Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: u5314041 ที่ พฤษภาคม 30, 2018, 17:38:15
-
สวัสดีครับ
พอดีแฟนผมเค้าจะสมัครงานในตำแหน่ง เซลล์ น่ะครับ โดยบริษัทไม่มีรถของบริษัทให้ใช้ครับจึงต้องใช้รถส่วนตัวของเซลล์วิ่งเอง
จึงขอคำแนะนำจากพี่ด้วยครับว่าควรจะออกรถแบบไหนดี มาเพื่อใช้วิ่งงานเซลล์โดยเฉพาะ เพราะส่วนตัวก็ใช้รถผมเองอยู่แล้วเวลาไปไหนมาไหน
ขอแบ่งปัจจัยเป็นดังนี้ครับ
1.เรื่องรุ่นรถที่ชอบจะเป็นตัวถัง Hatchback น่ะครับ
ส่วนตัวดูไว้ว่าจะให้แฟนออก yaris น่ะครับเพราะได้ยินชื่อเสียงมาว่า พี่โตเค้าทน ไม่จุกจิก อะไหล่ถูก maintenance ไม่แพง แต่ประเด็นคือ ผมไม่รู้เรื่องของ Yaris เลยว่าจะออกรุ่นไหน โมเดลไหนดี
ส่วนแฟนผมเค้าชอบ mazda 2 โฉมล่าสุดครับ แต่ผมก็เกรงว่า รถมันจะจุกจิกหรือเปล่า อีกทั้งได้ยินมาว่า maintenance แพงอยู่ครับ อันนี้อยากให้แนะนำหน่อยครับ
2.เรื่องออกรถ มือ 1 หรือ 2 ดีครับ
ประเด็นนี้คิดไม่ตกจริงๆครับ โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่า ถ้าออกมือ 1 มาใช้ยับเวลาขายกลัวราคามันจะตกฮวบเกินกว่าปกติครับ แต่ดีตรงที่ว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเท่ารถมือ 2
ถ้าออกมือ 2 มา ใช้ๆขายๆไปคงไม่เจ็บตัวเท่าไหร่ แต่ด้วยมันเป็นรถมือ 2 ก็ต้องมีค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนนู่นนี่นั่นตามมา
*หากความเข้าใจผมไม่ถูกต้องยังไงรบกวนพี่ๆช่วยแย้งหน่อยนะครับ*
3.เรื่องงบประมาณ
ไม่มีเงินสดขนาดซื้อรถมือสองได้น่ะครับ ถ้าจะซื้อคงต้องผ่อน
ด้วยเหตุนี้แล้วผมคิดว่าควรซื้อ มือ 1 ไปเลยจะดีกว่าไหมครับ ทั้งเรื่องดอกเบี้ย และ ความสมบูรณ์ของตัวรถ
ยังไงก็รบกวนขอคำแนะนำอีกทีด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
-
ถ้าผ่อน มือ 1 เลย ไม่ต้องมองมือ 2 yaris ก็ใช้ได้
จะ 4 ประตู หรือ 5 ประตูก็เลือกเอา ไปลองขับดู
-
ถ้าผ่อน มือ 1 เลย ไม่ต้องมองมือ 2 yaris ก็ใช้ได้
จะ 4 ประตู หรือ 5 ประตูก็เลือกเอา ไปลองขับดู
ขอบคุณครับพอดีจะเน้นเรื่องตัวถัง Hatchback 5 ประตูนะครับ เพราะคิดว่าผู้หญิงใช้น่าจะขับคล่องดีตูดสั้น
-
ถ้าเป็นผม เลือก M2 เบนซิน ตัวท๊อป ครับ
