Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Ajnonny ที่ มิถุนายน 30, 2010, 19:27:02
-
มีใครสามารถยืนยันได้บ้างครับว่า ความเร็วไหนที่จะเป็นการประหยัดน้ำมันมากที่สุด
ในความคิดผม คิดว่า มันน่าจะขึ้นอยู่กับ รอบ นะครับ
แสดงว่า แต่ละคันก็ควรมีความเร็วที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด ต่างกัน
ช่วยแชร์ไอเดียกันหน่อยครับ
-
เห็นเค้ารณรงค์ที่ 90 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงหนิครับ
เห็นช่วงหนึ่งพี่บูรินกรูฟไรเดอร์เค้าออกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย
-
ผมว่ามันแล้วแต่รถแต่ละรุ่นนะ บางคันก็ 80 บางคัน 90 บางคัน...
ผมว่าจริงๆน่าจะรณรงค์เรื่องไม่ขับรถซิ่งปาดซ้ายแซงขวามากกว่า เพราะการขับขี่แบบนี้สิ้นเปลืองน้ำมันกว่าอีก แถมอันตรายต่อคนใช้ถนนด้วยกันด้วย
-
60 km/h ปิดแอร์มั้งครับ ประหยัดสุด
เห็นเวลาแข่งประหยัดน้ำมันเค้าใช้กันครับ สมัยก่อนมีออกบ่อยเลยครับ
ผมใช้แบบนี้ เวลาที่น้ำมันใกล้หมดแล้วหาปั้มเติมยังไม่ได้ครับ
-
ถ้ามาจาก review รู็สึกว่าที่คุณ J!MMY ขับที่ 110 เพราะเป็นความเร็วที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป และเหืมอนจะเป็นความเร็วเฉลี่ยที่ขนหลายคนใช้ เวลาเดินทางกันหน่ะครับ (คงไม่มีใครอยากให้ขับ 60 แล้วบอกว่าได้ 20km++ หรอกมั้ง)
ส่วนเอาจริงๆ ผมว่าที่รอบเครื่องมากกว่านะ
-
ผมว่าที่ความเร็วต่ำสุด ในเกียร์สูงสุด จะประหยัดสุด
เช่น Focus TDCi PS เกียร์6 ความเร็ว 75กม./ชม. รอบเครื่องจะเกือบๆ 1500 รอบ
Jeep Grand เกียร์4 ความเร็ว 80กม./ชม ที่จะเกือบๆ 1500 รอบ เช่นเดียวกัน
-
อย่างนี้ในรีวิวของพี่จิมมี่ เราก็มีโอกาสขับให้เปลืองน้ำมันน้อยกว่าค่าในตาราง :o
-
ที่ 110 กม./ชม. ไม่ใช่ความเร็วที่ประหยัดที่สุดในเกือบทุกรุ่น
แต่ที่ใช้ความเร็วเท่านี้ผมเดาว่า เป็นความเร็วที่ใช้เดินทางกันโดยปกตินอกเมือง
โดยไม่ขัดกับดุลพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะกฏหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 90 กม./ชม. สำหรับเส้นทางนอกเขตเทศบาล
ยกเว้น ทางด่วนกับมอเตอร์เวย์ที่อนุญาตให้ขับเร็วกว่านั้น
ผมว่าถ้าทดสอบที่ความเร็วช้ากว่านี้ คุณจิมมี่อาจจะหลับก่อนทดสอบเสร็จแน่เลย
ความเร็วที่ประหยัดที่สุดก็ดังที่หลายคำตอบด้านบนว่าไว้ครับ
-
อย่าลืมว่า ยิ่งเร็วแรงต้านอากาศยิ่งมาก
ไม่เชื่อ ลองเอามือออก ตอนรถวิ่ง 80
กับรถวิ่ง 100 ดูซิ
-
จากประสบการณ์ ที่เจอรถมาหลากรุ่น ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มันบอกกับผมว่า
อย่าไปดูเลย เข็มความเร็ว
ไปดูเข็มวัดรอบเถอะครับ
ถ้าเมื่อใดที่ คุณสามารถเดินทางไกลได้ โดยที่รอบเครื่องยนต์ ต่ำๆ
รถคันนั้น นั่นละครับ มีแนวโน้ม ประหยัดน้ำมัน กว่าคู่แข่ง
แม้จะไม่เสมอไป แต่ส่วนใหญ่ มักจะเป็นเช่นนั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูด้วยว่า กี่ ซีซี กระบอกสูบ เท่าไหร่
ไม่มีอะไรตายตัว สำหรับรถแต่ละรุ่นแต่ละคัน
ที่แน่ๆ ไม่ใช่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง แน่ๆครับ ที่จะประหยัดที่สุด
ตามที่พวกนักวิชาการ เป่าหูรัฐบาลก่อนๆมาแต่ไหนแต่ไรแบบนั้น
-
ผมว่าทีวัดรอบประมาณ 2000 รอบไม่เกินนี้น่าจะประหยัดที่สุดนะคับ
และก็เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันที่สุดแล้วคับ...
