Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sacrifice ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 11:38:56
-
ตั้งแต่ ปลายปีที่แล้ว ยัง ผลัดๆ กันเป็นที่หนึ่ง กับ city
มาปี 2018 ปรับโฉมนี้ ขึ้นเบอร์ 1 ทุกเดือนเลย แล้วทิ้งห่างด้วย ซึ่งดูที่ปรับ ก็ไม่มีอะไร ว้าว เท่าไหร่
หรือเขามี โปรลดราคา ดาวน์ฟรี
ผมคิดว่าเพิ่มเงินอีกนิดได้ เครื่องใหญ่กว่า รถกว้างกว่า ศูนย์ดีกว่า มีดีกว่า แค่เกาะถนนมากกว่า ซึ่งขับในเมืองผมว่าไม่จำเป็น
อาจเพราะผมเป็นแฟน honda เลยไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนมาซื้อ mazda 2 กันเยอะขึ้น
-
น่าจะเพราะมีการโยกไลน์ผลิตรถกระบะออกแล้วเอามาผลิตรถเก๋งแทนเลยทำให้สามารถผลิตรถออกมาได้มากขึ้น แถมช่วงนี้โปรฯก็แรง รวมไปถึงคุณภาพการขับขี่และวัสดุที่ใช้นั้นดีเกินหน้าเกินคู่แข่งไปเยอะ ไม่นับเรื่องรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างโดนใจกลุ่มวัยรุ่นอีก
ซึ่งตอนนี้ Mazda สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่ารถขายได้ด้วยตัวของมันเอง แต่เรื่องเครื่องดีเซลก็ยังเป็นจุดบอดของ Mazda เจนนี้ ขนาดช่างที่ Mazda ยังไม่แนะนำให้ผมซื้อ CX-5 ดีเซลรุ่นใหม่เลย
-
มันนับรวม 2 ตัวถังครับ
ลองเอา City + Jazz แล้วเทียบกันใหม่สิครับ
-
หรือคนกลัว เกียร์ CVT จะพังกัน เลยหนีไปใช้ Auto ธรรมดาของ mazda แทน
-
กลุ่มลูกค้า ที่เป็นวัยรุ่นมีแนวโน้มว่าเลือกเจ้า 2 กันเยอะ เพราะดูทรงสปอร์ต สวยกว่า City
เครื่องเล็กกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า ก็เป็นข้อดีอีกอย่างครับ
และอย่าลืมว่า ยอดขาย 2 นับรวมทั้ง 4 และ 5 ประตู เข้าไปด้วยกันครับ
-
ขับ CVT มันไร้อารมณ์จริงๆ
อีกอย่าง Mazda 2 อัตราสิ้นเปลืองมันทำให้เป็นปัจจัยหลักในการเลือกรุ่นนี้
-
รถมันขายตัวมันเอง
-
ยิ่งถ้านับจากนี้ราคาน้ำมันมีแต่ขึ้น
ผมว่ายอดมาสด้า 2 จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะ
ยอมเขาจริงๆ เรื่องกินน้ำมัน
-
รถมันสวยด้วยครับ วัสดุดี สมราคา ออฟชั่นเยอะ
-
1. รถมันขายตัวมันเอง
2. มันรวม 2 ตัวถัง 2 segment เท่ากับยอด รถ 4 คัน
ปล. ถ้าท้ายไม่แคบ ยอดคงอลังกาล vios อาจหายไปจากตลาด
-
ลบภาพเก่าๆของมาสด้า2 ตัวเก่าหมดที่ขายแต่รูปทรงสปอร์ต แต่เครื่องอืดกินน้ำมัน ตอนนี้มาสด้าทุกรุ่นรูปทรงสปอร์ตเครื่องแรง ประหยัด เรื่องที่นั่งด้านหลังไม่สนใจอยู่แล้ว
-
มันนับรวม 2 ตัวถังครับ
ลองเอา City + Jazz แล้วเทียบกันใหม่สิครับ
มาสด้า 2 ที่นับรวม 2 ตัวถังได้ เพราะราคาขายทั้ง 2 แบบเท่ากันครับ ...
JAZZ กับ CITY ราคาขายไม่เท่ากันครับ เลยรวมกันไม่ได้ ....
