Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SP ที่ มิถุนายน 14, 2018, 12:42:54

หัวข้อ: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: SP ที่ มิถุนายน 14, 2018, 12:42:54
คุยกันขำๆครับ เกิดจากความสงสัยส่วนตัวครับว่าพวกรถ B-segment พิกัด 1.5 อย่าง Jazz, City, Mazda 2 จะวิ่งทางไกลได้สบายกว่า

Eco Car มั้ยครับ ซึ่งคำว่าสบายในที่นี้คือเรื่องของพละกำลังเครื่องยนต์ที่ใช้ในการเร่งแซง อัตราเร่ง อัตราการสิ้นเปลือง รวมไปถึงช่วงล่าง

ผมเคยขับ Yaris 1.2 จาก กทม.ถึงอุดรธานี วิ่ง 100-120 มีกดถึง 140 บ้างบางช่วง ผมรู้สึกว่ารถค่อนข้างเปลืองน้ำมันและรู้สึกเหนื่อย

จนผมคิดว่าถ้าซื้อรถใช้เองคงไม่ซื้อกลุ่มนี้แน่ๆ และจากราคาของรถกระบะยกสูงตอนนี้ราคามันพอๆกับรถ B-segment และตอนนี้ก็ใช้

กระบะวิ่งทางไกลอยู่เป็นประจำ เลยคิดว่าถ้าจับสองกลุ่มนี้เทียบกันควรจะไปทางไหนถึงจะลงตัวและคุ้มเงินสุดครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: wa330 ที่ มิถุนายน 14, 2018, 12:56:50
4ประตูตัวสูงขับสบายกว่าเยอะครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: ชายโอ๊ต ที่ มิถุนายน 14, 2018, 12:59:47
เด่วนี้กระบะรุ่นใหม่ ขับสบายกว่าเก๋งเยอะครับ
ทั้งสมรถนะและทัศนวิสัย
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ มิถุนายน 14, 2018, 13:02:52
กระบะมันแพงกว่าเก๋งขนาด B เยอะเลยนะ
ยกเว้นพวกแคป ถ้าเล่นกระบะ4ประตูไปเลย

รถยนต์ที่ขับสนุก อัตราเร่งดี แฮนด์ลิ่งดี
 ฟีลลิ่งดี ขับไม่เครียด ไม่เหนื่อย
Ecocar ทำไม่ได้สักคัน เร่งมากๆก็กินน้ำมันอีก

เดินทางบ่อยๆ กระบะ เอนกประสงค์กว่า แถมขับดีกว่าเก่งขนาด B อีกครับ

หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ มิถุนายน 14, 2018, 13:14:09
เวลาผมขับรถกลับจากรีสอร์ทที่ปากช่องมากรุงเทพ

บ่อยครั้งที่นึกอิจฉารถเซลครับ แคมรี่เอย อัลติสเอย
B-seg ทั้งหลาย รูดซ้ายกันมันเลย ไปได้เร็วกว่าชาวบ้านเค้าเยอะเลยครับ

ทีนี้เคยสังเกตุเหมือนกันว่า ทำไมกระบะ จริงๆแล้วที่เรามองว่าทนถึก ถึงไม่รูดกัน มันมีข้อจำกัดอะไรหรือไง

ถ้ากระบะรูดไม่ได้ ส่วนตัวผม ใช้ b-seg มุดๆๆขวากับกลางยังสบายใจกว่านะ

ไม่เกี่ยวกับคำถามเลยให้ตายเหอะ ขอโทษด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: faora ที่ มิถุนายน 14, 2018, 13:29:01
เวลาผมขับรถกลับจากรีสอร์ทที่ปากช่องมากรุงเทพ

บ่อยครั้งที่นึกอิจฉารถเซลครับ แคมรี่เอย อัลติสเอย
B-seg ทั้งหลาย รูดซ้ายกันมันเลย ไปได้เร็วกว่าชาวบ้านเค้าเยอะเลยครับ

ทีนี้เคยสังเกตุเหมือนกันว่า ทำไมกระบะ จริงๆแล้วที่เรามองว่าทนถึก ถึงไม่รูดกัน มันมีข้อจำกัดอะไรหรือไง

