Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto ที่ มีนาคม 07, 2018, 13:17:16
-
ผมเห็นเด็กที่โรงงานก็ซื้อ Mazda 2 หลายคันนะ กระบะ BT50 ยังพอมีบ้าง ราคาป้ายแดง + ส่วนลด ถือว่าคุ้มค่าในรถระดับเดียวกัน
แต่ผมมาติดใจตรงราคาอะไหล่กับค่าบริการนี่แพงเอาเรื่องเลย ผมถามเขาไม่กลัวเหรอ เด็กพวกนี้ส่วนมากใช้ Mazda เป็นรถคันแรกในชีวิต มักไม่กลัวบอกรถใหม่ค่าบริการไม่แพงมาก คือมันไม่แพงมากตอนรถใหม่ในประกัน แต่หมดประกันแล้ว และถ้าต้องมีซ่อมละ เด็กพวกนี้ไม่ได้คิดกันต่อ ต่างจากเราที่ใช้รถมานานเจอราคาอะไหล่มาสด้านี่ถึงกับร้องเลย อ่านในเวปต้องห้ามของที่นี่มาเมื่อวาน ราคาฝาหม้อน้ำของ Mazda 2 ราคาอันละ 900 กว่าบาท ขนาด Volvo ว่าอะไหล่แพง ยังแค่อันละ 600 บาท รถญี่ปุ่นค่ายอื่นไม่ต้องพูดถึงราคาอันนึงแค่ 200-300 บาท เท่านั้น แพงสุด Honda Crv อันละ 400 กว่าบาท
นอกจากนี้เห้นกระทู้นั้นเอารูปให้ดูเปลี่ยนน้ำมันเกียร์พร้อมไส้กรองเกียร์ของ MAZDA BT50 ตกประมาณ 7,xxx บาท คู่แฝดอย่าง Ford ยังแค่ 5,xxx บาท ถ้ารถญี่ปุ่นนี่ 3,xxx-4,xxx บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังส่องเข้าไปดูราคาอะไหล่ใน Mazda mx5 NA NB ลูกปืนล้อแพงสุดใน 3 โลกแล้วครับ ข้างล่ะ 16000 บาท ย้ำว่าคือข้างล่ะ ขนาดรถญี่ปุ่นยังแค่ 3000 - 4000 ก็แพงเต็มที่แล้ว รถยุโรปก็ไ่ม่ไ่ด้มีราคามากขนาดนั้น ผมเห็นราคายังตกใจว่าทำไมราคาอะไหล่ และค่าบริการ MAZDA มันถึงได้แพงอะไรมากมายกว่าชาวบ้านเขามากขนาดนี้ มันแพงแบบไร้เหตุผลจริง ๆ อยากรู้ว่า Mazda เซลประเทศไทยวางราคาอะไหล่กับค่าแรงในศูนย์บริการไว้ยังไง ไม่ได้เปรียบเทียบคู่แข่งเลยใช่ไหม หรือขายรถถูกแต่ไป + ชาร์จราคาอะไหล่กับค่าแรงเอาทีหลัง
อันนี้ขอพูดถึงเฉพาะราคาในศูนย์บริการเท่านั้นนะครับ จะได้เหมือนกันกับยี่ห้ออื่น ๆ ไม่เปรียบเทียบอู่นอกหรือร้านอะไหล่ข้างนอกที่หาได้ถูกกว่าอยู่แล้ว
ผมว่าลูกค้าที่ใช้ไปนาน ๆ ถึงตอนซ่อมน่าจะมีเงิบ...... กันบ้างล่ะครับ ผมที่จะเป็นลูกค้าใหม่ ยอมรับเลยว่าถ้าเป็นรถตลาดเอามาใช้งานแบบนี้ หารถพอใช้งานได้เหมือนกันดีกว่า ผมไม่กล้าซื้อ Mazda เหมือนกันคิดว่ามันแพงเกินความจำเป็น หารถตลาดที่อะไหล่ถูกกว่านี้ดีกว่า แม้จะขับไม่ดีเท่า ZOOM ZOOM แต่สบายกระเป๋ามากกว่าตอนซ่อม สบายใจกว่า
มีอีกเห็นคนที่บอกใช้ Mazda 3 ค่าซ่อมค่าบริการยังแพงกว่า Fortuner 4x4
