยู่หลบอีกใส่เข้าใส่ออกต้องค่อยๆทำไม่นสายไฟขาด ไม่ง่ายเลยนะ :-X แล้วงานที่ต้องบรรจงถอดใส่แล้วชิ้นส่วนหนักๆอย่างช่วงล่างนี่ยังไงก็เหงื่อท่วมครับ :-[ เปลี่ยนอะไหล่ในห้องเครื่องก็ไม่ใช่ง่ายๆ รถมาร้อนๆต้องลงมือทำไม่งั้นไม่ทัน ชิ้นส่วนหลายชิ้นเป็นพลาสติก ไม่บรรจงทำชิ้นส่วนแตกโดนด่าชดใช้เงินตัวเองอีก เครียดนะครับงานช่างทั้งจำนวนรถกดดันแล้วยังความยากของงานที่ต้องเร่งแต่ห้ามพังด้วย :-\
-
ตกลงถ้าเปลี่ยนแค่น้ำมันเครื่องค่าแรงจะถูกกว่านี้หรือยัง 600 บาท??
-
มาสด้าแถวบ้านผม ชม ละ 450
ถ่าย นมค ก็ 450
เปลี่ยนกันโคลง ปีกนก ช่างเหงื่อซกก็ 450
-
ค่าแรงแล้วแต่ดีลเลอร์ครับ ไม่เกี่ยวกับ Mazda หรือ บ.รถ เลยครับ เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ดีลเลอร์ต้องให้แก่คนของตัวเองครับ
-
ค่าแรงฯ ผมว่าตามนั้นละครับ เพราะเค้าน่าจะบวกไปแล้วในการรับรองลูกค้า พวกข้าว ขนม ของว่าง ฯลฯ
แต่ของที่แพงจริงๆ ผมว่าอะไหล่นั้นหล่ะ ตัวหลักๆ ที่มันเสียตามระยะนี้ เจอเข้าไปทีจุกเหมือนกัน (จากใจคนใช้ M2)
-
ทำไมราคาค่าแรงของแต่ละศูนย์ไม่เท่ากันครับ :o
ค่าแรงกลางมีครับสำหรับแต่ละยี่ห้อ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางศูนย์ต้องดูต้นทุนที่แท้จริงอีกที ทั้งค่าเช่าที่ ค่าอื่นๆ
-
มันขึ้นอยู่กับว่า เราทำอะไรครับ ...
ยกเกียร์นะครับ ไม่ใช่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ...
ค่าแรงที่แพงกว่าเปลี่ยนนอก .... ถ้ามองที่ราคา มันก็แพงกว่า แต่เคยมองกันไหมครับว่า ศูนย์เค้ารับประกันงานซ่อมให้ด้วย แต่อู่ เก็บถูกกว่า แต่ถ้าออกจากอู่แล้วถือว่าขาดกัน .... กลับมาใหม่ก็คิดค่าแรงใหม่ .... ไม่พอใจจะไปโวยวายกับใคร ...
-
มาสด้าพาราไดซ์ ชม.ละ 625 บาทครับ
ฮ่าๆ
-
ผมฟรีค่าแรงเช็คระยะอีกรอบ หลังจากนั้นจ่ายเองเพียวๆ สงสัยมีจุก 555
-
ค่าแรง 0 ก็ประมาณนี้ ทุกยี่ห้อ
ไม่ใช่ครับ ยี่ห้ออื่นราคาถูกกว่านี้ทั้งนั้น ยกเว้น Lexus
แล้วถ้าค่าแรงเปลี่ยนปั๊มคลัทซ์เขาจะตีเป็นงานจ๊อป ว่าทำ 1 หรือ 2 ชั่วโมง จะเสียค่าแรง 400-800 บาท แล้วแต่ยี่ห้อว่ากำหนดค่าแรงเท่าไหร่
เพราะฉะนั้นค่าแรงเปลี่ยนปั๊ม 2400 บาท โหดมากครับ โคตรแพงระดับรถยุโรปพรีเมี่ยมเลย
-
ค่าแรงแล้วแต่ดีลเลอร์ครับ ไม่เกี่ยวกับ Mazda หรือ บ.รถ เลยครับ เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ดีลเลอร์ต้องให้แก่คนของตัวเองครับ
แสดงว่า mazda thailand ไม่มีมาตรฐานในการควบคุมดีเลอร์ ให้มีการกำหนดค่าแรงที่เหมาะสมและใกล้เคียงกันได้
TOYOTA ค่าแรงส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกันแม้ไม่เท่ากันทุกศูนย์แต่จะไม่ห่างกัน แล้วจะมีการกำหนดควบคุมโดย TOYOTA ไม่ให้แพงเกินไปกว่าคู่แข่ง แต่ของ Mazda นี่แพงโอเว่อร์มาก
-
มันขึ้นอยู่กับว่า เราทำอะไรครับ ...