ถ้ากระบะรูดไม่ได้ ส่วนตัวผม ใช้ b-seg มุดๆๆขวากับกลางยังสบายใจกว่านะ

ไม่เกี่ยวกับคำถามเลยให้ตายเหอะ ขอโทษด้วยนะครับ


กระบะคงบรรทุกผักมาตลาดไทส่งมั๊งครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ มิถุนายน 14, 2018, 13:40:33
ผมใช้ B seg วิ่งทั่วไทยนะ [mz2 d]
มันต่างกรรม ต่างวาระหนะครับ
ถ้าวิ่งยาวๆ ทางตรงๆ ถนนแย่ๆตามทางหลวงไทย ขับเองมีคนนั่งหน้าคนเดียว เป็นคนตัวใหญ่ พวก prerunner ดีกว่านะ
แต่กลับกัน ถ้าเริ่มมีโค้ง B seg ที่ช่วงล่างดีระดับนึง และกำลังเครื่องดีๆ ผมว่าดีกว่า(ถ้าตัวคุณเล็กนะ) มันไม่โยน นั่งหลังไม่เหวี่ยง เจอโค้งหักๆ หรือขึ้นเขา ตัวเบาๆกลับไปได้เรื่อยๆ กว่ากระบะที่ดูเหมือนจะแรงบิดดี
ยิ่งฝนตก ตัวเล็ก ตัวไม่สูงนี่ละ ยิ่งได้เปรียบเลย
รถลู่ลมกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า
....
แต่ 4ประตู ยกสูงเนี่ย ราคามันขึ้นไปตี C seg แล้วนะครับ....
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: superest ที่ มิถุนายน 14, 2018, 14:12:56
ผมเคยคิด อยากจะถามในนี้ เล่นๆ เหมือนกัน ว่า

     ระหว่าง ecocar ตัวธรรมดา ล่างสุดไม่มีoptionอะไรเลย  กับกระบะตอนเดียว ตัวล่างสุด  ไม่มี optionอะไรเลย วิ่งต่างจังหวัด อย่างไหน ปลอดภัยกว่ากัน?
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ มิถุนายน 14, 2018, 14:14:30
ตั้งแต่เปลี่ยนรถจาก b seg มา C seg รู้เลยว่า เหนื่อยไม่เหนื่อยนอกจากกำลังเครื่องแล้ว การซับความสั่นสะเทือนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ

c seg ซับได้ดีกว่า b seg ชัดเจนมาก นอกจากนี้ หากวิ่งเร็ว การเกร็งพวงมาลัย ก็ไม่ซีเรียสกว่าด้วยครับ

ส่วนกระบะมันซับแรงได้ดีกว่า c seg อีก แถมทัศนวิสัยดีด้วย ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่ แต่หากวิ่งเร็วจะเริ่มเครียดละ โดยเฉพาะถนนที่มีคลื่น หรือ ไม่เรียบ

ส่วนที่ จขกท. ว่ามา การวิ่งทางไกล ส่วนใหญ่รถใช้ความเร็วสูงกันทั้งนั้น eco car มันต้องเค้น เพื่อให้ถึงจุดนั้น รวมถึงการเร่งแซงบางช่วง บางตอน

และการเค้นกำลังเครื่อง มันก็ไม่ประหยัดน้ำมันนะเออ 
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มิถุนายน 14, 2018, 14:19:37
CC  มากกว่ากัน  แต่รถเหมือนกัน   CC  มากกว่าจะสบายกว่า
รถใหญ่กว่า  แต่ CC  เท่ากัน  คันใหญ่สบายกว่า   ยกเว้นเค้นกำลังเครื่องออกมามาก ในทางยาว  ๆ
คันใหญ่กว่า CC มากกว่า แรงบิดดีกว่า   ขับเหนื่อยน้อยกว่ารถเล็ก 

