Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Spin ที่ พฤษภาคม 26, 2018, 20:46:01
-
ตั้งแต่ช่วงปลายปี กับข่าวเมื่อต้นเดือนที่แล้วเกี่ยวกับเรื่องทางภาครัฐศึกษาการลดภาษีรถยนต์หรูจาก 328% เหลือ 200% ตอนนี้เห็นเงียบกันไปเลย ไม่ทราบเพื่อนๆสมาชิกท่านไดพอทราบรายละเอียดไหมครับ หรือว่าเรื่องโดนดองไปเรียบร้อยแล้วจากผู้เสียผลประโยชน์ทั้งหลาย พอมีเรื่องก็รีบวิ่งเต้นเคลียร์ให้เรื่องจบๆไป นึกถึงสมัยรัฐบาบคุณอานันท์ที่ยกเลิกภาษีรถนำเข้า ตอนนั้นรถนอกดีๆวิ่งกันเต็มเมืองไปหมด ไม่เห็นธุรกิจประกอบรถยนต์ในประเทศจะเจ๊งเลย ตรงข้ามผมว่าเป็นการผลักดันให้มีการแข่งขันให้เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ จนทุกวันนี้เมืองไทยเป็นแหล่งผลิตรถยนต์สำคัญของโลกไปแล้ว
ตามลิงค์ข่าวนี้ครับ
https://mgronline.com/specialscoop/detail/9610000033579
-
เค้ากลัว S class ขายไม่ออกเพราะPorsche Panamera, Maseratiจะทำราคาเท่า SClass.
แล้วพวกRolls Royce Lamborghini Ferrari ราคาจาก30ล้าน เหลือ10ล้าน จะทำให้ Camry กับ Benz C43Amg ขายไม่ออกแล้วย้ายโรงงานการผลิต
-
ตั้งแต่ช่วงปลายปี กับข่าวเมื่อต้นเดือนที่แล้วเกี่ยวกับเรื่องทางภาครัฐศึกษาการลดภาษีรถยนต์หรูจาก 328% เหลือ 200% ตอนนี้เห็นเงียบกันไปเลย ไม่ทราบเพื่อนๆสมาชิกท่านไดพอทราบรายละเอียดไหมครับ หรือว่าเรื่องโดนดองไปเรียบร้อยแล้วจากผู้เสียผลประโยชน์ทั้งหลาย พอมีเรื่องก็รีบวิ่งเต้นเคลียร์ให้เรื่องจบๆไป นึกถึงสมัยรัฐบาบคุณอานันท์ที่ยกเลิกภาษีรถนำเข้า ตอนนั้นรถนอกดีๆวิ่งกันเต็มเมืองไปหมด ไม่เห็นธุรกิจประกอบรถยนต์ในประเทศจะเจ๊งเลย ตรงข้ามผมว่าเป็นการผลักดันให้มีการแข่งขันให้เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ จนทุกวันนี้เมืองไทยเป็นแหล่งผลิตรถยนต์สำคัญของโลกไปแล้ว
ข้อมูลตรงนี้ผิดนะครับ
สมัยรัฐบาลนายอานันท์มีการ "ปรับ"โครงสร้างภาษีรถยนต์นำเข้าครับ คนละความหมายกับคำว่ายกเลิกนะ
ส่วนจะปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าเป็นอัตราเท่าไหร่ ตรงนี้ผมไม่มีข้อมูลครับ แต่แน่ๆว่ากำแพงภาษีนั้นยังคงมีอยู่ จึงไม่กระทบกับอุตสาหกรรมภายในประเทศมากนัก
มาทักท้วงแค่นี้ครับ ส่วนเรื่องอื่นไม่ขอออกความเห็น............
