Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jztang ที่ เมษายน 04, 2018, 14:12:19
-
ถ้าเทียบกันระหว่าง 2 ตัวนี้ ควรเลือกใครครับ ใครคุ้มกว่ากันครับ
และเครื่องดีเซลกับเบนซิน อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ต่างกันเท่าไหร่บ้างครับ พอมีตัวเลขมั้ยครับ
หรือในราคาระดับนี้ มียี่ห้อไหน รุ่นไหนที่จะพอเปรียบเทียบแล้วสมเหตุสมผลบ้างครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ 8)
-
จริงๆ 2.2XD ควรเทียบกับ 2.0S นะครับ ออปชั่นเหมือนกันหมด ต่างกันแค่เครื่องยนต์ ก็จะได้เห็นราคาส่วนต่าง ที่เอาไปเติมน้ำมันวิ่งได้หลายปี
พอเป็น 2.0SP นี่มันกลายเป็นว่าต้องมาคิดว่าชอบออปชั่นหรือเปล่า? หรืออยากได้ความแรงมากกว่ากัน?
ถ้าถามว่าอันไหนคุ้มกว่า อยู่ที่ความพอใจของเจ้าของกระทู้ครับ ลองตอบตัวเองด้วยคำถามข้างล่างก่อนตัดสินใจครับ
- ต้องการออปชั่นในเบนซินตัวท็อปจริงๆ ไหม? (adaptive cruise control, i-active sense ทั้งหลาย, ล้อ 19") ---- ถ้าไม่ได้ต้องการ ไปเลือกเอาแค่ 2.0S กับ 2.2XD
- จะไปดีเซลเพราะเหตุใด? (ใช้รถวิ่งเยอะจริงๆ เกิน 100 กม. ต่อวันไหม?, ต้องการความแรง?) ---- ถ้าไม่ได้ต้องการ ก็ไปเบนซิน
- เครื่องดีเซลใน gen เก่า มีปัญหาเรื่องน้ำดัน, ใน gen ใหม่ มันแก้ไขแน่นอนแล้วหรือเปล่า ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด ถ้ายังมีปัญหา คิดว่าจะรับได้ไหม? ---- ถ้าคิดว่ายังไม่พร้อม ก็ไปเบนซิน
-
ไม่ได้ตามข่าวเรื่องน้ำเดินหรือครับ
เบนซิลครับ จบๆตามงบ
-
ตอนนี้ ผมว่าห่างๆจากดีเซลไว้ก่อน จะเป็นการปลอดภัยกับตัว จขกท เองครับ
-
วิ่ง ตจว เยอะ ต้องการความแรง ดูแลถึง - ดีเซล
ออพชั่นเยอะ ใช้สบายใจ - เบนซิน
เคยมีตัวเลือกแบบ จขกท. 2.0sp VS XD จอง XD แล้วด้วย สุดท้ายมาจบที่ sp ให้เมียใช้สบายใจกว่า จริงๆเสียดายความแพง แต่ไม่กล้าเสี่ยง เมียใช้ขับไปทำงาน แคราย-จตุจักร อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 10-11 โล/ลิตร
ตัวเลือกอื่นก็น่าจะมีแค่ CRV ไปลองมาแล้ว เมียไม่ชอบฟิลหน่วงๆ ส่วนผมก็ชอบ CX-5 มากกว่า
-
จากที่พึ่งถอย CX-5 2.0SP มาได้ 1เดือน ผมว่ามันไม่ได้อืดอะไรเลยครับ
เทียบกับรถที่บ้านที่เป็น CRV G4 2.4 2WD ช่วง 0-60 CRV รู้สึกเร็วกว่าหน่อย
แต่ CX5 นุ่ม เกาะถนนและเก็บเสียงดีกว่าเยอะมาก
และจากที่ก่อนซื้อได้ลอง ตัว2.2 4WD แต่ไม่ได้ลอง ตัวขับ2นะครับ เทียบกับ2.0 SP
คือตัวดีเซลอัตราเร่งดีมาก กดเป็นมาพุ่งสุดๆ ยิ่งถ้าเป็นตัวขับ2 คงยิ่งดีขึ้นไปอีก
และการมีระบบขับ4กับตัวรถหนักกว่า ทำให้รู้สึกได้เลยว่า นุ่มและแน่นหนักกว่า 2.0SP พอสมควร