-
- โปร ของแถม ส่วนลด อัดฉีดแน่นกว่า
- ตัวเลขความประหยัด รีวิวตามเวปต่างๆ อยู่อันดับต้นๆ ตาราง
- ออฟชั่น เทียบราคาต่อราคา City ได้ของเยอะกว่า จบกว่า
- การขับขี่ ช่วงล่าง ถ้าคนซื้อที่ลองขับก่อนซื้อ จะมาชะงักที่ MAZDA2 ทันที
- ถ้านับจาก cc. เครื่องยนต์ เป็นรถ Eco Car ที่ไม่เหมือน Eco Car เลย ยิ่งวัสดุภายใน ทำให้ city ดูก๊องแก๊งไปเลย
-
แบบนี้นี่เอง ทำไมมาสด้า2ถึงขายดี
-
สำหรับคนที่ใช้รถ โดยไม่เป็น สาวก ของค่ายไหน เลือกรถที่ตัวรถที่ถูกใจ มากกว่าเลือกยี่ห้อ ( แต่ก็ดูยี่ห้อ ประกอบไปด้วย ) ก็ไม่ยากที่จะตัดสินใจซื้อมาสด้า 2 นะครับ
ผมเองก็ไม่เคยคิดจะใช้รถยี่ห้อมาสด้ามาก่อนเลย
ไปๆ มาๆ ก็ได้ใช้มาสด้า 2 คันแรกเมื่อปี 2011 และก็เอาไปเทิร์นคันใหม่มาเมื่อปี 2017 ครับ
-
ปลายปีที่แล้ว เอาทั้งบ้าน
เด็กๆ 3 คนไปยัดอยู่ข้างหลังในรถ Test drive
คนโต 9 และเล็กสุด 5
คือกะว่า ไปส่งที่รร. เพื่อประหยัดน้ำมันนี่แหละ
แต่... เห็นเด็กๆนั่งเบียดๆกันแล้ว เฮ้ออออ
อดได้รถสวยๆ ประหยัดๆ มาใช้เลย
แต่ยอมรับเรื่องประหยัดจริงๆ โดยเฉพาะตัวดีเซล
ของน้องสาวขับจากกทม.ไปเชียงใหม่ไม่ต้องเติมน้ำมันเลย
-
คำตอบจากตัวเองที่เลือกมาสด้า2 ตัวดีเซล
1.ฟิลลิ่งเรื่องการขับขี่ ช่วงล่าง เบรค ดี ขับสนุก อันนี้คือเหตุผลหลักเลย
2.ประหยัด ได้ใจ น้ำมัน1 ถัง ใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั่วไป ทั้งในกทม. และวิ่งทางยาวบ้าง ขับแบบใช่งานจริงไม่ปั้นตัวเลขได้ระยะทาง650 กม. เฉลี่ยราว 17 -18กม/ลิตร หรือตกราว 1.73 บาท/กม.
3.รูปร่างสวย ภายในวัสดุ ดีพอควร
ข้อติคือด้านหลังแคบครับ
-
แค่คิดว่ามีดีกว่าแค่เกาะถนนกว่า ผมว่าก็ผิดแล้วครับ รถกว้างกว่าไม่ใช่ทุกอย่างของรถหนึ่งคัน ไม่ใช่กว้างกว่าจะขายดีกว่า หรือหมายถึงตัวรถดีกว่าแต่อย่างใดครับ
บางคนชอบรถกว้าง บางคนชอบฟีลลิ่งการขับขี่ดี บางคนชอบแค่รูปทรง นานาจิตตังกันไปครับ
กลับมาที่คำถาม ผมว่า 2 มันเจาะกลุ่มลูกค้าได้ถูกจุด ซึ่งก็คือกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการรถกว้าง แต่ต้องการฟีลลิ่งการขับขี่ดีๆ ยิ่งเป็นนักศึกษา หรือวัยทำงานตอนต้น ที่เพิ่มเริ่มต้นชีวิตเองแล้ว อัตราสิ้นเปลืองที่ประหยัดก็ทำให้คนเหล่านี้หันมาซื้อได้เหมือนกันครับ
อีกอย่างที่บอกว่ายอดไม่ได้แยก 2 ตัวถัง ผมกลับมองว่ามันเสียเปรียบ City กับ Jazz เสียอีก ตรงที่ต้องทำตลาดด้วยชื่อรุ่นเพียงรุ่นเดียว แต่ต้องเจาะตลาดคนชอบทั้ง 2 แบบ ต่างจากพี่น้องฮอนด้าที่แยกกันทำตลาดชัดเจน บุคลิกรถแตกต่างกัน สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่มได้ครบกว่าครับ
-
ก็รถมันทำมาดีกว่า city แถม Honda ก็ไม่ยอมออกตัวใหม่มาขาย ไม่รู้จะลากยาว ขายคันเก่า อีกกี่ปี
-
ส่วนตัวผมว่ารถเขาทำมาดีมากๆเลยครับ เสียที่ข้างหลังอย่างเดียวจริงๆครับ
-
หลักๆคือดีไซน์ภายนอกและภายใน เรื่องอื่นๆรองลงมา
-
มันนับรวม 2 ตัวถังครับ
ลองเอา City + Jazz แล้วเทียบกันใหม่สิครับ
มาสด้า 2 ที่นับรวม 2 ตัวถังได้ เพราะราคาขายทั้ง 2 แบบเท่ากันครับ ...
