Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: V221 ที่ เมษายน 18, 2018, 08:29:19
-
เท่าที่ดูในเวปของ Mercedes Benz Deutschland พบว่า Plug-In Hybrid หายไปแล้วครับสำหรับ S Class E Class และ C Class ใหม่ เดาว่าน่าจะมี Mild Hybrid 48V และ EV ที่ใช้แบตแบบนวัตกรรมใหม่ออกมาเร็วๆนี้ครับ ตอนนี้คงอยู่ในช่วง Transition สำหรับท่านที่จะถอย E กับ C Class น่าจะรอดูครับ
http://www.autoguide.com/auto-news/2018/01/mercedes-working-toward-solid-state-batteries-applying-48v-tech-across-range.html
-
อยากปรับปรุงไปในทางที่ ทนถึกขึ้น ครับ
phev ที่ใช้อยู่นี่80,000โล แบตลิเทียมโบกมือ บ๋ายบายแบบwothout warning ไปแล้ว
คุณv211 ซื่อแบบ ดีเซลน่ะดีแล้ว อย่างน้อยเรื่องเครื่อง ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ผมพึ่งซื้อ autocar เล่มใหม่มาอ่าน เค้าจับเอา series7 s class new a8 มาเทียบกัน
s class ก็ยังชนะนะครับถึงแม้จะเก่าสุด ก็ตาม
-
ผมสงสัยครับคุณ V
ทำไม หลายๆ ค่ายโดยเฉพาะยุโรปถึงจะกลับไปใช้ Mild Hybrid 48V ครับ
เพราะก่อนหน้านี้เดินทางกันไปถึง plug in แล้ว
กลับไปแบบนี้นี่ คงต้องมีสาเหตุครับ พอจะทราบไหมครับ
-
ผมสงสัยครับคุณ V
ทำไม หลายๆ ค่ายโดยเฉพาะยุโรปถึงจะกลับไปใช้ Mild Hybrid 48V ครับ
เพราะก่อนหน้านี้เดินทางกันไปถึง plug in แล้ว
กลับไปแบบนี้นี่ คงต้องมีสาเหตุครับ พอจะทราบไหมครับ
ขอตามข่าวด้วยคนครับ สงสัยเหมือนกัน
-
ผมสงสัยครับคุณ V
ทำไม หลายๆ ค่ายโดยเฉพาะยุโรปถึงจะกลับไปใช้ Mild Hybrid 48V ครับ
เพราะก่อนหน้านี้เดินทางกันไปถึง plug in แล้ว
กลับไปแบบนี้นี่ คงต้องมีสาเหตุครับ พอจะทราบไหมครับ
ค่ายยุโรปเริ่มมีปัญหากับเครื่องดีเซลครับ ซึ่งในอนาคตการทำเครื่องดีเซลให้ผ่านกฎมลพิษต่างๆจะต้องใช้ต้นทุนสูงมาก
ส่วนรถแบบ plug-in hybrid หรือ full EV ก็ใช้ต้นทุนการผลิตที่สูง แต่ระบบ mild hybrid สามารถลดค่ามลพิษของรถรุ่นใหม่ๆได้โดยที่ต้นทุนผลิตต่อคันนั้นเพิ่มขึ้นแค่ไม่กี่ร้อยยูโรเท่านั้นครับ อีกหน่อยรถยุโรปที่พ่วง mild hybrid น่าจะมีให้เห็นเยอะ
-
ไม่ได้หายไปไหนครับ แต่จัด line up ใหม่ แถมมีเพิ่มมาด้วยซ้ำ E300e + E300de
ป.ล. แก้ไข รูปไม่ขี้น เลยแนบไฟล์แทน
-
ไม่ได้หายไปไหนครับ แต่จัด line up ใหม่ แถมมีเพิ่มมาด้วยซ้ำ E300e + E300de
ป.ล. แก้ไข รูปไม่ขี้น เลยแนบไฟล์แทน
ขอบคุณครับ ในตารางรุ่นEQก็คือMild Hybridนั่นเอง เห็นแล้วว่ารุ่นPlug-Inยังคงอยู่ แต่ในเวปของMercedes DE ไม่มีให้Configสำหรับรุ่นนี้ครับ อยากให้MB Thailandเอารุ่นเครื่องธรรมดาหรือMild Hybridมาให้ลูกค้าแทนที่จะยัดเยียดPlug-Inอย่างเดียวเหมือนในปัจจุบันจังเลย
-
อยากปรับปรุงไปในทางที่ ทนถึกขึ้น ครับ
phev ที่ใช้อยู่นี่80,000โล แบตลิเทียมโบกมือ บ๋ายบายแบบwothout warning ไปแล้ว
คุณv211 ซื่อแบบ ดีเซลน่ะดีแล้ว อย่างน้อยเรื่องเครื่อง ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ผมพึ่งซื้อ autocar เล่มใหม่มาอ่าน เค้าจับเอา series7 s class new a8 มาเทียบกัน
s class ก็ยังชนะนะครับถึงแม้จะเก่าสุด ก็ตาม
ผมยังไม่เอาPlug-Inในตอนนี้แน่นอนครับเพราะใช้GLE500eแล้วไม่ประทับใจเลยครับ อาการคล้ายกับS500eที่คุณkoko86ได้เขียนไว้ หนำซ้ำช่วงล่างAirmaticกลับไม่ประทับใจด้วย ผมเข้าใจว่าการแบกแบตหนัก200โลที่ท้ายรถทำให้สมดุลเปลี่ยนไปครับเลยขายทิ้งไปแล้วจองS350Dที่เป็นดีเซลแทน