แต่ตอนนั้นผมเทียบดูแล้วOption ที่ให้มาของตัวSP คุ้มมากๆครับ ออกต่างหวัดมีความสุขมาก
เพราะระบบช่วยเหลือเยอะ MRCC ก็ทำให้ขับยาวๆได้ยิ่งสบาย และส่วนมากผมขับรถแต่ในเมือง
อัตราเร่งที่ไม่ได้ต่างจาก Mazda3 รุ่นBM มาก(ใช้ก่อนเปลี่ยนเป็นCX5) คือเหลือๆสำหรับในเมือง
อัตราสิ้นเปลื้องผมได้ ประมาณ 12.5-13 KM/L อันนี้ E20 นะครับ
แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ ออกต่างจังหวัดที่ต้องมีขึ้นเนินขึ้นเขาบ่อยๆ ตัวดีเซลคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
รวมถึงถ้าชอบขับสายมุด จี้ตูดและค่อยตบออก ดีเซลตัวรองTop คงเหมาะกว่า เพราะจะได้ไม่ต้อง
เจอระบบมันเตือนให้เบรค หรือดึงพวงมาลัยคืนให้เอง ซึ่งจริงๆมันก็ดีนะ แต่บ้างคนอาจจะรำคาญ
แต่ถ้าใช้ในเมืองผมว่าตัว2.0 เหลือๆแล้วครับ ระบบความปลอดภัยก็ให้มาเยอะ
-
จากที่พึ่งถอย CX-5 2.0SP มาได้ 1เดือน ผมว่ามันไม่ได้อืดอะไรเลยครับ
เทียบกับรถที่บ้านที่เป็น CRV G4 2.4 2WD ช่วง 0-60 CRV รู้สึกเร็วกว่าหน่อย
แต่ CX5 นุ่ม เกาะถนนและเก็บเสียงดีกว่าเยอะมาก
และจากที่ก่อนซื้อได้ลอง ตัว2.2 4WD แต่ไม่ได้ลอง ตัวขับ2นะครับ เทียบกับ2.0 SP
คือตัวดีเซลอัตราเร่งดีมาก กดเป็นมาพุ่งสุดๆ ยิ่งถ้าเป็นตัวขับ2 คงยิ่งดีขึ้นไปอีก
และการมีระบบขับ4กับตัวรถหนักกว่า ทำให้รู้สึกได้เลยว่า นุ่มและแน่นหนักกว่า 2.0SP พอสมควร
แต่ตอนนั้นผมเทียบดูแล้วOption ที่ให้มาของตัวSP คุ้มมากๆครับ ออกต่างหวัดมีความสุขมาก
เพราะระบบช่วยเหลือเยอะ MRCC ก็ทำให้ขับยาวๆได้ยิ่งสบาย และส่วนมากผมขับรถแต่ในเมือง
อัตราเร่งที่ไม่ได้ต่างจาก Mazda3 รุ่นBM มาก(ใช้ก่อนเปลี่ยนเป็นCX5) คือเหลือๆสำหรับในเมือง
อัตราสิ้นเปลื้องผมได้ ประมาณ 12.5-13 KM/L อันนี้ E20 นะครับ
แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ ออกต่างจังหวัดที่ต้องมีขึ้นเนินขึ้นเขาบ่อยๆ ตัวดีเซลคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
รวมถึงถ้าชอบขับสายมุด จี้ตูดและค่อยตบออก ดีเซลตัวรองTop คงเหมาะกว่า เพราะจะได้ไม่ต้อง
เจอระบบมันเตือนให้เบรค หรือดึงพวงมาลัยคืนให้เอง ซึ่งจริงๆมันก็ดีนะ แต่บ้างคนอาจจะรำคาญ
แต่ถ้าใช้ในเมืองผมว่าตัว2.0 เหลือๆแล้วครับ ระบบความปลอดภัยก็ให้มาเยอะ
ยางยังใหม่อยู่รึป่าวครับ ทั้งยางรถ ยางซีลรอบตัวรถ
-
จริงๆ 2.2XD ควรเทียบกับ 2.0S นะครับ ออปชั่นเหมือนกันหมด ต่างกันแค่เครื่องยนต์ ก็จะได้เห็นราคาส่วนต่าง ที่เอาไปเติมน้ำมันวิ่งได้หลายปี
พอเป็น 2.0SP นี่มันกลายเป็นว่าต้องมาคิดว่าชอบออปชั่นหรือเปล่า? หรืออยากได้ความแรงมากกว่ากัน?
