Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SP ที่ มิถุนายน 14, 2018, 12:42:54
-
คุยกันขำๆครับ เกิดจากความสงสัยส่วนตัวครับว่าพวกรถ B-segment พิกัด 1.5 อย่าง Jazz, City, Mazda 2 จะวิ่งทางไกลได้สบายกว่า
Eco Car มั้ยครับ ซึ่งคำว่าสบายในที่นี้คือเรื่องของพละกำลังเครื่องยนต์ที่ใช้ในการเร่งแซง อัตราเร่ง อัตราการสิ้นเปลือง รวมไปถึงช่วงล่าง
ผมเคยขับ Yaris 1.2 จาก กทม.ถึงอุดรธานี วิ่ง 100-120 มีกดถึง 140 บ้างบางช่วง ผมรู้สึกว่ารถค่อนข้างเปลืองน้ำมันและรู้สึกเหนื่อย
จนผมคิดว่าถ้าซื้อรถใช้เองคงไม่ซื้อกลุ่มนี้แน่ๆ และจากราคาของรถกระบะยกสูงตอนนี้ราคามันพอๆกับรถ B-segment และตอนนี้ก็ใช้
กระบะวิ่งทางไกลอยู่เป็นประจำ เลยคิดว่าถ้าจับสองกลุ่มนี้เทียบกันควรจะไปทางไหนถึงจะลงตัวและคุ้มเงินสุดครับ
-
4ประตูตัวสูงขับสบายกว่าเยอะครับ
-
เด่วนี้กระบะรุ่นใหม่ ขับสบายกว่าเก๋งเยอะครับ
ทั้งสมรถนะและทัศนวิสัย
-
กระบะมันแพงกว่าเก๋งขนาด B เยอะเลยนะ
ยกเว้นพวกแคป ถ้าเล่นกระบะ4ประตูไปเลย
รถยนต์ที่ขับสนุก อัตราเร่งดี แฮนด์ลิ่งดี
ฟีลลิ่งดี ขับไม่เครียด ไม่เหนื่อย
Ecocar ทำไม่ได้สักคัน เร่งมากๆก็กินน้ำมันอีก
เดินทางบ่อยๆ กระบะ เอนกประสงค์กว่า แถมขับดีกว่าเก่งขนาด B อีกครับ
-
เวลาผมขับรถกลับจากรีสอร์ทที่ปากช่องมากรุงเทพ
บ่อยครั้งที่นึกอิจฉารถเซลครับ แคมรี่เอย อัลติสเอย
B-seg ทั้งหลาย รูดซ้ายกันมันเลย ไปได้เร็วกว่าชาวบ้านเค้าเยอะเลยครับ
ทีนี้เคยสังเกตุเหมือนกันว่า ทำไมกระบะ จริงๆแล้วที่เรามองว่าทนถึก ถึงไม่รูดกัน มันมีข้อจำกัดอะไรหรือไง
ถ้ากระบะรูดไม่ได้ ส่วนตัวผม ใช้ b-seg มุดๆๆขวากับกลางยังสบายใจกว่านะ
ไม่เกี่ยวกับคำถามเลยให้ตายเหอะ ขอโทษด้วยนะครับ
-
เวลาผมขับรถกลับจากรีสอร์ทที่ปากช่องมากรุงเทพ
บ่อยครั้งที่นึกอิจฉารถเซลครับ แคมรี่เอย อัลติสเอย
B-seg ทั้งหลาย รูดซ้ายกันมันเลย ไปได้เร็วกว่าชาวบ้านเค้าเยอะเลยครับ
ทีนี้เคยสังเกตุเหมือนกันว่า ทำไมกระบะ จริงๆแล้วที่เรามองว่าทนถึก ถึงไม่รูดกัน มันมีข้อจำกัดอะไรหรือไง
ถ้ากระบะรูดไม่ได้ ส่วนตัวผม ใช้ b-seg มุดๆๆขวากับกลางยังสบายใจกว่านะ
ไม่เกี่ยวกับคำถามเลยให้ตายเหอะ ขอโทษด้วยนะครับ
กระบะคงบรรทุกผักมาตลาดไทส่งมั๊งครับ
-
ผมใช้ B seg วิ่งทั่วไทยนะ [mz2 d]
มันต่างกรรม ต่างวาระหนะครับ
ถ้าวิ่งยาวๆ ทางตรงๆ ถนนแย่ๆตามทางหลวงไทย ขับเองมีคนนั่งหน้าคนเดียว เป็นคนตัวใหญ่ พวก prerunner ดีกว่านะ
แต่กลับกัน ถ้าเริ่มมีโค้ง B seg ที่ช่วงล่างดีระดับนึง และกำลังเครื่องดีๆ ผมว่าดีกว่า(ถ้าตัวคุณเล็กนะ) มันไม่โยน นั่งหลังไม่เหวี่ยง เจอโค้งหักๆ หรือขึ้นเขา ตัวเบาๆกลับไปได้เรื่อยๆ กว่ากระบะที่ดูเหมือนจะแรงบิดดี
ยิ่งฝนตก ตัวเล็ก ตัวไม่สูงนี่ละ ยิ่งได้เปรียบเลย
รถลู่ลมกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า
....
