1 ปี / 20,000 กิโล กับ HRV ที่ใช้อยู่ ซ่อมตรงไหนอะ พบคำตอบได้ในนี้
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEze6E.jpg)
สวัสดีครับ ทุกท่าน หลังจากที่เขียน Review Honda HRV ของผมไปเมื่อปีที่แล้ว และโดนคุณพ่อสุดที่รัก ยึด Jazz GK SV สีเหลืองสดสุดที่รักของผมไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ชนิดที่ว่าผมแทบไม่ได้ขับมันจะ 4 เดือนแล้ว กลายเป็นว่า HRV คันนี้ มีผมเป็นผู้ขับขี่แต่เพียงผู้เดียวเป็นส่วนใหญ่ (จะว่ายึดก็ได้ 555 ) ซึ่งปัจจุบัน ผ่านมา 1 ปี ผมขับไปเกือบจะ 20,000 โล แล้ว ถือว่าเป็นปีที่ขับรถเยอะที่สุดเลยตั้งแต่ขับรถมาก็ว่าได้
(ตอนนี้ 1 ปี 1 เดือน 21,000 โลแล้ว)
พอเห็นโฆษณาทาง TV กับสโลแกนว่า HRV ที่ใช้อยู่ ชอบตรงไหนอะ (ซึ่งผมก็เองเคยตอบไว้ใน Review ที่แล้ว ว่ามันเหมาะกับผมแบบนั้นแบบนี้) ผมเลยได้ idea มาเขียน User Voice ฉบับนี้ หลังจาก 1 ปีที่ผ่านมา รถคันนี้ได้เข้าไปแวะเวียนกับศูนย์บริการมาแล้ว 13 ครั้ง จนผมติดใจรสชาติของโจ๊กหมูใส่ไส้และตับ ที่เป็นเมนูอาหารเช้าที่ศูนย์ 555 เลยอยากจะมาแชร์ให้อ่านกัน โดยขอตั้งชื่อหัวข้อว่า
HRV ที่ใช้อยู่ ซ่อมตรงไหนอะ พบคำตอบได้ในนี้ครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEzLRv.jpg)
ต้องจำแนกก่อนว่า 13 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการเข้าเช็คระยะ 2 ครั้ง เปลี่ยนป้ายและติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม 1 ครั้งที่เหลือเป็นการตรวจสอบปัญหาและเคลมคุณภาพทั้งหมด ซึ่งมีปัญหาตั้งแต่ป้ายแดง (สงสัยดวงผมจะซวย) แต่โชคดีที่ปัญหาตอนป้ายแดงนั้น เป็นแค่การประกอบไม่เรียบร้อย ปัญหาใหญ่ขึ้นมาหน่อยนั้น ออกจากหลังจากใช้มาเกิน 6 เดือนแล้ว ซึ่งผมจะขอไล่ Timeline การเข้าศูนย์ทั้งหมดดังต่อไปนี้
ข้อมูลเบื้องต้น
HRV คันนี้ เป็นรุ่น E-Limited MY2016 สีเทา Ruse Black Metallic รับรถเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2017 และเท่าที่ทราบรถคันนี้ผลิตช่วงต้นเดือนเมษายน 2017 จึงไม่ใช่รถค้างสต็อค แต่อย่างได้ และรถคันนี้เข้าศูนย์ตลอดทั้ง 13 ครั้ง ที่ ศูนย์เอกอินทรา Honda cars ตรงถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เลย The Crystal Park ไป 100 เมตร
รายละเอียดการเข้าศูนย์
ครั้งที่ 1 เคลมไฟส่องป้ายทะเบียนด้านหลัง หลุดออกจากเบ้า ช่างก็เก็บสายและเสียบเข้าตำแหน่งให้ก็หายสนิท
ครั้งที่ 2 แจ้งเคลมเบาะคนขับมีเสียงดังเวลาขับขี่ เสียงจะคล้ายๆกับเสียงไม้เก่าๆลั่น ช่างแก้ไขโดยการปรับตั้งรางเบาะใหม่ และเสริมวัสดุซับเสียงเพิ่มเติมให้ ก็หายสนิท