 เป็นสมการที่ถูกต้องแล้ว 

คันเล็ก CC  น้อย วิ่งยาว  ๆ  ถ้ารู้จักรถพักบ่อย ๆ วิ่งเรื่อย  ๆ จะไม่เหนื่อย   วิ่งนะวิ่งได้แต่จะทรมานตัวเองกับสังขาร วิ่งยาว ๆ ไปทำไม
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: holahola66 ที่ มิถุนายน 14, 2018, 14:48:32
B-Seg ขับดี นั่งสบาย กว่ารถเพื่อการเกษตรเยอะครับ ถ้าไม่พูดถึงประโยชน์การใช้งาน รถกระบะคือรถที่การขับขี่ ห่วยแตก ไม่ได้เรื่อง ยิ่งยกสูงยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าไม่มีความจำเป็น อย่าซื้อครับ
 
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: boogie2020 ที่ มิถุนายน 14, 2018, 14:58:51
ผมขับ กทม-เชียงใหม่-กทม บ่อย   ไล่มาตั้งแต่ Mirage, Jazz, altis 2017 ,vigo prerunner  4dr,  BT50 pro 4dr,  Colorado 4dr.

Mirage เหนื่อยสุด ๆ  ทั้งเสียงยาง เสียงลม ความส่ายเวลาเจอถนนไม่ดี

ส่วนความสบาย  ถ้าวิ่งไม่เกิน 120  ผมเลือกกระบะตัวไหนก็ได้  กระบะทั้ง 3 ตัว ผมโอเคหมดทั้ง 3 ตัว  ต่อให้ vigo ที่ว่ากระเด้งกะดอน  แต่ถ้าขับไม่เกิน 120 ยังไงมันก็ยังสบาย ๆ  แต่ถ้าเจอโค้ง มันจะโยนตัวเยอะ  อย่างช่วงขุนตาลเนี่ย แม้ BT50 pro ที่ว่าช่วงล่างดี ๆ  ผมก็ยังไม่มั่นใจเท่า Jazz หรือ Altis  เลยด้วยซ้ำ

หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ มิถุนายน 14, 2018, 15:16:37
อยากอายุยืน ขับรถคันใหญ่ๆไว้
ผลวิจัยเขาว่าแบบนั้น และมันเป็นเรื่องจริง
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: โบตั๋น ที่ มิถุนายน 14, 2018, 15:24:32
กระบะใหญ่ๆขับสบายแต่เสียหลักง่ายเพราะท้ายเบา แต่จากประสบการณ์ D-SEG ขับสบายกว่า C-SEG ขับสบายกว่า B-SEG ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=fAPZsO96IGg
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มิถุนายน 14, 2018, 15:29:11
ถ้าขับอย่างเดียว ผมคงเอาเก๋ง ไม่เอากระบะ ผมดูจากการใช้งานเป็นหลักมากกว่าครับ ถ้าไม่ได้จะขนอะไรมากมาย หรือบ่อยๆ ไม่รู้จะเอากระบะไปทำไม
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Nut_K ที่ มิถุนายน 14, 2018, 16:26:04
ความแน่นของช่วงล่าง + การเก็บเสียง + ขับสบายในทางเรียบ : กระบะยกสูง

ความผ่อนคลายในการขับขี่ ( โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้ง ) : B-Segment

อันนี้อิงจากประสบการณ์ตรง City vs BT-50 Pro
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ มิถุนายน 14, 2018, 17:39:16
ผมใช้กระบะยกสูงอยู่ ขับขอนแก่น-เชียงใหม่ มาครั้งนึง
เเละเคยขับบริโอ้ ขอนแก่น-หาดใหญ่ ครั้งนึง
สรุปสั้นๆ ขับกระบะสบายกว่า ถ้าขับเกินพันโล ผมจิ้มกระบะยกสูงไม่ลังเลครับ ถ้าจะเอารายละเอียดจริงๆ ib เข้ามาสอบถามนะครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: ToRToNGPaT ที่ มิถุนายน 14, 2018, 20:48:22
เคยขับ Jazz GK ไป-กลับ กทม. เขาใหญ่ อยู่รอบนึง ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ วิ่ง 100 เปิด Cruise Control ยาวๆไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ลำบากมากเท่าไหร่ แค่ออกก่างรถปูน รถบรรทุกไว้ แล้วก็ระวังเวลาขึ้นลงทางชันๆครับ