option ก็แล้วแต่งบ ครับ
-
เป็นเซลล์อาจจะต้องขับออกต่างจังหวัดบ่อย ผมแนะนำเอารถที่ขับสบายกว่าครับ Mazda2 1.3 ก็น่าสน ประหยัดน้ำมันกว่าด้วยครับ
ส่วนเรื่องดูแล ถ้าเป็นอะไหล่สิ้นเปลืองทั่วไป ราคาแทบไม่ต่างกันครับ แต่อาจจะมีอะไหล่เชิงลึกบางตัวที่แพงกว่า
แต่ถ้าเป็น Toyota ก็ดีตรงที่ทน และเกิดฉุกเฉินอะไร ก็หาอู่เข้าง่ายครับ แต่ถ้ารถใหม่ไม่เกิน 5 ปี ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ซ่อมน้อยอยู่แล้ว
-
ขับใน กทม หรือ ตจว ครับ
เฉลี่ยต่อเดือน ขับเกิน 5,000 โล มั๊ยครับ
ถ้าขับไม่ถึง เอาคันที่เเฟนชอบก็ได้ครับ
เเต่ถ้าขับเยอะ ออก ตจว. ด้วย เป็นผม
ผมคงเอาเจ้าตลาดเป็นหลักครับ เเละอาจขยับ CC รถเพิ่มเป็น 1500-2,000 ครับ
เพราะบางที บางบริษัท ก็อาจมีข้อกำหนด เรื่อง รถที่จะนำมาใช้ บ้างครับ เช่น บ.ผม ก็ระบุ ต้องเป็น 1500 cc ขึ้นไปครับ
ส่วนตัวถ้าเป็นผม ถ้าเเฟนไม่ยืนยัน นอนยัน เอา Mazda 2
ผมเชียร์ Jazz RS มือหนึ่ง
ไม่ก็ CX-3 2.0 SP มือสอง ครับ
-
ขับใน กทม หรือ ตจว ครับ
เฉลี่ยต่อเดือน ขับเกิน 5,000 โล มั๊ยครับ
ถ้าขับไม่ถึง เอาคันที่เเฟนชอบก็ได้ครับ
เเต่ถ้าขับเยอะ ออก ตจว. ด้วย เป็นผม
ผมคงเอาเจ้าตลาดเป็นหลักครับ เเละอาจขยับ CC รถเพิ่มเป็น 1500-2,000 ครับ
เพราะบางที บางบริษัท ก็อาจมีข้อกำหนด เรื่อง รถที่จะนำมาใช้ บ้างครับ เช่น บ.ผม ก็ระบุ ต้องเป็น 1500 cc ขึ้นไปครับ
ส่วนตัวถ้าเป็นผม ถ้าเเฟนไม่ยืนยัน นอนยัน เอา Mazda 2
ผมเชียร์ Jazz RS มือหนึ่ง
ไม่ก็ CX-3 2.0 SP มือสอง ครับ
ส่วนใหญ่ขับใน กทม ครับ
ส่วน Jazz นี่คิดว่าแรงไปครับ (ราคา) 55
ขอบคุณครับผม
-
ยังไงก็ผ่อนเลือกมือหนึ่งครับ เจ้าตัวชอบมาสด้าก็จัดเลย
การดูแลมันก็แพงกว่ารถตลาดนิดหน่อย แต่ไม่ได้แพงหูฉี่เมื่อเทียบกับคู่แข่งแบบCX-5 กรณีอะไหล่บางตัวที่แพงเกินกว่าที่ควรมากๆๆๆๆ
-
ยังไงก็ผ่อนเลือกมือหนึ่งครับ เจ้าตัวชอบมาสด้าก็จัดเลย
การดูแลมันก็แพงกว่ารถตลาดนิดหน่อย แต่ไม่ได้แพงหูฉี่เมื่อเทียบกับคู่แข่งแบบCX-5 กรณีอะไหล่บางตัวที่แพงเกินกว่าที่ควรมากๆๆๆๆ
ขอบคุณครับ
ถ้าแพงกว่าสัก 10-20% ก็น่าจะโอเคอยู่นะครับ
-
เลือกมือหนึ่ง เพราะมี warranty 3 ปี 100,000 กม.