-
ผมสงสัยครับคุณ V
ทำไม หลายๆ ค่ายโดยเฉพาะยุโรปถึงจะกลับไปใช้ Mild Hybrid 48V ครับ
เพราะก่อนหน้านี้เดินทางกันไปถึง plug in แล้ว
กลับไปแบบนี้นี่ คงต้องมีสาเหตุครับ พอจะทราบไหมครับ
ผมคิดว่าค่ายรถก็รู้ดีว่า Plug In ยังไม่ตอบโจทย์คนจำนวนมากครับ Mild Hybridจะไม่ซับซ้อนเท่าเพราะใช้ระบบปกติเพียงแต่เพิ่มชุดควบคุมกระแสไฟฟ้าและBASขึ้นมาทำให้ต้นทุนถูกกว่า Plug In พอสมควรเลยครับ และMild Hybridยังไม่ได้ทำให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นมากเหมือน Plug In อีกด้วย ถ้า Plug In ได้ระยะทางวิ่งสัก 80-100โล แบบนี้ถึงจะน่าใช้ครับ ระยะทางตอนนี้เคลมไว้30-40โลแต่วิ่งจริงๆแค่20โลแบตก็หมดแล้ว หนำซ้ำระบบเบรคและการตัดต่อยังไม่เนียนด้วยอีกต่างหาก
-
ผมสงสัยครับคุณ V
ทำไม หลายๆ ค่ายโดยเฉพาะยุโรปถึงจะกลับไปใช้ Mild Hybrid 48V ครับ
เพราะก่อนหน้านี้เดินทางกันไปถึง plug in แล้ว
กลับไปแบบนี้นี่ คงต้องมีสาเหตุครับ พอจะทราบไหมครับ
ค่ายยุโรปเริ่มมีปัญหากับเครื่องดีเซลครับ ซึ่งในอนาคตการทำเครื่องดีเซลให้ผ่านกฎมลพิษต่างๆจะต้องใช้ต้นทุนสูงมาก
ส่วนรถแบบ plug-in hybrid หรือ full EV ก็ใช้ต้นทุนการผลิตที่สูง แต่ระบบ mild hybrid สามารถลดค่ามลพิษของรถรุ่นใหม่ๆได้โดยที่ต้นทุนผลิตต่อคันนั้นเพิ่มขึ้นแค่ไม่กี่ร้อยยูโรเท่านั้นครับ อีกหน่อยรถยุโรปที่พ่วง mild hybrid น่าจะมีให้เห็นเยอะ
ขอบคุณครับ
จริงๆ ผมว่า Mild Hybrid ที่มอเตอร์ใหญ่ๆ หน่อยน่าสนใจนะครับ
ดูไม่ซับซ้อนเกินไป พอจะสลับเป็น EV ได้บ้าง ไม่ต้องมี ไดสตราท์ ไดชาร์ท ประหยัดไปได้มากครับ
แต่น่าเสียดายค่ายญี่ปุ่นดูจะไม่สนใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ครับ
ผมสงสัยครับคุณ V
ทำไม หลายๆ ค่ายโดยเฉพาะยุโรปถึงจะกลับไปใช้ Mild Hybrid 48V ครับ
เพราะก่อนหน้านี้เดินทางกันไปถึง plug in แล้ว
กลับไปแบบนี้นี่ คงต้องมีสาเหตุครับ พอจะทราบไหมครับ
ผมคิดว่าค่ายรถก็รู้ดีว่า Plug In ยังไม่ตอบโจทย์คนจำนวนมากครับ Mild Hybridจะไม่ซับซ้อนเท่าเพราะใช้ระบบปกติเพียงแต่เพิ่มชุดควบคุมกระแสไฟฟ้าและBASขึ้นมาทำให้ต้นทุนถูกกว่า Plug In พอสมควรเลยครับ และMild Hybridยังไม่ได้ทำให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นมากเหมือน Plug In อีกด้วย ถ้า Plug In ได้ระยะทางวิ่งสัก 80-100โล แบบนี้ถึงจะน่าใช้ครับ ระยะทางตอนนี้เคลมไว้30-40โลแต่วิ่งจริงๆแค่20โลแบตก็หมดแล้ว หนำซ้ำระบบเบรคและการตัดต่อยังไม่เนียนด้วยอีกต่างหาก
ขอบคุณครับ
เข้าใจละครับ
-
รู้สึกว่ารัฐบาลไทยยังไม่จัด Hybrid 48V อยู่ในกลุ่มภาษีรถไฮบริดครับ
เห็น Mazda กำลังวิ่งเต้นกับรัฐบาลในเรื่องนี้อยู่
-
E53นี่ใช่Mild Hybrid 48V ป่าวครับ เห็นบอกมีมอเตอร์สองตัว
-
E53นี่ใช่Mild Hybrid 48V ป่าวครับ เห็นบอกมีมอเตอร์สองตัว
ดูจากแรงม้า22แรงน่าจะเป็น48V Mild Hybrid ครับ
-
ใช่ครับ พวกรหัส AMG 53 (3.0 V6 + Mild Hybrid) เอามาแทรกระหว่าง AMG 43 (3.0 V6) กับ AMG 63 (V8+)
E53นี่ใช่Mild Hybrid 48V ป่าวครับ เห็นบอกมีมอเตอร์สองตัว
-
ผมวางแผนซื้อรถคันใหม่ใช้ยาว มาแบบนี้ไปไม่ถูกเลย อยากได้แต่ไม่รีบครับ
-
8) 8) 8) 8)
-
รอติดตามเลย 8)