JAZZ กับ CITY ราคาขายไม่เท่ากันครับ เลยรวมกันไม่ได้ ....
ไม่เกี่ยวนะครับ เพราะ Mazda ดันใช้ชื่อเดียวในการทำตลาด 2 ตัวถังมากกว่า แถมตัวรถพื้นฐานก็เหมือนกันต่างกันแค่รูปแบบตัวถังรถ เวลาคิดยอดเลยรวบมัน 2 ตัวถังเลย ในขณะที่ Honda แยกชื่อการทำตลาดชัดเจน
-
ผมยังมองว่าราคามาสด้า2 มันถูกกว่าครับ
ตัวท็อปมาสด้า2เบนซิล ราคา 670,000 ของซิตี้ราคา 751,000
ถ้านับตัวดีเซลราคามาสด้า2 จะสูงถึง 780,000 บาท
แต่ยอดขายหลักๆของมาสด้าคือตัวเบนซิล..
และเรื่องการแบ่งเซกเมนท์ที่เอามาสด้า2 ไปรวมกับ B-Sec แต่มาสด้าเขาตีตั๋วภาษีขายแบบ Ecocar
จะเห็นกระทู้หลังๆมักจะเปรียบเทียบเอาอะไรดี ระหว่าง All New Swift กับ Mazda2 เบนซิล
ถ้าเอามาสด้า2 มาจับกับตาราง Ecocar ที่มายาริสเป็นตัวชูโรง
และขายแบบ 4 และ 5 ประตูควบรวมกัน ค่อยเทียบกับมาสด้า2ได้เหมาะสมกว่าไปเทียบกับซิตี้
ไม่เหมือนฮอนด้าที่แยกซิตี้กับแจ๊สออกอย่างชัดเจน
เพราะชื่อและตัวถังหรือการออกแบบภายในต่างกันชัดเจน
เหตุผลผมมีแค่นี้แหล่ะ
-
รถเขาดีจริง คุ้มราคามาก สวยทั้งนอกและในถูกใจคนเพิ่งเริ่มทำงาน ไม่แปลกที่จะขายดีที่สุดในกลุ่ม และก็คงขายดีสุดแบบนี้ไปอีกสักพัก
-
เสริมหน่อยครับ ไม่รู้เกี่ยวหรือเปล่า ในฐานะเป็นคนไปต่อรองกับเซลล์
ดอกเบี้ยถูกครับ โดนเสนอมาไม่ถึง 1 % ผ่อน 48 เดือน แต่เปลี่ยนแผนไปออกรถเงินสดแทนซะก่อน
ตอนแรกหวั่นใจว่าของแถมจะน้อยเพราะไม่มีเงินจากไฟแนนซ์มาช่วย ไปๆ มาๆ ขออะไรก็ได้หมดครับ ขอจนเกรงใจเซลล์เลยเอาบางอย่างออก คิดว่า Dealer น่าจะให้งบของแถมมาเยอะด้วยครับ ถ้าคนซื้อเน้นของแถมก็มีเขวๆ หน่อยล่ะ
อ้อ อีกอย่าง ถ้าได้ลองขับทั้งสองแบรนด์ ยิ่งคิดหนัก
-
กลุ่มเป้าหมาย คือพวกเดกมหาลัย. เริ่มทำงาน
รถคันที่สองสามสี่
ส่วนcity ยอดก้อยังดี. เพียงตามาสด้า2 คนยังเห่อ
เหมือนกับswiftในอนาคต
-
คนโสดเยอะครับสมัยนี้ ฮาา
ผมว่าmazda2ตีโจทย์ของfirst jobberที่มีรถคันแรกแตก
iconของมาสด้าคือความสปอต ไม่ใช่รถบ้านๆ
คนเหล่านี้ไช้ชีวิตคนเดียว-2คนซะส่วนใหญ่ พ่อแม่ดาวน์ให้แล้วต้องผ่อนเอง
ต้องการความมีสไตล์ ขับดี optionแน่นๆ
แต่ค่าใช้จ่ายต้องต่ำ ค่าผ่อน ค่าน้ำมัน
ไม่สนราคาขายต่อ ไม่สนการmaintainในอนาคต
แต่ถ้าคนเคยขับb seg1.5มาแล้ว ก็อาจจะไม่มอง1.3ก็ได้เพราะมันอืดมากจริงๆ
