Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yayyay ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 13:41:58

หัวข้อ: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: yayyay ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 13:41:58
ขอคำแนะนำทีครับกำลังเล็งอยู่ๆ
กะจะออกมาส2 เครื่องดีเซล
ลักษณะการวิ่งเป็นแบบนี้ครับ
- กรุงเทพ(พระราม3)-อมตะนคร ไปกลับ อาทิตย์ละขั้นต่ำ1เที่ยว ขึ้นทางด่วนตลอดทางประมาน50กิโลเมตร        ขับที่ความเร็ว80-170+ km/h เป็นเวลาต่ำๆก้20นาทีต่อเที่ยว ซึ่งต้อให้เหยียบ150ตลอดทางคงเป็นไปได้ได้ขนาดขับตอนตี1-2
- ขับในเมืองวันละ10 กิโลเมตร ความเร็ว20-80km/h
จากจุดนี้ที่ผมกล่าวไป
1.ปัญหาเรื่องdpfอุดตันคงจะลดน้อยอย่างมากใช่มั้ยครับ
2. น้ำมันผมคงเติมดีเซลยูโร5 แต่สงสัยนิดหน่อยครับ
  2.1 ปั้มไหนที่มีบ้าง ชื่อรุ่นอะไรบ้าง
  2.2 ptt hyforce premium diesel กับ ultra force premium diesel นี่ตัวเดียวกันปะครับ ถ้าไม่ใช่ ทั้งสองตัวผ่านยูโร5ปะครับ ไฮฟอสขายที่ชลบุรี อัลตร้าฟอส ขายที่กทม

ผมเพิ่งเริ่มศึกษา หากผิดพลาดอะไรรบกวนเเนะนำทีครับ
มีปัญหาเรื่องรถส่วนไหนที่ผมมองข้ามไปอีกไหมครับ
รบกวนเเนะนำทีครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: SRY ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 14:24:04
ถ้าไม่มีตัวใหม่ที่ระบุว่า แก้ปัญหาได้แล้วแน่นอน 100% แถมประกันเครื่องยนต์เพิ่ม ผมคงยังไม่เล่นเครื่องดีเซล
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 14:49:10
ผมว่าใช้งานแบบนี้มั่นใจในการเลือกเครื่องดีเซลครับ   เพราะวิ่งทางยาวแถมซัดด้วยความเร็ว     ไม่น่ามีปัญหา
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 15:13:28
ผมว่าใช้งานแบบนี้มั่นใจในการเลือกเครื่องดีเซลครับ   เพราะวิ่งทางยาวแถมซัดด้วยความเร็ว     ไม่น่ามีปัญหา

+1
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: jbrc ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 15:17:38
ดีเซลของ mazda เขาออกแบบระบบมาอย่างนี้อยู่แล้ว วิ่งทางยาวๆ แบบชัดๆ ก็มีระบบเผาเขม่าทำงานเป็นช่วงๆ  แต่หากใช้งานไปหลายหมื่น กม.แล้วเกิดการอุดตัน เผาเขม่าแล้ว เขม่าก็ยังเกาะแบบนี้ทาง mazda เขารับประกันเคลมให้ ซื้อประกันเพิ่มอีก 2 ปี ขับใช้งานยาวๆไปได้เลยครับ เกิน 5 ปีขายเปลี่ยนรถใหม่ ราคา หล่นไป 2-300,000 km. ถือว่าคุ้มค่ากับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ และเกียร์ ระบบความปลอดภัยต่างๆที่จัดมาให้ครับ ขาดแต่ถุงลมรอบคัน ซึ่งถ้าวิ่งใช้งานคนเดียวเป็นหลัก แค่ ถุงลมคู่หน้า 2 ใบก็เพียงพอแล้วครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 15:52:10
วิ่งไกลแบบนี้ จัดดีเซลเลยครับ ไม่มีเขม่าตกค้างแน่นอน
เพราะที่เจอปัญหาเพราะขับในเมืองซะส่วนใหญ่ เขม่าตกค้างเยอะ ระบบขจัดไม่ทัน

ขนาดผมขับรถเบนซิน เวลาไปทำงานสนามบินสุวรรณภูมิยังแอบกดไล่เขม่าเลยครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 16:30:00
ผมเรียกว่าข้อบกพร่องทางการออกแบบ

มันมีด้วยหรอครับ รถที่ออกแบบมาให้ขับแต่นอกเมือง แถมขนาดเล็ก sub compact ลงไป?