-
ช่วงการรับประกัน 100,000กม./หรือ3ปีนี้ ค่าใช้จ่ายค่าแรงสูงกว่า ค่ายดังครับ
จำเป็นต้องเข้าศูนย์เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน
หลังหมดการรับประกันแล้ว อู่ทั่วไป กับ อะไหล่เทียบ(เกรดดีOEM) เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
หมายถึงรถตลาดนะครับ B C segment
-
อ่านในนี้เจอค่าแรงว่า 600 ต่อชม. ก็ว่าแพงแล้ว ไปเจอบางศูนย์ 800 ต่อชม. แพงมากจริงๆ
ส่วนตัวใช้เจ้าตลาด หมดประกันแล้วก็ยังเข้าศูนย์ตลอด ถ้าเจอราคาแบบมาสด้า คงต้องถอยตั้งหลักก่อน
-
ตกใจค่าลูกปืนล้อ ยกหูโทรหาร้านอะไหล่มาสด้าประจำ
ของแท้ 48XX เฉพาะตัวลูกปืน 16,Xxx อันนั้นยกดุมครับ
ผมเบิดอถไหล่เองมาซ่อมเอง bt50 กับ Triton ไม่มีชิ้นไหนแพงกว่ากันชัดเจนนะครับ แต่ต้องยอมรับเวลาเข้าศูนย์มันแพงกว่าจริงๆเพราะอะไหล่หลายชิ้นไม่ขายแยก
เคสมาสด้า3 BL
อย่างพัดลมไฟฟ้าเสีย เบิกศูนย์ มาครบชุดบังลม ใบพัดใหม่ รีเลย์ สายไฟใหม่ ปลั๊กใหม่ กิ๊บล็อค 10, XXX ทั้งที่มันเสียแค่รีเลย์ เบิกร้านอะไหล่ 700 งั้นลองย้อนกลับมาดู มาทั้งชุด 10,000 เทียบกับค่ายอื่นก็ไม่แพง แต่มันแพงตรงไม่ขายแยก ยังยืนยันว่าอะไหล่ไม่ได้แพงเว่อร์ ส่วนเรื่ิองค่าแรงศูนย์อันนั้นผมเห็นด้วยว่าแพงจริงกวาาค่ายอื่น 15-20%
-
อะไหล่มาสด้าแพงจริงครับ หลายๆชิ้นแพงกว่าฟอร์ดด้วยซ้ำ
แต่สำหรับผมถ้าอยากได้มาสด้าจริงๆ ผมก็ยังเลือกมาสด้าอยู่นะ
-
ตกใจค่าลูกปืนล้อ ยกหูโทรหาร้านอะไหล่มาสด้าประจำ
ของแท้ 48XX เฉพาะตัวลูกปืน 16,Xxx อันนั้นยกดุมครับ
ผมเบิดอถไหล่เองมาซ่อมเอง bt50 กับ Triton ไม่มีชิ้นไหนแพงกว่ากันชัดเจนนะครับ แต่ต้องยอมรับเวลาเข้าศูนย์มันแพงกว่าจริงๆเพราะอะไหล่หลายชิ้นไม่ขายแยก
เคสมาสด้า3 BL
อย่างพัดลมไฟฟ้าเสีย เบิกศูนย์ มาครบชุดบังลม ใบพัดใหม่ รีเลย์ สายไฟใหม่ ปลั๊กใหม่ กิ๊บล็อค 10, XXX ทั้งที่มันเสียแค่รีเลย์ เบิกร้านอะไหล่ 700 งั้นลองย้อนกลับมาดู มาทั้งชุด 10,000 เทียบกับค่ายอื่นก็ไม่แพง แต่มันแพงตรงไม่ขายแยก ยังยืนยันว่าอะไหล่ไม่ได้แพงเว่อร์ ส่วนเรื่ิองค่าแรงศูนย์อันนั้นผมเห็นด้วยว่าแพงจริงกวาาค่ายอื่น 15-20%
