Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: little29 ที่ มิถุนายน 01, 2018, 12:02:40
-
ปกติขับมิตซูบิชิมิราจเกียร์ออโต้ (รถคันแรก)จะครบหกปีแล้ววิ่งไปประมาณแค่ 40,000 กว่าโล แต่ตอนนี้ซื้อบ้านนอกตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วคงจะวิ่งเยอะขึ้น สนใจchr ตัวใหม่กำลังตัดสินใจว่า 1.8 เบนซินหรือ 1.8 ไฮบริดดี
ผมไม่เคยคิดซื้อรถราคา 1ล้าน กว่าบาทมาก่อนครับ (ตอนรอราคาก็ไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ )ส่วนใหญ่ขับคนเดียวหรือมีผู้โดยสารหน้าหนึ่งคนนานทีจะมีครอบครัวนั่งด้วย รวม 4 คน ขับเร็วประมาณ 80-90
ลองขับไฮบริทมาแล้วนิ่งและเงียบมากๆแค่ขับวนในโชว์รูมเบนซินยังไม่เคยครับ
เพื่อนสมาชิกว่าผมสมควรที่จะซื้อดีมั้ยครับ เพราะใจก็ชอบและรอมานาน และถ้าและถ้าซื้อจริงๆไฮบริดหรือเบนซินดีกว่ากันในอนาคตจะใช้ประมาณ 7 ปีครับ เวลาขายต่อและปัญหาจุกจิก ที่จะซื้อเราอยากได้รถที่ดีแลให้เป็นของขวัญกับตัวเองด้วย รบกวนสมาชิกขอความคิดเห็นได้นะครับผมยินดีครับ
-
ใช้7ปี กำลังดีครับ
ผมเดาว่า ณ.วันนี้ ผ่านไปสัก สีห้าปี รถEV คงวิ่งเริ่มเยอะขึ้น
ความพร้อมของสถานี้คงมากขึ้น
และที่เชียงใหม่ ตอนนี้เห็นมีรถ ตุ๊กๆ EV
และ กฟภ.ก็ไปสร้างสถานีสำหรับเติมรถตุ๊กๆ
ในเมืองเยอะแยะ
ส่วน Chr ณ. เวลานั้นผ่านไป 7 ปี ก็ขาย
ไปซื้อ EV แทนไปเลย
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000005636901.JPEG)
-
1.8 เบนซิน ธรรมดาก็พอครับ
ถ้าไม่ได้ใช้รถวิ่งเยอะจริงๆ ความประหยัดที่ได้จากไฮบริดจะไม่คุ้มเอาครับ
ตอนครบ 7 ปี ก็ปล่อยขายง่ายกว่าครับ
แต่ดูเหมือนเป็นคนขับรถไม่เร็ว ไม่รอดู HR-V ตัว MC หน่อยเหรอครับ
-
Hrv เคยลองขับตแล้วครับไม่โอเคกับช่วงล่างและพวงมาลัยครับ งานประกอบความแน่นหนาอันนี้ผมซีเรียสตรงนี้ด้วยครับ ซึ่งฮอนด้าอเนกประสงค์จริงแต่งานประกอบผมไม่โอเคจริงๆครับ
-
ไฮบริดโตโยต้าไม่น่ากลัวครับ ยืนยันจากคนที่ใช้แคมรี่ไฮบริดมาเกือบ5ปีแล้วขาย รับประกันแบต10ปี มีอะไรก็เคลมได้ครับ โตโยต้าไม่เรื่องมากที่จะเคลมให้อยู่แล้ว เข้าศูนย์ บำรุงรักษา ราคาไม่ต่างกับรถเบนซิลปกติครับ ราวนี้ก็แล้วแต่ท่าน จขกท จะเลือกเรยครับ ว่าอยากได้รุ่นไหน