ช่วงล่างก็โคตระกระโดดนะครับ เก็บทุกหลุม ทุกเม็ด คนนั่งก็กระมิดกระเมี้ยนบนเบาะที่เกือบจะนิ่ม

ไปกลับราชบุรี เติมน้ำมันแพงกว่า march อีก

หารถขับทางไกลๆ ใช้รถที่มันปัญหาน้อยๆ มีคนใช้เยอะๆ เรารู้จักมันครับ

ถ้าแน่นอนว่าชอบ ว่าใช่ ว่ารับได้ จัดไปเลย อย่าไปห่วงเรื่องความคิดผมหรือใคร
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: bbbasty ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 16:47:47
ส่วนตัวใช้อยู่ครับเป็น model 2017 แนะนำแบบนี้ครับ
1. เติมน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม (ได้ทุกปั้ม ไม่จำกัดแค่ PTT หรือ บางจาก) อย่าขี้เหนียวครับตัวรถมันประหยัดน้ำมันสุดๆแล้ว เติมแพงขึ้นนิดหน่อยอย่าซีเรียสครับ
2. เวลาระบบมัน re-gen DPF คุณต้องให้ระบบมันทำงานเสร็จสมบูรณ์ก่อนแล้วจึงค่อยดับเครื่อง (ซึ่งข้อนี้ผมเชื่อว่า ลูกค้าที่ใช้รถส่วนใหญ่ของ mazda ไม่ทราบ และทาง mazda เองก็ขาดการสื่อสารที่ดีกับลูกค้า)

ไม่จำเป็นต้องอัด 140-150+ ตลอดหรอกครับ ในคู่มือเขียนไว้ชัดเจนว่า ให้ขับรถที่ความเร็วมากกว่า 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกว่าระบบจะ regen เสร็จ ซึ่งโดยทั่วไปมันจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที condition ข้อนี้ถ้าคุณทำได้ คุณก็ใช้ดีเซลได้ครับ

ปล. ผมใช้มาประมาณ 3 เดือน แต่ศึกษามานานพอสมควร คุณเชื่อไหมว่า ผมเคยเจอจังหวะที่ระบบมัน re-gen ขณะกำลังจะเข้าบ้าน ผมต้องขับวนรอบหมู่บ้านให้ระบบมัน re-gen เสร็จ จึงค่อยถอยรถเข้าบ้าน ถ้าคุณทำได้ คุณจะได้รถที่ขับสนุก ประหยัด และสมรรถนะยอดเยี่ยมคันนึง

ปล 2. บางคนอาจบอกว่า ทำไม mazda ถึงจุกจิก ทำไมดีเซลยุโรปไม่เป็น ผมยืนยันว่าเป็นครับ MB Vito ที่บ้าน DPF ตันเหมือนกัน ด้วย condition ที่ใช้รถในกรุงเทพตลอด เพื่อนผม Volvo V40 D4 condition เดียวกัน DPF ก็ตันเหมือนกันครับ

ดังนั้นอยากจะแนะนำว่า ควรศึกษาลักษณะการใช้งานรถในชีวิตประจำวันของคุณก่อนครับว่าเหมาะกับ M2 ดีเซลไหม
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 17:35:56
ลองคำนวนค่าน้ำมันดีๆนะครับ

เอาอัตราสิ้นเปลืองที่ทดสอบจากwebนี้ได้เลยครับ ส่วนต่างราคาน้ำมันผมว่า เบนซิลน่าจะวิ่งต่อโลถูกกว่าถ้าต้องใช้พรีเมื่ยมดีเซลซึ่งแพงมากๆ :-X
ไหนจะส่วนต่างราคารถเป็นแสน :-X
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 17:40:40
ผมว่าต่อให้ระบบกำจัดทำงานทุกครั้ง ผมว่ายังไงก็ต้องไม่ 100 % แต่ถ้าใช้ไม่นาน แล้วขายทิ้งก็น่าสนใจครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: bobsan ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 18:45:27
ผมเรียกว่าข้อบกพร่องทางการออกแบบ

มันมีด้วยหรอครับ รถที่ออกแบบมาให้ขับแต่นอกเมือง แถมขนาดเล็ก sub compact ลงไป?

ช่วงล่างก็โคตระกระโดดนะครับ เก็บทุกหลุม ทุกเม็ด คนนั่งก็กระมิดกระเมี้ยนบนเบาะที่เกือบจะนิ่ม

ไปกลับราชบุรี เติมน้ำมันแพงกว่า march อีก

หารถขับทางไกลๆ ใช้รถที่มันปัญหาน้อยๆ มีคนใช้เยอะๆ เรารู้จักมันครับ

ถ้าแน่นอนว่าชอบ ว่าใช่ ว่ารับได้ จัดไปเลย อย่าไปห่วงเรื่องความคิดผมหรือใคร

ตามนี้เลยครับ

ตอนนี้สาวกเริ่มเอาไปตัด dpf อุด egr กันแล้ว
แถมบอกว่าวิ่งดีประหยัดกว่าเก่าอีก
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: CHANOM ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 22:24:01
ส่วนตัวใช้ตัวปี 2016 อยู่นะคะ ตอนนี้ก็ อุด+จูนปิด egr ไปเรียบร้อย เหลือถอด dpf ทิ้ง (รอรถอายุครบ 3 ปีค่ะ)

ถ้าให้ย้อนเวลากลับไป เราคงไม่ซื้อรถคันนี้ และไปซื้อ City ตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ (คันนี้คุณพ่อเลือกให้) รถแรงจริง ประหยัดพอใช้ ภายในสวย แต่นั่งไม่ค่อยสบาย

