Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Highway Star ที่ เมษายน 28, 2018, 11:14:40
-
เคยได้ยินมามากแล้ว ว่ารถที่แต่งที่ยุ่งกับความแรงเครื่องจะโทรมไวกว่าปกติ เดี๋ยวก็พังรถแต่งควรอยู่แต่สนามเท่านั้น ส่วนตัวผมก็ใช้รถที่ทำมาบ้างนิดหน่อยเช่นกันเป็นdmaxโฉมที่แล้วมีดันราง หัวฉีด รีแมพ จูนไม่หนักควันไม่ดำมากเบิ้ลตัดควันท่วมไม่เอา ใช้มา5หมื่นโลยังไม่มีปัญหาอะไร เลยไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่มองว่าอยู่ที่การเลือกของช่างที่ทำสเตปการจูนหรือคนใช้รถมากกว่า
เพื่อนๆพี่ๆมีใครใช้รถที่แต่งบ้างมั้ยครับ ทั้งท่อกรองกล่อง รีแมพ หรือจะสเตปเยอะทำใส่ ขัดพอร์ต เจียร์แคม ทำโบ หัวฉีด ใช้งานกันได้ดีปกติมั้ย รถเบนซินหรือดเีซลสเตปไหนก็ได้ ลองแชร์ให้ฟังหน่อยครับ
-
ผมว่าเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นนะครับ รถแต่งมันก็มีนู้นมีนี่ให้ทำตลอด อยู่ที่มากน้อยแค่ไหน ไม่งั้นรถสปอร์ตแรงๆราคาแพงๆเขาจะขายได้อย่างไง
ส่วนรถทำ ทำแล้วใช้งานได้ประมาณไหนก็อีกเรื่อง ความรู้สึกจุกจิกของแต่ละคนผมว่าไม่เท่ากัน ของผม ขยายความจุ เปลี่ยนลูกสูบ ก้านสูบ ข้อเหวี่ยง ใส่แค็มแต่ง จูนกล่อง ใช้งานมา 2 ปี วิ่งไป 8 หมื่นโล วิ่งทำงานเข้าเมืองรถติด วิ่งออกต่างจังหวัดตามปกติก็ยังใช้ได้อยู่ครับ มีทำนู้นทำนี่ตามประสารถดัดแปลง
แต่อย่างไงส่วนผมก็ว่า เครื่องเดิมโรงงานเขาดีที่สุดละครับ ระดับวิศวกรเป็นสิบช่วยกันคิดอย่างไงก็ดีกว่าครับ
-
รถผมก็ทำ ไม่เห็นแปลก รีแมปทุกคัน..แต่ไม่เลือกแรงมาก
ถ้าไม่ทำจนเกินกำลัง ไม่มีปัญหาอะไรครับ สี่สูบ สามร้อยม้า ไม่เท่าไร แต่ถ้าสี่ร้อยม้า อันนี้ต้องทำมากหน่อย..