ปล.สีฟ้าหลังคาดำ สวยดีนะครับ ::) ::) ::)
-
แนวความคิดคล้ายๆ กันครับ (ไม่อยากซื้อรถที่ราคาแพงมากๆ) สำหรับความคิดผมถ้าจะใช้ 7 ปีแล้วขายก็คงซื้อเครือง 1.8 ธรรมดาๆ นี่แหละครับ (รถผมเพิ่งผ่าน 7 ปีเตรียมเล็งๆ ซื้อคันใหม่อยู่เหมือนกัน)
-
ไฮบริดโตโยต้าไม่น่ากลัวครับ ยืนยันจากคนที่ใช้แคมรี่ไฮบริดมาเกือบ5ปีแล้วขาย รับประกันแบต10ปี มีอะไรก็เคลมได้ครับ โตโยต้าไม่เรื่องมากที่จะเคลมให้อยู่แล้ว เข้าศูนย์ บำรุงรักษา ราคาไม่ต่างกับรถเบนซิลปกติครับ ราวนี้ก็แล้วแต่ท่าน จขกท จะเลือกเรยครับ ว่าอยากได้รุ่นไหน
ปล.สีฟ้าหลังคาดำ สวยดีนะครับ ::) ::) ::)
ขอถามได้ไหมครับ ว่าตอนขาย แคมรี่ โฮบริด แล้วได้ราคาประมาณเท่าไร ครับ
-
แค่ตัวเบนซินธรรมดาก็น่าจะพอครับ ใช้งานนอกเมืองเชียงใหม่ถ้าไม่ค่อยเจอรถติดบ่อยๆก็ประหยัดน้ำมันพอตัว แถมขับแค่ 80-90 เป็นช่วงที่ให้ความประหยัดน้ำมันสูงอยู่แล้วด้วย
-
ใช้รถน้อย ผมว่าเบนซินก็พอแล้วครับ
เก็บส่วนต่างไว้เติมน้ำมันได้สบายๆครับ
ปล. ผมก็คิดคล้าย จขกท ไม่เคยคิดจะซื้อรถราคาหลักล้านมาก่อน แต่สุดท้ายก็ซื้อ 5555
-
ควรซื้อไม่ซ์้อตอบไม่ได้ครับ จริงๆของเดิมยังใช้ดีก็ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ผ่อนไม่ได้ลำบากรอมานานแล้วก็จัดไป
7ปีไฮบริดไม่น่ามีปัญหา จะมีก็ตอนขายถ้ารับได้ก็จัดไป
แต่ถ้าใช้น้อยเอาตัวธรรมดาเหลือๆครับ ไฟหน้าไฟท้ายไว้ค่อยมาเบิกใส่เอาทีหลัง
-
ถ้าใจรัก CHR จริงๆ ผมว่าซื้อตัวล่างๆพอ ระบบไฮบริคค่าซ่อม และราคาขาย ไม่เหมาะกับสายประหยัด
แต่ถ้ารักษ์โลก และมีเงินเหลือๆก็จัดไปครับ
รถโรงานผมเคยมีแคมรี่ไฮบริคเป็นรถประจำตำแหน่ง เข้าศูนย์ก่อนเวลาถึงระยะ น้ำมันเติมอย่างดี ขับนิ่มๆให้นายนั้ง ผ่านไป 4 ปีแบตไฮบริคเสีย เปลี่ยนใหม่ก้อนละ 1 แสนกว่าๆ ขายได้รถไป 4 แสนต้นๆ เรื่องแบตศูนย์บอกเป็นจากการใช้งาน ไม่ใช่แบตมีปัญหา ต้องจ่ายเอง หลังจากนั้นประธานออกคำสั่งไม่ซื้อรถไฮบริคมาใช้อีกต่อไป ถามว่าทำไมข่าวไม่ใหญ่ ไม่เรียกร้อง สคบ.ละ ก็พี่โตเป็นลูกค้าอยู่ไงใครจะไปงัดให้เสียอนาคต...