ถ้าถามว่าอันไหนคุ้มกว่า อยู่ที่ความพอใจของเจ้าของกระทู้ครับ ลองตอบตัวเองด้วยคำถามข้างล่างก่อนตัดสินใจครับ
- ต้องการออปชั่นในเบนซินตัวท็อปจริงๆ ไหม? (adaptive cruise control, i-active sense ทั้งหลาย, ล้อ 19") ---- ถ้าไม่ได้ต้องการ ไปเลือกเอาแค่ 2.0S กับ 2.2XD
- จะไปดีเซลเพราะเหตุใด? (ใช้รถวิ่งเยอะจริงๆ เกิน 100 กม. ต่อวันไหม?, ต้องการความแรง?) ---- ถ้าไม่ได้ต้องการ ก็ไปเบนซิน
- เครื่องดีเซลใน gen เก่า มีปัญหาเรื่องน้ำดัน, ใน gen ใหม่ มันแก้ไขแน่นอนแล้วหรือเปล่า ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด ถ้ายังมีปัญหา คิดว่าจะรับได้ไหม? ---- ถ้าคิดว่ายังไม่พร้อม ก็ไปเบนซิน
ใจผมอย่างแรกมองไปที่ความประหยัดก่อนเลยครับ และก็การดูแลรักษาให้ง่ายที่สุด ส่วนเรื่องออฟชั่นระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ในรุ่น SP มากกว่า XD เนี่ย ผมเฉยๆ ไอพวก assit ทั้งหลาย มีแค่ cruise control ผมก็พอแล้ว ล้อ 19เฉยๆ แต่เน้นไปที่ความทนทานและประหยัดครับ ส่วนการใช้รถ เป็นคนใช้รถเยอะมากครับ วิ่งในกทมทุกวัน ออกตจว.บ่อย ส่วนเรื่องน้ำดันนี่ไม่รู้ตัวใหม่เป็นกันรึยัง ก็หวังว่าไม่ให้เป็น แต่ถ้าความประหยัดน้ำมัน มันพอกัน แล้วเบนซินไม่มีปัญหาอะไร เบนซินก็เปนตัวเลือกที่มี%ที่ดีเหมือนกันครับ
ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำครับ
-
วิ่ง ตจว เยอะ ต้องการความแรง ดูแลถึง - ดีเซล
ออพชั่นเยอะ ใช้สบายใจ - เบนซิน
เคยมีตัวเลือกแบบ จขกท. 2.0sp VS XD จอง XD แล้วด้วย สุดท้ายมาจบที่ sp ให้เมียใช้สบายใจกว่า จริงๆเสียดายความแพง แต่ไม่กล้าเสี่ยง เมียใช้ขับไปทำงาน แคราย-จตุจักร อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 10-11 โล/ลิตร
ตัวเลือกอื่นก็น่าจะมีแค่ CRV ไปลองมาแล้ว เมียไม่ชอบฟิลหน่วงๆ ส่วนผมก็ชอบ CX-5 มากกว่า
ใจชอบดีเซลครับ แต่เบนซินก็ไม่แย่
ตอนนี้อยากรู้แค่ว่า ความประหยัดใครประหยัดกว่า ถ้าบอกพอกัน เบนซินคงคุ้มกว่า ณ จุดนี้
-
จากที่พึ่งถอย CX-5 2.0SP มาได้ 1เดือน ผมว่ามันไม่ได้อืดอะไรเลยครับ
เทียบกับรถที่บ้านที่เป็น CRV G4 2.4 2WD ช่วง 0-60 CRV รู้สึกเร็วกว่าหน่อย
แต่ CX5 นุ่ม เกาะถนนและเก็บเสียงดีกว่าเยอะมาก
และจากที่ก่อนซื้อได้ลอง ตัว2.2 4WD แต่ไม่ได้ลอง ตัวขับ2นะครับ เทียบกับ2.0 SP
คือตัวดีเซลอัตราเร่งดีมาก กดเป็นมาพุ่งสุดๆ ยิ่งถ้าเป็นตัวขับ2 คงยิ่งดีขึ้นไปอีก
และการมีระบบขับ4กับตัวรถหนักกว่า ทำให้รู้สึกได้เลยว่า นุ่มและแน่นหนักกว่า 2.0SP พอสมควร
แต่ตอนนั้นผมเทียบดูแล้วOption ที่ให้มาของตัวSP คุ้มมากๆครับ ออกต่างหวัดมีความสุขมาก