ครั้งที่ 3 เคลมมุมขวาของกันชนหน้าหลวมและยื่นออกมา (ตามภาพ) ช่างแก้โดยการปรับตั้งให้เข้าที่ ใช้ได้สักพัก ก็กลับมาเป็นอีก
Cr.ภาพ www.hondahrvclub.com (ภาพแทนเนื่องจากไม่ได้ถ่ายภาพรถตัวเองไว้ และปัจจุบันยังไม่มีอาการ)
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEzyWN.jpg)
ครั้งที่ 4 เข้าเปลี่ยนป้ายทะเบียน และติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง Honda เพิ่ม (ไฟส่องสว่างที่เท้าคู่หน้า) ช่างติดตั้งงานได้เรียบร้อย และตรวจพบมุมกันชนหน้าขวาหลวมและยื่นออกมา รอนัดเข้าเคลมอีกครั้ง
ครั้งที่ 5 เคลมมุมขวาของกันชนหน้าหลวมและยื่นออกมา ครั้งที่ 2 ช่างแก้โดยการปรับตั้งให้เข้าที่ ใช้ได้สักพัก ก็กลับมาเป็นอีก
ครั้งที่ 6 เคลมมุมขวาของกันชนหน้าหลวมและยื่นออกมา ครั้งที่ 3 ช่างแก้โดยการปรับตั้งให้เข้าที่ แต่มุมของโคมไฟหน้ากลับยื่นออกมาจากตัวรถมากผิดปกติ นัดเข้าเคลมอีกครั้ง
ครั้งที่ 7 เคลมมุมของโคมไฟหน้ากลับยื่นออกมาจากตัวรถมากผิดปกติ ช่างแก้โดยการปรับตั้งให้เข้าที่
ครั้งที่ 8 เช็คระยะ 6 เดือน / 10,000 กิโล ตามปกติ พร้อมเคลมมุมขวาของกันชนหน้าหลวมและยื่นออกมา ครั้งที่ 4
ช่างแก้โดยการปรับตั้งให้เข้าที่ ปัจจุบันยังไม่เกิดปัญหาซ้ำ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEzF1V.jpg)
ครั้งที่ 9 เข้าแจ้งตรวจสอบเบรคมือมีเสียงดังเวลาทำงาน ช่างทำการตรวจสอบและส่งเรื่องไปยังบริษัทแม่ เพื่ออนุมัติเคลมและส่งอะไหล่ใหม่มาให้ จากน้าก็รับรถกลับมา ใช้งานได้ตามปกติ รอทางศูนย์ติดต่อกลับ
Cr.ภาพ www.hondahrvclub.com
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zE4Cbn.jpg)
ครั้งที่ 10 3 สัปดาห์หลังตรวจสอบ ก็ได้รับแจ้งให้เข้าเคลมชุดคาลิปเปอร์เบรคคู่หลัง (ชุดละ 13,xxx บาท) ช่างเปลี่ยนอะไหล่ให้ตามที่แจ้งแคลม แต่ต้องเสียค่าน้ำมันเบรคเอง 260 บาท เอาจริงๆมันไม่ควรเสียปะ แต่ก็เอาเถอะครับ ได้เคลมก็ดีใจแล้ว ตอนนี้ยังเงียบอยู่นะ แต่ใน Club บางคันก็มีรอบ 2 กันบ้าง
ครั้งที่ 11 หลังจากครั้งที่ 10 ประมาณ 2 สัปดาห์ พ่อเอารถไปขับแล้ว แล้วมาบอกว่าเบรครถมีอาการแปลกๆ ต้องเหยียบลึกกว่าเดิม ผมเลยเอากลับไปตั้งเบรคและไล่ลมเบรคใหม่ทั้งระบบ โชคดีที่ศูนย์ลงไว้ว่าเป็นอาการต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว เลยไม่เสียค่าใช้จ่ายช่างแก้ไขให้เรียบร้อย ปรากฏว่า พ่อผม Happy แต่ผมซึ่งเป็นคนใช้รถคันนี้เป็นหลัก กลับรู้สึกว่ามันประหลาดกว่าเดิม ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ผมก็ยังไม่ชิน