-
เช็คราคาประกันรถดูด้วยนะ ค่าใช้จ่ายตรงนี้เยอะเหมือนกันค่ะ ต้องเปรียบเทียบเลือกดีๆ ลองดูเว็บนี้ https://money.priceza.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C (https://money.priceza.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C)
-
ถ้าชอบรุ่นนี้จริง ก็ 1.8 ธรรมดาก็พอครับ ใช้น้อย แถมนอกเมืองเชียงใหม่ ไฮบริดไม่น่าได้ใช้ประโยชน์มากนัก
-
เป็นผมจะใช้คันเดิมไปก่อน ;) ;) ;) ;) ;)
-
1.8 กำลังดีนะครับ เพราะส่วนต่างไปเอา Hybrid เฉลี่ยแล้วอาจจะมากกว่าค่าน้ำมันที่ประหยัดได้
แต่ถ้าพูดถึง Hybrid ผมว่าไม่น่ากลัว ส่วนตัวผมมี Toyota-Lexus เท่านั้นที่ผมวางใจใช้รถ Hybrid ครับ
-
หากอยากรู้ว่าราคา chr รุ่น hybrid เมื่อใช้ไป 7 ปี จะเหลือเท่าไหร่ เทียบเคียงกับรถพรีอุสปี 2011 ที่มีขายในปัจจุบันได้เลยครับ ปีนี้ปี 2018 ก็ 7 ปีเหมือนกัน รถไฮบริดเหมือนกัน
ราคารถใหม่พรีอุสตอนนั้นประมาณ 1.1-1.3 ล้าน พอๆกับ chr ตอนนี้ พอจะดูเป็นแนวทางได้ เลื่อนลงไปดูราคารถปี 2011 ได้ครับ
(อันนี้เป็นราคาตั้ง ราคาขายจริงอาจลดได้อีกตามการเจรจา)
http://www.taladrod.com/w30/iSch/SchC.aspx?fno:all+mk:37+md:466+gr:b+gs:n
ผมมีพรีอุส ปี 2012 อยู่ ตอนนี้อายุรถก็ 6 ปีแล้ว มีแบตลูกใหญ่เสื่อมตอน 5 ปีกับ6 เดือน เลขกิโล 89,356 กม. อยู่ใน warranty 10 ปี เคลมได้ง่าย จ่าย 2,011 บาท ค่าแรง+ค่าธรรมเนียม
อย่างอื่นยังไม่มีเสียครับ
chr เท่าที่ดูผลทดสอบแล้วประหยัดน้ำมันพอๆกับ prius
เลยขอแชร์ข้อมูลคันผมครับ ตอนนี้วิ่งมาประมาณ 1 แสนกิโล ส่วนใหญ่ใช้รับส่งหลานโรงเรียนประถม รถติดๆในเมือง ความเร็วเฉลี่ย 21 กม/ชม , กินน้ำมัน 16 กม/ลิตร , คิดเป็น 1.77 บาท/กม (จดสะสมมาตั้งแต่ปีแรกๆ ราคาน้ำมันขึ้นลงตามตลาด ใช้ gasohol95 )
รถผมเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยาง จาก standard 195/65/15 เป็น 215/50/17 (ก็เลยจะกินน้ำมันกว่าคันอื่น)
ถ้าวิ่ง 90 กม/ชม นิ่งๆ จะกินน้ำมันประมาณ 23 กม/ลิตร
ถ้าวิ่ง 120 กม/ชม นิ่งๆ จะกินน้ำมันประมาณ 20 กม/ลิตร
ระหว่าง chr 1.8 กับ ไฮบริด อันนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูละครับว่าชอบอย่างไหน
ไฮบริดจะราคาตกกว่า อะไหล่บางอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับระบบไฮบริดจะแพงหลักหลายหมื่น แต่ถ้ารุ่น top สุด จะได้ ระบบช่วยเหลือ toyota safety sense-p ( ผมว่าถ้าเลือกไฮบริดตัวที่ไม่มี toyota safety sense-p อย่างนี้เลือกเครื่อง 1.8 ธรรมดาดีกว่าครับ )
อะไหล่พรีอุสรุ่นผมที่เคยหาราคาไว้นะครับ
- แบตไฮบริด 86,250 บาท
- มอเตอร์คอพวงมาลัย 30,300 บาท
- Inverter ราคา 81,400 .- บาท
- กล่อง ECU ราคา 33,250..- บาท