เราคิดว่ามันไม่แฟร์เลยค่ะ ที่ผู้บริโภคจะต้องมานั่งดัดแปลงรถ หรือ ปรับเปลี่ยนไลฟสไตล์ตัวเอง เพียงเพราะการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผิดพลาดของผู้ผลิต  :'(

ปล. เราอาจจะชินกับ Diesel รุ่นเก่า แต่ Benz สองคันที่บ้านยังไม่มีปัญหาเหมือนของตัวนี้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: PREM ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 01:37:24
ดีเซลยุคใหม่มลพิษต่ำ ต้องใช้ DPF มักมีปัญหาเรื่อง regen กัน
เมืองนอกก็มี ไม่ใช่แค่มาสด้า รถยุโรปก็เป็น ลองหาอ่าน forum เมืองนอกดู
เมื่อก่อนไม่มีปัญหานี้ เพราะสเป็คประเทศที่ไม่เข้มงวดมลพิษ ผู้ผลิตก็จะตัด DPF กันออก

XC60 D4 ที่บ้าน ปกติป้าผมขับไปห้างอย่างเดียว มีโอกาสผมก็ต้องหาเรื่องพาออกวิ่งยาวๆ เหมือนกัน
แต่ถ้าเงื่อนไขการขับแบบจขกท.ผมเอาดีเซลแน่นอน สมรรถนะเหนือกว่าเบนซินเยอะ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 02:02:32
เวลา dpf regen ก็ควรจะขับช้าๆหน่อยครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: Lockjung ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 09:13:30
ส่วนตัวใช้อยู่ครับเป็น model 2017 แนะนำแบบนี้ครับ
1. เติมน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม (ได้ทุกปั้ม ไม่จำกัดแค่ PTT หรือ บางจาก) อย่าขี้เหนียวครับตัวรถมันประหยัดน้ำมันสุดๆแล้ว เติมแพงขึ้นนิดหน่อยอย่าซีเรียสครับ
2. เวลาระบบมัน re-gen DPF คุณต้องให้ระบบมันทำงานเสร็จสมบูรณ์ก่อนแล้วจึงค่อยดับเครื่อง (ซึ่งข้อนี้ผมเชื่อว่า ลูกค้าที่ใช้รถส่วนใหญ่ของ mazda ไม่ทราบ และทาง mazda เองก็ขาดการสื่อสารที่ดีกับลูกค้า)

ไม่จำเป็นต้องอัด 140-150+ ตลอดหรอกครับ ในคู่มือเขียนไว้ชัดเจนว่า ให้ขับรถที่ความเร็วมากกว่า 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกว่าระบบจะ regen เสร็จ ซึ่งโดยทั่วไปมันจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที condition ข้อนี้ถ้าคุณทำได้ คุณก็ใช้ดีเซลได้ครับ

ปล. ผมใช้มาประมาณ 3 เดือน แต่ศึกษามานานพอสมควร คุณเชื่อไหมว่า ผมเคยเจอจังหวะที่ระบบมัน re-gen ขณะกำลังจะเข้าบ้าน ผมต้องขับวนรอบหมู่บ้านให้ระบบมัน re-gen เสร็จ จึงค่อยถอยรถเข้าบ้าน ถ้าคุณทำได้ คุณจะได้รถที่ขับสนุก ประหยัด และสมรรถนะยอดเยี่ยมคันนึง

ปล 2. บางคนอาจบอกว่า ทำไม mazda ถึงจุกจิก ทำไมดีเซลยุโรปไม่เป็น ผมยืนยันว่าเป็นครับ MB Vito ที่บ้าน DPF ตันเหมือนกัน ด้วย condition ที่ใช้รถในกรุงเทพตลอด เพื่อนผม Volvo V40 D4 condition เดียวกัน DPF ก็ตันเหมือนกันครับ

ดังนั้นอยากจะแนะนำว่า ควรศึกษาลักษณะการใช้งานรถในชีวิตประจำวันของคุณก่อนครับว่าเหมาะกับ M2 ดีเซลไหม

สอบถามหน่อยครับ
ระหว่างที่ re-gen อยู่เปิดรถจอดติดไฟแดงนานๆละครับ ระบบจะขจัดเขม่าต่อเนื่องอะไรยังไงอะครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: bbbasty ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 10:08:51
ส่วนตัวใช้อยู่ครับเป็น model 2017 แนะนำแบบนี้ครับ
1. เติมน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม (ได้ทุกปั้ม ไม่จำกัดแค่ PTT หรือ บางจาก) อย่าขี้เหนียวครับตัวรถมันประหยัดน้ำมันสุดๆแล้ว เติมแพงขึ้นนิดหน่อยอย่าซีเรียสครับ
2. เวลาระบบมัน re-gen DPF คุณต้องให้ระบบมันทำงานเสร็จสมบูรณ์ก่อนแล้วจึงค่อยดับเครื่อง (ซึ่งข้อนี้ผมเชื่อว่า ลูกค้าที่ใช้รถส่วนใหญ่ของ mazda ไม่ทราบ และทาง mazda เองก็ขาดการสื่อสารที่ดีกับลูกค้า)

