Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: poon_pp ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 21:44:18
-
ส่วนใหญ่ผมดูตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจากเวปนี้อยู่แล้ว
คือวัดที่ 110 km/ชม
เลยสงสัยว่า
ถ้ารถเก๋งที่ความเร็ว 80 110 140
จะมี aerodynamic ที่ดีกว่า
อัตราสิ้นเปลืองจะกินตามความเร็วที่เพิ่มขึ้นไม่เท่าไหร่
ผมเลยอยากถามสมาชิกว่าถ้าเป็นพวก
Cx5 CRV fortuner คาเยนน์
ที่เป็นรูปทรง suv ที่น่าจะต้านลมมากกว่าเก๋ง
วิ่ง 80 110 กินน้ำมันไม่น่าต่างจากเก๋งมาก
แต่ความเร็วสูงๆ กินน้ำมันเป็นอย่างไรครับ
ช่วยแชร์ประสบการณ์ทีครับ
-
ของผมกินไม่ต่างกันนะครับ ระหว่าง SUV กับเก๋ง ถ้าผมวิ่งต่างจังหวัดทางยาวๆ ขับ 120-180 ส่วนมากจะยืนพื้น 160-180 Km/H
NPJS AVG 9-10Km/L
Xv AVG 10Km/L
เทียบกับเมื่อก่อน
E60 525i M54 AVG 8-9Km/L
A6C5 2.4L AVG 7-8Km/L
มีที่ได้เยอะหน่อยก็
E90 320d Lci AVG 12-14Km/L
สังเกตุได้ว่า ขนาดเครื่องยนต์ น้ำหนักตัวรถ และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ มีผลมากกว่า รูปทรงครับ
-
ของผมกินไม่ต่างกันนะครับ ระหว่าง SUV กับเก๋ง ถ้าผมวิ่งต่างจังหวัดทางยาวๆ ขับ 120-180 ส่วนมากจะยืนพื้น 160-180 Km/H
NPJS AVG 9-10Km/L
Xv AVG 10Km/L
เทียบกับเมื่อก่อน
E60 525i M54 AVG 8-9Km/L
A6C5 2.4L AVG 7-8Km/L
มีที่ได้เยอะหน่อยก็
E90 320d Lci AVG 12-14Km/L
สังเกตุได้ว่า ขนาดเครื่องยนต์ น้ำหนักตัวรถ และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ มีผลมากกว่า รูปทรงครับ
ถ้าจะเปรียบเทียบการสิ้นเปลืองน้ำมัน ต้องเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ชนิดเดียวกัน ขนาดเดียวกันด้วย เปรียบเทียบเครื่องยนต์ข้ามชนิด ยุค วัดกันลำบากครับ
-
สังเกตุได้ว่า ขนาดเครื่องยนต์ น้ำหนักตัวรถ และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ มีผลมากกว่า รูปทรงครับ
ผมเห็นด้วยนะครับ
ตัวอย่างคือ CH-R กับ Altis เครื่อง 1.8 ตัวและเกียร์ตัวเดียวกัน กำลังเท่ากัน ทุกอย่างเหมือนกัน
แต่กลายเป็น CH-R กลับประหยัดกว่า ทั้งๆที่ตัวรถต้านลมมากกว่า แถมยังหนักกว่าร่วมๆร้อยกิโลกรัม
แต่อัตราเร่ง แน่นอนว่า Altis ดีกว่า
หรือ D-Max 3.0 กับ Mu-X 3.0 ทั้งๆที่ D-Max ตัวเบากว่า แต่กลายเป็น Mu-X กลับประหยัดกว่า
อันนี้ช่วยไม่ได้ เพราะท้ายกระบะมีลมหมุนวน ย่อมลงผลต่ออัตราสี้นเปลืองมากกว่าทรงกล่องเรียบๆ
-
ถ้าจะเทียบเรื่องแบบนี้ ต้องเทียบที่
1.เครื่องยนต์เดียวกัน
2.map/tune เดียวกัน(ถ้าไม่ได้อาจจะข้ามตรงนี้ไป)
ยกตัวอย่างเช่น 320d, 520d, X1 20D, X3 20D เป็นต้น
แล้วทีนี้จะเห็นทันทีว่า หมู่ หรือ จ่า น่าจะชัดเจน ซึ่งผมก็มองว่า เก๋ง ประหยุดกว่า SUV อยู่แล้ว ไม่ว่าด้วยน้ำหนัก และ แอโรไดนามิค
-
โดยหลักการ ปัจจัยที่กินน้ำมันมากกว่า ถ้าคนขับและการจราจรต่างๆ แบบเดียวกัน