- คอมเพรสเซอร์แอร์ 45,000
- ปั๊มเบรคไฟฟ้า 63,500
- ไฟหน้า led คู่ละ 44,000
จะซื้อใหม่หรือไม่ซื้อ ถ้าจะซื้อ ซื้อรุ่นไหนดี ตอบแทนลำบากครับ ต้องดูบริบทแต่ละคน
แต่หวังว่าข้อมูลที่ให้ข้างบนจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง หรือถ้ามีอะไรพอจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ก็ยินดีเช่นกันครับ
รูปนี้ใบเสร็จจากทางโตโยต้าตอนเปลี่ยนแบตครับ บวก vat ด้วย รวมแล้ว 2,011 บาท
-
สนใจ Option ของตัว TOP แค่ไหนครับ ถ้ารุ่นกลาง (mid) พอเพียง ก็เล่น 1.8ธรรมดาก็ได้ครับ
ทาง Toyota มีโครงการรับประกันราคาขายต่อ แต่ก็จะได้สูงสุดเทียบเท่าราคาขายต่อของรุ่น 1.8 ธรรมดา
อีกอย่าง จากบ้านนอกเมืองไปที่ทำงาน เป็นทางขึ้นลงเขาบ้างไหมครับ
เห็นพี่ๆในนี้เคยบอกว่า ถ้า Battery Hybrid ไฟไม่พอจ่ายให้มอเตอร์ทำงานตอนขึ้นทางชัน ก็แทบจะไม่มีแรงเลยครับ
ลองศึกษาดูนะครับ
-
หากอยากรู้ว่าราคา chr รุ่น hybrid เมื่อใช้ไป 7 ปี จะเหลือเท่าไหร่ เทียบเคียงกับรถพรีอุสปี 2011 ที่มีขายในปัจจุบันได้เลยครับ ปีนี้ปี 2018 ก็ 7 ปีเหมือนกัน รถไฮบริดเหมือนกัน
ราคารถใหม่พรีอุสตอนนั้นประมาณ 1.1-1.3 ล้าน พอๆกับ chr ตอนนี้ พอจะดูเป็นแนวทางได้ เลื่อนลงไปดูราคารถปี 2011 ได้ครับ
(อันนี้เป็นราคาตั้ง ราคาขายจริงอาจลดได้อีกตามการเจรจา)
http://www.taladrod.com/w30/iSch/SchC.aspx?fno:all+mk:37+md:466+gr:b+gs:n
ผมมีพรีอุส ปี 2012 อยู่ ตอนนี้อายุรถก็ 6 ปีแล้ว มีแบตลูกใหญ่เสื่อมตอน 5 ปีกับ6 เดือน เลขกิโล 89,356 กม. อยู่ใน warranty 10 ปี เคลมได้ง่าย จ่าย 2,011 บาท ค่าแรง+ค่าธรรมเนียม
อย่างอื่นยังไม่มีเสียครับ
chr เท่าที่ดูผลทดสอบแล้วประหยัดน้ำมันพอๆกับ prius
เลยขอแชร์ข้อมูลคันผมครับ ตอนนี้วิ่งมาประมาณ 1 แสนกิโล ส่วนใหญ่ใช้รับส่งหลานโรงเรียนประถม รถติดๆในเมือง ความเร็วเฉลี่ย 21 กม/ชม , กินน้ำมัน 16 กม/ลิตร , คิดเป็น 1.77 บาท/กม (จดสะสมมาตั้งแต่ปีแรกๆ ราคาน้ำมันขึ้นลงตามตลาด ใช้ gasohol95 )
รถผมเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยาง จาก standard 195/65/15 เป็น 215/50/17 (ก็เลยจะกินน้ำมันกว่าคันอื่น)
ถ้าวิ่ง 90 กม/ชม นิ่งๆ จะกินน้ำมันประมาณ 23 กม/ลิตร
ถ้าวิ่ง 120 กม/ชม นิ่งๆ จะกินน้ำมันประมาณ 20 กม/ลิตร
ระหว่าง chr 1.8 กับ ไฮบริด อันนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูละครับว่าชอบอย่างไหน
ไฮบริดจะราคาตกกว่า อะไหล่บางอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับระบบไฮบริดจะแพงหลักหลายหมื่น แต่ถ้ารุ่น top สุด จะได้ ระบบช่วยเหลือ toyota safety sense-p ( ผมว่าถ้าเลือกไฮบริดตัวที่ไม่มี toyota safety sense-p อย่างนี้เลือกเครื่อง 1.8 ธรรมดาดีกว่าครับ )