ไม่จำเป็นต้องอัด 140-150+ ตลอดหรอกครับ ในคู่มือเขียนไว้ชัดเจนว่า ให้ขับรถที่ความเร็วมากกว่า 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกว่าระบบจะ regen เสร็จ ซึ่งโดยทั่วไปมันจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที condition ข้อนี้ถ้าคุณทำได้ คุณก็ใช้ดีเซลได้ครับ

ปล. ผมใช้มาประมาณ 3 เดือน แต่ศึกษามานานพอสมควร คุณเชื่อไหมว่า ผมเคยเจอจังหวะที่ระบบมัน re-gen ขณะกำลังจะเข้าบ้าน ผมต้องขับวนรอบหมู่บ้านให้ระบบมัน re-gen เสร็จ จึงค่อยถอยรถเข้าบ้าน ถ้าคุณทำได้ คุณจะได้รถที่ขับสนุก ประหยัด และสมรรถนะยอดเยี่ยมคันนึง

ปล 2. บางคนอาจบอกว่า ทำไม mazda ถึงจุกจิก ทำไมดีเซลยุโรปไม่เป็น ผมยืนยันว่าเป็นครับ MB Vito ที่บ้าน DPF ตันเหมือนกัน ด้วย condition ที่ใช้รถในกรุงเทพตลอด เพื่อนผม Volvo V40 D4 condition เดียวกัน DPF ก็ตันเหมือนกันครับ

ดังนั้นอยากจะแนะนำว่า ควรศึกษาลักษณะการใช้งานรถในชีวิตประจำวันของคุณก่อนครับว่าเหมาะกับ M2 ดีเซลไหม

สอบถามหน่อยครับ
ระหว่างที่ re-gen อยู่เปิดรถจอดติดไฟแดงนานๆละครับ ระบบจะขจัดเขม่าต่อเนื่องอะไรยังไงอะครับ

รถที่ใช้ในสภาวะติดไฟแดงนานๆ แบบเคลื่อนตัวได้เล็กน้อยสลับหยุดนิ่งอย่างในกรุงเทพ การ regen โดยระบบจะไม่เกิดขึ้นครับ เพราะความร้อนสะสมในระบบไม่เพียงพอ การ regen จะเกิดขึ้นต้องมีปัจจัยเรื่องอุณหภูมิในระบบเข้ามาเกี่ยวข้อง  ดังนั้นกรณีของรถที่ใช้ใน condition การจราจรติดขัดโดยตลอด กระบวนการ Regeneration โดยระบบ จะไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ครับ ถามว่าแล้วนานๆเข้าจะเกิดอะไรขึ้น เขม่ามันก็จะสะสมเรื่อยๆ จนเมื่อมันตัน ไฟ DPF ที่หน้าจอมันก็จะโชว์ครับ ทีนี้คุณก็ต้องวิ่งเข้าศูนย์ให้ศูนย์เป็นคน clean ให้

แต่ถ้าสมมติขณะกำลังวิ่งมาทางโล่งๆ ระบบเกิดการ regen แล้วดันไปติดไฟแดงนานๆ กรณีนี้การ regen ก็จะไม่สมบูรณ์ระบบมันก็จะหยุดการทำงานไปเอง เมื่อ condition ในระบบมันได้ มันก็จะทำการ regen ใหม่เองครับ

ดังนั้นถ้าบอกว่าใน 1 สัปดาห์ คุณใช้รถในสภาพการจราจรของเมืองหลวงตลอด ผมจะไม่แนะนำ mazda 2 ดีเซล และดีเซลญี่ปุ่นและยุโรปทุกรุ่นที่มีระบบ DPF ครับ

ยืนยันอีกครั้งว่า รถที่มีระบบ DPF มีปัญหาแบบนี้ทุกคัน ถ้าลองไปอ่านคำแนะนำเรื่องการซื้อรถในเมืองนอก ส่วนใหญ่เขาจะระบุชัดเลยว่า ถ้าใช้ในสภาวะการจราจรสาหัส ไม่แนะนำดีเซล (ต้องเข้าใจว่ารถดีเซลยุโรปใช้ DPF ทุกรุ่นแล้ว) แต่กรณีของเมืองไทยคนมักจะถามว่า ทำไมรถยุโรปไม่เป็น ยืนยันว่าเป็นครับ แต่เทียบจำนวนรถที่ขายออกไปสิครับระหว่าง mazda 2 ดีเซล กับรถยุโรป ต้องบอกว่า mazda 2 ดีเซล เป็นรถบ้านรุ่นแรกๆที่มีระบบนี้ เคสมันก็เยอะเป็นธรรมดา ซึ่งกรณีนี้ผมมองว่า mazda เองก็ผิดครับ ที่ขาดการสื่อสารกับลูกค้าก่อนที่ลูกค้าจะซื้อรถ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 10:32:07
ดีเซลของ mazda เขาออกแบบระบบมาอย่างนี้อยู่แล้ว วิ่งทางยาวๆ แบบชัดๆ ก็มีระบบเผาเขม่าทำงานเป็นช่วงๆ  แต่หากใช้งานไปหลายหมื่น กม.แล้วเกิดการอุดตัน เผาเขม่าแล้ว เขม่าก็ยังเกาะแบบนี้ทาง mazda เขารับประกันเคลมให้ ซื้อประกันเพิ่มอีก 2 ปี ขับใช้งานยาวๆไปได้เลยครับ เกิน 5 ปีขายเปลี่ยนรถใหม่ ราคา หล่นไป 2-300,000 km. ถือว่าคุ้มค่ากับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ และเกียร์ ระบบความปลอดภัยต่างๆที่จัดมาให้ครับ ขาดแต่ถุงลมรอบคัน ซึ่งถ้าวิ่งใช้งานคนเดียวเป็นหลัก แค่ ถุงลมคู่หน้า 2 ใบก็เพียงพอแล้วครับ