อย่าง Civic FD ถ้าขับ 105 Km/h รอบอยู่ที่ประมาณ 2000 รอบ
ทางไกลได้ประมาณ 15 Km/L นะคับผม
-
ผมดูที่รอบเอาครับ ไม่เกิน 2500รอบ ยังไงก็ประหยัด
-
ผมดูที่รอบเอาครับ ไม่เกิน 2500รอบ ยังไงก็ประหยัด
ถ้า สเปซวาก้อน รอบเท่านั้นน่าจะไม่ถึง 120 ใช่ไหมครับ
รถดีแต่มีแค่สี่เกียร์ วิ่งความเร็วคงที่ก็ยังซด :'(
-
เหตุที่ผมมาถามนี่เพราะว่า
ผมชอบทะเลาะกับ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ เพราะว่า ท่านไม่ชอบให้ขับรถเร็ว ผมก็เลยเถียงว่า ขับช้ามากๆ มันก็ไม่ประหยัดที่สุดนะครับ
เหมือนคนรุ่นๆท่านถูกปลูกฝังให้ขับที่ 80 เพราะถูกอ้างว่าเป็นความเร็วที่ประหยัดน้ำมันที่สุดและปลอดภัยที่สุดด้วย
ไอเรื่องปลอดภัยผมก็ไม่เถียงหรอกครับ ยิ่งขับช้าก็ยิ่งปลอดภัยมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่อยากหาข้อมูลเรื่องความประหยัดน้ำมัน เพื่อเอาไปอ้างได้ครับ
-
LS460L เครื่อง 4,600cc V8
0-100 ที่ 6.86 sec
80-120 ที่ 4.80 sec
ถ้าวิ่งที่ความเร็วคงที่ 110km/hr อัตรากินน้ำมันเฉลี่ย 11 .70 km/Lite!!
:อ้างอิงจากรีวิวพี่จิมมี่
กินพอๆ และอาจจะประหยัดกว่า Cr-v 2.0 รุ่นค้อนปอร์นซะอีก!! อ๊ากก!!
-
ผมดูที่รอบครับ ไม่เกิน2พันรอบถ้าจะเน้นขับประหยัด
-
น่าจะประหยัดที่สุดที่ รอบต่ำสุด ณ เกียร์สูงสุดนะ
ทีนี้มันจะเป็นความเร็วเท่าไหร่ มันก้อแล้วแต่รถ แล้วแต่เครื่องยนต์
อย่างมาสด้าเครื่อง V6 2500cc คนใช้แต่ละคนบอกว่าจะประหยัดสุดๆก้อแช่ที่ 130-140 แหละ
-
จากประสบการณ์ ที่เจอรถมาหลากรุ่น ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มันบอกกับผมว่า
อย่าไปดูเลย เข็มความเร็ว
ไปดูเข็มวัดรอบเถอะครับ
ถ้าเมื่อใดที่ คุณสามารถเดินทางไกลได้ โดยที่รอบเครื่องยนต์ ต่ำๆ
รถคันนั้น นั่นละครับ มีแนวโน้ม ประหยัดน้ำมัน กว่าคู่แข่ง
แม้จะไม่เสมอไป แต่ส่วนใหญ่ มักจะเป็นเช่นนั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูด้วยว่า กี่ ซีซี กระบอกสูบ เท่าไหร่
ไม่มีอะไรตายตัว สำหรับรถแต่ละรุ่นแต่ละคัน
ที่แน่ๆ ไม่ใช่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง แน่ๆครับ ที่จะประหยัดที่สุด
ตามที่พวกนักวิชาการ เป่าหูรัฐบาลก่อนๆมาแต่ไหนแต่ไรแบบนั้น
ไม่มีอะไรตายตัวจริง ๆ ครับ รถบางรุ่น สองคันรุ่นเดียวกัน วิ่งไปด้วยกันยังใช้น้ำมันไม่เท่ากันเลย เติมน้ำมันปั๊มเดียวกันแท้ ๆ
ผมเคยไปเที่ยวกับเพื่อนคนหนึ่ง ใช้รถรุ่นเดียวกัน ไปเชียงใหม่ ใช้น้ำมันต่างกัน เกือบ 30 ลิตร เลย ทั้ง ๆ ที่ขับไปด้วยกัน พลัดกันนำ พลัดกันตามแท้ ๆ จอดด้วยกันตลอด บรรทุกคนเท่ากัน รถอายุก็ห่างกันแค่ 3 เดือน
-
ต้องคำนวนเวลา ถึงที่หมายด้วยนะครับ
ว่าขับ 80 กับ 110 หรือ 120 ถึงที่หมายเร็วกว่ากี่นาที >< ไม่เก่งคำนวนปวดหัว
-
เห็นด้วยกะคุณจิมมี่ ที่เคยใช้ ดูที่วัดรอบ 140-150 ของแคมรี่ใฮบริดที่รอบต่ำๆ ประหยัดกว่า 90-100ที่วัดรอบสูงๆครับ
ยิ่งถนนโล่งทางไกลมีโอกาสที่จัดระเบียบรอบรถยนต์ได้นี่ 17โลลิตรขึ้นไปครับ(วัดจากรอบที่ใฮบริตคำนวนมาให้นะครับเต็มพรึดในเกจ์วัดความประหยัด)
รถติดมากๆ ได้แค่ 10-14โลลิตรครับ สังเกตุ เข็มวัดรอบขึ้นๆลงๆ
-
เห็นด้วยกะคุณจิมมี่ ที่เคยใช้ ดูที่วัดรอบ 140-150 ของแคมรี่ใฮบริดที่รอบต่ำๆ ประหยัดกว่า 90-100ที่วัดรอบสูงๆครับ
ยิ่งถนนโล่งทางไกลมีโอกาสที่จัดระเบียบรอบรถยนต์ได้นี่ 17โลลิตรขึ้นไปครับ(วัดจากรอบที่ใฮบริตคำนวนมาให้นะครับเต็มพรึดในเกจ์วัดความประหยัด)
รถติดมากๆ ได้แค่ 10-14โลลิตรครับ สังเกตุ เข็มวัดรอบขึ้นๆลงๆ
เอ่อ
พี่ครับ Camry Hybrid มีวัดรอบด้วยเหรอครับ?