รถใช้งาน มันต้องซ่อมง่าย อะไหล่หาง่าย ถ้ารถมีอะไรขึ้นมา ต้องซ่อมเสร็จเร็วที่สุด เคลมง่ายที่สุดครับ มานั่งรออนุมัติ นั่งรออะไหล่ หรือ รอคิวอู่ คิวศูนย์ เงินก็หาย ลูกค้าก็หนี แล้วครับ
-
ส่วนตัว ฟังดูตามเหตุผล ควรใช้มือสองครับ เพราะรถใช้ควบกับของบริษัทฯ มันเหมือนซื้อรถมาลงทุนพร้อมใช้เอง จะซื้อมือหนึ่ง ก็ต้องผ่อน มือสองก็ต้องผ่อน มองในแง่ความคุ้มค่า มือสอง ถ้าหาคนขายดีๆ ผมว่า มือสองดีกว่าครับ เงินหายาก ช่วงแบบนี้ ให้พร้อมๆ ออกรถมือหนึ่งแบบไม่ต้องผ่อนจะดีกว่า อย่าให้กิเลสอยู่เหนือเหตุผล
รถ = คชจ นะครับ มันไม่ใช่ทรัพย์สินแบบบ้าน มีแต่เสื่อมค่า ดังนั้น ซื้อรถมาทำงาน ควรซื้อมือสองมากกว่า ส่วนรถจะเอายี่ห้ออะไร ถามผมก็ต้องรถตลาด ราคาดี ขายง่าย โตโยต้าน่าจะเป็นทางเลือกดีที่สุดครับ ส่วนในรายละเอียด คุณต้องตัดสินใจเอง
หวังว่า ความเห็นผมคงมีประโยชน์บ้างครับ
-
ดูงบเป็นที่ตั้งครับ ถอยรถใหม่ออกมา มูลค่าก็หายไป 20 % ทันที ไหนจะเงินที่ต้องผ่อนอีก ถ้ากรณีเกิดเปลี่ยนงานแล้วยังหางานไม่ได้จะทำยังไง คือถ้าซื้อใช้เองก็ว่าไปอย่างครับ ซื้อมาวิ่งงาน sale เอาที่ไม่เแพงมาก ค่า maintance ต่ำ ดูแล้วไม่จุกจิกต้องเข้าอู่บ่อยก็พอ
ส่วนถ้างบไม่ใช่ปัญหา เลือกตามที่เราชอบเลยครับ
-
เลือกรถที่ Default choice ที่สุดไว้ก่อน
ซ่อมง่ายๆ ขายต่อดี ประหยัดน้ำมัน ทนๆ ไม่พังง่ายๆ
ถ้าเป็นผม คงหนีไม่พ้น Yaris
-
1. Jazz S CVT 594,00
2. Yaris E 569,000
3. Mazda2 1.3 Sports High Connect 620,000
ไล่ตามลำดับเลยครับ
-
Yaris ตัว E สำหรับผมแลดูจะคุ้มสุด
-
1. Jazz S CVT 594,00
2. Yaris E 569,000
3. Mazda2 1.3 Sports High Connect 620,000
ไล่ตามลำดับเลยครับ
เบอร์ 1 และเบอร์ 2
48 เดือน ต่างกัน 520 บาท
เจอรถติดๆ jazz อาจจะกินกว่า
แต่เวลาวิ่งรอบนอก กินน้ำมันไม่ต่างกันมาก
ถ้าใช้ไป 5-6 ปี jazz ขายง่ายกว่านิดนึง
เป็นผม... คิดหนักเลย
-
เข้ามาตอบ ในฐานะเป็นเซลล์ แล้วใช้รถส่วนตัวเหมือนกันครับ (วิ่ง กทม. ออกต่างจังหวัด ไกล้ๆ กทม., ไกลๆ สระบุรี โคราช ระยอง ปราจีน นิคมต่างๆ ก็ไปครับ )
ตอนผมจะเปลี่ยน มาทำงานเป็นเซลล์ โจทย์เหมือน จขกท.ครับ แต่ตอนนั้นคิดแต่มือ 1 อย่างเดียว
ตัวเลือกเมื่อ สามปีที่แล้วมี 2 ตัวเลือกครับ
1 Jazz S AT 1.5 CVT
2 Mazda 2 (Skyactive) Diesel 1.5
สุดท้ายเลือก Jazz S A/T ตัวเริ่มต้นครับ 594,000 บาท ณ ตอนนั้นยังไม่มั่นใจเครื่องตัวนี้ของ Mazda ครับว่า ใช้ไปนานๆ มันจะโอเคมั้ย