เพราะระบบช่วยเหลือเยอะ MRCC ก็ทำให้ขับยาวๆได้ยิ่งสบาย และส่วนมากผมขับรถแต่ในเมือง
อัตราเร่งที่ไม่ได้ต่างจาก Mazda3 รุ่นBM มาก(ใช้ก่อนเปลี่ยนเป็นCX5) คือเหลือๆสำหรับในเมือง
อัตราสิ้นเปลื้องผมได้ ประมาณ 12.5-13 KM/L อันนี้ E20 นะครับ
แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ ออกต่างจังหวัดที่ต้องมีขึ้นเนินขึ้นเขาบ่อยๆ ตัวดีเซลคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
รวมถึงถ้าชอบขับสายมุด จี้ตูดและค่อยตบออก ดีเซลตัวรองTop คงเหมาะกว่า เพราะจะได้ไม่ต้อง
เจอระบบมันเตือนให้เบรค หรือดึงพวงมาลัยคืนให้เอง ซึ่งจริงๆมันก็ดีนะ แต่บ้างคนอาจจะรำคาญ
แต่ถ้าใช้ในเมืองผมว่าตัว2.0 เหลือๆแล้วครับ ระบบความปลอดภัยก็ให้มาเยอะ
ขอบคุณมากครับสำหรับประสบการณ์จากผุ้ใช้่งานจริง เรื่องระบบ assist ที่ว่านี้ เราสามารถปิดได้มั้ยครับ เตือนระบบเบรค ดึงพวงมาลัยคืน ตรงนี้ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับผมซักเท่าไหร่ ถ้าเปิดปิดได้ จะดีมากครับ
ใจผมต้องการรถประหยัดทั้งในเมืองและนอกเมืองครับ เป็นคนขับ กทม ทุกวัน ตจว เรื่อยๆเลยครับ อาจจะใช้ไม่เยอะ ปีละประมาณ 3หมื่นโล แต่ก็ต้องใช้ในเมืองเปนประจำ ถ้าเบนซินอัตราสิ้นเปลืองพอกับดีเซล ผมไปเบนซิน ใจชอบดีเซล แต่ผมก็ยังไม่เคยลองอัตราเร่งทั้งเบนซินและดีเซลเลย เปนคนไมไ่ด้ขับ4อยูแล้วด้วย เลยตัดออกไปเลย
งั้นเปน 2 คำถามครับ
1. อัตราสิ้นเปลืองใครประหยัดกว่ากัน ทั้งในเมืองนอกเมือง
2. ระบบ assist สามารถเปิด - ปิด ได้มั้ย
-
จากที่พึ่งถอย CX-5 2.0SP มาได้ 1เดือน ผมว่ามันไม่ได้อืดอะไรเลยครับ
เทียบกับรถที่บ้านที่เป็น CRV G4 2.4 2WD ช่วง 0-60 CRV รู้สึกเร็วกว่าหน่อย
แต่ CX5 นุ่ม เกาะถนนและเก็บเสียงดีกว่าเยอะมาก
และจากที่ก่อนซื้อได้ลอง ตัว2.2 4WD แต่ไม่ได้ลอง ตัวขับ2นะครับ เทียบกับ2.0 SP
คือตัวดีเซลอัตราเร่งดีมาก กดเป็นมาพุ่งสุดๆ ยิ่งถ้าเป็นตัวขับ2 คงยิ่งดีขึ้นไปอีก
และการมีระบบขับ4กับตัวรถหนักกว่า ทำให้รู้สึกได้เลยว่า นุ่มและแน่นหนักกว่า 2.0SP พอสมควร
แต่ตอนนั้นผมเทียบดูแล้วOption ที่ให้มาของตัวSP คุ้มมากๆครับ ออกต่างหวัดมีความสุขมาก
เพราะระบบช่วยเหลือเยอะ MRCC ก็ทำให้ขับยาวๆได้ยิ่งสบาย และส่วนมากผมขับรถแต่ในเมือง
อัตราเร่งที่ไม่ได้ต่างจาก Mazda3 รุ่นBM มาก(ใช้ก่อนเปลี่ยนเป็นCX5) คือเหลือๆสำหรับในเมือง
อัตราสิ้นเปลื้องผมได้ ประมาณ 12.5-13 KM/L อันนี้ E20 นะครับ
แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ ออกต่างจังหวัดที่ต้องมีขึ้นเนินขึ้นเขาบ่อยๆ ตัวดีเซลคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
รวมถึงถ้าชอบขับสายมุด จี้ตูดและค่อยตบออก ดีเซลตัวรองTop คงเหมาะกว่า เพราะจะได้ไม่ต้อง