ยกเกียร์นะครับ ไม่ใช่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ...
ค่าแรงที่แพงกว่าเปลี่ยนนอก .... ถ้ามองที่ราคา มันก็แพงกว่า แต่เคยมองกันไหมครับว่า ศูนย์เค้ารับประกันงานซ่อมให้ด้วย แต่อู่ เก็บถูกกว่า แต่ถ้าออกจากอู่แล้วถือว่าขาดกัน .... กลับมาใหม่ก็คิดค่าแรงใหม่ .... ไม่พอใจจะไปโวยวายกับใคร ...
ยกตัวอย่าง TOYOTA นะครับ ค่าแรงจะประเมินเป็นชั่วโมงไม่ไ่ด้แยกว่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องชั่วโมงล่ะ 200 เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ชั่วโมงละ 600
แต่เขาคิดเป็นชั่วโมงไว้คือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง คิดค่าแรง 250 บาท เปลี่ยนเกียร์ ค่าแรง 3 ชั่วโมง 1500 บาทเป็นต้น
Mazda จะทำรถแข่งกับเจ้าตลาดอย่าง TOYOTA ปรับปรุงเรื่องศูนย์บริการด้วย แบบนี้ลูกค้าเจอทั้งค่าอะไหล่ที่แพงกว่าคู่แข่ง แล้วแถมเจอค่าแรงระดับพรีเมี่ยมเข้าไปอีก ลูกค้าเก่าคงถอยกันละไม่มีใครภักดีกับแบรนด์นี้ไปตลอดแน่
-
Ford ก็แพงครับ
-
Ford 650 ไม่รวม Vat
Honda 450 ไม่รวม Vat
เพิ่มเติมให้ครับ 555
-
สุขา 3 ชั่วโมงละ 690 ครับ
แพงจริงๆ
-
โดยส่วนมากค่าแรงจะให้ตามคะแนนการประเมินมาตรฐานด้านบริการหลังการขายครับ
ดีลเลอร์ไหนที่คะแนนประเมินสูงๆ ซึ่งหมายถึงมีมาตรฐานที่ดีก็จะได้ค่าแรงที่สูงครับ
ดีลเลอร์ไหน มาตรฐานไม่ดีค่าแรงก็จะได้ในเรทที่ต่ำลงมา
-
เอาจริงๆนะผมเห็นมีมาสด้านี่แหละที่ค่าแรงศูนย์แต่ละแห่งต่างกันมากยังกะหุ้น ยี่ห้ออื่นที่ผมเจอมาต่างกันแค่หลักสิบบาทอยู่ในเกณฑ์ไล่ๆกันหมด
-
เข้าศูนย์ค่าแรงแพงนี่ จ๋อยเลย เงินต่างกันหลายร้อยเลยทีเดียว น่าจะควบคุมให้เท่ากันทุกศูนย์บ้างนะครับจะได้มาตรฐานเดียวกัน
แก้ไขคำผิดครับ
-
Ford 650 ไม่รวม Vat
Honda 450 ไม่รวม Vat
เพิ่มเติมให้ครับ 555
ขึ้นกับว่าคิดค่าแรงกี่ชั่วโมงครับ
ถ้าคิดแค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 1.5-2ชั่วโมง ก็เท่ากับเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแพงซะแล้ว
-
nissan ราวๆ 450 /ชม. ครับ