-
ดีไซน์ทั้งภายนอกภายในครับ เท่านี้จริงๆจากคนที่ซื้อรอบๆตัว
-
คนโสดเยอะครับสมัยนี้ ฮาา
ผมว่าmazda2ตีโจทย์ของfirst jobberที่มีรถคันแรกแตก
iconของมาสด้าคือความสปอต ไม่ใช่รถบ้านๆ
คนเหล่านี้ไช้ชีวิตคนเดียว-2คนซะส่วนใหญ่ พ่อแม่ดาวน์ให้แล้วต้องผ่อนเอง
ต้องการความมีสไตล์ ขับดี optionแน่นๆ
แต่ค่าใช้จ่ายต้องต่ำ ค่าผ่อน ค่าน้ำมัน
ไม่สนราคาขายต่อ ไม่สนการmaintainในอนาคต
แต่ถ้าคนเคยขับb seg1.5มาแล้ว ก็อาจจะไม่มอง1.3ก็ได้เพราะมันอืดมากจริงๆ
ใช่เลยครับ
-
ลองนึกดู Mazda 2 มี 2 เครื่องยนต์ 2 รูปแบบตัวถัง ในชื่อรุ่นเดียว
ส่วน City มี 1 เครื่องยนต์ 1 รูปแบบตัวถัง เพราะไม่นับรวมกับ Jazz ซึ่งก็เปรียบได้ว่าเป็น City hatch
ดังนั้นถ้าจะเอายอด Total โดยภาพรวมของ B-seg จาก 2 ค่ายนี้อาจะต้องเป็น Mazda 2 / City+Jazz หรือเปล่าครับ
-
City, Vios, Jazz มันขายดีมาเป็นสิบปีแล้วครับ ตลาดเริ่มเบื่อ
Mazda2 ดีไซน์มาสวย ประหยัดน้ำมันดีมากอีก ชดเชยจุดด้อยเรื่องเบาะหลังแคบไปได้ และข้อสำคัญคือไม่ได้ใช้เกียร์ CVT ครับ ฟีลลิ่งการชับมันดีกว่า ถึงเครื่องจะเล็กกว่า
แต่พอมองไปที่ C-Segment กลายเป็นว่า Mazda3 ยอดไม่ดีนะครับ แพ้ Civic กระจุยเลย ทั้งที่ข้อดี ข้อเสียของรถ ก็คล้ายๆ กัน แต่คนซื้อคนละกลุ่ม
-
ออกแบบถูกใจวัยรุ่นครับ
-
มันก็จะขายได้ดีไปเรื่อยๆ จนกว่า Honda City ใหม่ออกมาที่ทั้งแรงกว่าและประหยัดกว่า
ส่วนเรื่องช่วงล่างก็วัดกันอีกที
-
M2 ประหยัดจริงๆนะ เปลี่ยนล้อ16" ตัวท๊อปใส่เข้าไปนิ่งกว่าเดิมเยอะ
แถมขับไปกลับชลบุรีทุกวีค ไปกลับ 200 โล ไม่เคยเติมเกิน 10 ลิตรเลยซักที
ขับปกติ ไม่เกรงใจ
-
MZ2 1.3 ตัวTopมัน6แสนปลายๆ
ยอดส่วนใหญ่ก็มาจาก1.3
รถก็สวยถูกใจวัยรุ่น ออฟชั่นก็ใช้ได้ ขับดีอีกต่างหาก
-
พูดจริงๆนะ
mazda 2 มัน eco car ผมไม่อยากเอามาเทียบแบบนี้หรอก ราคาหักส่วนลดเนี่ย eco car ชัดเจน
ส่วนดีเซล ขายได้สักกี่คัน
นี่ถ้าแบ่ง 4/5ประตู ยอดจะเหลือสักเท่าไหร่
-
ผมก็ว่าทุกอย่างมันลงตัวดีนะกับ mazda2 รุ่นนี้ ภายนอกสวย ภายในสวย วัสดุดี เครื่องเล็ก ประหยัด ถ้าใช้ 2คนถอดีๆเลย หรือถ้าจำนวนคนมากกว่าแต่ตัวไม่ใหญ่มากก็พอได้นะ ช่วงล่างก็ ok (ผมใช้ honda 😁)
-
M2 ประหยัดจริงๆนะ เปลี่ยนล้อ16" ตัวท๊อปใส่เข้าไปนิ่งกว่าเดิมเยอะ