ขอยกเป็นเคสราคาอะไหล่ศูนย์ กับค่าแรงศูนย์บริการดีกว่าครับ เพราะถ้าเทียบอู่นอก กับราคาร้านอะไหล่นอก มันก็ใกล้กันนั่นละ เพราะอะไรจากผู้ผลิตเดียวกันส่งให้ Mazda กับค่ายอื่น พอพอกัน แต่พอตอนเอามาขายในศูนย์บริการ Mazda ทำไมตั้งราคาแพงกว่าชาวบ้านมากมายขนาดนี้ ตรงนี้ต่างหากละเป็นประเด็น อีกทั้งลูกค้าหลาย ๆคนเขาก็เข้าศูนย์เป็นหลัก ไม่มีเวลาหาอู่นอกที่คุ้นเคย หรือวิ่งไปเทียบอะไหล่จากร้านทั่วไป เลยขอเทียบศูนย์บริการด้วยกัน
แต่ว่าลูกปืนล้อยกดุมของ TOYOTA ยังแค่ 4,xxx เองนะครับ
-
มีผลครับถ้าซื้อมาใช้งานเป็นรถหลักนะ ผมไม่เอาแน่นอนแต่ถ้าเป็นรถสำรองคันที่2เป็นต้นไปโอเคอยู่เพราะใช้ไม่บ่อยอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าเห็นค่าแรงค่าอะไหล่เค้าแล้วสะดุ้งจริงๆไปอยู่กับยุโรปได้เลย
-
อะไหล่มาสด้าแพงจริงครับ หลายๆชิ้นแพงกว่าฟอร์ดด้วยซ้ำ
แต่สำหรับผมถ้าอยากได้มาสด้าจริงๆ ผมก็ยังเลือกมาสด้าอยู่นะ
แสดงว่าแฟน Mazda จริง แต่ผมคงเทใจ MX5 มากกว่าถึงจะยอมเลือก Mazda
แต่ถ้าเป็นรถตลาดเอาใช้งานทั่วไป ไม่ไหวเหมือนกันจะให้แฟนเปลี่ยนมาซื้อ Mazda 2 คงไม่เอาดีกว่ารู้สึกค่าซ่อมแพงเกินความจำเป็น
-
มีผลครับถ้าซื้อมาใช้งานเป็นรถหลักนะ ผมไม่เอาแน่นอนแต่ถ้าเป็นรถสำรองคันที่2เป็นต้นไปโอเคอยู่เพราะใช้ไม่บ่อยอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าเห็นค่าแรงค่าอะไหล่เค้าแล้วสะดุ้งจริงๆไปอยู่กับยุโรปได้เลย
นั่นสิครับ ดูราคาซ่อมแล้ว นี่มันฟิลลิ่งค่าซ่อมรถยุโรปชัดชัด ตอนนี้ฝ่ายเชียร์ Mazda ในเวปโน้นเงียบไปละเรื่องที่บอกค่าอะไหล่ ค่าซ่อมในศูนย์ แพง พอพอกันกับเจ้าตลาด
-
บางรายการที่ใช้ร่วมกับฟอร์ด ในสมัยก่อนนั้น ผมเบิกกระปุกพักน้ำยาหล่อเย็น Mazda 3 BK ศูนย์มาสด้าขาย 1xxx แต่เบิกฟอร์ดขาย 7xx ผมเลยสอบถามได้ความว่า อะไหล่ฟอร์ดเป็นคนผลิต แล้วมาสด้าไทยไปซื้อมาสต็อคเอง ราคาเลยสูงกว่าเบิกจากศูนย์ฟอร์ดโดยตรงครับ
แต่สมัยนี้ อะไหล่ไม่ค่อยแยกขาย ชุดลูกปืนล้อก็ขายยกดุม เลยพาลทำให้ดูราคาแพงกว่าชาวบ้านเขา ประสบการณ์ตรงซ่อม Mazda 3 กับ Civic สมัย FD ถ้าทำอาการเดียวกัน เบิกอะไหล่พาร์ทคล้ายๆกัน (ซ่อมศูนย์) ไม่ถูกไม่แพงต่างกันอย่างมีนัยยะครับ แถมอะไหล่บางอย่าง Mazda ทนกว่า Honda ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงล่าง
แต่ค่าแรงนี่แพงจริง แถมไม่เท่ากันในแต่ละศูนย์ ไม่รู้มาสด้าประเทศไทยไม่มีปัญญาคุมราคาตรงนี้หรือยังไง หมดประกันคนก็หนีไปอู่นอกหมดครับ
-
เที่ยบอะไหล่ เทียบขนาระดับเดียวกันไป
Eco car,B,C,D,pickup เพราะกำหนด สเปกต่างกัน
-