แต่ 4ประตู ยกสูงเนี่ย ราคามันขึ้นไปตี C seg แล้วนะครับ....
-
ผมเคยคิด อยากจะถามในนี้ เล่นๆ เหมือนกัน ว่า
ระหว่าง ecocar ตัวธรรมดา ล่างสุดไม่มีoptionอะไรเลย กับกระบะตอนเดียว ตัวล่างสุด ไม่มี optionอะไรเลย วิ่งต่างจังหวัด อย่างไหน ปลอดภัยกว่ากัน?
-
ตั้งแต่เปลี่ยนรถจาก b seg มา C seg รู้เลยว่า เหนื่อยไม่เหนื่อยนอกจากกำลังเครื่องแล้ว การซับความสั่นสะเทือนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ
c seg ซับได้ดีกว่า b seg ชัดเจนมาก นอกจากนี้ หากวิ่งเร็ว การเกร็งพวงมาลัย ก็ไม่ซีเรียสกว่าด้วยครับ
ส่วนกระบะมันซับแรงได้ดีกว่า c seg อีก แถมทัศนวิสัยดีด้วย ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่ แต่หากวิ่งเร็วจะเริ่มเครียดละ โดยเฉพาะถนนที่มีคลื่น หรือ ไม่เรียบ
ส่วนที่ จขกท. ว่ามา การวิ่งทางไกล ส่วนใหญ่รถใช้ความเร็วสูงกันทั้งนั้น eco car มันต้องเค้น เพื่อให้ถึงจุดนั้น รวมถึงการเร่งแซงบางช่วง บางตอน
และการเค้นกำลังเครื่อง มันก็ไม่ประหยัดน้ำมันนะเออ
-
CC มากกว่ากัน แต่รถเหมือนกัน CC มากกว่าจะสบายกว่า
รถใหญ่กว่า แต่ CC เท่ากัน คันใหญ่สบายกว่า ยกเว้นเค้นกำลังเครื่องออกมามาก ในทางยาว ๆ
คันใหญ่กว่า CC มากกว่า แรงบิดดีกว่า ขับเหนื่อยน้อยกว่ารถเล็ก
เป็นสมการที่ถูกต้องแล้ว
คันเล็ก CC น้อย วิ่งยาว ๆ ถ้ารู้จักรถพักบ่อย ๆ วิ่งเรื่อย ๆ จะไม่เหนื่อย วิ่งนะวิ่งได้แต่จะทรมานตัวเองกับสังขาร วิ่งยาว ๆ ไปทำไม
-
B-Seg ขับดี นั่งสบาย กว่ารถเพื่อการเกษตรเยอะครับ ถ้าไม่พูดถึงประโยชน์การใช้งาน รถกระบะคือรถที่การขับขี่ ห่วยแตก ไม่ได้เรื่อง ยิ่งยกสูงยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าไม่มีความจำเป็น อย่าซื้อครับ
-
ผมขับ กทม-เชียงใหม่-กทม บ่อย ไล่มาตั้งแต่ Mirage, Jazz, altis 2017 ,vigo prerunner 4dr, BT50 pro 4dr, Colorado 4dr.