อะไหล่พรีอุสรุ่นผมที่เคยหาราคาไว้นะครับ
- แบตไฮบริด 86,250 บาท
- มอเตอร์คอพวงมาลัย 30,300 บาท
- Inverter ราคา 81,400 .- บาท
- กล่อง ECU ราคา 33,250..- บาท
- คอมเพรสเซอร์แอร์ 45,000
- ปั๊มเบรคไฟฟ้า 63,500
- ไฟหน้า led คู่ละ 44,000
จะซื้อใหม่หรือไม่ซื้อ ถ้าจะซื้อ ซื้อรุ่นไหนดี ตอบแทนลำบากครับ ต้องดูบริบทแต่ละคน
แต่หวังว่าข้อมูลที่ให้ข้างบนจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง หรือถ้ามีอะไรพอจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ก็ยินดีเช่นกันครับ
รูปนี้ใบเสร็จจากทางโตโยต้าตอนเปลี่ยนแบตครับ บวก vat ด้วย รวมแล้ว 2,011 บาท
พี่เอา Prius กับ C-HR มาเทียบกันตรง ๆ ในบริบทของเมืองไทยแบบนั้นอาจจะคลาดเคลื่อนเยอะครับ
ตัว Prius ประกอบไทยนั้น มันใช้ชิ้นส่วนนำเข้าเกือบทั้งหมดจากญี่ปุ่นแล้วค่อยเอามาต่อตัวถัง พ่นสี และประกอบในเมืองไทยครับ
แทบจะไม่มีชิ้นส่วนใด ๆ ที่ผลิตในเมืองไทยเลย ผลคือเวลาเบิกอะไหล่ทั้งหมดจึงต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งนั่นก็เลยทำให้ราคาอะไหล่มันแพง
ค่าประกันแพง ส่งผลไปถึงราคาขายต่อที่ตกมากกว่า เพราะรถอะไรก็ตามถ้าค่าอะไหล่แพง ราคาจะตกครับ
แต่พี่ก็โชคดีนะ เพราะ Prius คันของพี่แทบจะไม่ต่างไปจาก Prius คันที่วิ่งในญี่ปุ่นเลยครับ
ส่วน C-HR นั้นมันประกอบในประเทศและใช้บ้านเราเป็นฐานส่งออกในบางส่วนด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังใช้ชิ้นส่วน Platform TNGA ร่วมกันกับ Camry, Altis ใหม่ที่กำลังจะมาอีก
รถพวกนี้ทำชิ้นส่วนในประเทศเราเยอะมาก ๆ ครับ
ดังนั้น ราคาอะไหล่และราคาขายต่อ ผมว่าน่าจะไปอ้างอิงกับพวก Camry, Altis ตัวปัจจุบันมากกว่า
แต่ก็เห็นด้วยส่วนหนึ่งว่า ณ ปัจจุบัน ยังไงแนวโน้มราคาขายต่อรถไฮบริดจะตกมากกว่ารถเครื่องเบนซินธรรมดาครับ
ปล. ผมคิดเล่น ๆ นะ นี่ถ้าไม่ได้อัตราภาษีสรรพสามิตรถไฮบริดที่ถูกกว่ารถน้ำมันมาก ๆ ราคา C-HR ตัวเบนซินกับตัวไฮบริด
คงจะต่างกันกว่านี้มาก ๆ และคงทำให้การเลือกรุ่นไม่ยากลำบากใจเท่านี้มั๊งครับ
-
หากอยากรู้ว่าราคา chr รุ่น hybrid เมื่อใช้ไป 7 ปี จะเหลือเท่าไหร่ เทียบเคียงกับรถพรีอุสปี 2011 ที่มีขายในปัจจุบันได้เลยครับ ปีนี้ปี 2018 ก็ 7 ปีเหมือนกัน รถไฮบริดเหมือนกัน
ราคารถใหม่พรีอุสตอนนั้นประมาณ 1.1-1.3 ล้าน พอๆกับ chr ตอนนี้ พอจะดูเป็นแนวทางได้ เลื่อนลงไปดูราคารถปี 2011 ได้ครับ
(อันนี้เป็นราคาตั้ง ราคาขายจริงอาจลดได้อีกตามการเจรจา)
http://www.taladrod.com/w30/iSch/SchC.aspx?fno:all+mk:37+md:466+gr:b+gs:n
