Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sith8059 ที่ เมษายน 07, 2018, 10:15:53
-
สวัสดีครับ สอบถามนิดนึงเรื่องระยะการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์
ทุกทีจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กม. น้ำมันเกียร์ทุกระยะ 20,000 กม. (รถวิ่งปีละ 10,000-15,000 กม. เท่ากับเปลี่ยนน้ำมันเครื่องประมาณปีละครั้ง น้ำมันเกียร์ปีกว่าๆถึง2ปีครั้ง)
อยากทราบว่า ถ้าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ระยะทุก 10,000 กม. พร้อมน้ำมันเครื่อง จะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ นอกจากเปลืองเงิน?
-
ไม่มีครับ
-
ไม่มีครับ เป็นผลดีด้วยซ้ำไปครับ อย่าลืมว่าเกียร์ลูกนึงถัวๆเป็นแสนไปละครับ น้ำมันเกียร์ป๊องนึงสี่ลิตร ตกแค่พันต้นๆ เปลี่ยนปีละครั้งยังไม่เสียดายเงินตรงนี้เลยครับ
-
ถ้าแบบไขน็อตเปิดอ่างถ่าย ก็อาจจะมีเรื่องเกลียวน็อตบ้างละครับ แต่ผมว่าไม่น่าห่วงเท่าไรสวมเกลียวเอาได้อยู่
-
ผมใช้ lancer ex gt เปลี่ยนน้ำมันเกียร์พร้อมน้ำมันเครื่องทุก 10000 โล เหมือนกันครับ ตอนนี้ 100000 โลแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ปกติทุกอย่าง
-
เปลืองเงิน. เปลืองทรัพยากรโลก. ไม่จำเป็นขนาดนั้น
-
รถคันเก่าผม ผมเปลี่ยน นมก. ทุกๆ 2 หมื่นกิโล
เห็นในคลับรถคันเก่าผม ที่เปลี่ยน นมก. ตามกำหนด เกียร์จะเริ่มเสียประมาณที่แสนกิโลซะส่วนใหญ่
ส่วนรถผมวิ่งไป 1.6 แสนกิโลยังปกติ
ถ้าคิดจะใช้รถยาวๆ ก็เปลี่ยนบ่อยได้ครับ
นมก. ผมใช้วิธีเปลี่ยน นมค 2 ครั้ง เปลี่ยน นมก. 1 ครั้งครับ
ถ้าเราป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ มันเริ่มเสียได้ตั้งแต่แรก จะดีกว่าที่มันเริ่มเสียไปแล้ว จะมาแก้ไขได้ยากครับ :)
-
ทำลายส่งแวดล้อมครับ
จริงๆน้ำมันเครื่องเชียร์ให้เปลี่ยนทุก 6 เดือนดีกว่านะครับถึงจะวิ่งปีละ 10k โลก็ตามยกเว้นใช้ของแพงพวกเกรด 20k โล 1 ปีอะไรงี้
-
รถคันเก่าผม ผมเปลี่ยน นมก. ทุกๆ 2 หมื่นกิโล
เห็นในคลับรถคันเก่าผม ที่เปลี่ยน นมก. ตามกำหนด เกียร์จะเริ่มเสียประมาณที่แสนกิโลซะส่วนใหญ่
ส่วนรถผมวิ่งไป 1.6 แสนกิโลยังปกติ
ถ้าคิดจะใช้รถยาวๆ ก็เปลี่ยนบ่อยได้ครับ
นมก. ผมใช้วิธีเปลี่ยน นมค 2 ครั้ง เปลี่ยน นมก. 1 ครั้งครับ
ถ้าเราป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ มันเริ่มเสียได้ตั้งแต่แรก จะดีกว่าที่มันเริ่มเสียไปแล้ว จะมาแก้ไขได้ยากครับ :)
จริง ถ้าเสียแล้วก็คือเสียเลยครับ ผมเริ่มเปลี่ยนตอน 40000 50000 60000
เคลมเกียร์มาใหม่ก็กะจะเปลี่ยนไปเลยตอน 70000 แล้วดูอาการเอา ถ้าสียังสวยก็เจอกันคราวหน้าที่ 90000
-
ขอพูดตรงๆนะครับ ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม
ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ
รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี
ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ
-
ขอพูดตรงๆนะครับ ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม
ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ
รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี
ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ
และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ
แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ
-
ขอพูดตรงๆนะครับ ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม
ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ
รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี
ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ
และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ
แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ
ผมไม่ได้บอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ ผมบอกว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนบ่อยๆไม่มีประโยชน์อะไร เปลี่ยน 2 หมื่นโลครั้งนี่ก็ค่อนข้างถี่แล้ว
น้ำมันเกียร์เจอมลภาวะ แต่ไม่เยอะเท่าน้ำมันเครื่องก็ถูกแล้วหนิครับ แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่องมั้ย ย้ำให้เข้าใจ ไม่ได้ให้ใช้ตลอดอายุรถ แค่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่อง
เรื่องเปลี่ยนรถผมไม่ได้เอาตัวผมไปตัดสินคนอื่นครับ แค่บอกว่ารถใช้ๆไปซักวันคุณก็ต้องเปลี่ยน หรือคุณจะใช้รถคันเดียวตลอดชีวิต? รูปทรงรถมันจะเอ้าท์ก็ไม่ได้เอ้าท์ในห้าปีสิบปีหรอกครับ Civic FD ก็ยังโอเคไม่ได้ดูเอ้าท์ ใครใคร่จะใช้รถกี่ปีก็แล้วแต่ความพอใจและเงินในกระเป๋าครับ
-
ขอพูดตรงๆนะครับ ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม
ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ
รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี
ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ
และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ
แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ
ผมไม่ได้บอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ ผมบอกว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนบ่อยๆไม่มีประโยชน์อะไร เปลี่ยน 2 หมื่นโลครั้งนี่ก็ค่อนข้างถี่แล้ว
น้ำมันเกียร์เจอมลภาวะ แต่ไม่เยอะเท่าน้ำมันเครื่องก็ถูกแล้วหนิครับ แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่องมั้ย ย้ำให้เข้าใจ ไม่ได้ให้ใช้ตลอดอายุรถ แค่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่อง
เรื่องเปลี่ยนรถผมไม่ได้เอาตัวผมไปตัดสินคนอื่นครับ แค่บอกว่ารถใช้ๆไปซักวันคุณก็ต้องเปลี่ยน หรือคุณจะใช้รถคันเดียวตลอดชีวิต? รูปทรงรถมันจะเอ้าท์ก็ไม่ได้เอ้าท์ในห้าปีสิบปีหรอกครับ Civic FD ก็ยังโอเคไม่ได้ดูเอ้าท์ ใครใคร่จะใช้รถกี่ปีก็แล้วแต่ความพอใจและเงินในกระเป๋าครับ
งั้นถ้าสัก 4 หมื่นโลหรือ 2 ปีครั้ง แล้วแต่อะไรถึงก่อน แบบที่ผมทำอยู่ ถือว่าถี่ไปไหมครับ
-
ไม่มีปัญหาครับเปลี่ยนๆไปเถอะถ้าไม่ได้เดือดร้อน แต่ผมคงปีละ1ครั้งก็บ่อยละ
-
ผมใช้รถมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ
ที่ผ่านมาผมใช้หลัก 2 ปี หรือ 60000 แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน
บางคันใช้ไม่ถึง 100000 กมก็ขาย บางคันใช้ไป 300000 กม ถึงขาย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเกียร์นะ
10000 กม ผมว่าถี่และสิ้นเปลืองเกินไป
-
ที่บ้านมี ซีวิค ซิตี้ สวิฟ เปลี่ยนที่ห้าหมื่นโล แต่แถวบ้านผมรถไม่ติดเพราะ ตจว และปกติจะออกตัวรอบไม่เกินสองหมื่นโล