แถมขับไปกลับชลบุรีทุกวีค ไปกลับ 200 โล ไม่เคยเติมเกิน 10 ลิตรเลยซักที
ขับปกติ ไม่เกรงใจ
เครื่องดีเซลหรือครับ
-
คนคงชอบ แต่คนเรานี่ซื้อรถเพราะยอดขายดีจริงหรอ
-
หรือคนกลัว เกียร์ CVT จะพังกัน เลยหนีไปใช้ Auto ธรรมดาของ mazda แทน
น่าจะเรื่อง feeling เฉยๆมั้งครับ Auto ธรรมดาของ mazda เท่าที่ฟังๆมา ผมว่าไม่ได้เปรียบเรื่องความทนไปกว่า CVT เจ้าตลาดครับ
-
เพราะดีไซน์ภายนอก ภายในสวยเข้าตาวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ครับ
-
ถ้าเอาความคิดของผมที่เลือกมันมาแล้วเกือบจะ 2 ปี
รถมันขับดีจริงๆ ครับ handling ต่างๆ มันคือรถเล็กคันนึงที่ไม่เลวเลย พวงมาลัยคมน้ำหนักกำลังดี , ช่วงล่างควบคุมอาการดีแต่ติดแข็งหน่อย , อัตราเร่งดีเซล 1.5 ที่ใช้ก็เหลือๆ ในชีวิตประจำวัน
ภายในก็ใช้วัสดุดีอย่างที่หลายจุดสัมผัสได้แม้ว่าจะแคบ
การประหยัดน้ำมันก็ประหยัดจริงจัง ประหยัดได้โดยไมาต้องพยายามใดๆ
ซึ่งถ้ามองแค่ย่อหน้าด้านบนที่เป็นสิ่งที่ Mazda 2 สามารถรับรู้ได้จากการไปลองขับ หาข้อมูลตามเน็ต ซึ่งหลายอย่างแค่ที่กล่าวมามันสามารถตอบโจทย์ผมและกลุ่มลูกค้าเค้าได้จริงๆ แหละครับ
จนได้มาลองใช้แล้วก็พบว่า
- หลายจุดของรถมันก็ดีตามที่บอก แต่มันก็ไม่ได้ดีสุดขนาดนั้น
- ศูนย์บริการเลือกเข้าดีๆ ที่ดีๆ แก้ปัญหาเก่งจบ ที่แย่ๆ แม้แต่จะเคลมก็ไม่ทำไม่หา
- ปัญหาของรถหลายอย่างก็จุกจิกนิดๆ นะ อย่างเครื่องดีเซลสั่นเร่งไม่ออก เสียงช่วงล่าง แบตเสื่อมไว เกียร์้เบนซินพังไว แต่นั่นก็ไมาง่เท่าศูนย์บริการที่หบายที่ยังไม่มีศักยภาพมากพอจะรับอะไรพวกนี้ได้เลย
สรุปที่จะบอกคือ เดี๋ยวนี้พฤติกรรมการซื้อรถเป็นไปในแนวที่ให้ความสำคัญกับตัวรถมากกว่าบริการหบังการขาย Mazda 2 ทำด้านตัวรถมาตอบโจทย์ผมและกลุ่มตลาดได้จริงครับ แต่มันก็เป็นรถปุถุชนธรรมดาที่มีข้อดีและเสียต่างกันไป รวมทั้งหลังการขายที่ยังรับมือกับปัญหาได้ไม่ดีพอ แนวโน้มถ้าคนออกรถเพราะรถล้วนๆ ยังไง Mazda 2 ก็มีแต่จะขายดี ตรงนี้ไม่แปลกใจครับ ต้องลองมาใช้ด้วยตัวเองถึงจะรู้
-
มันนับรวม 2 ตัวถังครับ
ลองเอา City + Jazz แล้วเทียบกันใหม่สิครับ
มาสด้า 2 ที่นับรวม 2 ตัวถังได้ เพราะราคาขายทั้ง 2 แบบเท่ากันครับ ...
JAZZ กับ CITY ราคาขายไม่เท่ากันครับ เลยรวมกันไม่ได้ ....