-
ทำไมล่าสุดผมลองกดบวกอัตตราภาษี ใส่เข้าไปใน m5 มันได้ไป 400 % หน่อยๆละครับ ไม่ใช่ 320 กว่าๆแล้ว
-
ประเทศเกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา เยอรมันนี ล้วนแต่ทีอุตสาหกรรมรถยนต์ภายใต้ยี่ห้อตัวเองทั้งนั้น แต่สุดท้ายประเทศเหล่านี้ก็เปิดการค้าเสรีให้รถนำเข้าด้วยไม่บวกภาษีมากมาย
เมืองไทยผมเข้าใจนะว่าตอนไปชวนเขามาลงทุนก็ต้องมีอะไรจูงใจ ไม่งั้น toyota honda nissan mitsu ford mazda ไม่เข้ามาลงทุนหรอกเพราะเงินลงทุนมันไม่ใช่น้อยๆ ถ้าไม่อัดภาษีรถนำเข้า แล้วราคารถประกอบในกับนำเข้าพอๆ กัน ใครที่ไหนจะบ้าเอาเงินแสนล้านมาตั้งโรงงานผลิต
ในฐานะคนบ้ารถ อยากให้ช่วยแยกแยะนิดนึงว่ารถพวก supercar เนี่ย โอกาสมาตั้งโรงงานในประเทศไทยแทบจะเป็น 0 ดังนั้นการจะให้บวกถาษีรถนำเข้าเท่ากันทุกประเภทมันก็ไม่ควร อยากให้ภาษีแปรผันตามการกำหนดราคาขายหน้าโรงงานที่ต่างประเทศ เช่น ราคาขาย 600,000 บาท ให้บวกภาษีไป 300% - 400% รถราคา 1.2 ล้านบาท บวกภาษี 150% ราคารถ 2 ล้านบาท บวกภาษี 100% รถราคา 3 ล้านบาท บวกภาษี 50% อะไรแบบนี้
-
ประเทศเกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา เยอรมันนี ล้วนแต่ทีอุตสาหกรรมรถยนต์ภายใต้ยี่ห้อตัวเองทั้งนั้น แต่สุดท้ายประเทศเหล่านี้ก็เปิดการค้าเสรีให้รถนำเข้าด้วยไม่บวกภาษีมากมาย
เมืองไทยผมเข้าใจนะว่าตอนไปชวนเขามาลงทุนก็ต้องมีอะไรจูงใจ ไม่งั้น toyota honda nissan mitsu ford mazda ไม่เข้ามาลงทุนหรอกเพราะเงินลงทุนมันไม่ใช่น้อยๆ ถ้าไม่อัดภาษีรถนำเข้า แล้วราคารถประกอบในกับนำเข้าพอๆ กัน ใครที่ไหนจะบ้าเอาเงินแสนล้านมาตั้งโรงงานผลิต
ในฐานะคนบ้ารถ อยากให้ช่วยแยกแยะนิดนึงว่ารถพวก supercar เนี่ย โอกาสมาตั้งโรงงานในประเทศไทยแทบจะเป็น 0 ดังนั้นการจะให้บวกถาษีรถนำเข้าเท่ากันทุกประเภทมันก็ไม่ควร อยากให้ภาษีแปรผันตามการกำหนดราคาขายหน้าโรงงานที่ต่างประเทศ เช่น ราคาขาย 600,000 บาท ให้บวกภาษีไป 300% - 400% รถราคา 1.2 ล้านบาท บวกภาษี 150% ราคารถ 2 ล้านบาท บวกภาษี 100% รถราคา 3 ล้านบาท บวกภาษี 50% อะไรแบบนี้
ทฤษฎีมันมีแต่ก้าวหน้าขึ้นครับไม่น่ามีก้าวลง ยิ่งสิ่งนั้นมันไม่มีประโยชน์ต่อโครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศของยิ่งแพงยิ่งต้องเก็บเยอะ
-
สมมุติว่ารถราคา10ล้าน เก็บภาษีคันนะ20ล้าน อาจขายได้ปีละ100คัน=รัฐได้2000ล้านต่อปี
แต่ถ้าเหลือเก็บคันละล้าน(รถจะเหลือราคา11ล้าน) ก็อาจจะขายได้ 3000คันต่อปี รัฐก็อาจจะได้3000ล้านต่อปี