ผมมีพรีอุส ปี 2012 อยู่ ตอนนี้อายุรถก็ 6 ปีแล้ว มีแบตลูกใหญ่เสื่อมตอน 5 ปีกับ6 เดือน เลขกิโล 89,356 กม. อยู่ใน warranty 10 ปี เคลมได้ง่าย จ่าย 2,011 บาท ค่าแรง+ค่าธรรมเนียม
อย่างอื่นยังไม่มีเสียครับ
chr เท่าที่ดูผลทดสอบแล้วประหยัดน้ำมันพอๆกับ prius
เลยขอแชร์ข้อมูลคันผมครับ ตอนนี้วิ่งมาประมาณ 1 แสนกิโล ส่วนใหญ่ใช้รับส่งหลานโรงเรียนประถม รถติดๆในเมือง ความเร็วเฉลี่ย 21 กม/ชม , กินน้ำมัน 16 กม/ลิตร , คิดเป็น 1.77 บาท/กม (จดสะสมมาตั้งแต่ปีแรกๆ ราคาน้ำมันขึ้นลงตามตลาด ใช้ gasohol95 )
รถผมเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยาง จาก standard 195/65/15 เป็น 215/50/17 (ก็เลยจะกินน้ำมันกว่าคันอื่น)
ถ้าวิ่ง 90 กม/ชม นิ่งๆ จะกินน้ำมันประมาณ 23 กม/ลิตร
ถ้าวิ่ง 120 กม/ชม นิ่งๆ จะกินน้ำมันประมาณ 20 กม/ลิตร
ระหว่าง chr 1.8 กับ ไฮบริด อันนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูละครับว่าชอบอย่างไหน
ไฮบริดจะราคาตกกว่า อะไหล่บางอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับระบบไฮบริดจะแพงหลักหลายหมื่น แต่ถ้ารุ่น top สุด จะได้ ระบบช่วยเหลือ toyota safety sense-p ( ผมว่าถ้าเลือกไฮบริดตัวที่ไม่มี toyota safety sense-p อย่างนี้เลือกเครื่อง 1.8 ธรรมดาดีกว่าครับ )
อะไหล่พรีอุสรุ่นผมที่เคยหาราคาไว้นะครับ
- แบตไฮบริด 86,250 บาท
- มอเตอร์คอพวงมาลัย 30,300 บาท
- Inverter ราคา 81,400 .- บาท
- กล่อง ECU ราคา 33,250..- บาท
- คอมเพรสเซอร์แอร์ 45,000
- ปั๊มเบรคไฟฟ้า 63,500
- ไฟหน้า led คู่ละ 44,000
จะซื้อใหม่หรือไม่ซื้อ ถ้าจะซื้อ ซื้อรุ่นไหนดี ตอบแทนลำบากครับ ต้องดูบริบทแต่ละคน
แต่หวังว่าข้อมูลที่ให้ข้างบนจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง หรือถ้ามีอะไรพอจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ก็ยินดีเช่นกันครับ
รูปนี้ใบเสร็จจากทางโตโยต้าตอนเปลี่ยนแบตครับ บวก vat ด้วย รวมแล้ว 2,011 บาท
พี่เอา Prius กับ C-HR มาเทียบกันตรง ๆ ในบริบทของเมืองไทยแบบนั้นอาจจะคลาดเคลื่อนเยอะครับ
ตัว Prius ประกอบไทยนั้น มันใช้ชิ้นส่วนนำเข้าเกือบทั้งหมดจากญี่ปุ่นแล้วค่อยเอามาต่อตัวถัง พ่นสี และประกอบในเมืองไทยครับ
แทบจะไม่มีชิ้นส่วนใด ๆ ที่ผลิตในเมืองไทยเลย ผลคือเวลาเบิกอะไหล่ทั้งหมดจึงต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งนั่นก็เลยทำให้ราคาอะไหล่มันแพง
ค่าประกันแพง ส่งผลไปถึงราคาขายต่อที่ตกมากกว่า เพราะรถอะไรก็ตามถ้าค่าอะไหล่แพง ราคาจะตกครับ
แต่พี่ก็โชคดีนะ เพราะ Prius คันของพี่แทบจะไม่ต่างไปจาก Prius คันที่วิ่งในญี่ปุ่นเลยครับ
ส่วน C-HR นั้นมันประกอบในประเทศและใช้บ้านเราเป็นฐานส่งออกในบางส่วนด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังใช้ชิ้นส่วน Platform TNGA ร่วมกันกับ Camry, Altis ใหม่ที่กำลังจะมาอีก