เจอระบบมันเตือนให้เบรค หรือดึงพวงมาลัยคืนให้เอง ซึ่งจริงๆมันก็ดีนะ แต่บ้างคนอาจจะรำคาญ
แต่ถ้าใช้ในเมืองผมว่าตัว2.0 เหลือๆแล้วครับ ระบบความปลอดภัยก็ให้มาเยอะ
ขอบคุณมากครับสำหรับประสบการณ์จากผุ้ใช้่งานจริง เรื่องระบบ assist ที่ว่านี้ เราสามารถปิดได้มั้ยครับ เตือนระบบเบรค ดึงพวงมาลัยคืน ตรงนี้ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับผมซักเท่าไหร่ ถ้าเปิดปิดได้ จะดีมากครับ
ใจผมต้องการรถประหยัดทั้งในเมืองและนอกเมืองครับ เป็นคนขับ กทม ทุกวัน ตจว เรื่อยๆเลยครับ อาจจะใช้ไม่เยอะ ปีละประมาณ 3หมื่นโล แต่ก็ต้องใช้ในเมืองเปนประจำ ถ้าเบนซินอัตราสิ้นเปลืองพอกับดีเซล ผมไปเบนซิน ใจชอบดีเซล แต่ผมก็ยังไม่เคยลองอัตราเร่งทั้งเบนซินและดีเซลเลย เปนคนไมไ่ด้ขับ4อยูแล้วด้วย เลยตัดออกไปเลย
งั้นเปน 2 คำถามครับ
1. อัตราสิ้นเปลืองใครประหยัดกว่ากัน ทั้งในเมืองนอกเมือง
2. ระบบ assist สามารถเปิด - ปิด ได้มั้ย
1. ยังไงดีเซลก็ต้องประหยัดดกว่าอยู่แล้วครับ อย่างน้อยๆควรจะได้ 14-15KM/L ขึ้นไป แต่ว่าจากที่อ่านๆดูควรจะเติมน้ำมันเกรดพรี่เมี่ยม
หรือพวกที่เป็น Euro5 แล้วจะดีกว่าครับ ซึ่งก็ต้องเปลื้องขึ้นไปอีกนิด อย่างของบางจาก E20 ราคา25.89/L แต่ ไฮพรีเมียม ราคา 31.51
พอคำนวนออกมาก็พอๆกันอะครับถึงดีเซลจะประหยัดกว่า และอีกอย่างคือเครื่อง 2.0 Sky จากที่ใช้มาตั้งแต่ Mazda3 ปัญหาน้อยมากๆ
ก็หวังว่าใน CX-5 จะไม่มีปัญหาเหมือนกัน แต่ตัวดีเซล มันมีทั้ง Turbo 2ตัว ระบบปั๊มแรงดันสูง ซึ่งราคามันก็แรงอยู่ถ้ามันเสียจริงๆ
รวมกับปัญหาน้ำดัน ที่ไม่รู้ว่าตัวใหม่จะเป็นไหม ทำให้ตัดสินใจเลือก 2.0 ดีกว่าอะครับ
2. ระบบ i-activesense ทุกระบบสามารถเปิดปิดได้หมดครับมีเมนูเข้าไป setup หรืออย่าง Lane keeping ก็มีปุ่มเปิดปิดที่ด้านซ้ายมือเลย
ไม่ต้องเข้าไปในเมนู แต่ยังไม่ได้ลองว่าจะเหมือน i-Stop หรือเปล่าคือปิดได้ แต่พอดับ Start ใหม่มันจะเปิดขึ้นมาอีก
-
จากที่พึ่งถอย CX-5 2.0SP มาได้ 1เดือน ผมว่ามันไม่ได้อืดอะไรเลยครับ
เทียบกับรถที่บ้านที่เป็น CRV G4 2.4 2WD ช่วง 0-60 CRV รู้สึกเร็วกว่าหน่อย
แต่ CX5 นุ่ม เกาะถนนและเก็บเสียงดีกว่าเยอะมาก
และจากที่ก่อนซื้อได้ลอง ตัว2.2 4WD แต่ไม่ได้ลอง ตัวขับ2นะครับ เทียบกับ2.0 SP
คือตัวดีเซลอัตราเร่งดีมาก กดเป็นมาพุ่งสุดๆ ยิ่งถ้าเป็นตัวขับ2 คงยิ่งดีขึ้นไปอีก
และการมีระบบขับ4กับตัวรถหนักกว่า ทำให้รู้สึกได้เลยว่า นุ่มและแน่นหนักกว่า 2.0SP พอสมควร
แต่ตอนนั้นผมเทียบดูแล้วOption ที่ให้มาของตัวSP คุ้มมากๆครับ ออกต่างหวัดมีความสุขมาก
เพราะระบบช่วยเหลือเยอะ MRCC ก็ทำให้ขับยาวๆได้ยิ่งสบาย และส่วนมากผมขับรถแต่ในเมือง
