Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wangleehom ที่ มิถุนายน 18, 2018, 11:23:36
-
รถ e300bluetech hybrid
เป็นดีเซล ไฮบริด น่าจะประหยัดมากๆ
ทำไมรถรุ่นนี้ถึงราคาดิ่งเหวอย่างงี้ครับ ใครๆใช้ก็บอกเข็ด
เพราะอะไรหรอครับ มีปัญหาอะไร
-
ปัญหาระบบไฮบริดครับ คุณพ่อผมใช้ออกรถมาไม่ถึงปี บางวันไปธุระต่างจังหวัดขับๆอยู่ไฟเตือนขึ้นพรึบได้กินข้าวลิงข้างทาง ราคารถ3.7ล้าน ค่าซ่อมปาไป1.5ล้าน นี่ขนาดรถอายุแค่ไม่ถึง3ปีนะครับยังซ่อมขนาดนี้
-
แค่คนที่อ่านๆผ่านตาในเฟสบุ้คของกลุ่มเบ้นซ์ ทั้ง C300 E300 ยังปวดหัวแทนเลยคับ
-
เกือบซื้อแล้วตัวนี้คิดเหมือนกัน ดาวดีเซล+ไฮบริดน่าจะประหยัดและเชื่อถือได้
โชคดีจริงๆ ที่ไปใบพัด
-
เป็น hybrid รุ่นแรกๆของ MB ปัญหาค่อนข้างเยอะครับ หมดประกัน 3 ปีโดนค่าซ่อมไปร่วมๆ 2 แสนแล้วครับ ประหยัดน้ำมันโอเคแต่ว่าปวดหัวกับค่าดูแลรักษาแถมลุ้นอีกต่างหากว่าไฟจะโชว์เมื่อไร 555
-
เอาจริงๆมันก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าตัว E250cgi เลยนะครับ
0-100 หรือ 80-120 ออกแนวแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ มีดีแค่
ประหยัดกว่าและสวยกว่าแค่นั้น สุดท้ายเหมือนเบนซ์แกล้ง
ลืม Bluetech hybrid ไปละ ไม่ต่างอะไรกับแจกแพให้คนซื้อ
ราคาก็แทบจะ Floor ปัญหาเยอะ ถามจริงใครจะกล้าซื้อมือ 2
-
ราคามือสองต่ำเตี้ยเลี่ยดินกว่า E250 CDI (Facelift รถเกรย์) กับ F10 525d (LCI)
-
เป๋็น technology ที่โดนลอยแพไปแล้ว
เหมือนออกมาแก้ขัด ก่อนออก Plugin Hybrid
เท่าที่เคยอ่านเจอกระทู้ผ่านตา
ปัญหาเยอะ และค่าซ่อมแพงมาก
-
ถ้าไม่รวมเรื่องกินข้าวแกง ก็คงเป็นเรื่อง ความนุ่มนวลการตัดต่อกำลังของระบบไฮบริดด้วยครับ
เคยเดินผ่านc300 ตอนกำลังเลี้ยวเข้าซอยทีนึง พอเครื่องติด คนเดินยังตกใจเลย ลองนึกภาพเครื่องดีเซลสตาร์ทนะครับ ถึงข้างในมันจะเงียบกว่าก็เหอะ แต่ผมว่า ความสงบ คนละเรื่องกับโตโยต้าไฮบริด
-
คงกลัวระบบไฮบริดกันมั้งคับ แต่ผมใช้มาส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไรนะคับ
จะมีก็ช่วงตัดต่อ ที่มันกระตุกหน่อยๆ ประหยัดนำมันใช้ได้เลยคับ
-
คนรู้จักใช้อยู่ แต่เป็น C นะครับ ข้างในก็เหมือนกันครับ เครื่อง เกียร์
ซื้อมา 10 เดือนแรก นอนอู่ ไปราวๆ 6 เดือน กว่าจะซ่อมได้ ต้องรอเยอรมันตอบมา แม้จะมีรถทดแทน แต่ใช้โควต้ารถทดแทนไปจนเกลี้ยง แถมบางทีไม่ได้ Benz ด้วย ต้องยอมเอาคันอื่นแทน