เพราะอย่าลืมว่า ** ต้องใช้รถทุกวัน รถเป็นเครื่องมือทำงาน ** แต่ ณ วันนี้ไม่รุ้เหมือนกันนะครับ ว่าเครื่องตัวนี้ มี defect อะไรยังไงบ้างรึเปล่าไม่ได้ตามครับ
การใช้งาน JAZZ S A/T + การซ่อมบำรุง
-ตอนนี้ผมใช้รถวิ่งมา 120,000 ละครับ
-ยังไม่เคยงอแง ยังไม่มีเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นไหนเลย <---อันนี้แฮปปี้มากเลยครับ เรื่องไม่จุกจิก ซ่อมบำรุงไม่แพง
-ตอนแรกมีข่าวเกียร์ลูกนี้ใช้แสนกว่าโลแล้วพังก็แอบเสียว แต่ผมว่าน่าจะอยู่ที่การใช้งานครับ CVT ลูกนี้ผมมองว่าออกแบบมาเพื่อความนิ่มนวลมากกว่า
-เข้าศูนย์ตามระยะ 10,000 กม. ทุกระยะ (จะมีเปลี่ยน หนักๆ ตอนเปลี่ยนหัวเทียน ครับ ) นอกนั้นเปลี่ยนของเหลวตามกำหนด
-เดินทางต่างจังหวัดขับ 100-120 สบายๆ ครับ ,การเร่งแซง OK ครับ, นานๆได้นั่ง 4 คนก็ OK ครับ
เชียร์ Jazz อีกเสียงครับ เพราะมองว่าใช้ยาวๆ น่าจะโอเคกว่า
-
Yaris j eco ติดวิทยุพร้อมจอ Pioneer+กล้องมองหลังเองในงบไม่เกิน10,000บาท ขับไป2ปีค่อยเปลี่ยนเป็นล้อแม็ก ได้ยอดขายแล้วค่อยเพิ่ม5000ทำกระจกมองข้างไฟฟ้า(ได้แบบตรงรุ่น)
แล้วถุงลมหัวเข่านี่ช่วยได้มากถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ขับรถไกล ควรให้ความสำคัญต่อชีวิตครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมันผ่อนหนักให้เป็นเบาได้นะครับ
-
ถ้าวิ่งเยอะมาก ผมแนะนำให้เช่าระยะยาวครับ อาจจะแพงกว่าผ่อนหน่อย แต่ว่าไม่ต้องดาวน์ รวมค่าซ่อม ค่ายาง ประกันหมด ถ้าซ่อมเกิน 24 ชม มีรถสำรองให้ใช้ด้วย ถ้าเช่าเกิน 3 ปี เลือกรุ่นเลืกสีได้เลย บริษัทจะออกรถใหม่ให้ครับ
-
ถ้าเน้าราคาต่ำจริงๆ
Yaris J Eco ชิงโชค อิชิตันเลยครับ
3.8 แสนเงินสด ได้รถมาทันที ถูกมากๆ ด้วย
แต่มีสีมะนาวนะครับ
ผมละเสียดายเลย รู้งี้ไม่รีบซื้อดีกว่า เอาเจ้านี้โคตรคุ้ม
-
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านมากนะครับสำหรับที่ช่วยแชร์ครามเห็นครับ
ผมขอนำไปคิดต่อยอดแล้วกันนะครับ
-
ขอรบกวนถามหน่อยนะครับ (ถ้าไม่สะดวกตอบไม่เป็นไรครับ)
ไม่ทราบว่าปกติแล้วมีค่าเสื่อมของรถยังไงครับ เช่น ให้ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร
-
วิ่งงานเซลซื้อ TOYOTA เถอะครับ
-
การสมัครงานครั้งนี้ลงทุนสูงเลยน่ะครับ น่าจะมีข้อมูลค่าใช้จ่ายที่บริษัทออกให้เป็น กิโล/ล่ะเท่าไหร่ หรือแบบเหมา
-
ขอรบกวนถามหน่อยนะครับ (ถ้าไม่สะดวกตอบไม่เป็นไรครับ)