อัตราเร่งที่ไม่ได้ต่างจาก Mazda3 รุ่นBM มาก(ใช้ก่อนเปลี่ยนเป็นCX5) คือเหลือๆสำหรับในเมือง
อัตราสิ้นเปลื้องผมได้ ประมาณ 12.5-13 KM/L อันนี้ E20 นะครับ
แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ ออกต่างจังหวัดที่ต้องมีขึ้นเนินขึ้นเขาบ่อยๆ ตัวดีเซลคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
รวมถึงถ้าชอบขับสายมุด จี้ตูดและค่อยตบออก ดีเซลตัวรองTop คงเหมาะกว่า เพราะจะได้ไม่ต้อง
เจอระบบมันเตือนให้เบรค หรือดึงพวงมาลัยคืนให้เอง ซึ่งจริงๆมันก็ดีนะ แต่บ้างคนอาจจะรำคาญ
แต่ถ้าใช้ในเมืองผมว่าตัว2.0 เหลือๆแล้วครับ ระบบความปลอดภัยก็ให้มาเยอะ
ยางยังใหม่อยู่รึป่าวครับ ทั้งยางรถ ยางซีลรอบตัวรถ
ก็อาจจะใช่ครับ แต่ตอนผมออก CRV มาใหม่ๆ ผมก็จำได้ว่าเก็บเสียงแย่ ช่วงล่างตึงตัง และโคลงพอสมควร
อยากไปลอง CRV G5 เหมือนกัน ว่ามันดีกว่าตัวเก่าเยอะไหม เพราะไม่ได้ไปลองเลย
ตอนนั้นที่ถอย CRV เพราะไม่มีตัวเลือกอื่นเลย CX-5 ,X-trail ก็ยังไม่มา มีแต่ PPV
ข้อดีก็มีเยอะคือ ทนดี ไม่เคยมีปัญหาเลยใน 5ปีนี้ จุของได้จุใจดี เพราะตอนออกใหม่ๆ ลูกเพิ่ง 1 ขวบ
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดขนของลูกได้เยอะดี แล้วก็ต่อประกันชั้น1 ถูกมาก ถ้าเทียบกับประกันของ MAZDA
-
ฟังจากความต้องการจขกท.แล้ว XD เหมาะกว่าเยอะ ไม่งั้นข้ามลงไป 2.0S เลย
ขับนอกเมืองบ่อย อัตราเร่งดีเซลเหนือกว่า 2.0 คนละชั้น
มีโอกาสได้วิ่งยาวๆ ให้ DPF ทำงาน อาจจะเสี่ยงเรื่องน้ำดันน้อยลงก็ได้
ถ้าเป็นผมของลองเสี่ยงดีเซล แต่ต้องดูแลถึง เติมเฉพาะดีเซล Euro 5 หมั่นดึงก้านน้ำมันเครื่องขึ้นมาดูบ่อยๆ
เสียดายถ้า Mazda เอา 2.5 เบนซินกลับมาขาย สักไม่เกินล้านหก คงไม่มีปัญหาข้อนี้ 555
-
ตีคร่าวๆ จากที่ลองขับกัน ตัวดีเซล ประมาณ 15-16 ก.ม./ลิตร (ใช้ 15.5 ก.ม./ลิตร ในการคำนวณ)
ตัวเบนซิน 12.5-13.5 ก.ม./ลิตร (ใช้ 13.0 ก.ม./ลิตร ในการคำนวณ)
อัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตร (อ้างอิงราคาน้ำมันจากบางจาก)
ถ้าดีเซลต้องใช้น้ำมันเกรด Euro5 ตามคำแนะนำ ราคาต่อลิตรตอนนี้ = 31.51 บาท เฉลี่ยค่าเชื้อเพลิงต่อ 1 กิโลเมตร = 2.0329 บาท
ถ้าเบนซินโซฮอล 95 ธรรมดาทั่วไป ราคาต่อลิตรตอนนี้ = 28.40 บาท เฉลี่ยค่าเชื้อเพลิงต่อ 1 กิโลเมตร = 2.1846 บาท
ดีเซลจะประหยัดกว่า 0.1517 บาท/กิโลเมตร
***ความจริงเบนซินใช้ E20 จะประหยัดที่สุด แต่เลือกโซฮอล 95 มาคำนวณดีกว่า เพราะเชื่อว่าหลายคนไม่ค่อยอยากเติม E20***
ราคารุ่น 2.0S 1,400,000 บาท
ราคารุ่น 2.2XD 1,560,000 บาท
ต่างกันอยู่ 160,000 บาท
ต้องวิ่งถึง 1,054,713 กิโลเมตร ถึงจะคุ้มค่าส่วนต่าง!!!