ผมว่าหลายคนที่ซื้อรถ(โดยเฉพาะรถคันแรก)แทบไม่ได้คิดถึงราคาอะหลั่ยหรือค่าแรงในการซ่อมหรอกครับ ด้วยความที่ถูกใจในตัวรถบวกกับความต้องการได้รถมาขับเร็วๆแล้ว จึงมักมองข้ามที่จะหาข้อมูลเรื่องพวกนี้(รวมถึงผมด้วย) เน้นราคาส่วนลดที่ได้ตอนนั้นมากกว่า ไม่รู้หรอกครับว่าอะหลั่ยมันแพงหรือถูก ถ้าไม่มีใครบอกให้ฟัง คนส่วนใหญ่ถึงได้ใช้toyota กันเพราะสาเหตุนี้และหลายๆอย่างที่มันง่ายๆในชีวิตยังไงมาสด้าก็คงขายได้อยู่ช่วงนี้เพราะตัวรถที่ดูดีกว่าใครในรุ่น แต่หลังหมดประกันแล้วก็ตัวใครตัวมันครับ ถ้าไม่ชนไม่พังบ่อยก็ดีไป
-
MX5 มันไม่ใช่รถตลาด อะไหล่เลยอาจจะแพงกว่าปกติหน่อยครับ
มาที่คำถามเรื่องราคาอะไหล่มีผลไหม ส่วนตัวกะใช้บริการศูนย์แค่อยู่ในระยะประกัน หลังจากนั้นเข้าอู่ประจำยาวๆ คำตอบก็คือ มีผลน้อยมากครับ ยกเว้นจะหาอะไหล่เทียบยาก หรือของแท้ ราคาเท่ารถยุโรป แบบนี้ไม่ไหว
แต่คนใกล้ตัว โดยเฉพาะน้องๆ รุ่นใหม่ๆ เห็นเวลาซื้อรถใหม่ ไม่ค่อยนำเรื่องราคาอะไหล่มาพิจารณาเท่าไหร่ครับ ซื้อเพราะรูปลักษณ์เป็นหลักเลย
-
มีผลมั๊ย มีผลแน่นอนครับ แต่จะมีกี่คนล่ะที่ลงมาเช็คราคาอะไหล่รถยนต์ก่อนซื้อรถ
คนที่มีข้อมูลพวกนี้ในมือ ก็ต้องเอามาชั่งน้ำหนักกันว่า คุ้มไหมที่จะออกมาสด้าครับ
ตอนผมซื้อรถ ก็กังวลเรื่องราคาอะไหล่เหมือนกัน แต่ช่วง 100,000 โลแรก เคลมได้ ผมก็เลยเฉยๆ หลังจากหมดวารันตี ก็เข้าอู่นอก ราคาอะไหล่นอกศูนย์ ถูกกว่าอะไหล่ในศูนย์เยอะครับ
เหตุที่อะไหล่ในศูนย์ราคาแพง เพราะขายยกชุดครับ ไม่มีแบ่งแยกขาย เช่นตัวล็อคที่เท้าแขนตรงคอนโซลหน้า สลักหัก ต้องเปลี่ยนยกชุด ซื้อเฉพาะตัวสลักไม่มีแยกขาย หรือตัวล็อคเบาะหลังก็เช่นกันครับ ราคาบ้าเลือดเลยล่ะ ส่วนตัวผมถ้าพวกนี้เสียหาย วิ่งหาอู่นอกสถานเดียว 5555
-
ไม่เคยใช้ MZ มาก่อน เพิ่งซื้อตอนต้นปี ก่อนซื้อก็อ่านมาพอสมควร ค่าอะไหล่ไม่มีผลครับ
- อะไหล่แพงว่าตลาดบางตัว ไม่ใช่ทั้งหมด
- ที่บ้านไม่ได้ใช้รถเยอะ
- ใน seg เดียวกัน ยี้ห้ออื่นไม่มีที่ถูกใจ
ชอบก็ซื้อครับ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องค่าแรง-ค่าอะไหล่ ขอซ่อมจบ ไม่ดอง ไม่มั่ว พอใจครับ
-
ใช้อยู่นะ มันก็แพงจริงละ ไม่เถียง เคยไปชนมา นั่งดูบิลก็โหดกว่ารถตลาดอยู่(ดีนะมีประกัน)
แต่บางอย่างยกมามันก็นะ เอาอะไหล่รถอย่าง MX5 na nb ของ rare มาเทียบกับของทั่วไป ... มันก็นึดนึงนะฮะ
..................