ผมว่าดีกว่านะครับ
-
สมมุติว่ารถราคา10ล้าน เก็บภาษีคันนะ20ล้าน อาจขายได้ปีละ100คัน=รัฐได้2000ล้านต่อปี
แต่ถ้าเหลือเก็บคันละล้าน(รถจะเหลือราคา11ล้าน) ก็อาจจะขายได้ 3000คันต่อปี รัฐก็อาจจะได้3000ล้านต่อปี
ผมว่าดีกว่านะครับ
ตามนี้ครับ แถมแก้เรื่องนำเข้าแบบผิดกฎหมายได้ด้วย เพราะคนจะเอาเข้าระบบง่ายขึ้น เลี่ยงน้อยลง
-
สมมุติว่ารถราคา10ล้าน เก็บภาษีคันนะ20ล้าน อาจขายได้ปีละ100คัน=รัฐได้2000ล้านต่อปี
แต่ถ้าเหลือเก็บคันละล้าน(รถจะเหลือราคา11ล้าน) ก็อาจจะขายได้ 3000คันต่อปี รัฐก็อาจจะได้3000ล้านต่อปี
ผมว่าดีกว่านะครับ
ตามนี้ครับ แถมแก้เรื่องนำเข้าแบบผิดกฎหมายได้ด้วย เพราะคนจะเอาเข้าระบบง่ายขึ้น เลี่ยงน้อยลง
ถึงบ้านเราเก็บภาษีแพงก็จริง แต่ต้องเข้าใจว่าเค้าไม่ได้ส่งเสริมให้มีการนำเข้ารถยนต์นะครับเพราะมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในประเทศก็มีรถเพียงพอกับการใช้งานอยู่แล้ว และมีจำนวนรถมากอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องส่งเสริมรถนำเข้าหรือหวังภาษีให้ได้เยอะ ๆ ที่เก็บแพงเป็นกำแพงกั้นไม่ให้รถนำเข้ามันทะลักเข้ามากเกินไป
อีกอย่างไม่ควรมองแต่รถแพง ๆ อย่างซุปเปอร์คาร์ แต่รถราคาถูก ๆ คันละไม่กี่แสนบาทใน ตปท จำนวนมากที่จะได้รับอานิสงค์มันจะถูกนำเข้ามาอีกมากมาย ซึ่งไม่มีใครอยากให้มันเกิด เพราะบ้านเรามันคือตลาด Mass ไม่ใช่ตลาดรถพรีเมี่ยม ยอดขายมีส่วนสำคัญกับการลงทุนไม่งั้นรัฐบาลจะกำหนดเงื่อนไขการลงทุนไว้เหรอ ต้องมีการผลิตอย่างน้อยปีละกี่คันสำหรับอิโคคาร์
-
ลดให้เหลือสัก 100 % ได้มั้ย เผื่อได้มีวาสนาได้ขับรถยุโรปป้ายแดงบ้าง :-*
-
สมมุติว่ารถราคา10ล้าน เก็บภาษีคันนะ20ล้าน อาจขายได้ปีละ100คัน=รัฐได้2000ล้านต่อปี
แต่ถ้าเหลือเก็บคันละล้าน(รถจะเหลือราคา11ล้าน) ก็อาจจะขายได้ 3000คันต่อปี รัฐก็อาจจะได้3000ล้านต่อปี
ผมว่าดีกว่านะครับ
แต่ก็ทำให้ดุลการค้าจากขาดดุล 1000ลบ เป็น 30000ลบ เลยนะครับ
-
ผมว่าควรมีกำแพงภาษีครับ .. ทุกที่ก็มีทั้งนั้น แต่ไม่ควรแพงเวอร์ขนาด 200-300%
เท่าที่เข้าใจ ในประเทศเก็บสรรพษามิตร ราว 7-35% รถ ต่างประเทศ ควรเก็บ 70-100 % ก็พอครับ
ราคารถมันก็จะออกมา ในประเทศคันละ 1 ล้าน ตปท 1.5 ล้าน ทำนองนั้น ดูจะ make sense กว่าครับ
เรื่องโครงสร้างภาษี มันบิดเบี้ยวจนไม่รู้จะเบี้ยวยังไงแล้วครับ ทุกๆ ภาษีเลย ภาษีบุคคลธรรมดา ภาษีบุหรี่ ภาษีน้ำมัน .. . .