ไม่ทราบว่าปกติแล้วมีค่าเสื่อมของรถยังไงครับ เช่น ให้ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร
การสมัครงานครั้งนี้ลงทุนสูงเลยน่ะครับ น่าจะมีข้อมูลค่าใช้จ่ายที่บริษัทออกให้เป็น กิโล/ล่ะเท่าไหร่ หรือแบบเหมา
บริษัทให้ค่าใช้จ่ายเหมาต่างหาก ประมาณ หมื่นกลางๆ ครับ น่าจะรวมทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พวกค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อม ค่าทางด่วน (เงินเดือน+ค่าคอมต่างหาก) ครับ เท่าที่ฟังเค้าเล่าตอนสัมภาษณ์มานะครับ
ไม่แน่ใจว่ามันจะ cover fix cost ต่อเดือนหรือเปล่าน่ะครับ (ค่าผ่อนรถ+ค่าน้ำมัน+ค่าทางด่วน) แต่เหมือนบริษัทจะเน้นวิ่งใน กทม. ผมคิดว่าอาจจะโดนค่าทางด่วนยับแน่นอน 555
@พี่Amnaj ผมมองว่าน่าจะคุ้มค่าที่จะลงทุนครับ เพราะ ตำแหน่งเซลล์นี่เหมือนเป็นตำแหน่งที่ทำรายได้ให้บริษัท โดยค่าตอบแทนที่คิดว่าจะได้รับ + ประสบการณ์ ทักษะที่จะได้ติดตัวมา มันน่าจะคุ้มที่จะเสี่ยงดูครับ ไม่รู้ว่าใช้คำว่า high risk, high return ได้หรือป่าวน่ะครับ 555
-
วิ่งเซลโตโยต้าเท่านั้น กระบะก็ อีซูสุ
มาสด้า รออะไหร่นานถ้าชน ตัดทิ้งไปเลย
-
ไม่ยาริสก็แจ๊สครับ
พวกนี้ไม่จุกจิก ซ่อมง่ายครับ
ถ้าต้องมีขับต่างจังหวัดบ้าง แนะเครื่องใหญ่หน่อยครับ
-
สำหรับผมนะ
โตโยต้า เอาที่ชอบ
ดาวน์น้อย ผ่อนแบบ บอลลูน
บอลลูนสักงวดที่ 72 หรือ 84
เอาเงินทั้งหมดที่ได้จาก บ. เกี่ยวกับ ผ่อน ซ่อม ทุกๆอย่าง มันต้องเหลือ เก็บเอาไว้ดาวน์คันใหม่
พอคันนี้ถึงบอลลูน เทริน์ ออกคันใหม่ ถ้ายังวิ่งงานอยู่ก็แบบเดิม แต่ถ้าไม่วิ่งแล้ว ดาวน์คันใหม่ สบายๆ
บ. ค่าตอบแทนเกี่ยวกับรถเมื่อครบ 5 ปี สามารถ ดาวน์ Civic หรือ Altis 1.8 ที่ 50% ได้สบายๆ
-
เลือกโตโยต้าดีแล้วสำหรับรถใช้งานวิ่งเยอะครับ
-
เป็นผมซื้อให้ถูกที่สุดครับ
ถ้าไม่มีเงินสด ต้องซื้อผ่อน ตัดมือสอง จัดไฟแนนซ์ใหม่ได้เลย เพราะดอกเบี้ยบานเบอะ
หรือ
ซื้อมือสองแบบผ่อนต่อ รถระดับนี้คนขายทิ้งแบบผ่อนต่อเยอะแยะครับ เราเสียแค่ค่าเปลี่ยนสัญญา หาที่ผ่อนจบหมดรวมทุกอย่างแล้ว ไม่แพงกว่าราคาป้ายมือสองปัจจุบัน แต่เราผ่อนเป็นเดือนๆได้ ประหยัดได้เยอะเลย ยิ่งได้รถตลาด ที่มีประกันเหลือ ก็ปิดความเสี่ยงลงไปอีก
-
เป็นผมซื้อให้ถูกที่สุดครับ
ถ้าไม่มีเงินสด ต้องซื้อผ่อน ตัดมือสอง จัดไฟแนนซ์ใหม่ได้เลย เพราะดอกเบี้ยบานเบอะ
หรือ