ครั้งที่ 12 เช็คระยะ 12 เดือน / 20,000 กิโล ตามปกติ พร้อมแจ้งปัญหาไฟบอกตำแหน่งเกียร์ดับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEzJzk.jpg)
ครั้งที่ 13 เคลมเปลี่ยนชุดแผงวงจรไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ใช้เวลาตรวจสอบและส่งเรื่องไปบริษัทแม่ 1 วัน และวันรุ่งขึ้นได้ก็ได้อะไหล่มาเปลี่ยน ช่างดำเนิการให้เรียบร้อย แต่ประกอบงานไม่สนิท ซึ่งผมก็แก้เองภายหลัง
ครั้งที่ 14 หวังว่าจะไม่มีอะไรอีกนะ เหนื่อยแล้วอะ เข้าเช็คระยะอย่างเดียวก็พอนะ
ถามว่าเบื่อมั้ย มันก็เบื่อนะ พูดกันตรงๆว่า รถเราซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อซ่อม เราก็อยากใช้งานมันไปแบบที่ไม่มีปัญหาจุกจิกใดๆทั้งสิ้น และมันก็เสียเวลาเอารถเข้าศูนย์อยู่บ่อยๆ บางทีศูนย์ขอให้เข้าวันธรรมดา เพราะคิวันเสาร์เต็ม ถ้ามันสำคัญจริงๆ ผมก็ต้องลางานบ้าง หรือขอเข้าสายบ้าง ให้รถได้ซ่อม ได้เคลม ยังดีที่ไม่เจอปัญหาหนักๆแบบขับๆไปแล้วดับ หรือ จอดเสียข้างทาง ไม่งั้นผมคงเดือดร้อนกว่านี้
ส่วนอาการอื่นๆที่ในคลับเจอแต่ผมยังไม่เคย ก็มีปัญหา Push Start เสีย จับสัญญาณกุญแจไม่ได้ และตอนนี้เกียร์ CVT เริ่มมีอาการกระตุกนิดๆ เวลาถอนคันเร่งช่วง 40 หวังว่า เช็ค 20,000 เปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้วอาการดีขึ้น ยังไม่อยากเจอหายนะกับเกียร์ และหวังว่าจะอยู่กันไปนานๆอย่างน้อยๆ ขอ 8 ปีนะ ยังไม่มีความพร้อมจะซื้อรถใหม่ภายใน 8 ปีนี้
ที่สำคัญ ผมโชคดีที่ศูนย์เอกอินทรา Honda Car ที่ผมเข้านั้น SA บริการดีมากๆ ไม่ว่าจะเจอ SA คนไหน ดีหมด ดูแลผมต่อเนื่องด้วย และเวลาแจ้งเคลมคุณภาพนั้น ไม่มีการเล่นแง่หรือบ่ายเบี่ยงใดๆเลย บางครั้ง SA นั่นแหละ ที่เจอว่ารถผมมีปัญหา ให้รีบเข้ามาเคลม เซลล์ที่ขายรถให้ผม ก็บริการดี แม้กระทั่ง Broker ประกันภัยของศูนย์ก็บริการดี Request อะไรไปก็จัดการให้หมด จนผมซื้อประกันภัยกับศูนย์ทั้ง 2 คัน
แต่ว่างานประกอบศูนย์นี้ ผมว่ายังต้องปรับปรุงอีกเยอะ และเคยได้ข่าวจากใน Web board ที่นี่ มาว่าศูนย์นี้ไม่โอเคเรื่องซ่อมสี ซึ่งผมก็ยังไม่เคยลองใช้บริการแต่อย่างใด (และไม่อยากใช้ด้วย)
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zENsgR.jpg)
เดี๋ยวเอารูปมาใส่ให้นะครับ