- ต้านลมมากกว่า
- ยางหน้ากว้างมากกว่า
- เส้นรอบวงยางมากกว่า
- ความจุกระบอกสูบมากกว่า
- นน. ทั้งตัวรถ และรวมบรรทุก มากกว่า
- อัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายที่เกียร์สูดท้ายสูงกว่า
- ความละเอียดในการจ่ายของหัวฉีด
- ความละเอียดของ ECU ที่ควบคุมทั้งคัน
- ระบบปรับอากาศและอำนวยความสะดวกต่างๆ
-
แชร์ข้อมูลรถตัวผมเองแล้วกันครับ CX5 Gen1 นะครับ
ขับ 80-90 ได้อัตราสิ้นเปลือง 13-14 ก.ม./ลิตร ด้วย E20
ขับ 90-110 ได้อัตราสิ้นเปลือง 12-13 ก.ม./ลิตร ด้วย E20
ขับ 90-110 ได้อัตราสิ้นเปลือง 12.5-13.5 ก.ม./ลิตร ด้วย E10
ขับ 120 - 140 ได้อัตราสิ้นเปลือง 11-12 ก.ม./ลิตร ด้วย E20
เกินกว่านี้ ไม่กล้าขับครับ กลัวตายลูกยังเล็ก 555
ตอนนี้ราคาน้ำมันเริ่มแพง เลยพยายามคุมรอบนิ่งๆ กับขับแถว 80-100 รู้สึกเลยว่า รถประหยัดขึ้นเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ที่อยากจะกดก็กด น้ำมันก็ลดฮวบๆ 555
-
ขอเทียบง่ายละกันคับ
CH-R กับ Altis
HR-V กับ Civic
B-Suv หนักกว่า ต้านลมกว่า
น้ำหนักมีผลโดยตรงในความเร็วต่ำ
ขอเทียบเป็น 2 ระดับความเร็ว
ในเมือง ความเร็วไม่เกิน 80 เร่งๆหยุดๆ
รถที่มีน้ำหนักมากกว่า ต้องใช้แรงในการออกตัว มากกว่า
B-Suv กิน 8-10 KM/L
C-Seg กิน 10-12 KM/L
นอกเมือง วิ่งยาวๆ ความเร็วไม่เกิน 130
เมื่อใช้ความเร็วในระดับหนึ่ง รถจะมีแรงยกของตัวมันเอง
ทำให้น้ำหนักไม่มีผล หรือที่เรียกกันว่า ลอยลำ ยกตัวอย่างรถบัส เป็นต้น
และที่สำคัญ น้ำหนักที่มากกว่า ทำให้เกิดการแหวกอากาศได้ดีกว่า
ทำให้รถใช้กำลังจากเครื่องยนต์ไม่มาก ดังนั้น อัตราสิ้นเปลืองเลยแทบไม่ต่างกัน
ในความเร็ว ไม่เกิน 130 เมื่อนำ aerodynamic ความเสียดทานของอากาศ + น้ำหนัก B-Suv ได้เปรียบกว่า
ถ้าเทียบรถเดิมๆ รถโรงงาน ในความเร็วสูงรถหนักยังไงก็นิ่งกว่ารถที่มี aerodynamic
-
คิดว่าที่ความเร็วยิ่งสูง SUV น่าจะยิ่งเสียเปรียบนะครับ
เช่น CX-5 2.5 ผม วิ่งทางด่วนบางปะอิน 110 ตลอดทาง 13 โล/ลิตร
แต่พอขึ้นบูรพาวิถี แช่ 130 ตลอดเส้น เหลือ 11 โล/ลิตร
ขณะเดียวกัน Accord 3.5 V6 วิ่งทางด่วนบางปะอิน 110 ตลอดทาง 10.5 โล/ลิตร
ขึ้นบูรพาวิถี แช่ 130 เหมือนกัน กิน 10 โล/ลิตร เปลืองขึ้นน้อยมากจนผมงง
-
ผมคิดเป็นตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้นะครับ แต่ไม่ต่างกันเท่าไหร่
-
VCM ไม่ได้วิ่งเต็ม 6 สูบ 3.5L ตลอดเวลา ยิ่งเท้าเบาๆด้วยแล้วเผลอๆอาจเหลือทำงานแค่ 3 สูบเลยประหยัดครับ
คิดว่าที่ความเร็วยิ่งสูง SUV น่าจะยิ่งเสียเปรียบนะครับ
เช่น CX-5 2.5 ผม วิ่งทางด่วนบางปะอิน 110 ตลอดทาง 13 โล/ลิตร
แต่พอขึ้นบูรพาวิถี แช่ 130 ตลอดเส้น เหลือ 11 โล/ลิตร
ขณะเดียวกัน Accord 3.5 V6 วิ่งทางด่วนบางปะอิน 110 ตลอดทาง 10.5 โล/ลิตร
ขึ้นบูรพาวิถี แช่ 130 เหมือนกัน กิน 10 โล/ลิตร เปลืองขึ้นน้อยมากจนผมงง