Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: V221 ที่ มิถุนายน 11, 2018, 07:26:59
-
ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วครับว่าทำไม AASถึงยังไม่สามารถกำหนดส่งมอบ Cayenne ใหม่ให้กับลูกค้าได้ เพราะผู้ผลิตในยุโรปเจอกับข้อบังคับ WLTP ใหม่ที่จะมีผลในเดือนกันยายนนี้นี่เองจึงทำให้ต้องระงับการผลิตรถยนต์หลายๆรุ่นกันถ้วนหน้า
https://www.autovistagroup.com/news-and-insights/porsche-latest-manufacturer-face-production-delays-over-wltp
-
หลายๆท่านที่เคยตั้งข้อสังเกตว่าอัตราสิ้นเปลืองจริงสูงกว่าที่ผู้ผลิตเคลมไว้ก็ชัดเจนแล้วครับ ไม่เช่นนั้นทางEUคงจะไม่ยกเลิกมาตรฐานNEDCเดิมแล้วเปลี่ยนเป็นWLTPใหม่
http://www.businesscar.co.uk/analysis/2018/bmw-slashes-model-range-amid-wltp-fears
-
ไม่ได้เข้าไปอ่าน
แตเดาว่า มาตราฐานใหม่ ปรับให้สอดคล้อง กับ ชีวิตจริง
เนื่องจาก มาตราฐานเดิม แค่ไป Run SLow down ในห้องทดสอบ ได้ค่า Co2 ต่ำๆ OEM ก็โกงได้
ของใหม่น่าจะเคี่ยว เข้ามาปิดจุดนี้
-
ใช่ครับ การทดสอบใหม่จะใกล้เคียงกับการใช้งานจริงๆมากขึ้นเช่นรถHybridจะต้องทดสอบตั้งแต่แบตเต็มจนแบตหมดเป็นต้นและยังต้องแสดงอัตราสิ้นเปลืองขณะแบตหมดด้วย แต่ก็สร้างภาระเพิ่มขึ้นให้ผู้ผลิตเช่นกัน ซึ่งวิธีการแบบนี้จะทำให้รถรุ่นที่ขายน้อยๆต้องล้มหายตายจากโดยปริยาย ข่าวล่าสุด Benzก็ทำท่าว่าจะเจอข้อหาใช้Cheating device 5อย่างสำหรับเครื่องดีเซลอีกชุดใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นจริงตามข้อกล่าวหาก็อาจจะโดนปรับสูงถึง4.4พันล้านเหรียญเป็นอย่างน้อย
https://www.motor1.com/news/244561/daimler-used-5-defeat-devices/
-
ลองดูตามเว็บเยอรมันตอนนี้ รถหายไปหลายรุ่นเลยครับ
อย่างเบนซ์ GLE เหลือขายแค่เครื่อง 350d รุ่นเดียว แถมอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน WLTP เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกเยอะ
Audi ที่เป็นรุ่น S/RS ก็เข้าไป configure ไม่ได้เลยสักรุ่น
แต่โดยรวมผมว่าเป็นผลดีต่อผู้บริโภค ข้อมูลจากผู้ผลิตจะใกล้ความจริงมากขึ้น
เห็นว่านอกจาก WLTP แล้ว ต่อไปจะต้องนำเสนอตัวเลขที่ทดสอบบนถนนจริง (real driving emissions) ด้วยนะครับ
-
ดีละครับ เพราะที่ผ่านมา เลขเคลมกันเวอร์มากเลยสำหรับค่ายเยอรมันหลายๆค่าย แต่พอขับจริงก็ไม่ถึง
ปรับมาตรฐานใหม่แบบนี้ ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากขึ้นเยอะเลย
จำตอนดู Topgear ได้เลย BMW i8 เคลมไว้ประหยัดเวอร์วังมาก เรนจ์หายห่วง พอเจอตา Jeremy Clarkson ขับ (แต่ในรีวิวเขาก้บอกคนขับ i8 ส่วนใหญ่ก็ทำได้ราวๆนี้) กลายเป็นว่า ทำได้ต่ำกว่าที่เคลมมากๆ
BMW Test 134 MPG
Real world 31 MPG
เพี้ยนจนน่าเกลียดเลยละครับ 555
ตอนอ่านสเป็ค i8 นี่ Wow ประหยัดจน LC500h เหมือนไดโนเสาร์ ขณะที่ Lexus ทำได้ตามที่เคลมไว้เป๊ะๆ คือ 35 +- MPG
จริงๆแล้ว ไม่ได้ประหยัดกว่า แถมถังน้ำมันเล็กจนวิ่งได้ระยะทางสั้นอีก
ไม่ค่อยแฟร์สำหรับค่ายอื่นที่เคลมเลขไว้ตรงๆเท่าไหร่
-
ใน EU การเคลมตัวเลขมลพิษ ตัวเลขการบริโภคน้ำมัน เชื่อไม่ได้จริงๆ ตัวเลขเว่อร์ไปไกลมาก
-
ในตปทผู้บริโภคได้ประโยชน์แน่
แต่ในบ้านเรา ราคารถคงเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะจะโดนเรตภาษีที่สูงขึ้นแน่ๆ เพราะตัวเลขความประหยัดและco2 ที่แสดงตอนนี้มันไม่สะท้อนความจริง
-
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ เขาคิดยังไงถึงทดสอบในสภาวะห้องปฏิบัติการแบบนั้น แทนที่จะทดสอบในสภาวะการใช้งานจริง
คือด้วยวิสัยของวิญญูชน หลักสามัญสำนึกของคนปกติ ควรจะคิดได้แต่แรกว่าควรจะทดสอบในสภาวะการใช้งานจริง
-
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ เขาคิดยังไงถึงทดสอบในสภาวะห้องปฏิบัติการแบบนั้น แทนที่จะทดสอบในสภาวะการใช้งานจริง
คือด้วยวิสัยของวิญญูชน หลักสามัญสำนึกของคนปกติ ควรจะคิดได้แต่แรกว่าควรจะทดสอบในสภาวะการใช้งานจริง
จริงๆ ทดสอบในห้อง ปฏิบัติการนะถูกแล้ว
แต่ รูปแบบ การทดสอบ ควร จำลองมาจากการใช้งานจริง ให้มากกว่านี้
แต่ปัญหาคือ รูปแบบการทดสอบ ในห้องปฏิบัติการ มันไม่ได้ ใกล้เคียงกับ ชีวิตจริงเลย
เหมือนเอาไปขับเดินเบา ค่อยๆ ส่งคันเร่ง ขับช้าๆ แถม เวลา ที่ใช้ก็นิดเดียวเองมั้ง คือ น่าตบกระโหลก คนคิดรูปแบบนี้มาก คนคิดน่าจะ ค่ายรถยนต์นั่นละ
แถม พอมาบ้านเรา ก็ Follow Water ตามๆ กันไป