จริงเหรอครับ ว่าเขาออกแบบมาให้วิ่งแบบไกลๆ ซัดๆ วิ่งไกล้ๆ ความเร็วต่่ำๆ คลานๆ แล้วจะเกิดปัญหา ตามที่กล่าวมาจริง ทำไมผมไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องนี้เลย มีแต่เห็นพูดๆ กันเอง

ส่วนตัวใช้อยู่ครับเป็น model 2017 แนะนำแบบนี้ครับ
1. เติมน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม (ได้ทุกปั้ม ไม่จำกัดแค่ PTT หรือ บางจาก) อย่าขี้เหนียวครับตัวรถมันประหยัดน้ำมันสุดๆแล้ว เติมแพงขึ้นนิดหน่อยอย่าซีเรียสครับ
2. เวลาระบบมัน re-gen DPF คุณต้องให้ระบบมันทำงานเสร็จสมบูรณ์ก่อนแล้วจึงค่อยดับเครื่อง (ซึ่งข้อนี้ผมเชื่อว่า ลูกค้าที่ใช้รถส่วนใหญ่ของ mazda ไม่ทราบ และทาง mazda เองก็ขาดการสื่อสารที่ดีกับลูกค้า)

ไม่จำเป็นต้องอัด 140-150+ ตลอดหรอกครับ ในคู่มือเขียนไว้ชัดเจนว่า ให้ขับรถที่ความเร็วมากกว่า 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกว่าระบบจะ regen เสร็จ ซึ่งโดยทั่วไปมันจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที condition ข้อนี้ถ้าคุณทำได้ คุณก็ใช้ดีเซลได้ครับ

ปล. ผมใช้มาประมาณ 3 เดือน แต่ศึกษามานานพอสมควร คุณเชื่อไหมว่า ผมเคยเจอจังหวะที่ระบบมัน re-gen ขณะกำลังจะเข้าบ้าน ผมต้องขับวนรอบหมู่บ้านให้ระบบมัน re-gen เสร็จ จึงค่อยถอยรถเข้าบ้าน ถ้าคุณทำได้ คุณจะได้รถที่ขับสนุก ประหยัด และสมรรถนะยอดเยี่ยมคันนึง

ปล 2. บางคนอาจบอกว่า ทำไม mazda ถึงจุกจิก ทำไมดีเซลยุโรปไม่เป็น ผมยืนยันว่าเป็นครับ MB Vito ที่บ้าน DPF ตันเหมือนกัน ด้วย condition ที่ใช้รถในกรุงเทพตลอด เพื่อนผม Volvo V40 D4 condition เดียวกัน DPF ก็ตันเหมือนกันครับ

ดังนั้นอยากจะแนะนำว่า ควรศึกษาลักษณะการใช้งานรถในชีวิตประจำวันของคุณก่อนครับว่าเหมาะกับ M2 ดีเซลไหม

เจอบ่อยไหมครับ ตอนจะ regen ตอนเข้าบ้านเนี่ยะ ฟังจากประสบการณ์แล้ว ผมก็่มันเกินไปหน่อยนะ ถ้าบ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ แต่ก่อนว่ารถ turbo ก่อนดับเครื่องต้องรอ cooldown ยังหงุดหงิดเลย(เพราะปัจจุบันไม่ต้องแล้ว) แล้วต้องมาขับรอบหมู่บ้านอีก เหนื่อยแทนครับ แต่เห็นเคยได้ยืนใน HLM บอกต้องขับด้วยความเร็ว 100 กว่าๆ เลยไม่ใช่เหรอครับ

ผมเรียกว่าข้อบกพร่องทางการออกแบบ

มันมีด้วยหรอครับ รถที่ออกแบบมาให้ขับแต่นอกเมือง แถมขนาดเล็ก sub compact ลงไป?