-
รถดัดแปลงมีปัญหามากกว่ารถเดิมๆอยู่แล้ว มากหรือน้อยแตกต่างกันไปอยู่ที่เจ้าของรถจะรับได้หรือเปล่า ถ้าใช้เดิมๆก็ประหยัดดี ขับใช้งานไปวันๆ ตรวจเล็กตามระยะทาง ถ้าใช้รถแต่งเดี๋ยวก็ต้องแต่งนู่นแต่งนี่ไปเรื่อยๆ สนุกดีแต่เปลืองเงินครับ
-
แต่งแบบรู้ลิมิตก็ไม่พังหรอก
ยกตัวอย่างเครื่อง KD เปลี่ยนหัวฉีด โบเดิม แต่จูนจนสุดลิมิต ได้ม้ามา 300 กว่าตัว
สุดท้ายพังเพราะท้ายรางแข็ง บู๊สไหล แรงดันไม่ระบายออก ปั้มแตก โบขาด
แต่ถ้าคนขับรู้ลิมิต จูนเอาพอประมาณ เครื่อง KD ซัก 250 ม้าก็ควรพอได้แล้วถ้าจะใช้ยาวๆ
รถบางรุ่นเครื่องไหวแต่คลัชลื่นก็มี จูนมากไปก็ขับยาก คลัชแข็งไปก็ใช้งานลำบาก
ยิ่งพวกเกียรออโต้ เผลอๆเกียรพังก่อนเพราะแรงบิดเยอะไป
พอยิ่งทำ มันมาเรื่อยๆครับ
ช่วงล่างก็ต้องทำ เพราะเครื่องแรงเกินช่วงล่างจะรับไหว
เบรคก็ต้องเปลี่ยน เพราะเอารถไม่อยู่
ยางก็หมดไว ต้องใช้เกรดดีๆไม่งั้นตาย
จุดสูงสุดของการแต่งรถแนว Street use คือความสมดุล
ใช้ยาว บู๊ได้ รักสงบได้ ไม่นอนอู่ กระเป๋าตังไม่ฉีก ขับชิวได้ รับสาวได้ แม่ยายไม่บ่น
-
มีเยอะแยะครับ เช่น เราจะทำ 300 ม้า ก็ทำใส้ทำเครื่องให้ทนระดับ 500ม้า แค่นี้ก็เหนียวทนจะแย่อยู่แล้วครับ จะอัดจะแช่ตามสบายเลย
-
ฟอร์จูนเนอร์ 3.0 4WD ติดกล่องดันราง ยกหัวฉีด ปลดล็อคความเร็วปลาย
ใช้งาน 7 ปี วิ่งเกือบ 200,000 กม. เติมดีเซล B5 ซะส่วนใหญ่(ในยุคนั้น ยังมีดีเซลธรรมดาให้เลือกใช้)
ลงแข่ง Drag สนามเทพนครบ้าง สนามคลอง 5 บ้าง แข่งเล่นๆ ขำๆ
ใช้จนขายรถไป เทอร์โบไม่หอน เกียร์ไม่พัง ควันไม่ขาว เครื่องไม่โทรมครับ ไม่เคยนอนอู่
วิ่งทางไกล ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแม้แต่ครั้งเดียว (อันนี้เล่าสู่กันฟังเฉยๆ :) ;) :D )
-
ไม่พังครับ ถ้าแต่งปกติ
-
รถผม 121 >>> 220 ถามว่าทนไหมก็ทนครับ
ไม่เคยต้องเปิดฝา แต่ต้องดูแลสายพานมากๆหน่อย บางทีกดมากๆมันยืดบ่อยๆ
นอกนั้นก็ดูแลเรื่องน้ำมันเครื่องต้องใส่ใจ น้ำมันเบรค แล้วก็น้ำยาหม้อน้ำ ::) ::)
-
ขึ้นกะเจ้าของรถึรับ
ไปแต่งแบบไม่ฉลาด พังแน่นอน
แต่แบบมีความรู้ ไม่พังหรอก แล้วเราจะได้รถที่ตรงกับบุคลิกเรามากขึ้นด้วยครับ
-
แต่งพอประมาณ ไม่เค้นเครื่องจนเกินไป ใช้งานไม่หนักมาก บำรุงรักษาให้เหมาะสมด้วย รถแต่งก็จะอยู่กับเรายาว ๆ ได้ครับ
-
ถ้าแต่งเล็กๆน้อยๆเครื่องยนต์ ก็ทนเหนียวอยู่นะครับ
รถ86ผม เปลี่ยนแค่จูนe85 ม้าจาก160-->190ประมาณ 20% ไม่ได้ใส่ออยเครื่อง
ใช้งานอย่างโหด ลงแทรค 1-2เดือนครั้ง ลากชนred line ทุกเกียร์ ต่อเนื่องกัน 1/2 ชั่วโมงแล้วพัก แล้วไปลงใหม่ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเครื่องนะครับ