ไม่เกี่ยวนะครับ เพราะ Mazda ดันใช้ชื่อเดียวในการทำตลาด 2 ตัวถังมากกว่า แถมตัวรถพื้นฐานก็เหมือนกันต่างกันแค่รูปแบบตัวถังรถ เวลาคิดยอดเลยรวบมัน 2 ตัวถังเลย ในขณะที่ Honda แยกชื่อการทำตลาดชัดเจน
ใช่ครับ ทั้งสองตัว ทำตลาดด้วยกัน ไม่เหมือนของฮอนด้าที่แยกการทำตลาดชัดเจน และคุณจิมมี่เคยบอกว่า ตัวรถเอง มันก็แทบจะใช้อะไหล่เดียวกันหมดยกเว้นส่วนตัวถังเท่านั้นที่แตกต่าง เวลานับยอด ก็เลยต้องนับรวมกัน
-
สังเกตดีๆ นะครับ ผมเห็นคนที่ออกมาสด้าสองมาใช้ เป็นคนที่อายุราวๆ 20 ต้น ที่เพิ่งเรียนจบ มีรถคันแรกในชีวิต ซึ่งคนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยยึดติดกับแบรนด์มากนัก ประกอบกับหน้าตา วัสดุ การจัดออพชั่นที่คนส่วนใหญ่รู้สึกโอเคกับมัน (ขณะที่หลายๆ คนบอกว่าหน้าตามันสวย สำหรับผม ผมว่าหน้าตามันอัปลักษณ์เลยละ หน้าใหญ่ๆ หักๆ ก้นกุดๆ รับไม่ได้อย่างแรงเหมือนตอนซิตี้ทรงเห็บหมา) พื้นที่ด้านหลังถึงมันจะคับแคบ แต่มันก็พอนั่งได้นะ ส่วนเรื่องการซ่อมกับค่าอะไหล่ก็ตัวใครตัวมันนะ ทำให้ยอดขายมันโอ ซึ่งแท้จริงแล้วยอดขายตัวเบนซิน ก็ควรจะเทียบกับ eco car มากกว่า
-
เพราะการขับขี่ ตัวรถ ครับ สมัยนี้มีอินเตอร์เนตมีความรู้หน่อยอะไรเสีย สั่งอะไหล่ ซ่อมเองไม่ยากเลย
จากที่ใช้ mazda 2 diesel อุด egr ปิด dpf มาปีนึงจะบอกว่าชอบมากครับ แรงประหยัด 0-100 7วิกับ อัตราสิ้นเปลือง23km/l+
หายากก กลับไปขับ พอขับแล้วกลับไปขับแบรดตลาดเครื่อง na c seg d seg แทบอึดอัดเร่งไม่ไป
-
รถมันขับดีกว่ากันพอสมควร ครับ ราคาถูกกว่า มีรุ่นรถให้เลือกเยอะกว่า ดีไซด์ สวยกว่า
ในกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว แม้แต่วัยทำงาน เลือก M2 แล้วมันดูไม่แก่..ไม่เชย
อย่าว่าแต่ M2 เลยครับ ถ้าเป็น City กับ Swift ตอนนี้ผมเองก็ยังอยากขับ Swift มากกว่าเลย
-
ช่วงนี้เป็นขาขึ้น แบบที่ ford fiesta เคยทำ
ถ้าเวลาผ่านไป เรื่องการจุกจิกไม่มี มีความทนทานใกล้เคียงกับเจ้าตลาด ปัญหาใหญ่ๆ ไม่เกิด
ราคาอะไหล่รับได้ ก็จะติดลมบนได้ รุ่นต่อไปก็จะขายดีอีก
แต่ถ้ารถมันเก่าแล้ว ออกลายเมื่อไร ผลมันจะตรงกันข้าม
-
เรื่องยอดขายก็อย่าที่หลายๆท่านบอก mazda มันรวม2ตัวถังเลยมากกว่า city.
ผมขอเล่าในส่วนตัวผมแล้วกันครับ ผมเรียกว่าแบรน์โลโยตี้ของฮอนด้าเลยก็ว่าได้
ที่บ้านรถเก๋งเกือบทุกคันเป็นฮอนด้าหมดครับ ส่วนตัวผมเองก็ชอบรูปทรงฮอนด้ามากมาย
ผมมองว่ารถฮอนด้ายุคเก่าๆรูปทรงสวยถูกใจผมมาก ผิดกับฮอนด้ายุคใหม่ๆผมว่าดีไซด์ไม่สวยเลย
ยิ่งดูก็ยิ่งไม่ชอบ ยิ่งรุ่นใหม่ๆที่เน้นดีไซด์กระจังหน้าใหญ่ๆยิ่งผิดหวังกับงานออกแบบมากมาย
ส่วนตัวผมก่อนหน้านี้มีรถทั้งหมด 2 คัน คือ civic es กับ accord ตาเพชร
แต่ด้วยราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ทำให้ผมต้องตัดใจขาย civic es ทิ้งแล้วเลือกซื้อรถไซด์เล็กไว้ใช้เน้นประหยัด
โดยที่ยังเก็บ accord ตาเพชรไว้(ที่ไม่ขายเพราะรักและชอบคันนี้มาก).