แต่ผมว่า ตัวรถมัน ok. นะ แพงหน่อยถือว่าซื้อคุณภาพละกัน(แต่มันก็น่าจะถูกกว่านี้นั่นละ)
ค่าบริการ พอไหว มันก็แพงละ แต่ก็พอรับไหว ค่าแรงศูนย์ที่ผมใช้ 650ต่อ ชม. แต่เค้าไม่ดึงเวลาทำนาน พอคูณออกมาก็ไม่โหดมาก(แต่ยังไงก็แพงกว่า honda ที่เคยใช้ในพิกัดเดียวกัน)
แต่ที่ไม่ ok. จนอาจจะไม่ไปต่อกับ mazda คือความชำนาญช่าง คิวการซ่อม(โดยเฉพาะงานอะไหล่ที่รอนาน) และการแก้ปัญหาในแต่ละเรื่องที่ผ่านมา มากกว่าครับ
-
มีผลแน่นอนครับ แค่ Toyota ผมยังรู้สึกว่าแพง ;D
-
ใช้ BT-50 pro 4x4 auto เพิ่งเข้าเช็ค 180,000 กม.เมื่อ สัปดาห์ที่แล้ว จ่ายไป 5,xxx ก็ไม่เห็นแพงไรนิครับ นมค.9 ลิตร มากกว่าใครเพื่อน แต่ประหยัดที่ 20,000 กม.เปลี่ยน ค่ายอื่น 10,000 กม.ต้องเปลี่ยน
เคยโดนท่อ เทอร์โบว์ 1,600 ไม่รู้ของค่ายอื่นราคาเป็นงัย
ใบปัดน้ำฝน คู่ละ 5xx เคยไปถามของ ฟอร์ด เพราะคิดว่าถูกกว่า โน่นเลย 6xx แต่อยากได้แบบเปลี่ยนเฉพาะยางอ่ะ ตัวโครงยังดีอยู่ ดันไม่แยกขายซะนี่ ชอบค่าย มิตซู ตรงที่มีเฉพาะยางปัดน้ำฝนแยกขาย สบายกระเป๋า
ดังนั้นเรื่องการ maintenance ไม่มีผลสำหรับผมเลย
ใช้ Vigo D max มาก่อนหน้านี้ จ่ายรวมๆ ก็ประมาณนี้แหละ บางชิ้นถูก บางชิ้นแพง
อ้อ รถผม ใช้บริการศูนย์ตลอดนะ ไม่ได้เทียบ เรื่อง ราคาอู่ข้างนอก
-
มีผลมากๆ ครับ
ส่วนตัวผมไม่กล้าซื้อมาสด้า เพราะราคาค่าเข้าศูนย์แพง ศูนย์ทำสี น้อย มีเพื่อนในนี้เคยบอกผมไว้ครับ
เลยไปออก Toyota ทั้งที่บางอย่าง ก็ไม่ดี เช่น ความประหยัดน้ำมัน รถใต้ท้องรถเตี้ยมาก แต่โดยรวม ความมั่นใจศูนย์น่าจะดีกว่า (มั้ง 555)
ที่สำคัญ คือ ถ้าอาการหนัก ผมมีอู่ที่รับทำ Toyota โดยเฉพาะ ซึ่งผมสนิทและไว้ใจพี่เขาได้มากครับ
ของเจ้าอื่นอย่างนิสสัน ที่ผมไปอู่มาเรียนตามตรง ผมไม่ว่าใจสักทีครับ ดูไม่ ok สำหรับผม
-
ส่วนตัวรถญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่นครับ ราคาอะไหล่ไม่หนี้กันครับ (ราคาศูนย์) เข้าอู่ข้างนอกเปลี่ยนอะไหล่แบบไม่ฟันหรืออะไรก็ยกชุดแบบศูนย์ก็มีครับ
สรุป ไม่ต่าง
-
ทนจ่ายแพง กับทนขับรถไม่ถูกใจ
ผมยอมทนจ่ายแพงครับ
แต่ที่สำคัญต้องไม่จุกจิก ซ่อมถี่ นอนศูนย์นาน
ถ้าแพงแล้วยังจุกจิก ซ่อมถี่ เลิกครับ
-
ถ้ารถคันนี้เป็น 1 ตัวเลือก ที่เป็นรถใช้งาน ผมเลือกรถที่ดูแลง่าย ซ่อมง่าย อะไหล่ถูก หรือ ไม่แพงกระโดดแบบไม่มีเหตุผล เมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ ครับ เอาสบายใจดีกว่า เพราะอย่างที่หลายๆ คนเอ่ย อะไหล่บางตัว 1 หมื่นกลาง ทั้งๆ ที่ชาวบ้านหรือค่ายตลาด แค่ 3-4 พัน อันนี้บอกตรงๆ รับไม่ได้
แต่ถ้าให้เลือก แบบว่า มีรถคันเดียว มันต้องเป็นคันนี้ อยากได้ที่สุดแล้ว ไม่มีไม่ได้เหมือนจะขาดใจ ยอมกินน้ำตาต่างน้ำก็ยอม ผมก็คงต้องทนยอมเลือกครับ และคิดไว้ในใจเสมอว่า "อะไรที่ว่าหนักๆ ขอให้อย่าเกิดกับข้าน้อย เพี๊ยง!!!"