เอาหละครับ ปล่อยๆปัญหามันไป ถ้าเป็นใหม่ ก็เข้าเครม 555 มาดูเรื่องสนุกๆจากความซนของผมกันบ้าง ตลอด 1 ปีที่ผ่าน HRV ของผมค่อยๆเปลี่ยนไปทีละเล็ก ทีละน้อย เพิ่มนั่น เพิ่มนี่ ไปเรื่อยๆ ตามความชอบของตัวเอง และตามคำสั่ง ของบิดาและมารดาผู้เป็นที่รักยิ่ง ซึ่งปกติจะห้ามและบ่น แต่มารอบนี้กลับสั่งให้ไปทำพร้อมสนับสนุนงบประมาณด้วย เล่นเอาผมงงไปเลย 555 ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันครับ
1. ฟิล์มกรองแสง Midas Photochromic 20
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEfpyN.jpg)
Cr.ภาพ Facebook: Shine Club
ถือว่าเป็นของแต่งรถชิ้นที่แพงที่สุดเท่าที่เคยซื้อเองก็ว่าได้ ที่ตัดสินใจเปลี่ยนเพราะว่า ฟิล์ม 3M FX Series บานหน้า 40 รอบคัน 60 ที่ศูนย์แถมมาให้ ร้อนมากๆ จริงๆ ถ้าขับไปทำงานตอนเช้า กลับบ้านตอนเย็น มันก็พอไหวนะ แต่พอต้องขับไปประชุมระหว่างวัน ขับกลางวัน วันเสาร์-อาทิตย์ และขับไปทำงานต่างจังหวัดมากขึ้น ใช้ได้ 6 เดือน ผมเริ่มไม่ไหว ขับไปได้ประมาณ 10 นาที มันเริ่มร้อนจนแสบหน้า แล้วช่วงบนของพวงมาลัยเริ่มอุ่นๆแล้ว ยิ่งคอนโซลหน้านี่ไม่ต้องจับเลย ก็เลยตัดใจเอา Bonus ปลายปี เปลี่ยนฟิล์มใหม่ทั้งคัน
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEfLvS.jpg)
Cr.ภาพ Facebook: Shine Club
ตอนแรกกะจะเอา 3M Crystalline แต่คุณพ่อไม่ชอบบอกว่ามันใสไป ส่วน V-Kool เพื่อนหลายคนบอกว่าติดเรื่อง Easy Pass ต้องเจาะฟิล์ม ผมก็ไม่เอา แล้วพอดีร้านที่ผมทำ Ceramic Coating เข้าขาย Midas กับ VOX อยู่ ก็เลยว่าไปลองดู VOX เพราะ Midas แพงมาก แต่พอได้ลองในรถพี่เจ้าของร้านแล้ว ชอบ Midas มากกว่า แล้วโชคดีที่ตอนนั้นเป็นช่วง Motor Expo 2017 แล้ว Midas ลด 25% + ส่วนลดลูกค้าประจำที่ร้านให้ ห่างจาก Crystalline ไม่มาก เลยจบที่ Midas ครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEfasE.jpg)
Cr.ภาพ Facebook: Shine Club
ฟิล์ม Midas รุ่นที่ผมติดเป็นตัว Photochromic ซึ่งเป็นตัว Top สุดของ Midas เท่าที่ทราบคือ เป็นของ USA ภายนอกดำสนิท แต่ภายในสว่าง จุดเด่นอยู่ที่ฟิล์มสามารถปรับเปลี่ยนสีให้เข้มขึ้นหรืออ่อนลงได้ตามอุณหภูมิและแสงสว่าง แล้วก็กันร้อนได้ 98% UV99.99 % ไม่มีปรอท ไม่บล็อค Easy Pass สำหรับความเข้ม ผมเลือกเป็น Photochromic 20 (60%) รอบคัน จริงๆลอง 80% มาแล้วก็มองเห็นนะครับ แต่ที่บ้านให้เอาแค่ 60% พอ และอีกสิ่งที่ทราบคือ การติดตั้ง พี่เจ้าของร้านบอกจะต้องเรียหให้เจ้าหน้าที่จาก Midas เป็นผู้ติดตั้งเท่านั้น ที่ร้านติดเองไม่ได้