ช่วงล่างก็โคตระกระโดดนะครับ เก็บทุกหลุม ทุกเม็ด คนนั่งก็กระมิดกระเมี้ยนบนเบาะที่เกือบจะนิ่ม

ไปกลับราชบุรี เติมน้ำมันแพงกว่า march อีก

หารถขับทางไกลๆ ใช้รถที่มันปัญหาน้อยๆ มีคนใช้เยอะๆ เรารู้จักมันครับ

ถ้าแน่นอนว่าชอบ ว่าใช่ ว่ารับได้ จัดไปเลย อย่าไปห่วงเรื่องความคิดผมหรือใคร

เพิ่งเข้าใจวันนี้เหมือนกันว่า สาวก หรือ ติีง เขาเป็นกันขนาดนี้ ปกติเข้าใจว่าแค่ชอบ แค่ชม แค่อวย ไม่คิดว่าจะถึงขั้นมองข้อบกพร่องหรือปัญหา ว่าเป็นการตั้งใจทำ หรือ เขาออกแบบมา มีที่ไหนรถที่ออกแบบมาให้วิ่งได้เฉพาะทางไกลๆ แต่ไม่ให้ไกล้ๆ คลานๆ หรือในเมือง ไม่ควรทำ แล้วบอกว่าใช้รถผิดจากออกแบบ แล้ว mazda 2 มันเป็น city car ที่ดูตามขนาดและ segment มันเป็นรถที่น่าจเน้นใช้งานในเมืองไม่ใช่เหรอครับ มันขัดแย้งกับสาวกหรือติ่งพยายามอธิบาย
 ขนาดรถมีปัญหา เกิดปัญหาจากการใช้งานแบบปกติๆ กลายเป็นว่า ผู้ใช้งานใช้รถผิดจากที่เขาตั้งใจหรือออกแบบมาซะอีก

สำหรับ จขกท. ถ้าชอบก็ซื้อครับ อย่าไปสนใจ เงินเราเอง happy ก็เป็นคุณ หรือ ถ้าจะเจ็บก็คุณเจ็บเอง คนเชียร์หรือติ่งไม่ได้เจ็บกับคุณด้วย แต่เห็นด้วยกับบางท่านคือ มองเบนซินไหม เหมือนจะต่างกันไม่เยอะเรื่องความประหยัดต่อลิตร ต่อบาท ต่อกิโลเมตร น่าจะสบายใจกว่าด้วย  แต่ถ้าดูซ้าย ดูขวา บวก ลบ คูณ หาร แล้ว ถ้ามันเสี่ยงหรือไม่แน่ใน ไม่มั่นใจ แล้วไม่พร้อมจะรับมือกรณีที่เกิดปัญหาตามที่เป็นอยู่(ไม่ใช่ทุกคันที่เป็น) ก็อาจจะต้องไปเลือกตัวเลือกอื่น
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: arnuparbl ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 11:05:27
ผมเรียกว่าข้อบกพร่องทางการออกแบบ

มันมีด้วยหรอครับ รถที่ออกแบบมาให้ขับแต่นอกเมือง แถมขนาดเล็ก sub compact ลงไป?

ช่วงล่างก็โคตระกระโดดนะครับ เก็บทุกหลุม ทุกเม็ด คนนั่งก็กระมิดกระเมี้ยนบนเบาะที่เกือบจะนิ่ม

ไปกลับราชบุรี เติมน้ำมันแพงกว่า march อีก

หารถขับทางไกลๆ ใช้รถที่มันปัญหาน้อยๆ มีคนใช้เยอะๆ เรารู้จักมันครับ

ถ้าแน่นอนว่าชอบ ว่าใช่ ว่ารับได้ จัดไปเลย อย่าไปห่วงเรื่องความคิดผมหรือใคร

ตามนี้ครับ รถมีปัญหาในการออกแบบครับ เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะครับ ทำไมต้องปรับไลฟ์สไตล์ตามรถล่ะครับ เกิดตอนซื้อมาแรกๆขับไกลๆอย่างเดียว
ปีที่ 2-3 เปลี่ยนงาน เปลี่ยนรูปแบบชีวิต กลับมาขับในกรุงเทพฯ รถติดๆ แล้วรถก็เสียงี้เหรอครับ??? :(
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: joufo ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 11:46:50
ผมก็สงสัยนะครับว่า ถ้ามีปัญหาการออกแบบจริง ทำไมมาสด้าถึงยังขายอยู่ และไม่เรียกรถเก่าคืน
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: Amnaj ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 12:30:15
รถขับดี แต่ต้องคอยกังวลใจตลอด ไว้ใจไม่ค่อยได้ หรือต้องดัดแปลงรถเพื่อแก้ปัญหา ข้อแม้มีเยอะแยะในการใช้งาน ผมไม่เรียกว่าเป็นรถที่ดี
ชั่งน้ำหนักเอาครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: bahamu ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 12:39:43
ptt hyforce premium diesel กับ ultra force premium diesel
ตัวเดียวกัน แต่อัลตร้าเปลี่ยนหัวเชื้อสูตรใหม่ ลดฟองอากาศในถังทำให้ได้เนื้อน้ำมันเต็มๆ
จากหัวจ่ายและเกิดฟองอากาศน้อยในท่อน้ำมัน รอง ปั้ม หัวฉีดด้วย