กระบะยังไม่เคยขับครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มิถุนายน 14, 2018, 21:20:47
กระบะขับสบายกว่าเยอะ
ยิ่งคนนั่งเยอะๆ ยิ่งชัด กระบะกำลังไม่ตก ไม่ต้องรีด ไม่ต้องเค้น
ผมเคยขับอัลติส 1.8 นั่งกับเพื่อน 5 คน แต่ละคนตัวควายๆทั้งนั้น เหมือนแบกถังโปรตีน
ขับข้ามจังหวัดแล้วอึดอัดมาก

ขากลับขับดีแม็กซ์ 3.0 vgs บรรทุกหนักกว่าเดิมอีก ทั้งคนทั้งของ
แต่ขับสบายกว่ามากกกกกกก
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: SP ที่ มิถุนายน 14, 2018, 21:50:32
กระบะขับสบายกว่าเยอะ
ยิ่งคนนั่งเยอะๆ ยิ่งชัด กระบะกำลังไม่ตก ไม่ต้องรีด ไม่ต้องเค้น
ผมเคยขับอัลติส 1.8 นั่งกับเพื่อน 5 คน แต่ละคนตัวควายๆทั้งนั้น เหมือนแบกถังโปรตีน
ขับข้ามจังหวัดแล้วอึดอัดมาก

ขากลับขับดีแม็กซ์ 3.0 vgs บรรทุกหนักกว่าเดิมอีก ทั้งคนทั้งของ
แต่ขับสบายกว่ามากกกกกกก

บรรยายได้เห็นภาพเลยครับ 555555

เหมือนพี่ๆในนี้ส่วนมากจะจิ้มกระบะกัน แล้วถ้าเป็นกระบะแค็ปกับ B-seg เครื่องพันห้าดีเซล จะจิ้มตัวไหนดีครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Amnaj ที่ มิถุนายน 15, 2018, 07:16:05
กะบะ ยกสูง AUTO เท่านั้น ถ้าเป็นตัวเครื่องใหญ่ด้วยยิ่งดี ถ้างบเหลือทำช่วงล่างอีกหน่อย จบๆ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Yangyang ที่ มิถุนายน 15, 2018, 07:26:11
มีคนนั่งด้วยมั้ยครับ ถ้าผู้โดยสารเมารถง่ายไป b seg ดีกว่าครับ
เคยเรียก uber จากทองหล่อกลับลาดกระบัง เจอ vigo 4 ประตู นั่งเบาะหลัง
ถึงบ้านเมารถได้ที่ นอนเป็นชั่วโมงกว่าจะหาย
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ มิถุนายน 15, 2018, 08:39:30
ผมเมารถง่าย ขับกระบะยกสูงสั้นๆก็เมาละ
ดังนั้นจิ้มไปที่ B-segment อย่างเดียวครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Bond007 ที่ มิถุนายน 15, 2018, 09:05:08
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องขนาด Mazda 2 ดีเซล ตอบโจทย์มากครับ อัตราเร่ง การสิ้นเปลือง อยู่หัวตารางในกลุ่มเลยครับ

เสียอย่างเดียวถ้านั่งน้อยหรือไม่ได้ขนของ (รถเบาๆ) ช่วงล่างจะตึงตัง (ตามประสา Mazda ที่น้ำหนักรถเบา)
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ มิถุนายน 15, 2018, 09:09:54
เคยใช้ สลับกันอยู่

Triton 2.5 Cab A/T ตอนนั้น  5 แสนกว่าบาท เปลี่ยนยาง 235 (Yokohama) ใส่โช้คอัพ Procomp

Jazz GE S A/T ตอนนั้น 5.8 แสนบาท ใส่ยาง GR80 195/60-15 (ณ ตอนนั้น) ใส่โช้คอัพ New SR

ผมชอบขับ Triton นะ มันนิ่มกว่า Jazz แต่มุดได้มันส์กว่า เกาะถนนดีกว่า ที่สำคัญ ไม่โดนรถใหญ่ พวกรถบัสรับส่งพนักงานรังแก ด้วย

ส่วน Jazz ก็ไปได้แหละ ถ้าเทียบกับ Almera / March มันก็สบายกว่าเยอะ เหยียบแล้วขึ้น เกาะถนนก็โอเคระดับหนึ่ง 130 - 140 มันไปได้ (เปลี่ยนโช้คนะ เดิมๆไม่กล้า)

