Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NarongritL ที่ มีนาคม 31, 2018, 17:35:35
-
เช่นพวก Body on Frame ครับ
อย่างรถเน้นขับพอเข้าใจได้ว่ามันเน้นฟิล NA เเต่ รถ ใช้งานถ้าเรายัด SC TB EV HB ไปเเทน เเล้ว Downsize เครื่องได้ไหมครับ หรือว่ากำลังลากจูงจะไม่เหมือนกัน
เเละที่สำคัญจำเป็นต้องเป็นดีเซลไหมครับ
เข้าใจข้อได้เปรียบของดีเซล เเต่เบนซิล เเรงบิด ต้นๆก็มี
เช่นถ้าเป็นรถสปอร์ต 600 บิดตั้งเเต่ 1700 เครื่องเเบบนี้เอาไปยัด Body on Frame ใช้งานได้ไหมครับ
เช่น
ดีเซล V8 ขนาด 4.5 ลิตร เทอร์โบคู่ Direct Injection ให้กำลังสูงสุด 271 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,600 2,800 รอบ/นาที
กับ
C63 V8 ขนาด 4.0 ลิตร 3,982 ซีซี. เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 476 แรงม้า ที่ 5,500 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,750 4,500 รอบ/นาที
-
รถใหญ่ๆเน้นรอบต่ำครับ แรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำมากๆ เพราะดูเข็มวัดรอบรถใหญ่ๆ Red line ต่ำมากๆ เหมือนไม่ยอมให้ใช้รอบสูงแบบเครื่องเล็กๆเลย
-
กำลังลากจูง คือแรงบิดครับ
เครื่องเล็ก[เทอร์โบ] แต่แรงบิดมาก ถ้ามาในรอบต่ำยิ่งประหยัดพลังงาน
ดีเซลเด่นแรงบิด เบนซินเด่นที่แรงม้า
-
กำลังลากจูง คือแรงบิดครับ
เครื่องเล็ก[เทอร์โบ] แต่แรงบิดมาก ถ้ามาในรอบต่ำยิ่งประหยัดพลังงาน
ดีเซลเด่นแรงบิด เบนซินเด่นที่แรงม้า
รถใหญ่ๆเน้นรอบต่ำครับ แรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำมากๆ เพราะดูเข็มวัดรอบรถใหญ่ๆ Red line ต่ำมากๆ เหมือนไม่ยอมให้ใช้รอบสูงแบบเครื่องเล็กๆเลย
ตรงนี้เข้าใจดีครับ
Diesel เครื่อง จุดระเบิดเอง ก็ทนทานกว่าใช่ไหมครับ ที่สงสัยคือเอามาใส่ได้ไหมครับ ถ้าเเรงบิดเเรงม้า พอกัน
-
กำลังลากจูง คือแรงบิดครับ
เครื่องเล็ก[เทอร์โบ] แต่แรงบิดมาก ถ้ามาในรอบต่ำยิ่งประหยัดพลังงาน
ดีเซลเด่นแรงบิด เบนซินเด่นที่แรงม้า
รถใหญ่ๆเน้นรอบต่ำครับ แรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำมากๆ เพราะดูเข็มวัดรอบรถใหญ่ๆ Red line ต่ำมากๆ เหมือนไม่ยอมให้ใช้รอบสูงแบบเครื่องเล็กๆเลย
ตรงนี้เข้าใจดีครับ
Diesel เครื่อง จุดระเบิดเอง ก็ทนทานกว่าใช่ไหมครับ ที่สงสัยคือเอามาใส่ได้ไหมครับ ถ้าเเรงบิดเเรงม้า พอกัน
อย่าลืมเรื่อง อัตราสิ้นเปลือง น้ำมัน ลิตรต่อลิตร ใครวิ่งได้ไกลกว่า
ตรงนี้คือหัวใจของต้นทุนค่าขนส่งครับ
-
ประเด็นมันอยู่ที่ความทนทานและอัตราสิ้นเปลืองมากกว่า
ลองคิดง่ายๆ วีโก้เครื่อง 3 พันออโต้ แบกของซัก 2 ตัน วิ่งกันได้ 10-11 โลลิตร
แต่ถ้าเอาเครื่องเบนซิน 3 พัน เซตโบ แบกของหนักเท่ากัน
อัตราสิ้นเปลืองจะได้ซักเท่าไหร่?