ซื้อมือสองแบบผ่อนต่อ รถระดับนี้คนขายทิ้งแบบผ่อนต่อเยอะแยะครับ เราเสียแค่ค่าเปลี่ยนสัญญา หาที่ผ่อนจบหมดรวมทุกอย่างแล้ว ไม่แพงกว่าราคาป้ายมือสองปัจจุบัน แต่เราผ่อนเป็นเดือนๆได้ ประหยัดได้เยอะเลย ยิ่งได้รถตลาด ที่มีประกันเหลือ ก็ปิดความเสี่ยงลงไปอีก
ซื้อรถขายดาวน์ ก็ น่าสนใจอยู่นะครับเหมือนซื้อรถ มือ 2 แต่ดอกเบี้ยเท่ารถใหม่
ขอบคุณครับ
-
เป็นผมซื้อให้ถูกที่สุดครับ
ถ้าไม่มีเงินสด ต้องซื้อผ่อน ตัดมือสอง จัดไฟแนนซ์ใหม่ได้เลย เพราะดอกเบี้ยบานเบอะ
หรือ
ซื้อมือสองแบบผ่อนต่อ รถระดับนี้คนขายทิ้งแบบผ่อนต่อเยอะแยะครับ เราเสียแค่ค่าเปลี่ยนสัญญา หาที่ผ่อนจบหมดรวมทุกอย่างแล้ว ไม่แพงกว่าราคาป้ายมือสองปัจจุบัน แต่เราผ่อนเป็นเดือนๆได้ ประหยัดได้เยอะเลย ยิ่งได้รถตลาด ที่มีประกันเหลือ ก็ปิดความเสี่ยงลงไปอีก
เห็นด้วยครับ มีให้เลือกเพียบเลย
-
เคยวิ่งมาแล้วทั่วไทย จากใจจิ้มโตโยต้า
แนะนำออฟชั่นหลักๆ เอาแค่ abs ถุงลม ที่เหลือแล้วแต่ชอบ
-
ซื้อรถที่ซ่อมง่าย ศูนย์ใกล้ครับ เซลล์อยู่รถวันนึงหลายชั่วโมงโอกาสเกิดอุบัติเหตูเล็กน้อยสูง ถ้ารถซ่อมนานค่าเสียโอกาสในการไปหาลูกค้าสูงมากครับ เซลล์บางอย่างก็ต้องมีอุปกรณ์ ตัวอย่างสินค้าไว้ติดรถ ถ้าเสียนานเป็นอาทิตย์นี่ทีนี่ งานงอกเลยครับ performance เดือนนั้นหายไปเลย
-
มือสองดีกว่าไหมครับ มาร์ช ปี 12-14 ราคาอยู่แถวๆ220-250 ถ้าเกียร์ธรรมดา ประมาณ 150-200 ปี 11-13
-
เชียร์ Jazz ค่ะ ขนของได้เยอะ นั่งสบาย ประหยัดน้ำมันที่สุด แถมฮอนด้า ขายได้ราคาโอเคอีก ที่สำคัญเบี้ยประกันโอเคนะ จ่ายไหว ไม่แพงเหมือน หลายๆ ลองเข้าไปเช็คพวกราคาประกันด้วยค่ะ เพราะว่าเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นมาเลย องไปเช็คดูเว็บนี้ https://money.priceza.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C (https://money.priceza.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C)
-
ถ้าขับเยอะ ของเยอะ ไป yaris ดีกว่าครับ
-
ผมเป็นเซลล์ รถที่ใช้แนะนำโตโยต้าครับ
- ทน และไว้ใจได้ ชิ้นส่วนสำคัญๆ พวกเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ทนทาน ไม่ซับซ้อน
เครื่องยนต์เป็นวาวล์ไฮดรอลิก ไม่ต้องตั้งวาวล์, เกียร์ Cvt บำรุงรักษาตามระยะ 2 แสนโลก็ยังไม่พังง่ายๆ
- ค่าบำรุงรักษาต่ำ
- อะไหล่ซัพพอทร์เยอะ
ผมเคยอินดี้ ไปซื้อ Fiesta มาใช้วิ่งงานเซลล์ บอกเลยความทนทาน ความไว้ใจได้ สู้เจ้าตลาดไม่ได้จริงๆ
ไม่ได้อวยโตโยต้านะ แต่เจ็บมาเยอะ เลยมาตายรังกับโตโยต้าเหมือนเดิม