เป็นคนขับรถไม่เร็ว ประมาณ100 110 ครับ
-
ขอพูดตรงๆนะครับ ถ้าจะถ่ายถี่ขนาดนั้น ใช้รถครั้งนึงถ่ายครั้งนึงไปเลยครับ เพื่อการปกป้องสูงสุด อย่างนี้ดีไหม
ผมว่ามันไม่มีประโยชน์ เกียร์ไม่ได้เจอมลภาวะเท่าเครื่อง ระยะที่คุณถ่ายตอนนี้ผมว่ามันก็ถี่เกินไปแล้ว จะเอาถี่กว่านี้อีกหรือ
รถใช้ๆไป วันนึงก็ต้องเปลี่ยนคันครับ ต่อให้มันไม่พังแต่วันนึงรูปทรงมันเอ้าท์แล้ว เทคโนโลยีเทียบชาวบ้านไม่ได้แล้ว คุณก็ต้องอยากได้คันใหม่อยู่ดี
ผมไม่ได้อะไรนะครับ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แค่หวังดีไม่อยากให้เสียเงินฟรีๆ แค่ขับรถไม่กระชากไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ก็ถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ถี่ๆแต่ออกตัวล้อฟรีแล้วครับ
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ ต่อให้น้ำมันเกียร์ไม่เจอมลพิษเท่าน้ำมันเครื่อง แต่คุณอย่าลืมมันจะเจอทั้งความร้อน การเสียดสีในระบบเกียร์ ฝุ่นผงที่ติดมาจากการชะล้างอีกละ คุณว่ามันไปกองอยู่ที่แม่เหล้กก้นอ่างสักกี่เปอร์เซ็นต์เชียว? นอกเหนือจากนี้มันก็วนอยู่ในระบบเกียร์นั้นแหละครับ วนไปเจอพวกโลหะด้วยกันก็กัดกร่อยกันเอง วันดีคืนร้ายวนไปติดในซิลีนอยเกียร์งานจะงอกเป็นเท่าทวีครับ นอกเหนือจากจะเจอพวกนี้แล้ว มันมีอายุการใช้งานของมันครับ คุณไม่คิดเหรอว่ามันจะเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ใช้ไปนานๆฟิลม์เอย สารปกป้องเอย มีวันเสื่อมนะครับ
และเรื่องระยะเวลาใช้รถ อย่าเพิ่งเอาตัวท่านไปตัดสินจากลักษณะระยะเวลาการใช้รถจะนานจะสั้น รุ่นใหม่มารุ่นใหม่มารุ่นเก่าเอ้าทืแล้วไรงี้ครับ บางท่านใช้ทีบางครั้งเป็นสิบๆปีชนิดที่ว่าซ้อมไม่คุ้มแล้วค่อยเปลี่ยนก็มีแยะครับ
แนะนำเปลี่ยนเถอะครับน้ำมันเกียร์ อย่างน้อยสองปี หรือสักสาม-สี่หมื่นโลเปลี่ยนทีก็ยังดีครับ
ผมไม่ได้บอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ ผมบอกว่าน้ำมันเกียร์เปลี่ยนบ่อยๆไม่มีประโยชน์อะไร เปลี่ยน 2 หมื่นโลครั้งนี่ก็ค่อนข้างถี่แล้ว
น้ำมันเกียร์เจอมลภาวะ แต่ไม่เยอะเท่าน้ำมันเครื่องก็ถูกแล้วหนิครับ แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่องมั้ย ย้ำให้เข้าใจ ไม่ได้ให้ใช้ตลอดอายุรถ แค่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเท่าน้ำมันเครื่อง
เรื่องเปลี่ยนรถผมไม่ได้เอาตัวผมไปตัดสินคนอื่นครับ แค่บอกว่ารถใช้ๆไปซักวันคุณก็ต้องเปลี่ยน หรือคุณจะใช้รถคันเดียวตลอดชีวิต? รูปทรงรถมันจะเอ้าท์ก็ไม่ได้เอ้าท์ในห้าปีสิบปีหรอกครับ Civic FD ก็ยังโอเคไม่ได้ดูเอ้าท์ ใครใคร่จะใช้รถกี่ปีก็แล้วแต่ความพอใจและเงินในกระเป๋าครับ
งั้นถ้าสัก 4 หมื่นโลหรือ 2 ปีครั้ง แล้วแต่อะไรถึงก่อน แบบที่ผมทำอยู่ ถือว่าถี่ไปไหมครับ
ไม่ถี่ครับ กำลังดี เราปรับปรุงวิธีการขับรถของเรา ออกตัวไม่กระชาก ไม่ซิ่งบ่อยๆ ยังจะถนอมเกียร์มากกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกหมื่นโล แต่เหยียบคันเร่งแทบทะลุพื้นรถทุกครั้งเมื่อมีโอกาสอีกครับ
-
ถี่เกินไปที่ 2 หมื่นโล ถ้าคุณขับ เบนซ์ bmw มีหวังตายแน่ เพราะเปลี่ยนครั้งนึง ล่อไป หมื่นแก่ๆ ถึงสองหมื่นกลาง ผมว่าเปลี่ยนที่ 6 หมื่นโล กะลังดี
-
สัก 30000-40000 หรือ 2 ปี น่าจะ เปลี่ยนทีนะครับ