ปัจจุบันผมใช้มา 5 เดือนแล้ว รู้สึกได้ชัดเจนว่า กลางวันร้อนน้อยลงมากๆ อาการแสบหน้าจะมีบางก็ต่อเมื่ออุณหภูมิเกือบ 40 แล้วแดดจัดมากๆ หรือแดดส่องตรงๆ แต่ถ้าปกติทั่วไปไม่รู้สึกเลย แสงสะท้อนบนคอนโซลหน้าลดลงแบบรู้สึกได้ ส่วนกลางคืน ขับสบายมาก ใสพอๆกับฟิลม์ 40 ของเดิมเลย ผมขับไปกาญจนบุรี ตอน 3 ทุ่ม บนถนนไม่มีไฟได้สบายครับ มีข้อควรระหว่างอย่างเดียวที่เจอคือ อย่าติด Easy Pass บริเวณไข่ปลาเด็ดขาด เพราะฟิล์มมีกาวไม่เยอะ รถผมหลุดมาแล้ว (หรือมีผมติดอยู่คนเดียว 5555) นอกนั้นไม่มีอะไรครับ
ถ้าใครจะติดฟิล์มใหม่ผมแนะนำตัวนี้ครับ สิ้นปีนี้ผมว่าจะเอา Jazz GK ไปติดอีกคัน
2. ฟิล์มใสกันรอยคอนโซลกลาง + ใต้จอแอร์
ร้านทำ Ceramic Coating ติดมาให้ (เหมือนจะเอารถผมเป็น Draft มั้ง) แนะนำให้ใครๆที่ใช้รถที่คอนโซลหรือจุดอื่นๆ เป็น Piano Black ไปหามาติดซะ เพราะมันเป็นรอยขนแมวง่ายมาก รู้สึกว่าจะไม่กี่พันบาทเอง ผมเห็น CX5 ใหม่หลายๆคันติดทั้งภายนอกและภายใน ครบ Set ไม่น่าจะแพงมากครับ
3. Sticker เส้นกระจังหน้าสีไททาเนียม + ฟิล์ม Daylight สีฟ้า และ Carbon 6D กระจกมองข้าง
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEhJIR.jpg)
อันนี้เป็นความประสงค์ของคุณแม่ ที่ไปเห็น HRV คันนึง ติด Sticker เส้นกระจังหน้าสีไททาเนียม แล้วชอบ ก็เลยมาบอกผมให้เอาไปติดบ้าง ผมก็เลยใช้บริการร้าน Sticker ประจำที่เคยใช้ แต่กว่าจะได้คิวนั้นยากมาก เพราะลูกค้าเยอะ ดังนั้นไปทั้งทีก็จัดให้มันครบๆเลย
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEhGC8.jpg)
ตอนแรกกะจะเพิ่มแค่ ฟิล์ม Daylight สีฟ้า แต่คุณพ่อผมเห็น HRV คันนึงใน Facebook ร้านติด Carbon ที่กระจกมองข้างแล้วสวย แล้วท่านคิดว่า ถ้ามีอะไรมาขูดจะได้เป็นรอยบน Sticker ก็เลยให้ผมติดเพิ่มด้วย เบ็ดเสร็จหมดไปเกือบ 4 พัน ได้งานสวยและเนียบมาก แต่ออกมาแล้ว ทุกคนชอบ โดยเฉพาะของแถมอันนี้
หลังจากติดได้ไม่นาน คุณพ่อก็ยื่นซองมาให้แล้วบอกว่า เอา Jazz ไปติดให้เรียบร้อยนะ เอาเหมือนกันเลย เอิ่ม!!!!!!!!!!! เบ็ดเสร็จก็ออกมาเป็นแบบนี้ครับ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEk7il.jpg)
เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ผมถูกถามบ่อยๆก็คือ ติด Daylight สีฟ้า ถูกตำรวจเรียกบ้างมั้ย ผมใช้มาหลายเดือนก็ยังไม่เคยโดนนะครับ
4. เลนส์กระจกมองข้างตัดแสง + ไฟเลี้ยว
อันนี้ความอยากล้วนๆ เห็นใน XV เพื่อนแล้วชอบ ผมเลยไปเปลี่ยนที่ร้านเครื่องเสียงประจำเจ้าเดิมที่ทำรถผมตั้งแต่ Review ครั้งที่แล้ว ซึ่งมีขายอยู่พอดี ราคา 2,500 บาท งานเนียบนี้ พอที่บ้านเห็นทุกคนชอบกันหมด และพ่อก็อยากได้ใน Jazz GK เหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่มีของสักที 555 ข้อเสียอย่างเดียวที่เจอคือ ถ้ามืดๆมากๆ เวลาเปิดไฟเลี้ยวจะมองกระจกไม่ค่อยเห็น
5. สวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ชุด 2015
เนื่องจากรถผมเป็นตัว 2017 แล้วไปติดจอ CR-V G4 MC มาแล้วไม่ได้เปลี่ยน สวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย จึงใช้งานได้ไม่ครบทุกฟังก์ชั่น ใช้ไปได้สักพัก ก็เลยจับเปลี่ยนเป็นของ HRV 2015 สะดวกขึ้น ราคาไม่แพงมาก 1,500 บาทพร้อมติดตั้ง โดยมีปุ่มเพิ่มขึ้น 3 ปุ่ม ดังนี้
- ปุ่มบนสุด เอาไว้เปลี่ยน Mode ของจอ ระหว่าง Navi >> Telephone >> Audio เมื่อก่อนต้องกดเมนูที่ขอบจอ
- ปุ่มล่าง เอาไว้เข้าฟังชันก์ย่อยๆของแต่ละ Mode ซึ่งอันนี้สะดวกกว่าเดิมมา โดยเฉพาะโทรศัพท์ เมื่อก่อนต้องกดที่จอ เดี๋ยวนี้ กดโทรด่วนบนพวงมาลัยได้เลย
- ปุ่ม Siri Eyes Free อยู่ต้องชุดรับโทรศัพท์ เอาไว้ใช้งาน Siri ถ้าต่อกับ iPhone และสามารถสั่งโทรออกด้วยเสียงตามที่เราบันทึกไว้ได้ (ไม่จำเป็นต้อง iPhone) ผมว่ามันสะดวกดีนะ แต่ต้องบันทึกเสียงให้ชัดเจนและแตกต่างพอสมควร ไม่งั้นระบบมันจะเอ๋อและไม่ยอมให้บันทึก เช่น ถ้ามีทั้งชื่อ เก๋ และ เอ๋ อาจจะบันทึก เก๋ ได้ แต่เอ๋ อาจจะต้องเป็น น้องเอ๋ หรือคุณเอ็ ประมาณนี้ครับ
6. Sensor มุมกันชน 4 จุด
อันนี้เป็นความประสงค์ของคุณพ่อ เนื่องจากท่านใช้ Camry แล้วไปติด Sensor หน้ามา ก็เลยใช้จนติด พอได้คันนี้มา ก็เลยให้ไปหาติด เพราะตอนแรกคันนี้พ่อจะใช้ ผมเองก็ไม่อยากเอา Sensor ถอยหลังมาแปลงติดข้างหน้า เพราะระยะจับมันไกลเลยร้องน่ารำคาญมาก (Camry พ่อติดแบบนี้) ส่วนของ Honda Accessories ก็ไม่มี
จนกระทั่งมีคนในนี้แนะนำให้ติดของ Toyota แบบที่ใช้ใน Camry Hybrid มันโอเคกว่า แล้ว Toyota Accessories ก็มีขาย ชุดละ 3 พันกว่าบาท เผอิญผมทำงานอยู่ใกล้ๆวรจักรพอดี ก็เลยลองหาซื้อดู จนไปได้ของ Corolla Altis สีดำมา ซึ่งรถผมสีเทา Ruse black ลองเทียบแล้ว สีไม่ได้ต่างกันมาก แต่ปัญหาอยู่ที่หาร้านติดตั้งไม่ได้ซักที จนผม Post ใน HRV Club แล้วร้านเครื่องเสียงเจ้าเดิมอาสาจะติดให้ ก็เลยจัดมา เบ็ดเสร็จรวมติดตั้ง ก็ 5000 นิดๆ แต่ติดตั้งยากมากๆ ใช้ 1 วันเต็ม แล้วก็เข้าไปแก้ระบบอีกเกือบครึ่งวัน ร้านเค้าเลยบอกว่าติดให้ผมคันเดียวนะ ไม่เอาแล้ว 55555 (ใครใช้ Toyota แล้วอยากติด กรุณาให้ศูนย์จัดการเลยครับ)
จากการใช้งาน ผมชอบตรงที่มันไม่ดังพร่ำเพรื่อ ต้องใกล้จริงๆถึงจะดัง รู้สึกว่า 60 ซม. จะดังถี่มาก 45 ซม.จะดังถี่มากๆ และ 30 ซม. ดังยาว ถ้าดังยาว ผมนี่หยุดทันที ส่วนจอแสดงผลนั้นก็จะบอกว่ามุมไหนดัง ไฟกระพริบใกล้-ไกลตามเสียงเตือน สำหรับฟังก์ชั่นการทำงาน มีดังนี้ครับ