ในเมื่อเบนซินต้องติดบู๊สหนักๆตลอดเวลาเพื่อให้ได้แรงบิดเท่ากับดีเซล
เบนซินทำได้บิดได้เยอะครับ เยอะเท่าดีเซลนั่นแหละ
แต่บู๊สต้องหนัก แรงม้ามันจะเยอะเกินความจำเป็น ซึ่งไม่สอดคล้องกับอัตราสิ้นเปลือง
และก็แน่นอนว่ามันจะพังเร็วกว่า
ในแง่ธุรกิจ เราต้องการความแน่นอน (ทนทาน) และต้นทุนที่ต่ำครับ
-
V8 diesel ที่ยกตัวอย่างใกล้เคียงกับ V8 ของ Land Cruiser เลยครับ
แต่ LC มี 250 แรงม้าถ้าจำไม่ผิด แต่แรงบิดมาไวทำให้ดึงดีมากๆครับ
ผมว่าสำคัญที่แรงบิดมากและมาไว เช่นตัวอย่าง แรงบิดมา 600 ตั้งแต่พันกว่ารอบเลยครับ
เท่าที่เคยลากไปก็เป็นพวก jet ski, เร็วๆนี้อาจจะได้ลอง speed boat ดูครับ
-
รถลากจูง แรงบิดสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าแรงบิดคือเอนจิ้นเบรค อันนี้ เครื่องใหญ่ กับเครื่องที่กำลังอัดสูง(ดีเซล) ได้เปรียบ
ส่วนระหว่างดีเซลกับเบนซิลตามตัวอย่างที่ยกมา แรงบิดสูงสุดมาที่รอบต่ำพอๆกัน ผมคิดว่าถ้าโหลดไม่เยอะ กดเรียกแรงบิดแล้วรถไปได้ เบนซิลไม่น่ามีปัญหาอะไรและน่าจะไปได้ไวกว่าดีเซล
แต่ถ้าเจอโหลดหนักๆ หรือลากโหลดขึ้นเขา กดคันเร่งมิดแล้วแต่ความเร็วไม่ขึ้น ผ่อนคันเร่งก็ไม่ได้ ต้องกดแช่เรียกแรงบิดสูงสุดยาวๆ ดีเซลน่าจะได้เปรียบ โดยเฉพาะเรื่องความร้อนและอัตราสิ่นเปลือง
-
ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องดีเซลครับ ที่อเมริกา รถกระบะ Full size ที่นั่นนิยมใช้เครื่องเบนซิน แต่เป็นเครื่องเบนซินขนาดใหญ่ 3.5 ลิตร ขึ้นไปจนถึง 8.1 ลิตร 3.5 นี่คือ Downsizing แล้วนะ แต่ถ้าพวก Heavy Duty จะใช้เครื่อง 6.0 ลิตรขึ้นไป บางรุ่นแชร์เครื่องร่วมกับ muscle car ในค่าย
แต่ถ้าเอามาขับในไทย คงสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว ใครที่ขับรถสปอร์ตเครื่องใหญ่ๆ จะรู้ดี แล้วลองคิดดูว่า ถ้าเอาเครื่องนี้มาใส่รถกระบะขนาดใหญ่ บรรทุกหนัก พร้อมลากจูง มันจะซดน้ำมันเพิ่มอีกขนาดไหน
ในไทย เครื่องดีเซลเน้นแรงบิดรอบต่ำดีแล้วครับ
-
ดีเซล แรงม้าและแรงบิดมาที่รอบต่ำกว่าเยอะ อันนี้มาจาก 3500 HD
DURAMAX 6.6L TURBO-DIESEL V8
445 horsepower @ 2800 rpm
910 lb.-ft. of torque @ 1600 rpm
6-speed Allison® automatic transmission
VORTEC 6.0L V8
360 horsepower @ 5400 rpm
380 lb.-ft. of torque @ 4200 rpm
6-speed automatic heavy-duty transmission
-