-
ส่งผลบ้างครับเพราะที่บ้านผมและญาติเน้นใช้รถยาวๆและเปลี่ยนทีนึงก็เว้นไปหลายปี จึงต้องหาค่ายที่อะไหล่ถูกเช่นโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน
-
เคยคิดจะซื้อ CX-5 มาเป็นเพื่อน Forester พอเห็นราคาอะไหล่แล้วพับโครงการเลยครับ
อะไหล่ที่เห็น สมช. โพสกัน แพงกว่า Forester พอสมควรเลย
ตอนแรกคิดว่า Subaru อะไหล่แพง
พอมาใช้ Forester ถึงได้รู้ว่าอะไหล่แท้ไม่แพงเลยนะ
ยิ่งมีโปรโมชั่นส่วนลด ยิ่งถูกลงไปอีก
ยิ่งอะไหล่ช่วงล่างถูกเว่อร์ แถมเปลี่ยนแยกชิ้นได้อีก
-
ตอนซื้อ CX-5 ก็ไม่ได้คำนึงถึงราคาอะไหล่เลยครับ ผมเลือกที่ขับแล้วถูกใจหน้าตาใช้ได้ แล้วก็ไม่เสียจุกจิกแบบรุ่นที่เป็นข่าวดังๆ ก็พอแล้วครับ กว่าจะขับถึงแสนโลหรือสามปีก็นานอยู่ครับ หมดประกันก็อู่ยาวๆ ผมใช้โตโยต้ามาหลังหมดประกันก็อู่นอกแล้วครับ เข้าศูนย์ไม่ไหวชอบเปลี่ยนยกชุด ยกชุดทีเป็นหมื่น อู่นอกเค้าซ่อมได้ครับ
ราคาอะไหล่เลยไม่ใช่เหตุผลในการซื้อรถของผมครับ เพราะผมชอบหาอู่นอกดูแลหลังหมดประกันครัย ดู XV ไว้ชอบมากแต่ต้องถอยออกมาเพราะไม่มีศูนย์บริการในจังหวัด จะเช็คระยะทีก็วิ่งเข้า กทม ก็ไม่ไหวครับ ดูในคลับเจอกับการรออะไหล่เข้าไป เลิกเลยครับ รอนานกันจริงๆ เลยยอมจ่ายแพงกว่ากับค่าอะไหล่ครับ ส่วนยี่ห้ออื่นรถไม่ถูกใจก็ไม่มองแล้วครับ
-
ผมเชื่อว่ามีผลกระทบน้อยมากหรือาจจะไม่มีผลกระทบเลยครับ เปรียบเทียบจากเพื่อนและผู้ใหญ่ที่รู้จักกันซื้อรถมาสด้า เพราะคนที่ซื้อไม่รู้และไม่คิดว่าราคาอะไหล่จะแพง และบางคนไม่ได้คำนึงถึงเรื่องราคาอะไหล่เลย เพราะคิดว่าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น และคุ้นเคยเห็นรถมาสด้ากันมานานแล้วในบ้านเรา พอเห็นรถก็ชอบ ราคาก็ซื้อไหว แล้วก็จิ้มซื้อเลย
-
ตกใจค่าลูกปืนล้อ ยกหูโทรหาร้านอะไหล่มาสด้าประจำ
ของแท้ 48XX เฉพาะตัวลูกปืน 16,Xxx อันนั้นยกดุมครับ
รบกวนขอเบอร์ร้านอะไหล่หน่อยครับ เผื่อของ MX5 NB จะซื้อแยกเฉพาะลูกปืนได้มั่ง
ตอบคำถาม จขกท มีบ้างเหมือนกันนะครับ แต่ไม่มากเท่ามีเงินซื้อแล้วไม่มีของขาย อันนี้ช้ำหนัก ..