ดีเซลลูกไฟกับใบไม้ ตัวแพงเท่านั้นที่เป็นยูโร5
ยี่ห้ออื่นยูโร4 ค่ากำมะถันสูงกว่าเยอะ ทำให้ระบบอุดตันเร็วกว่ามาก

ทางแก้แค่เติมหัวเชื้อน้ำมันดีเซล คือเพิ่มสารชะล้างเพิ่มไปที่น้ำมันดีเซลให้เข้มข้นขึ้น
เมื่อระบบบำบัดทำงาน ก็ช่วยให้ละลายเขม่าเร็วขึ้น เครื่องก็ไม่สะดุด อืด หาได้ตามปั้มหรือศูนย์บริการ
รถยุโรปจะมีช่องเติมฉี่หมู มีสารชะล้างเขม่าช่วยให้อุดตันช้าแต่บ้านเราต้องพึ่งน้ำมันดีเซลอย่างเดียว

สมัยที่มีแต่ยูโร4 รถยุโรปเติมหัวเชื้อประคองกันไป พอมียูโร5ก็ดีขึ้นแต่ยังไม่เข้มพอ
พอมีอีกยี่ห้อใส่สารมากขึ้น เลยเปลี่ยนสูตรใหม่ ปรับมาแล้วทำให้ไม่ต้องเติมหัวเชื้อบ่อยๆ

มาสด้า2ดีเซล ใช้มาเจอขึ้นไฟน้อยมาก เติมหัวเชื้อไม่กี่วันก็หายสะดุด วิ่งคลานไปมาในเมืองทุกวันนี่แหล่ะ
ลากยาวบนทางด่วน วันละไม่กี่โล ถ้าเลวร้ายขนาดนั้นยอดขายคงดิ่งไปแล้ว แต่นี้มีแต่คนอยากใช้ดีเซลเพิ่ม

อย่าให้น้ำมันเครื่องเกินกากบาทเด็ดขาด จะถึงเมื่อไหร่รีบถ่ายน้ำมันเครื่อง ช่วยได้เยอะมาก
น้ำมันเกียร์ น้ำยาหม้อน้ำถ่ายทุกสองปี อย่างก กรองโซล่าหมั่นตรวจทุกปี สามปีเปลี่ยนหรือเร็วกว่า

ช่วงล่างเปลี่ยนโช้คยี่ห้ออื่นแบบมาทั้งชุดพร้อมสปริงก็ดีขึ้นแล้ว ไม่กระโดดกระเดง แต่ต้องหลังประกันหมด3ปี
โช้คติดรถราคานี่ ขาดๆเกินๆทุกยี่ห้อ มักไม่ทน เพื่อลดต้นทุน ขนาดล้านกว่ายังเป็นเลย
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: @MIN ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2018, 14:04:28
ผมใช้ 2 ดีเซลอยุ่  ปี 2016 - ถึงตอนนี้ ใช้มา 29,000 กม. แล้ว ยังปกติอยู่ ไม่มีปัญหาครับ
ผมเติมน้ำมัน ตัวพรีเมี่ยม ของ ptt , shell , caltex  3 ปั้มนี้ สลับกันไป

ผมวิ่งไปหัวหิน เปิด cruise control  90 กม./ชม.  .. กินน้ำมัน  3.2 L/100 กม. หรือประมาณ 31 กม./ลิตร ครับ

เรื่องการ regen เผาเขม่า ของ DPF .. มันจะ regen ทุก 280-300 กม. ครับ
- วิ่งความเร็ว 90 กม./ชม. สัก 30 นาที ก็ทำงานแล้วครับ  ไม่ต้องไปเหยียบ 130 140 เลยครับ
- แต่ถ้าวิ่งเร็วๆ 120-130 ขึ้นไป สัก 15-20 นาที ก็ทำงานเช่นกันครับ
- กลับถึงบ้าน ดับเครื่อง , ถ้า regen อยู่ มันก็ regen ต่อจนเสร็จครับ

คราวนี้ ถ้าคนที่ใช้งานในเมือง รถติดแง๋กๆ เหมือนตอนเช้าที่ขึ้นสะพานสาธร
ให้แก้ปัญหาโดย หาเวลาว่าง ตอนกลางคืน รถน้อยๆ ถนนโล่งๆ สักอาทิตย์ล่ะครั้ง ..
ขับสัก 120-130 กม./ชม  สัก 15-20 นาที  มันก็ regen แล้วครับ