Mirage เหนื่อยสุด ๆ ทั้งเสียงยาง เสียงลม ความส่ายเวลาเจอถนนไม่ดี
ส่วนความสบาย ถ้าวิ่งไม่เกิน 120 ผมเลือกกระบะตัวไหนก็ได้ กระบะทั้ง 3 ตัว ผมโอเคหมดทั้ง 3 ตัว ต่อให้ vigo ที่ว่ากระเด้งกะดอน แต่ถ้าขับไม่เกิน 120 ยังไงมันก็ยังสบาย ๆ แต่ถ้าเจอโค้ง มันจะโยนตัวเยอะ อย่างช่วงขุนตาลเนี่ย แม้ BT50 pro ที่ว่าช่วงล่างดี ๆ ผมก็ยังไม่มั่นใจเท่า Jazz หรือ Altis เลยด้วยซ้ำ
-
อยากอายุยืน ขับรถคันใหญ่ๆไว้
ผลวิจัยเขาว่าแบบนั้น และมันเป็นเรื่องจริง
-
กระบะใหญ่ๆขับสบายแต่เสียหลักง่ายเพราะท้ายเบา แต่จากประสบการณ์ D-SEG ขับสบายกว่า C-SEG ขับสบายกว่า B-SEG ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=fAPZsO96IGg
-
ถ้าขับอย่างเดียว ผมคงเอาเก๋ง ไม่เอากระบะ ผมดูจากการใช้งานเป็นหลักมากกว่าครับ ถ้าไม่ได้จะขนอะไรมากมาย หรือบ่อยๆ ไม่รู้จะเอากระบะไปทำไม
-
ความแน่นของช่วงล่าง + การเก็บเสียง + ขับสบายในทางเรียบ : กระบะยกสูง
ความผ่อนคลายในการขับขี่ ( โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้ง ) : B-Segment
อันนี้อิงจากประสบการณ์ตรง City vs BT-50 Pro
-
ผมใช้กระบะยกสูงอยู่ ขับขอนแก่น-เชียงใหม่ มาครั้งนึง
เเละเคยขับบริโอ้ ขอนแก่น-หาดใหญ่ ครั้งนึง
สรุปสั้นๆ ขับกระบะสบายกว่า ถ้าขับเกินพันโล ผมจิ้มกระบะยกสูงไม่ลังเลครับ ถ้าจะเอารายละเอียดจริงๆ ib เข้ามาสอบถามนะครับ
-
เคยขับ Jazz GK ไป-กลับ กทม. เขาใหญ่ อยู่รอบนึง ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ วิ่ง 100 เปิด Cruise Control ยาวๆไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ลำบากมากเท่าไหร่ แค่ออกก่างรถปูน รถบรรทุกไว้ แล้วก็ระวังเวลาขึ้นลงทางชันๆครับ
กระบะยังไม่เคยขับครับ
-
กระบะขับสบายกว่าเยอะ
ยิ่งคนนั่งเยอะๆ ยิ่งชัด กระบะกำลังไม่ตก ไม่ต้องรีด ไม่ต้องเค้น
ผมเคยขับอัลติส 1.8 นั่งกับเพื่อน 5 คน แต่ละคนตัวควายๆทั้งนั้น เหมือนแบกถังโปรตีน
ขับข้ามจังหวัดแล้วอึดอัดมาก
ขากลับขับดีแม็กซ์ 3.0 vgs บรรทุกหนักกว่าเดิมอีก ทั้งคนทั้งของ
แต่ขับสบายกว่ามากกกกกกก
-
กระบะขับสบายกว่าเยอะ
ยิ่งคนนั่งเยอะๆ ยิ่งชัด กระบะกำลังไม่ตก ไม่ต้องรีด ไม่ต้องเค้น
ผมเคยขับอัลติส 1.8 นั่งกับเพื่อน 5 คน แต่ละคนตัวควายๆทั้งนั้น เหมือนแบกถังโปรตีน
ขับข้ามจังหวัดแล้วอึดอัดมาก
ขากลับขับดีแม็กซ์ 3.0 vgs บรรทุกหนักกว่าเดิมอีก ทั้งคนทั้งของ
แต่ขับสบายกว่ามากกกกกกก
บรรยายได้เห็นภาพเลยครับ 555555
เหมือนพี่ๆในนี้ส่วนมากจะจิ้มกระบะกัน แล้วถ้าเป็นกระบะแค็ปกับ B-seg เครื่องพันห้าดีเซล จะจิ้มตัวไหนดีครับ
-
กะบะ ยกสูง AUTO เท่านั้น ถ้าเป็นตัวเครื่องใหญ่ด้วยยิ่งดี ถ้างบเหลือทำช่วงล่างอีกหน่อย จบๆ
-
มีคนนั่งด้วยมั้ยครับ ถ้าผู้โดยสารเมารถง่ายไป b seg ดีกว่าครับ
เคยเรียก uber จากทองหล่อกลับลาดกระบัง เจอ vigo 4 ประตู นั่งเบาะหลัง
ถึงบ้านเมารถได้ที่ นอนเป็นชั่วโมงกว่าจะหาย
-
ผมเมารถง่าย ขับกระบะยกสูงสั้นๆก็เมาละ