ปล. กระบะ สำหรับผมก็ต้องเปลี่ยนโช้คนะ ให้ขับ Vigo Cab เดิมๆ กับ Jazz ผมก็เลือก Jazz นะ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มิถุนายน 15, 2018, 13:27:31
กระบะครับ
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ มิถุนายน 15, 2018, 14:50:30
เหนื่อยขับรถมาจากหลายๆอย่าง

จากที่เทียบกัน b-seg sedan vs pickup ยกสูง
ปัจจัยต่างกันแน่ๆ
1.ทัศนวิสัย
2.การซับแรงสะเทือน
3.แฮนด์ลิ่งการขับขี่

จาก 1. ทัศน
การมองไกล กะจังหวะได้ดี ไม่โดนบัง ทำให้การขับเหนื่อยตามสภาวะ

จาก 2. ซับสะเทือน
กระบะถ้าวิ่งถนนขรุขระมากๆนี่ซับแรงสะเทือนถึงคนขับได้ดีกว่าเก๋งนะครับ
แต่ถ้าเก็บผิวส้มของถนน รับรองเก๋งเก็บดีกว่า

จาก 3. แฮนด์ลิ่ง
อันนี้แล้วแต่จริตคน
บางคนพวงมาลัยคม ขับไม่ไกลมากจะไม่เหนื่อย เพราะสมาธิยังไม่ล้า
กระบะพวงมาลัยจะไม่คมเท่าเก๋ง วอกแวกได้เยอะกว่า ขับไกลๆมากๆ ยังไงสมาธิก็ไม่ล้าเท่าเก๋ง

ยังมีภาพจากเส้นถนนทำให้สายตาล้าได้อีก
รถเก๋งจะเตี้ย เวลาวิ่งเส้นถนนจะผ่านหางตาเร็วมาก ก็มีผลทำให้เหนื่อยได้ง่ายนะครับ
รถกระบะจะสูง วิ่งแล้วเส้นต่างๆผ่านตาจะสบายกว่า

จากหลายๆอย่าง ผมก็ชอบแนวทางรถยกสูงกว่าเก๋งครับ ขับทางไกล  :)
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มิถุนายน 16, 2018, 04:04:46
ส่วนตัวได้ทั้งสองครับ แต่ต้องเจาะจงรุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบัน หรือดีกว่านะ

รถเก๋งเล็ก 1.6 ที่ใช้วิ่งทางไกล ผมชอบตรงที่มันมุดได้ ขับสนุก เจอแช่ขวาก็มุดแซงได้ง่ายๆ ซอกแซกๆไปได้เร็ว ทำเวลาได้ดี ประหยัดน้ำมัน แต่...
ขับทางไกลมาหลายครั้ง ต้องกลับมาซ่อมแม็ก ไม่ก็เปลี่ยนยางไปแล้ว 3 เส้น เพราะเดินทางไกลล้วนๆ แล้วขับๆไปเจอเหตุการณ์น้ำท่วมที่เลี่ยงไม่ได้ 2 ครั้ง
น้ำเข้ารถไปครั้งนึง แต่ถือว่าโชคดีที่โดนแค่นั้น เพราะลุยน้ำหลากข้ามถนน รถสวนมาน้ำขึ้นถึงกระจกหน้าแล้วรอดมาได้ดีที่รถไม่พัง

ส่วนหลังๆก็ใช้ PPV/SUV เดินทางแทน ไม่เจอเกี่ยวกับเรื่องยางและแม็กอีกเพราะต้องตกหลุม หรือรูดทางแย่ๆ แต่ความคล่องตัวจะไม่เทียบเท่าจะมุดจะซอกแซกก็ต้องคิดเยอะกว่าเดิม เสียค่าน้ำมันเยอะขึ้นแต่เติมน้อยครั้งลง
หัวข้อ: Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
เริ่มหัวข้อโดย: MA_Nas1990 ที่ มิถุนายน 27, 2018, 09:46:21
ผมก็ใช้เส้นทางกรุงเทพ-อุดรอยู่ประจำครับ ใช้ vigo 3.0 prerunner 4 ประตูตัวเก่า วิ่ง 120-140 สบายมากครับ กลับถึงกรุงเทพเดินห้างต่อได้