บอกเลยไม่จำเป็น เพราะผมใช้ Fortuner 2.7 เบนซินลากจูงบรรทุกหนัก ปีนไต่เขาออฟโรดก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา
หลายคนนำไปลากเทรลเลอร์ลากเรือตกปลา
แต่ว่าถ้าได้ดีเซลที่แรงบิดดีแต่รอบต่ำ และกำลังมาต่อเนื่องในรอบสูง การขับขี่จะสบายกว่าเหนื่อยน้อยกว่าเวลาขับทางยาว ๆ ครับ
-
เอาไปบรรทุกผักดูก็รูคันไหนแรงบิทดี
วิ่งตัวเปล่าแรงม้าใครดีกว่าก็เร็วกว่าจัดจ้านกว่า กระบะฝั่งอเมริกันเขาไม่ได้มาบรรทุกนิครับ ใช้ทั่วไปเล็กๆน้อยๆ
-
ไม่จำเป็นแต่เหมาะสมกว่า
-
เอาไปบรรทุกผักดูก็รูคันไหนแรงบิทดี
วิ่งตัวเปล่าแรงม้าใครดีกว่าก็เร็วกว่าจัดจ้านกว่า กระบะฝั่งอเมริกันเขาไม่ได้มาบรรทุกนิครับ ใช้ทั่วไปเล็กๆน้อยๆ
ใช้ลากจูงครับ แต่เขาใช้เครื่องเบนซินขนาดใหญ่ V8 5000 CC แรงบิดมันไม่ได้ด้อยไปเลย แต่บ้านเราไม่ใช้รถที่เครื่องใหญ่ขนาดนี้
-
ต้องอธิบายเพิ่มเติมอีกสักหน่อยครับ ว่า รถลากจูง หมายถึงอะไร
- ลากจูง อะไร? ถ้าลากจูง แค่ ATV หรือเจ็ตสกี ใช้เบนซิน 4 ลูบธรรมดาๆ อย่าง vios ติด tailer ก็ลากได้ครับ
- ลากจูง น้ำหนักเท่าไหร่? เบาๆ หรือ +/- น้ำหนักรถ เท่าๆ กับ ของที่ลาก ก็ต้องรถพิเศษอะไร แต่ถ้าลาก 3-5 เท่าตัว รถกระบะคอกเสริมแหนบบ้านเรา ทำให้ดูเยอะแยะ
- ลากจูง บ่อยไหม? ถ้าบ่อยๆ อาจจะต้องหารถที่เหมาะกับการใช้งาน มากกว่าเอารถทั่วไป มาลาก
- ลากจูง ไกลไหม? ถ้าไกลๆ อาจจะต้องคิดถึงเรื่องการใช้งานหนักต่อเนื่อง เส้นทาง ถนน และสภาพจราจร
ประเด็น ถ้ารถลากจูง ที่ยกมา คือ ดีเซล จุดเด่น คือ แรงบิดสูง แรงบิดมารอบต่ำและต่อเนื่อง แรงม้าก็มารอบต่ำด้วย(พวกหัวลาก redline 2500-3000 รอบเอง) ประหยัดน้ำมัน(กว่าเบนซิน) ไม่ต้องเค้นหรือ load เครื่องยนต์ต่อเนื่อง ทำให้อายุการใช้งานยาว(ทนกว่าเบนซิน)
ส่วนเรื่องจำนวนสูบ ของ ดีเซล ต้องขึ้นกับการใช้ น้ำหนักและขนาด ของสิ่งที่ลาก(ง่ายๆ คือลักษณะการใช้งาน)
-
ถ้าเป็นเบนซิลเทอร์โบ แรงบิดก็ไม่หนีกันมาก แค่ต้องใช้รอบสูงกว่า
-
ถ้าเป็นเบนซิลเทอร์โบ แรงบิดก็ไม่หนีกันมาก แค่ต้องใช้รอบสูงกว่า
ใช่ครับส่วนใหญ่เปรียบกันแต่เบนซิน NA กับดีเซลคอมมอนเรลที่มันมีเทอร์โบอยู่แล้ว มันเลยดูเสียเปรียบกันมาก
ถ้าลองเบนซินคันนั้นใส่เทอร์โบไปเหมือนกัน แรงบิดออกมาต่างกันเลย เวลาบรรทุกเห็นผลมากเลยว่าประหยัดน้ำมันขึ้น บรรทุกหนักได้ดีทีเดียว ปิคอัพวีโก้ 2.7 เบนซินที่ใส่เทอร์โบกันก็ออกมาแบบนั้น