แต่จากประสบการณ์ผมกับ MX5 NB บางอย่างแพงมาก (เช่น ดุมล้อหน้า) บางอย่างถ้าสั่งเองได้ถูกมาก เช่น เบ้าโช๊ค ของ mazda แท้ราคาหลักร้อย
-
ผมว่าหลายคนที่ซื้อรถ(โดยเฉพาะรถคันแรก)แทบไม่ได้คิดถึงราคาอะหลั่ยหรือค่าแรงในการซ่อมหรอกครับ ด้วยความที่ถูกใจในตัวรถบวกกับความต้องการได้รถมาขับเร็วๆแล้ว จึงมักมองข้ามที่จะหาข้อมูลเรื่องพวกนี้(รวมถึงผมด้วย) เน้นราคาส่วนลดที่ได้ตอนนั้นมากกว่า ไม่รู้หรอกครับว่าอะหลั่ยมันแพงหรือถูก ถ้าไม่มีใครบอกให้ฟัง คนส่วนใหญ่ถึงได้ใช้toyota กันเพราะสาเหตุนี้และหลายๆอย่างที่มันง่ายๆในชีวิตยังไงมาสด้าก็คงขายได้อยู่ช่วงนี้เพราะตัวรถที่ดูดีกว่าใครในรุ่น แต่หลังหมดประกันแล้วก็ตัวใครตัวมันครับ ถ้าไม่ชนไม่พังบ่อยก็ดีไป
+1 ครับ แต่ของผมคุณพ่อเตือนไว้ในฐานะคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลยรอดไปครับ คันแรกก็เลยหนีไปค่ายรองแบรนด์อื่น :-[
แต่สุดท้ายพอใช้จนรู้ด้วยตัวเองแล้วกลับมาคบเจ้าตลาดอยู่ดี :-[
-
ไม่ขนาดนั้นครับ ส่วนตัวใช้อยู่ไม่ได้รู้สึกว่าแพงกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ เน้นรถที่ชอบมากกว่าครับ
หมดประกันศูนย์ก็อู่ยาวๆ อะไรพื้นฐานก็พอทำเองได้ ก็ไม่แตกต่างกันแล้วครับ
พาร์ทแปลกๆ ต้องหามากกว่าเจ้าตลาดนิดนึง พอรับได้ครับ หาความรู้ไว้บ้าง เพราะตั้งใจว่าคันต่อไปคงไปรถยุโรป เพราะฉะนั้น มาสด้า เลยไม่ค่อยทำให้รู้สึกว่ามันจะหายากกว่าครับ
-
ผมว่าโดยรวมก็แพงกว่าเจ้าตลาดไม่มากหรอกครับ
ที่ผมโดนมักจะเป็นพวกน้ำยา หัวเชื้อ สารพัดประโยชน์มากกว่าครับที่ทำให้แพง จ่ายค่าโง่ไปครั้งเดียวหลังจากนั้นก็ไม่ได้แอ้มผมละ
เข้า Service A ก็ไม่เกิน 2,000 บาท ถ้า Service B ก็ 4 - 5000 บาท
Mazda2 ตัวเก่า จานเบรคหน้าคต เบรคสั่น ค่าเจียร์จากคู่ละ 1,000 บาท แต่เปลี่ยนจานเบรคใหม่ข้างละ 950 บาท
ผมสั่งให้เปลี่ยนใหม่แทบไม่ทันเลยครับ ไม่เจียรมันละ เบรคมั่นใจเหมือนวันออกรถเลยทีเดียว
-
ไม่มีผลครับ ใช้ mazda คันที่ 2 แล้ว ก่อนซื้อก็รู้ครับว่าราคาอะไหล่แพง คันเดิมก็ชนหมาแล้วซ่อมเองก็หมดไปหลายหมื่น แต่ก็ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนยี่ห้อ เปิดใจไปลอง civic rs กับ altis แต่สิ่งที่ได้มาก็ไม่ให้ความรู้สึกได้เท่า 3sky ทนใช้สัก 3 ปี หมดประกันก็ไปอู่นอกสบายใจครับ
เมื่อสองปีที่แล้วรถ mazda2 ผมโดนค่าแรงที่ศูนย์พระราม7 ชม.ละ 480 บาท แต่ตอนนี้ 3sky กำลังจะครบ 40000โล ต้องจ่ายค่าแรงเองแล้ว จะมาอัพเดตอีกทีว่าโดนไปเท่าไร
-
สำหรับผมไม่มีผลครับ คันละหลายบาท (ถึงล้านกว่า) ค่านู่นนี่แพงกว่านิดหน่อยไม่ซีเรียส
-
บางส่วนที่ไม่เคยจ่ายอาจไม่รู้ ก็ลองกันไป แต่ผมว่าก็มีอีกหลายคนก็รู้แต่ยอมจ่าย Trade-Off กันไป เพราะ Mazda ก็มีสิ่งที่รถซ่อมถูกๆให้ไม่ได้เหมือนกัน