-
คน3000คนพวกนั้น ตอนนี้ก็ขับ s class ใส่นาฬิกา Swiss นำเข้าปีละ10ล้านอยู่ดี
ที่จริงก็ถามItaly กับ อังกฤษ ให้นำเข้าสินค้าเกษตรเพื่มขึ้นได้ไหม ถ้าเราขอลดกำแพงภาษีรถนำเข้า แค่นี้ก็ไม่ขาดดุล
หรือจะให้ลดหย่อนภาษีสำหรับรถแรงม้าสูงสำหรับยี่ห้อที่ผลิตในบ้านเราก็ได้ เช่น GTR NSX AMG หรือ ตระกูลM หรือ Lexus LC สำหรับ Toyota ผมว่ายี่ห้อเหล่านั้นที่มีโรงงานบ้านเราชอบอยู่แล้ว
-
ผมว่าหลายคนเข้าใจเรื่องของภาษีผิดหมดนะ ภาษีนำเข้าทำไมต้องเก็บให้ได้เยอะๆ เป็นความคิดของคนที่ไม่เข้าใจหน้าที่ของภาษีครับ โครงสร้างภาษีรายได้รัฐที่ใหญ่ๆ มาจากภาษีนิติบุคคลของ listed company และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากมนุษย์เงินเดือน ดังนั้นถ้าจะหารายได้จากภาษีเยอะๆ รัฐต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครับ เศรษฐกิจดีบริษัทก็จ่ายภาษีได้มากขึ้น มนุษย์เงินเดือนก็จ่ายภาษีมากขึ้น รายได้รัฐก็เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ
การจะมาบอกว่าให้ลดปริมาณเก็บเพื่อให้เก็บได้มากขึ้นมันผิดหลักการ หน้าที่ภาษีนำเข้าคือกีดกันการค้าจากต่างประเทศ ภาษีนำเข้าถือเป็นของเสีย ของไม่ดี ของที่ไม่มีประโยชน์กับการค้าเสรี(ไปอ่านทฤษฎีการค้าระหว่างประเทศเริ่มต้น 101 แล้วตีกราฟดู โดยขีดเส้นภาษีเพิ่มแล้วคุณจะเข้าใจ) WTO ถึงส่งเสริมการลดภาษี 0% ทั้งโลกไงครับ
ถึงแม้ภาษีนำเข้าจะไม่มีประโยชน์เลยกับการค้าเสรี แต่ทำไมรัฐบาลแต่ละประเทศถึงไม่เปิดกับสินค้าบางอย่าง เพราะถ้าไทยเปิดสินค้าเกษตร เกษตรกรตายแน่นอนครับ ข้าวเราไม่มีทางสู้อินเดียได้ เพราะสินค้าบางอย่างเราแข่งขันไม่ได้ไงครับ และกระทบกับประชาชนจำนวนมาก ผมเห็นรัฐบาลพูดเรื่องการค่อยๆ ปรับตัวเพื่อให้แข่งขันได้ แต่การปฏิบัติจริงนั้นยากและใช้เวลา
ทีนี้ไปเทียบกับรถยนต์เอาเองครับ ว่ากระทบคนหมู่มากไหม ทำไมถึงเปิดเสรีไม่ได้ แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องของการใช้ภาษีอื่นมากกว่า รถยนต์เป็นของฟุ่มเฟือยเครื่องมือของรัฐบาลในการปรับพฤติกรรมของผู้บริโภคก็คือภาษีนี่แหละครับ พอรวมกับภาษีนำเข้าก็เลยกลายเป็นบานตะเกียง
-
8) 8) 8) 8)