-
ถ้าไม่รวมเรื่องกินข้าวแกง ก็คงเป็นเรื่อง ความนุ่มนวลการตัดต่อกำลังของระบบไฮบริดด้วยครับ
เคยเดินผ่านc300 ตอนกำลังเลี้ยวเข้าซอยทีนึง พอเครื่องติด คนเดินยังตกใจเลย ลองนึกภาพเครื่องดีเซลสตาร์ทนะครับ ถึงข้างในมันจะเงียบกว่าก็เหอะ แต่ผมว่า ความสงบ คนละเรื่องกับโตโยต้าไฮบริด
อันนี้ชัดเจนเลยครับ พอไปนั่ง Toyota หรือ Lexus hybrid นี่แอบตกใจว่าจังหวะ start เครื่องเงียบกว่า e300 มากๆ เรื่อง hybrid นี่ฝั่งญี่ปุ่นทำมาน่าใช้กว่าเยอะเลยครับ
-
ปัญหาเยอะจนขึ้นเว็บดราม่าหลายแห่งและเว็บสีม่วงไม่พอ ยังมีค่าซ่อมแพงหูฉี่แถมจุกจิกเกินควรครับ รุ่นนี้ทำเอาหลายคนเลิกคบเบนซ์ไปเลย
-
เคยสนใจจะซื้อเหมือนกันเพราะแรงม้า+แรงบิด max = 700 nm
แรงม้ารวมกันก็ 2 ร้อยต้นๆ
แต่สุดท้ายเลือก 520d เพราะที่บ้านติดใจ handling และ response ของ 5 มากกว่า
และก็ใช้ 5 มา 4 ปีแล้ว ยังไม่จุกจิกใดๆ นี่ถือว่ารอดตัวจากแพไปเลย ดีใจมากครับ 555
-
ความมันตอนขับ กับความผวาตอนเสีย ผมว่าอย่างหลังมันคงมากกว่าน่ะครับ
รถHybrid จะPlugin หรือไม่ มันก็เป็นแค่อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียในเร็ววันทั้งคันนั่นล่ะครับ
ของบางอย่าง แค่ฟังเขามาก็พอ ไม่ต้องไปลองซื้อมาใช้ให้ถึงกับตีนก่ายหน้าผากครับ
-
รุ่นในตำนาน :-X น่าจะเป็นตราบาปของเบ็นซ์เลย
ขออวยพรให้ รุ่น E/C 350e กอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้นะ ต้องรอดูกันยาวๆ
-
มือใหม่หัดใส่ถ่านก็ทำได้เท่าที่เห็น ;D
กว่าจะอยู่ตัวซัก3-4รุ่นถึงแก้จบ
ซื้อก่อนก็เป็นหนูทดลองไป >:(
-
คุณอาผมก็เคยใช้อยู่ครับ ขายทิ้งไปละครับ เรื่องประหยัดน้ำมันประหยัดจริงผมไม่เถียงครับแต่อย่างอื่นรวนเร็วมากครับ หมดประกัน3ปีปุ๊ปพังปั๊บเลยครับ คุณอาบอกว่ารวนหลายอย่างมากครับ ตอนนี้ขายเทินไปออก Mg Gs ละครับ
-
รุ่นนี้ขับสนุกดี ก็แรงดีนะครับ แถมประหยัดมากๆ วิ่งไป-กลับพัทยา น้ำมันลดไปขีดเดียว
แต่ไฟขึ้นทีนี่มีเหงื่อตก รอซ่อมนานพอสมควร รถ 5 ปี ไฟโชว์มา 3-4 รอบละ ขนาดไม่ค่อยได้ใช้
-
ตัวนี้ปัญหาเยอะมากๆ ถึงได้แก้ออกมาใช้เครื่องเบนซินแทน เป็น E350E ก็ ปัญหาลดลงไป แต่ก็ถือว่า สู้พวกญี่ปุ่นไม่ได้ พวก toyota ทำมานานกว่า ชำนาญกว่ากันเยอะ และปัญหาน้อยกว่ามากๆ