หรือพี่ไปติด Auto Meter เพิ่มมาครับเนี่ย?
แหะๆๆ
เข็มที่ให้มาข้างๆ เข็มความเร็วนั่น ไม่ใช่เข็มวัดรอบนะครับ ดูดีๆ
-
มันมีเงื่อนไขหลักๆ มีอยู่ 2 ตัว
1. ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในแต่ละรอบความเร็ว
2. แรงต้านทานจากอากาศ ในแต่ละความเร็ว ซึ่งแปรผันยกกำลังสอง
จับมาพล็อตกราฟ หาเส้นตัดกัน
ปัญหาคือไม่มีผู้ผลิตรายไหนให้รายละเอียดมากขนาดนั้น
แต่ถ้ามีกราฟแรงบิด แรงม้ามาให้
ผมจะเลือกลองที่รอบที่แรงบิดกับแรงม้าตัดกันเป็นจุดแรก แล้วค่อยเพิ่มหรือลด บันทึกผลการทดลองน่าจะได้ข้อสรุปเร็วขึ้นครับ
-
ของผม Camry 2.4v ตัวปัจจุบัน ขับต่างจังหวัดไกลๆ วิ่งที่ 100-120 ใช้ Cruise Control รักษารอบอยู่ที่ประมาณ 2100 รอบ
ได้ 16 กิโลลิตรที่หน้าปัดครับ
ไว้จะลองที่ 90 กม/ชม ดูบ้าง ได้ผลยังไงจะมาแจ้งครับ
-
16km/l นี่ใช้ได้เลยนะครับ
อยากทราบว่าเติมน้ำมันอะไรหรอครับ
-
e20 ครับ ;D
-
เห็นด้วยกะคุณจิมมี่ ที่เคยใช้ ดูที่วัดรอบ 140-150 ของแคมรี่ใฮบริดที่รอบต่ำๆ ประหยัดกว่า 90-100ที่วัดรอบสูงๆครับ
ยิ่งถนนโล่งทางไกลมีโอกาสที่จัดระเบียบรอบรถยนต์ได้นี่ 17โลลิตรขึ้นไปครับ(วัดจากรอบที่ใฮบริตคำนวนมาให้นะครับเต็มพรึดในเกจ์วัดความประหยัด)
รถติดมากๆ ได้แค่ 10-14โลลิตรครับ สังเกตุ เข็มวัดรอบขึ้นๆลงๆ
เอ่อ
พี่ครับ Camry Hybrid มีวัดรอบด้วยเหรอครับ?
หรือพี่ไปติด Auto Meter เพิ่มมาครับเนี่ย?
แหะๆๆ
เข็มที่ให้มาข้างๆ เข็มความเร็วนั่น ไม่ใช่เข็มวัดรอบนะครับ ดูดีๆ
มันคือ....SEX METER ครับ จำได้
-
ถ้าให้ประหยัดสุดๆ ดิฉันเคยขับ80-90บนทางด่วนค่ะ
ถึงจะช้าแต่อันนี้ก้ประหยัด(สุดๆ)ได้ในระดับนึงน้ะค้ะ ;D
-
ผมว่าทีวัดรอบประมาณ 2000 รอบไม่เกินนี้น่าจะประหยัดที่สุดนะคับ
และก็เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันที่สุดแล้วคับ...
อย่าง Civic FD ถ้าขับ 105 Km/h รอบอยู่ที่ประมาณ 2000 รอบ
ทางไกลได้ประมาณ 15 Km/L นะคับผม
ผมใช้ Accord 2.4 G7
เห็นด้วยครับ ผมเปลี่ยนเกียร์สองที่ 2500 รอบ (เปลี่ยนตรง 2000 ไม่ไหวช้าเกิน)
หลังจากนั้นก็ไม่เกิน 2000 รอบ 1ถังวิ่งได้ 680 กม. ไฟเตือนน้ำมันขึ้นพอดี ความเร็วเฉลี่ย 100 กม./ชม
นึกว่าจะได้ซัก 700 กม.