ก่อนที่ผมจะซื้อผมก็ได้เปรียบเทียบ ระหว่าง Jazz gk ในตอนนั้นกับเจ้า mazda 2 ดีเซลเนี่ยแหละครับ.
โดยส่วนตัวเป็นคนชอบฮอนด้ามาก ยิ่ง Jazz GE นี่ผมชอบมากถึงมากที่สุด แต่ ณ ตอนนั้นมันตกรุ่นแล้วมันเป็นรุ่น gk แล้ว
จากที่ผมได้ทดลองขับ Jazz gk บอกเลยไม่ชอบ ยิ่งเรื่องการลดต้นทุนที่น่าเกลียดในบางจุดด้วยแล้วยิ่งแย่ใหญ่
ยิ่งวิทยุ กับแอร์ ระบบสัมผัสผมยิ่งไม่ชอบ ดูเหมือนจะทันสมัยแต่ใช้งานยากครับ ไม่ชอบ. หน้าตารูปทรงยิ่งออกทะเลไปไกล
ผมเลยตัดสินใจลองเปลี่ยนมาครบกับ mazda2 ดีเซลตัวท็อปดูครับ.
จากที่ได้ลองใช้มา 2 ปีกว่าๆ ถ้าถามผมว่ารถเป็นอย่างไง ก็บอกตามตรงว่าชอบมาก ช่วงล่างนี้ไว้ใจได้อย่างดี
ขับก็สนุก ที่สำคัญประหยัดน้ำมันมาก ถังนึงแบบใช้จริง ไม่ได้เน้นประหยัด อย่างน้อยๆก็ได้ราวๆ 800 โลไม่ต่ำกว่านี้
เรื่องคับแคบอันนี้จริง แต่ผมไม่แคร์เพราะส่วนมากใช้แค่ 2 คน ของไม่ได้เยอะ
ส่วนเรื่องที่ผมไม่ชอบใน mazda2 คือ เรื่องภายใน ใช่มันสวยแต่ไม่ตอบโจทย์ในการใช้งานชีวิตประจำวัน
ที่วางแขนก็ไม่มีให้ ช่องใส่ของน้อยมากถ้าเทียบกับทางฮอนด้าที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้มากกว่า
ส่วนเรื่องปัญหา ผมมองว่ารถมันก็มีปัญหาจริง เพียงแต่ผมยังไม่เจอเท่านั้นครับ.
เรื่องเครื่องสั่นผมก็กลัว แต่อาศัยว่าพอรู้เรื่องรถประมาณนึงเลยพอจะรับมือจัดการกับปัญหาได้
สิ่งที่ผมต้องทำคือ ล้าง egr เองบ่อยๆเพื่อไม่ให้สกปรก เรื่องขับแบบอัดๆๆรอบสูงตอนล้างคราบเขม่าอันนี้ผมขับเร็วอยู่แล้ว
เลยไม่มีปัญหาในส่วนนี้. เรื่องแบ็ตเตอรรี่เสียบ่อย อันนี้ผมไม่เจอนะ ใช้มา 2 ปีนิดๆแล้วแบ็ตยังโอเคอยู่เลย
ผมมองว่าคนที่แบ็ตเสียบ่อยเพราะเปิดใช้ i-stop ครับ ส่วนผมดับทุกครั้งที่สตาร์ทเพราะผมไม่ชอบระบบนี้
ความคิดเห็นส่วนตัวผมคือ mazda2 เป็นรถที่ดีคันนึง ถ้าเรารู้จักที่จะใช้ รู้วิธีป้องกัน เรียนรู้ที่จะใช้ให้ถูกหลัก
ถ้าทำแบบนี้ได้ปัญหาก็แทบจะไม่ค่อยเกิดครับ (ไม่ได้บอกว่าไม่เกิดปัญหานะครับ แต่จะเกิดน้อยลง)
แต่คำถามคือ การที่เราซื้อรถคันนึงทำไมเราต้องมานั่งศึกษา นั่งหาวิธีป้องกันปัญหาเองด้วย.
ทั้งๆที่เราก็เสียเงินซื้อรถมา ระบบที่มีมาให้มันควรจะเหมาะกับการใช้ ไม่ใช้มีมาแล้วมาเป็นปัญหาในการใช้งาน
ผมแค่อยากจะฝากประโยคหลังนี้ให้ถึงบริษัท mazda ในฐานะคนใช้ครับ.
เพราะสุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าลูกค้าหลายๆคนพร้อมเปิดใจลองอย่างที่ผมเปิดใจลอง
แต่การที่ลองแล้ว แล้วค้นพบว่ารถมันดีแต่ยุ่งยากในการใช้งาน ครั้งหน้ารถคุณอาจจะไม่มีโอกาสเป็นตัวเลือกอีกแล้วก็ได้...
ปล.ถามว่าทุกวันนี้ให้ย้อนกลับไปจะยังตัดสินใจเลือก mazda2 อยู่อีกไหม?
ผมคงตอบได้ไม่เต็มปากว่ายังคงเลือกอยู่ แต่ที่แน่ๆถ้าย้อนเวลาได้ผมไม่เลือกเครื่องดีเซลแน่นอน
-
ราคามันไม่แพงด้วยครับ จากราคาตั้ง ถ้าลองถามเซล จะรู้ว่าส่วนลดมันหลายหมื่น หรือถ้าไม่เอาส่วนลดเยอะๆ ก็ได้ดอกเบี้ยถูกมากครับ อันนี้เหตุผลนึง
อีกเหตุผลนึงก็คือคนยุค social นี้กล้าเลือกอะไรใหม่ๆ มากกว่าสมัยก่อนมากขึ้นครับ
-
รถสวย ขับดี ภายในดี ถ้าสุดท้ายประสบการณ์การใช้งานดีด้วย ก็สร้างฐานลูกค้าใหม่ได้อีกครับ
ถือเป็นโอกาสที่ดีของมาสด้าเลย
-
1. รถมันขายตัวมันเอง
2. มันรวม 2 ตัวถัง 2 segment เท่ากับยอด รถ 4 คัน
ปล. ถ้าท้ายไม่แคบ ยอดคงอลังกาล vios อาจหายไปจากตลาด
+1
-
มันนับรวม 2 ตัวถังครับ
ลองเอา City + Jazz แล้วเทียบกันใหม่สิครับ
มาสด้า 2 ที่นับรวม 2 ตัวถังได้ เพราะราคาขายทั้ง 2 แบบเท่ากันครับ ...
JAZZ กับ CITY ราคาขายไม่เท่ากันครับ เลยรวมกันไม่ได้ ....
ไม่เกี่ยวนะครับ เพราะ Mazda ดันใช้ชื่อเดียวในการทำตลาด 2 ตัวถังมากกว่า แถมตัวรถพื้นฐานก็เหมือนกันต่างกันแค่รูปแบบตัวถังรถ เวลาคิดยอดเลยรวบมัน 2 ตัวถังเลย ในขณะที่ Honda แยกชื่อการทำตลาดชัดเจน
ใช่ครับ ทั้งสองตัว ทำตลาดด้วยกัน ไม่เหมือนของฮอนด้าที่แยกการทำตลาดชัดเจน และคุณจิมมี่เคยบอกว่า ตัวรถเอง มันก็แทบจะใช้อะไหล่เดียวกันหมดยกเว้นส่วนตัวถังเท่านั้นที่แตกต่าง เวลานับยอด ก็เลยต้องนับรวมกัน
ใช่ครับ ว่าแต่ mazda กล้าแยกมั้ยว่า 4 ประตูกี่คัน 5 ประตูกี่คัน
city+jazz ยอดรับรถมากกว่า mazda 2 นะ แต่ปัญหาไม่โหดเท่าปัญหาของ m2
-
ส่วนตัวมองว่า ตลาดนี้ ตัวรถ Mazda2 มันทำให้ได้ดีกว่าตอนเป็น Mazda2 หน้ายิ้มตัวเก่า ส่วนออฟชั่น ราคา และ ส่วนลด ก็เป็นของแถมที่มีแรงจูงใจมาก ใครไม่ชอบของลดราคา
เพราะถ้าบอกว่าคนชอบออฟชั่น หรือ ชอบใน skyactiv จริง ทำไม CX-3 และ Mazda3 ยอดแทบจะอยู่ท้ายตาราง ทั้งๆ ที่ตัวรถกับออฟชั่น ก็คล้ายๆ กัน กับ Mazda2 เลย
เห็นด้วยกับบางคน ว่า ถ้าเอายอด Jazz+City ก็คงไปไกล Mazda2 ก็คงไม่ทัน คล้ายๆ ตอน Yaris กับ Vios ขายคู่กัน
ปล.อยากเห็นยอด Mazda2 แยกเป็น 4 ประตู กะ 5 ประตู เหมือนกันน่ะ และไม่แน่ใจว่า Mazda2 อยู่ในกลุ่ม Eco Car หรือป่าว