น้ำมัน ptt hyforce เป็นยูโร 5  แต่เป็นสูตรเก่าครับ , พอหมดแท๊งแล้ว เค้าก็เปลี่ยนเป็น ultra force สูตรใหม่ เพิ่งเริ่มขาย 1 ก.พ. นี้เองครับ
ผมเพิ่งเติม ultra force ไปถังเดียว , วิ่งดีพอๆ กับ shell เลย  แต่ยังสู้ caltex ไม่ได้ครับ , caltex คลิกดาวที พุ่งพรวดเลย 555
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: kumpol2511 ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2018, 12:31:18
ภรรยวใช้ mazda 2 ดีเซล ผมใช้ cx5 ดีเซล อยู่  50000 โล กับ 90000 โล  ยังไม่พบปัญหาแต่ตอนนี้คิดแนวทางการดูแลรถไว้แล้วสำหรับคนที่ใช้ตัว "ดีเซล" ให้เปลี่ยน น้ำมันเครื่อง เร็วกว่าที่ ศูนย์กำหนด ผมได้เอา น้ำมันเครื่องทั้งสองคันไปให้หน่วยงานที่ทำงานผมซึ่งมีหน้าที่วิเคราะห์น้ำมันหล่อทดสอบปรากฎว่า ความหนืด อยู่เกณฑ์ต่ำกว่ามาตราฐาน มีน้ำปนเกินเกณฑ์ หมายความว่า คุณสมบัติน้ำมันหล่อไม่มีความเหมาะสมในการบำรุงรักษาเครื่อง นั่นเลย  "อาจเป็นสาเหตุ" ทำให้เครื่องมีการชำรุดเร็วกว่าปกติ  ซึ่งการที่ น้ำมันหล่อ เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ผมขออนุญาตใช้คำว่า  "คาดว่า " นะครับ มาจากระบบ egr และ dpf ของตัวดีเซลที่มีการฉีด นมชพ.ไปช่วยการเผาเขม่าแล้วหลงเหลือ นมชพ.บางส่วนลงปนกับ นมล. ทำให้ นมล.ความหนืดลดลงและมีปริมาณเพิ่มขึั้นตามที่หลายๆคนเคยให้ความเห็น ต่อไปนี้ผมจะเอารถทั้ง2คันเข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อที่ 8,000 โล ดูก่อนแล้วจะเอา นมล.ไปตรวจสอบอีกครั้งถ้าค่าผ่านเกณฑ์ก็จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปในการเปลี่ยนถ่าย ถ้าค่ายังต่ำผมก็จะเปลี่ยน นมล.ให้เร็วขึ้นอีก มาสด้า2แฟนผมใกล้จะครบสามปีหมดประกันแล้วคงจะเปลียน นมล.นอกศูนย์เมื่อหมดประกัน จะได้ประหยัดค่าใข้จ่ายเพื่อเปลี่ยน นมล.ให้เร็ว (กะว่าซัก 5,000โลเปลี่ยนครั้ง) และอาจจะอุด egr และตัด dpf ออก  เสียดาย....cx5 ผมพึ่งต่อประกันศูนย์มาสด้า(mazda map)ไปอีก 2ปี เสียไปสี่หมื่น (ก่อนมาสด้าจะประกาศขยายรับประกันเป็น6ปี) คงต้องเข้าศูนย์และคงระบบ egr,dpf ไปก่อน แต่ก็จะเข้าเปลี่ยน นมล. ก่อนกำหนดตามที่บอกไว้
   ชอบ มาสด้า ทั้งสองคันนี้เพราะ "สมรรถนะในการขับขี่และดีไซน์" ล้วนๆแต่ไม่ใช่ ติ่ง และหวังว่า มาสด้าคงไม่น่า"มาฟ้องผม"เรื่อง ผล นมล.ที่ผมกล่าว เพราะผมยังเข้าศูนย์และไม่ได้ขายผลิตภัณฑ์ใดๆเกี่ยวกับ น้ำมันทุกชนิด
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: The Mechanics of Emotions ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2018, 14:25:17
เป็นผมจะเลี่ยงดีเซลครับ ดูในคลับมาเรื่อยๆ ครับ ปัญหาดีเซล
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: supercat ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2018, 14:57:44
ความแน่นอนคือความไม่แน่หนอนครับ
สมมติในอนาคตมีเหตูที่ทำให้ไม่ต้องขับทางไกลทุกสัปดาห์ วันๆชับรถแต่ทางใกล้ๆ นี่สยองเลยนะครับ
เพราะรถมันต้องใช้ระยะทางไกลๆขับเผาเขม่า
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่อง Mazda 2 เครื่องดีเซล
เริ่มหัวข้อโดย: CaVaRellO ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2018, 19:14:09
เพิ่งออกมาได้ไม่ครบอาทิตย์ครับ แต่ศึกษามาพอสมควร เรื่องปัญหาผมว่ามาสด้าไทยมันห่วยได้ใจ ขายทีหลังเค้าแท้ๆ ไม่ศึกษาปัญหา แทนที่จะเพิ่มคำแนะนำตอนซื้อให้แก่ลูกค้าและเพิ่มบริการดูแลเครื่องยนต์ตามระยะ
ดันนิ่งๆและแก้ไขกันเองเงียบๆ ดีที่รุ่นนี้ยังไม่หนักเหมือน CX5  สำหรับความประหยัดก็สมคำร่ำลือครับ เติมมาพันนึงตอนออกรถถังแรก ตอนนี้ 850โลละ คาดว่าจะได้ถึงเกือบ 1,000 กิโลสำหรับถังนี้