รถพวกนี้ทำชิ้นส่วนในประเทศเราเยอะมาก ๆ ครับ
ดังนั้น ราคาอะไหล่และราคาขายต่อ ผมว่าน่าจะไปอ้างอิงกับพวก Camry, Altis ตัวปัจจุบันมากกว่า
แต่ก็เห็นด้วยส่วนหนึ่งว่า ณ ปัจจุบัน ยังไงแนวโน้มราคาขายต่อรถไฮบริดจะตกมากกว่ารถเครื่องเบนซินธรรมดาครับ
ปล. ผมคิดเล่น ๆ นะ นี่ถ้าไม่ได้อัตราภาษีสรรพสามิตรถไฮบริดที่ถูกกว่ารถน้ำมันมาก ๆ ราคา C-HR ตัวเบนซินกับตัวไฮบริด
คงจะต่างกันกว่านี้มาก ๆ และคงทำให้การเลือกรุ่นไม่ยากลำบากใจเท่านี้มั๊งครับ
เข้าใจครับเรื่องที่พรีอุสนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบที่ไทย(แล้วมีปัญหากับทางกรมศุลด้วย) เนื่องจากใช้รุ่นนี้อยู่ ตอนนั้นก็ตามข่าวประเด็นนี้ และเคยยก link ในเรื่องนี้มาตอบไว้เหมือนกันตอนต้นปี
ตอนซื้อผมลองเทียบราคาคัมรี่กับพรีอุสในประเทศต่างๆนอกเหนือจากญี่ปุ่น เช่นที่อเมริกา ว่าถ้า trim ระดับเดียวกัน ราคาจะพอๆกัน แต่พอมาไทย พรีอุสใช้สิทธิภาษี ทำให้ราคาถูกกว่าคัมรี่ไฮบริดหลายแสนบาท
เจตนาของผมก็อยากบอกข้อเท็จจริงให้เพื่อนๆสมาชิกที่สนใจ ถึงข้อดีข้อเสีย น่ะครับ
(ซึ่งเห็นคล้ายกันครับ เรื่อง อะไหล่แพง ทำให้คนกลัว แล้วราคาขายต่อตก)
ข้อเสียก็อย่างที่หลายๆท่านทราบว่า รถไฮบริด ราคาตก กับ อะไหล่เกี่ยวกับระบบไฮบริดแพง
ที่ผมยกตัวอย่างข้างบนจะเป็นอะไหล่ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบไฮบริด ผมมองว่าแพงเพราะเกี่ยวกับระบบไฮบริดน่ะครับ
หากเป็นอะไหล่ในประเทศ น่าจะถูกลง แต่ก็ยังแพงกว่าเครื่องเบนซินธรรมดา เช่น คอมเพลสเซอร์แอร์ที่ต้องพ่วงกับระบบไฮบริดด้วย เพราะพอเครื่องดับแล้วแอร์ยังต้องเย็น โดยไม่ต้องใช้สายพานเครื่องมาหมุน
เรื่องราคาตก ก็เห็นตรงกันครับว่าราคาตกกว่าปกติ เพราะรถไฮบริดรุ่นอื่นๆที่ประกอบในประเทศก็ราคาตกกว่าปกติเช่นกัน เช่น แคมรี่ไฮบริด หรือ เบนซ์รุ่นไฮบริด
แต่ข้อดีของรถไฮบริดก็มีเยอะ ประหยัดน้ำมันอันนี้ประหยัดจริง (เลยให้ตัวเลขอัตราการกินน้ำมันให้ดู เผื่อเพื่อนๆที่สนใจจะไปคำนวณได้ว่าใช้ในเมืองประหยัดเท่าไหร่ ใช้นอกเมืองจะประหยัดเท่าไหร่)
แล้วผมก็ชอบข้อดีในส่วนที่คิดเป็นตัวเงินไม่ได้ เช่น ปัจจุบัน โรงเรียนที่ไปรับหลานชั้นประถม ไม่มีที่จอดรถในโรงเรียน รถผู้ปกครองที่ไปรับจะใช้วิธีต่อคิวค่อยๆเคลื่อนเข้าไปทางประตูหน้า ออกอีกประตู ผ่านจุดรับเด็ก จะไม่ให้จอดรอ
อย่างน้อยระหว่างที่รถผมเคลื่อนต่อคิวเข้าไปโรงเรียนประถมที่มีเด็กวิ่งเล่นกันอยู่ในสนามเด็กเล่นข้างๆ เครื่องก็ดับ ใช้แต่ไฟฟ้าอย่างเดียว ไม่ปล่อยไอเสียออกมา
สำหรับผม ผมสนใจ chr hybrid อยู่เหมือนกันครับ เพื่อเอามาแทนพรีอุสคันปัจจุบัน (อยากได้ safety sense-p)