นี่มองแค่เรื่องความประหยัดของเชื้อเพลงนะครับ ตัดเรื่องความแรงออกไป ถ้าต้องการความแรง ก็จัดดีเซลครับ
-
เน้นใช้งาน ขับบ่อย ขับเร็ว XDเลยครับ อัตราเร่งคนละเรื่องประหยัดด้วย
แต่สถานการณ์ตอนนี้เลี่ยงดีกว่า 2.0SP ใช้แบบสบายใจ
ผมก็เล็ง2.2XDLไว้ตั้งแต่เปิดตัว ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อ แต่ใจเทมา2.0SPละ
-
เบนซิน 2.0SP ครับได้ออฟชั่นครบๆ เครื่องเบนซินไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ
-
ตีคร่าวๆ จากที่ลองขับกัน ตัวดีเซล ประมาณ 15-16 ก.ม./ลิตร (ใช้ 15.5 ก.ม./ลิตร ในการคำนวณ)
ตัวเบนซิน 12.5-13.5 ก.ม./ลิตร (ใช้ 13.0 ก.ม./ลิตร ในการคำนวณ)
อัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตร (อ้างอิงราคาน้ำมันจากบางจาก)
ถ้าดีเซลต้องใช้น้ำมันเกรด Euro5 ตามคำแนะนำ ราคาต่อลิตรตอนนี้ = 31.51 บาท เฉลี่ยค่าเชื้อเพลิงต่อ 1 กิโลเมตร = 2.0329 บาท
ถ้าเบนซินโซฮอล 95 ธรรมดาทั่วไป ราคาต่อลิตรตอนนี้ = 28.40 บาท เฉลี่ยค่าเชื้อเพลิงต่อ 1 กิโลเมตร = 2.1846 บาท
ดีเซลจะประหยัดกว่า 0.1517 บาท/กิโลเมตร
***ความจริงเบนซินใช้ E20 จะประหยัดที่สุด แต่เลือกโซฮอล 95 มาคำนวณดีกว่า เพราะเชื่อว่าหลายคนไม่ค่อยอยากเติม E20***
ราคารุ่น 2.0S 1,400,000 บาท
ราคารุ่น 2.2XD 1,560,000 บาท
ต่างกันอยู่ 160,000 บาท
ต้องวิ่งถึง 1,054,713 กิโลเมตร ถึงจะคุ้มค่าส่วนต่าง!!!
นี่มองแค่เรื่องความประหยัดของเชื้อเพลงนะครับ ตัดเรื่องความแรงออกไป ถ้าต้องการความแรง ก็จัดดีเซลครับ
สุดยอดครับ ล้านโลถึงคุ้มส่วนต่าง
พรีเมื่ยมดีเซลมันแพงครับ เคยคำนวนในM2ยิ่งไม่คุ้มสุดๆ
-
ผมเพิ่งได้ 2.2 xdl awd มาใช้ 4-5 วัน ถ้าเน้นขับยาวๆต่างจังหวัด แรงตามเท้า เร่งแซงมั่นใจครับ เป็นมาสด้าคันแรกของผม เรื่องน้ำดัน น้ำเดิน ซื้อมาแล้วไม่กลัวครับ แต่ประทับใจสมรรถนะของรถจริงๆ นุ่ม แน่น ความประหยัด ผมขับนอกเมืองประมาณ 14-15 โลลิตร เบนซินไม่เคยขับเลยครับ เลยไม่ได้เปรียบเทียบ แต่อ่านรีวิวจากหลายที่ ดีเซลประหยัดกว่าเบนซินนิดหน่อย ระบบ i-actiesence ในตัวท๊อป ก็ปิดได้ครับ ผมก็ปิดตลอด ถ้าวิ่งทางยาวถึงจะเปิดใช้ครับ สุดท้าย จขกท ต้องตัดสินใจ ว่าชอบออฟชั่น หรือสมรรถนะเครื่องยนต์
-
มองความคุ้มค่าอาจจะเป็น 2.0SP นะครับ
-
ผมเพิ่งได้ 2.2 xdl awd มาใช้ 4-5 วัน ถ้าเน้นขับยาวๆต่างจังหวัด แรงตามเท้า เร่งแซงมั่นใจครับ เป็นมาสด้าคันแรกของผม เรื่องน้ำดัน น้ำเดิน ซื้อมาแล้วไม่กลัวครับ แต่ประทับใจสมรรถนะของรถจริงๆ นุ่ม แน่น ความประหยัด ผมขับนอกเมืองประมาณ 14-15 โลลิตร เบนซินไม่เคยขับเลยครับ เลยไม่ได้เปรียบเทียบ แต่อ่านรีวิวจากหลายที่ ดีเซลประหยัดกว่าเบนซินนิดหน่อย ระบบ i-actiesence ในตัวท๊อป ก็ปิดได้ครับ ผมก็ปิดตลอด ถ้าวิ่งทางยาวถึงจะเปิดใช้ครับ สุดท้าย จขกท ต้องตัดสินใจ ว่าชอบออฟชั่น หรือสมรรถนะเครื่องยนต์
+1
-
ตอบให้ครับ
ใช้ดีเซลขับสองอยู่ครับ เท้าเบาบ้าง(90km/h)หนักบ้าง(130km/h) เฉลี่ยที่ 14-16 โลลิตร วิ่งจากในเมืองออกนอกเมือง และจากนอกเมืองเข้าในเมืองทุกวันครับ วันละประมาณ90โล มั่นใจเรื่องช่วงล่างครับ เก็บเสียงดีใช้ได้ แต่ใจจริงอยากได้ขับสี่ดีเซลเพราะเรื่องออฟชั่นล้วนๆครับ แต่ต้องตัดใจเพราะไม่อยากได้ความเป็นขับสี่ครับ
นอกนั้นพอใจทุกอย่างครับ
อยู่ที่ว่าอยากได้ออฟชั่นครบไหม อยากได้ดีเซลขนาดไหน กังวลกับเรื่องน้ำดันไหม เข้าใจระบบDPF มากน้อยแค่ไหน ดูแลรถได้ดีแค่ไหน บ้าพลังชอบเร่งแซงไหม
-
จ่ายตังเป็นล้านต้องมากังวลเรื่องน้ำดัน??? ต้องมากังวลเรื่องหาดีเซลพรีเมื่ยมเติม???