ดังนั้นจิ้มไปที่ B-segment อย่างเดียวครับ
-
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องขนาด Mazda 2 ดีเซล ตอบโจทย์มากครับ อัตราเร่ง การสิ้นเปลือง อยู่หัวตารางในกลุ่มเลยครับ
เสียอย่างเดียวถ้านั่งน้อยหรือไม่ได้ขนของ (รถเบาๆ) ช่วงล่างจะตึงตัง (ตามประสา Mazda ที่น้ำหนักรถเบา)
-
เคยใช้ สลับกันอยู่
Triton 2.5 Cab A/T ตอนนั้น 5 แสนกว่าบาท เปลี่ยนยาง 235 (Yokohama) ใส่โช้คอัพ Procomp
Jazz GE S A/T ตอนนั้น 5.8 แสนบาท ใส่ยาง GR80 195/60-15 (ณ ตอนนั้น) ใส่โช้คอัพ New SR
ผมชอบขับ Triton นะ มันนิ่มกว่า Jazz แต่มุดได้มันส์กว่า เกาะถนนดีกว่า ที่สำคัญ ไม่โดนรถใหญ่ พวกรถบัสรับส่งพนักงานรังแก ด้วย
ส่วน Jazz ก็ไปได้แหละ ถ้าเทียบกับ Almera / March มันก็สบายกว่าเยอะ เหยียบแล้วขึ้น เกาะถนนก็โอเคระดับหนึ่ง 130 - 140 มันไปได้ (เปลี่ยนโช้คนะ เดิมๆไม่กล้า)
ปล. กระบะ สำหรับผมก็ต้องเปลี่ยนโช้คนะ ให้ขับ Vigo Cab เดิมๆ กับ Jazz ผมก็เลือก Jazz นะ
-
กระบะครับ
-
เหนื่อยขับรถมาจากหลายๆอย่าง
จากที่เทียบกัน b-seg sedan vs pickup ยกสูง
ปัจจัยต่างกันแน่ๆ
1.ทัศนวิสัย
2.การซับแรงสะเทือน
3.แฮนด์ลิ่งการขับขี่
จาก 1. ทัศน
การมองไกล กะจังหวะได้ดี ไม่โดนบัง ทำให้การขับเหนื่อยตามสภาวะ
จาก 2. ซับสะเทือน
กระบะถ้าวิ่งถนนขรุขระมากๆนี่ซับแรงสะเทือนถึงคนขับได้ดีกว่าเก๋งนะครับ
แต่ถ้าเก็บผิวส้มของถนน รับรองเก๋งเก็บดีกว่า
จาก 3. แฮนด์ลิ่ง
อันนี้แล้วแต่จริตคน
บางคนพวงมาลัยคม ขับไม่ไกลมากจะไม่เหนื่อย เพราะสมาธิยังไม่ล้า
กระบะพวงมาลัยจะไม่คมเท่าเก๋ง วอกแวกได้เยอะกว่า ขับไกลๆมากๆ ยังไงสมาธิก็ไม่ล้าเท่าเก๋ง
ยังมีภาพจากเส้นถนนทำให้สายตาล้าได้อีก
รถเก๋งจะเตี้ย เวลาวิ่งเส้นถนนจะผ่านหางตาเร็วมาก ก็มีผลทำให้เหนื่อยได้ง่ายนะครับ
รถกระบะจะสูง วิ่งแล้วเส้นต่างๆผ่านตาจะสบายกว่า
จากหลายๆอย่าง ผมก็ชอบแนวทางรถยกสูงกว่าเก๋งครับ ขับทางไกล :)
-
ส่วนตัวได้ทั้งสองครับ แต่ต้องเจาะจงรุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบัน หรือดีกว่านะ
รถเก๋งเล็ก 1.6 ที่ใช้วิ่งทางไกล ผมชอบตรงที่มันมุดได้ ขับสนุก เจอแช่ขวาก็มุดแซงได้ง่ายๆ ซอกแซกๆไปได้เร็ว ทำเวลาได้ดี ประหยัดน้ำมัน แต่...
ขับทางไกลมาหลายครั้ง ต้องกลับมาซ่อมแม็ก ไม่ก็เปลี่ยนยางไปแล้ว 3 เส้น เพราะเดินทางไกลล้วนๆ แล้วขับๆไปเจอเหตุการณ์น้ำท่วมที่เลี่ยงไม่ได้ 2 ครั้ง
น้ำเข้ารถไปครั้งนึง แต่ถือว่าโชคดีที่โดนแค่นั้น เพราะลุยน้ำหลากข้ามถนน รถสวนมาน้ำขึ้นถึงกระจกหน้าแล้วรอดมาได้ดีที่รถไม่พัง
ส่วนหลังๆก็ใช้ PPV/SUV เดินทางแทน ไม่เจอเกี่ยวกับเรื่องยางและแม็กอีกเพราะต้องตกหลุม หรือรูดทางแย่ๆ แต่ความคล่องตัวจะไม่เทียบเท่าจะมุดจะซอกแซกก็ต้องคิดเยอะกว่าเดิม เสียค่าน้ำมันเยอะขึ้นแต่เติมน้อยครั้งลง
-
ผมก็ใช้เส้นทางกรุงเทพ-อุดรอยู่ประจำครับ ใช้ vigo 3.0 prerunner 4 ประตูตัวเก่า วิ่ง 120-140 สบายมากครับ กลับถึงกรุงเทพเดินห้างต่อได้