- เข้าเกียร์ R จะทำงานทั้ง 4 ตัว
- เข้าเกียร์อื่นๆ จะทำงานเฉพาะ คู่หน้า
- ปิดไปเลย
แต่ถ้าติดกับรถ Toyota มันจะมีฟังก์ชั่น เปิด-ปิดอัตโนมัติตามความเร็ว อะรไประมาณนั้นครับ
7. ค้ำโช้คหน้า กับกันโคลงหลังล่าง
สืบเนื่องจากกระทู้นี้เมื่อปีที่แล้ว >>> http://community.headlightmag.com/index.php?topic=61553.0
ผมถามเรื่องติดค้ำกับกันโคลงแล้วมันจะช่วยให้ดีขึ้นมั้ย ถ้าไม่เปลี่ยนโช๊ค หลังจากนั้นก็คิดอยู่นานมาก ว่าติดดีมั้ย กลัวผิดหวังและเสียดายตังค์ แต่ก็อยากลองเผื่อมันจะดีขึ้น
จนเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ผมประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เลยอยากให้รางวัลตัวเอง 5555 ก็เลยมานึกถึง 2 อย่างนี้ พอวันนี้มีโอกาสเหมาะๆ ก็เลยจัดไป 1 ชุดเล็กครับประกอบตัว ค้ำโช้คหน้า กับกันโคลงหลังล่าง ราคารวม 4,000 บาท ยี่ห้อ Tsuyoi
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEfRPD.jpg)
ซึ่งหลังจากใช้งานมา วิ่งทั้งในเมือง และต่างจังหวัด จากความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ทางตรง ไม่มีอะไรต่างกับก่อนติดเลย เหมือนเดิมเป๊ะ อาจจะโคลงน้อยลงนิดนึงในบางจังหวะ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEfAs0.jpg)
แต่พอถึงเวลาต้องเข้าโค้งปุ๊ป เออมันดีขึ้นจริงๆนะ แบบรู้สึกได้ แต่แค่นิดเดียวนะ รถมันโคลงตัวน้อยลงนิดนึง ไม่ค่อยรู้สึกเหวี่ยงแบบก่อนติด เลี้ยวได้มั่นใจขึ้น บุคลิกเวลาเลี้ยว ใกล้เคียงกับ Jazz Gk มากขึ้น เอาเป็นว่า โดยรวมมันดีขึ้นนิดนึง ซึ่งผมก็ Happy กับมันนะ
(https://www.picz.in.th/images/2018/05/21/zEfPmu.jpg)
ถ้าถามว่าคุ้มมั้ย เอาจริงๆนะ ถ้าคุณมี Condition แบบผมที่ภายในระยะรับประกัน 5 ปี ถูกสั่งห้ามเปลี่ยนโช๊ค สปริง เด็ดขาด ผมก็โอเคกับ 4,000 ที่จ่ายไปนะ ถึงมันจะดีขึ้นแค่นิดนึงก็ตาม มันก็พอเห็นผลนะ แต่ถ้าคิดว่าจะเปลี่ยนโช๊คเป็นพวก Tein Flex Z หรือ Kayaba New SR แล้วมีงบพอนะ จัดไปเลยครับผมว่ามันน่าจะจบสุดและเห็นผลชัดเจนกว่ามากๆ
Project ถัดไป ถ้า HRV Minorchange มี Lane Watch จริง ตามที่ได้ข่าวมา ไม่แน่ว่า ของแต่งรถถัดไป อยากจะเป็นเจ้านี่ก็ได้ เพราะดูแล้วมันน่าจะมีประโยชน์กับผมมาก
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ
** Review นี้สงวนสิทธิ์สำหรับ www.headlightmag.com เท่านั้นนะครับ ห้ามนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยเด็ดขาด **