ส่วนตัวผม รถถือว่าเป็นของฟุ่มเฟือยไม่ได้เอาไว้ช่วยประหยัดเงินอยู่แล้วครับ ซ่อมถูกได้ก็ดีแต่ก็ไม่ซีเรียสเรื่องค่าซ่อมแพงมากจนไม่กล้าใช้ถ้าตัวรถตอบโจทย์
-
มีผลครับ อะไหล่ช่วงล่างCX-5 แพงกว่าคู่แข่งไม่รู้กี่สิบเท่า ทำไมมันจะฟันกำไรอะไรขนาดนั้น
จ่ายอ่ะจ่ายได้ แต่มันไม่เมคเซ้นเลยจริงๆ
-
มีผลส่วนหนึ่งครับ .. จากคนเคยใช้ .. คือ อะไหล่บางชิ้น ชนิดเดียวกัน แพงกว่าคู่แข่งเท่าตัว .. จาก 2-3 พัน เป็น 6-7 พัน .. มันก็น่าคิดอยู่
แต่ถ้าตัวเลือกในขณะนั้น มาสด้าก็ยังมีอะไรบางอย่างที่ผู้คนชื่นชอบ ทำให้ยังขายได้ มันก็ไม่อะไรมากครับ
คนที่คิดถึงขนาดราคาอะไหล่ในอนาคตนี่ .. ไม่น่าจะใช้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของมาสด้า ครับ
.. ลูกค้ามาสด้า มักจะเป็นประเภท ชอบจุดเด่นของยี่ห้อนี้ ซื้อเลย .. ไม่คิดจะซื้อยี่ห้ออื่นที่ให้บางอย่างที่ต้องการไม่ได้น่ะครับ
-
สำหรับผมนี่คือปัจจัยที่ 1 ที่ไม่ออกมาสด้า
2 คือแคบ สำหรับครอบครับผม
เพราะต้องใข้รีะยะยาว คงไม่คุ้ม
สวยจริงยอมรับ แตี่มันไม่ไหวสำหรับผมครับ ไม่ดันทุรังเอาเป็นภาระครับ เพราะคันอื่นยี่ห้ออื่นมีให้เลือกเยอะและไม่ได้ขี้เหร่ขนาดที่ใช้ไม่ได้
-
มีผลหรือไม่ ไม่รู้ครับ
ชื่นชอบ ก็ยอมรับได้
ไม่ชื่นชอบ ก็ติติง
ให้มีความสุขครับ
-
มีส่วนนะครับ แต่ไม่มาก
สำหรับผม ราคาอะไหล่และค่าmaintainน่าจะมีผลในการตัดสินใจสัก10%ได้มั้ง
ผมจะมองดีไซน์และoption30% เครื่องยนต์การขับขี่ช่วงล่าง30% ประหยัดน้ำมัน20%
ความเชื่อมั่นของแบรนด์10%
-
ผมใช้มาสด้า 2 ตัวแรก ปี 2011 ( ก่อนหน้า ใช้โตโยต้า นิสสันมาก่อน ) เจอราคารอะไหล่แพงครับ
- ยางแทนเครื่อง แท่นเกียร์
- หัวเทียนอิริเดียม
-กรองเบนซิน 2 ลูก
-ไดร์ชาร์จ
-ชุดสายไฟไดร์ชาร์จ 12,500 บาท อันนี้ โค ตะ ระ แพง
แต่พอได้ลองขับ มาสด้า 2 ปี 2017 ก็เป็นอันว่า ได้เอาคันเก่าเทิร์นคันใหม่ครับ
เรื่องอะไหล่แพง แลกกับความสุข ความชอบในตอนที่ได้ขับ มันคุ้มครับ
ลองคิดเรื่องอื่น ที่ไม่ใช่เรื่องรถ เช่น โซฟา บางคนก็ยอมจ่ายแพงว่าหลายหมื่นบาท เพื่อเลือกชุดที่นั่งแล้วรู้สึกสบายกว่ากัน จ่ายแล้วมีความสุข ก็จบครับ
-
เท่าที่รู้จักหลายคนๆยอมซื้อรถที่ถูกใจ บ่งบอกถึงมีความรสนิยมของตนเอง
มากกว่ามองถึงเรื่องราคาอะไหล่ในอนาคตหรือแม้แต่ภาษี/ค่าประกันที่ต้องเสียแต่ละปีครับ
-
มีผลครับ อะไหล่แพงก็โดนตัดคะแนนในคุณงามความดี ถือเป็นข้อด้อยนึงของรถไป
-
สำหรับผมมีผลครับ ค่าซ่อมแพง เลือกยี่ห้ออื่นก็ได้นะ แต่หลักๆ คงมาจากขนาดห้องโดยสารมากกว่านะ
-
เท่าที่รู้จักหลายคนๆยอมซื้อรถที่ถูกใจ บ่งบอกถึงมีความรสนิยมของตนเอง
มากกว่ามองถึงเรื่องราคาอะไหล่ในอนาคตหรือแม้แต่ภาษี/ค่าประกันที่ต้องเสียแต่ละปีครับ
+1