เป็นผมเล่นเบนซิลนะตัวถูกสุดด้วย 8) แต่ก็แล้วแต่ชอบไปลองขับทั้งสองคันก่อนครับ 8)
ปล ผมก็จ่ายเป็นล้านสองคันที่ต้องมากลัวเกียร์พังทั้งคู่ :-X
-
การซื้อรถใหม่ของผม นอกจากออฟชั่นความปลอดภัยแล้ว ออฟชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต้องมากกว่ารถคันเดิม
ถ้าซื้อแล้ว ออฟชั่นเท่าเดิม โบราณเหมือนเดิมกับรถเก่า อย่าซื้อเลยครับ
ผมเลือก 2.0 sp ครับ ออฟชั่นครบกว่า
-
อัตราสิ้นเปลือง SUV อ้างอิงจากผลการทดสอบของHLM
อาจจะไม่ใช่ข้อมูลรถรุ่นล่าสุด แต่เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ครับ
http://www.headlightmag.com/power-and-economy-figures-by-segment/
-
ยุคนี้ cx5 2.0s กับ 2.2D
เรื่องอัตราสิ้นเปลืองไม่ได้แตกกันแบบฟ้ากับเหวเหมือนยี่ห้ออื่นๆนะคับ
ถ้าซีเรียสเรื่องปัญหาดีเซลก็จัด 2.0s ก็เพียงพอแล้วครับ
-
ผมใช้ตัวเก่า 2.0S ให้ข้อมูลว่า ถ้าขับแบบกดๆหน่อย E20 มีแถวๆ 10-11 ก.ม. / ลิตร
แต่ถ้าเท้าเบา ค่อยๆไต่ความเร็ว ไม่เบรคบ่อยๆ คุมความเร็วระหว่างเดินทางไม่เกิน 120 ดีสุดที่ผมทำได้คือแถว 13.5 ก.ม. / ลิตร ครับ ส่วนมากได้ระหว่าง 12-12.5 ก.ม./ลิตร
ถ้าเป็น E10 จะดีกว่ากันราวๆ 0.5 ก.ม./ลิตรครับ
-
ผมเพิ่งได้ลอง ดีเซล mazda ขับมันส์จริงๆครับ แต่กล้าลองกับดีเซลใน mazda 2 disel ตัวเริ่มต้น แต่ยอมรับ mazda ทำเครื่องดีเซลและจูนเครื่องมาได้แรง ขับมันส์ ขับสนุก ซื้อมาก็ซื้อประกันตัวรถเพิ่มเป็น 5 ปี กันเหนียวเอาไว้ เพราะรถสมัยใหม่ เครื่องยนต์ เกียร์ อุปกรณ์ต่างๆ แพงๆทั้งนั้น ส่วนใน cx5 2.2 ทาง mazda ก็คงจูนมาสุดแรงเหมือนกันแต่ชิ้นส่วนคงทนไม่ไหว ตอนบู๊ชหนักๆ เลยมีปัญหากัน ไว้ mazda ทำเครื่องดีเซลบล๊อกใหม่ออกมาจะไว้อุดหนุนอีกสักคัน เพราะบล๊อกนี้ขอลองแค่รถเล็กพอ 5 ปีขายไม่ขาดทุนมากครับ
-
ถ้า2ตัวนี้ผมเลือกเบนซินได้ I active sense จัดเต็ม
สบายใจเรื่องน้ำดัน
ปล ผมใช้ 2.0sp อยู่ ยอมรับเลยเป็น suv ที่ช่วงล่างไม่แพ้เก๋งเลย
ค่อนข้างชอบเลยคันนี้
-
2.0 sp ครับ