แต่สิ่งที่ไปก่อนเพื่อนเลยคือเบรค เบรคเดิม ขับทำเวลา เอาไม่อยู่ กระทืบจาก200-->60 กม/ชม บ่อยๆ ไหม้ทั้งผ้าทั้งจาน สุดท้ายต้องเปลี่ยนทั้งชุดของap ตั้งแต่นั้นมา ไม่มีปัญหาอีกเลย
-
รถแต่ง หรือไม่แต่ง ถ้าเจ้าของรถ "ขับเป็น" ดูแลถึง มันก็ทน
ถึงรถเดิม แต่เจ้าของรถ อัดบ่อยๆ ออกตัวแรง เบรคกระทืบ ลากรอบยันเรดไลน์ทุกเกียร์ ไม่นานก็พัง
แต่ถ้าพูดถึงเฉพาะรถแต่ง ที่เน้นไปที่ความแรง
แน่นอนว่ายิ่งแรงมาก ยิ่งพังไวมาก อันนี้จริงแท้ แน่นอน
ถ้าเจ้าของรู้จัก "พอเป็น" "ขับเป็น" "ดูแลถึง" อันนี้ มันถึงจะอยู่รับใช้ได้นาน
สมัยหนุ่ม ผมมี Isuzu มังกรทอง 90HP ไม่มี turbo มา ยังเอาไปยัดเพิ่มที่ร้านแถวรามอินทรา
ใส่ Turbo Nissan Z18 มา boost 7psi ตั้งแต่สองหมื่นกว่าโล ยันขายไปเกือบ สามแสนโล
ท่อไอเสียตรงยิงหน้าเพลา ปั้มเดิมแต่งสปริง คลัทช์เดิม เฟืองท้ายเดิม
ล้อ Lorinser RSK2 ขอบ17"+ ยาง yokohama AVS 215/45-17 (ยางกับล้อ แพงมากกกกก ในสมัยนั้น)
เว้าแชสสีย์ หัวเพลา โขกกระบะท้าย หูแหนบกล่องฟิลม์แนวนอน
ขับโหด ไล่กับพวก 1G-GTE, 1G-GZE ได้สบาย แต่ถ้าเจอ 7M-GTE ต้องยอมให้เขา ยังไม่พังเลย
(ฺฺBoost ค่อนข้างต่ำ แต่สมัยนั้นเรียกว่า กลางๆ นะ รถเดิมๆ จากโรงงานส่วนใหญ่ boost ประมาณนี้ สูงสุดส่วนใหญไม่เกิน 14psi)
รถเบนซินของผม เช่น Subaru GFT 1800 2DRs, Civic 1.6 VTEC, C220 W202
โดยส่วนใหญ่ จะทำแค่ header ไปยันปลายท่อ แค่นั้น นอกนั้นยังไม่กล้าไปยุ่ง
โดยส่วนใหญ่รถของผม จะแต่งเน้นใช้งานจริง เน้นเหนียว และแรงขึ้นพอประมาณ และต้องมีค่าใช้จ่ายในการแต่งไม่สูงมากนัก
แต่ปัจจุบัน ผมจะแต่งรถน้อยลงมาก เพราะกลัวเรื่อง ประกันรถขาด รถรุ่นใหม่ๆ ระบบไฟมันเยอะขึ้น และดูเหมือนมันจะไม่ทนทานเหมือนรถรุ่นเก่าๆ
แต่ถ้าหมดประกันแล้ว บางอย่างที่ไม่พอใจ ก็ยังทำอยู่ ลองไปอ่านดู ที่นี่
เรื่อง Remap ตอนนี้ใช้มา หมื่นกว่าโล ก็ยังไม่เจอ ปห.ใดๆ
และที่สำคัญรถผม ไม่มีควันดำเหมือนรถ remap ทั่วไป ทุกอย่างใกล้เคียง STD
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=60971.0 (http://community.headlightmag.com/index.php?topic=60971.0)
-
อยู่ที่คนขับ รู้ลิมิตรถตัวเอง ดูแลของเหลวถึงและยี่ห้อดีๆ อยู่ได้นานครับ
รถดีเซลคอมมอนเรล เดิมๆ เอาเหนียวๆ 200-250 แรงม้าได้สบายๆ เกิน250 แรงม้าขึ้นไป ใส่ชุดKitแต่ง ลูก+ก้าน+ข้อ ถึงจะทน
ถ้าทำแรงม้า 250 ขึ้นไป เครื่องเดิมๆ ก้านคต
สิ่งสำคัญ ทำแรงแล้ว ทำช่วงล่างกับเบรคด้วย ถึงจะดีครับ