Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ กรกฎาคม 05, 2018, 05:44:13
-
มันเป็นความจริงที่อาจจะเกิดขึ้นหรือมันแค่Modelเพือปั่นหุ้นครับ
https://www.thairath.co.th/content/1241081 (https://www.thairath.co.th/content/1241081)
(https://www.thairath.co.th/media/Kg2lj2gY7z4zNnRdX6gXKwat4wDtEiTXvXC.jpg)
(https://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZPEbStRKsL8kkQN24cC2oC6Zu7EAlI.webp)
-
บริษัทพลังงานจะมาทำรถยนต์ มันค่อนข้างจะห่างไกลจากธุรกิจเดิมค่อนข้างมาก ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าเขาเอา know how มาจากไหน
การจะเข้าไปมีส่วนร่วมในเค้กชิ้นใหญ่เป็นเรื่องที่ดีนะครับ แต่ตัว EA มี competitive advantage ทางธุรกิจรถยนต์ตรงไหนบ้าง บางทีอาจจะต้องไปย้อนดูคำพูดของผู้บริหารในช่วงปีที่
ผ่านมาว่าเขาเป็นคนทำตามคำพูดจริงแค่ไหน ทำได้บ้างไม่ได้บ้างหรือป่าว ของแบบนี้อยู่ที่มุมมองวิเคราะห์ของแต่ละคนเลย ว่าจะวิเคราะห์ได้ลึกและกว้างแค่ไหน
-
มี R&D บ้างหรือยัง ยังไม่เคยเห็นรับสมัครงานด้านนี้นะ
หรือไปซื้อ know how จากจีน?
-
นำเข้าจากจีน ไม่มีภาษีนำเข้า จะเอาอะไรมาแข่งกับจีนหละครับ จีนเขาผลิตในสเกลใหญ่มากๆ
ต้นทุนถูกกว่า บริษัทร่วมทุนของเมกา ยุโรป ญี่ปุ่น ก็ร่วมผลิตกับจีน know how ที่จีนมีไม่แย่แน่นอนถ้าไม่ไปเลือกเอารถที่ห่วยๆของจีนเข้ามานะ
ของดีจีนมีราคาสมเหตุสมผล สรุปเอาไรไปสู้เขา
-
มีรุ่นพี่ที่รู้จัก ย้ายจากโตโยต้าเพื่อมาดูแลโครงการรถยนต์ไฟฟ้านี้โดยเฉพาะครับ ส่วน EA แต่เดิมทีก็เป็นบริษัทในธุรกิจพลังงานทางเลือก แต่เร็วๆ นี้มีประกาศจะสร้างโรงงานทำแบตเตอรี่ไฟฟ้าในบริเวณที่ได้ประโยชน์จากแผน EEC ขนาด 50 GWh โดยเริ่มต้นจะลองก่อน 1GWh ก็ค่อยๆ ดูไปทีละขั้นละกันครับ ในด้าน R&D EA ก็ไปซื้อโรงงานทำแบตเตอรี่ของไต้หวันเพื่อให้ได้ Know How มาเช่นกันครับ
-
ขนาด Fomm ให้ PEAENCOM ขาย ผมว่ายังไปไม่ค่อยรอดเลย ยังห่างไกลจากคำว่าโชว์รูมรถเลย
พวก 0 บริการ สต็อก อะไหล่ ตัวแทนจำหน่าย เรื่องสินเชื่อ เป็นอะไรที่ทาง PEA ไม่สามารถหาคำตอบได้เลย
-
หลายคนมองว่า เรื่อง know how ของ EV เป็นเรื่องซับซ้อน
ทำไมผมมองว่า มันกลับเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ เยอะมากเลย เพราะมันคือ tamiya คันโตๆ นี่เอง มี แบตเตอรี่ vs มอเตอร์ เท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องอุปกรณ์ควบ safety, infotainment, handing, interior, exterior นั้นอีกเรื่องนะ
ปัญหาใหญ่ผมมองว่าไม่ใช่เรื่อง Know How เกี่ยวกับ EV นะ น่าจะอย่างคุณ Zatan_p2 ว่า คือเรื่อง ผู้ผลิตชิ้นส่วน โรงงาน ศูนย์บริการ สต็อก อะไหล่ ตัวแทนจำหน่าย เรื่องสินเชื่อ ความเชื่อมั่นในสินค้า และ แบรนด์ มากกว่า
-
รถจีนไม่มีภาษีนำเข้าเหรอครับ คุณศึกษาดีหรือยัง? รถ byd ที่เอามาทำแท้กซี่ นี่คันละ 1.6 ล้าน นะ เมืองจีน ขายกันราคานี้เหรอ ก็ไม่ใช่ ส่วนต่างมันคือภาษีครับ ตอนนี้ยังเสียสรรพสามิต 25 % อยู่เลยมั้ง ผมไม่ได้ตาม แต่ไม่ใช่ ปลอดภาษีแน่นอน
รถทำในไทย เสียภาษีสรรพสามิต แค่ 2 % ไม่รวมกับ boi อีก 10 ปี นะ ไม่งั้น รถ mine ทำราคาขายคันละ หกแสนไม่ได้หรอก คันสีฟ้า นี่แหละ
ทีมงานที่ทำขึ้นมา มีเกือบ 20 คน ทำตั้งแต่ clay model พวกนี้ไม่ใช่ ไก่กานะ เอาว่า รถ bmw i3 ส่วน vcu ที่คุมการทำงานของรถ มีส่วนหนึ่งเป็นคนไทยทำและ programming นะ ของแบบนี้ ไม่มีใครรู้หรอก กว่าจะได้รถมาคันนึง เขามี software มา simulation ด้วย etc.... ลงทุนตรงนี้ไปอย่างเดียว ก็เกือบ 100 แล้วนะ ตัว vcu, tranmission , battery พวกนี้ มีเทคโนโลยีทำเองได้หมดนะ
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำ ให้เป็น commercial product ว่า จะทำอย่างไร เดินสายการผลิตยังไง เอาไว้ motor show ปีหน้า จะได้เห็นตัวที่ทำขายจริงๆ และเริ่มขายปลายปีหน้า
รถ mine ได้เปรียบ ตรงที่ แบต เขาทำของเขาเอง และ มีคุณสมบัติ ไม่ติดไฟ มีสาร stoba ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่มี เทคโนโลยีนี้ ถึงได้ทำ รง.แบตไง ที่ ฉะเชิงเทรา มูลค่าการลงทุน น่าจะสูงสุดในเอเซีย ถ้าทำเต็มระบบ ซึ่งทั่วโลก เขามี รง. ทำ energy storage แบบนี้ กันเยอะแล้ว ไปดู เมกา ยุโรป ดู เขาลงทุน กันเป็น 100-200 gw
รถ fomm คงเทียบกันยาก เพราะ เอาเข้ามาทั้งคัน แถมให้ pea ขาย ก็เป็นอย่างที่เห็น
ส่วนตัวรถ mine จะไปเทียบกับ รถญีปุ่น ก็คงไม่ได้ เขาทำรถมากี่สิบปี แต่ถ้าด้าน เทคโนโลยี ไม่เป็นรองกันหรอก ของ mine ทำ ultra charge ได้ กับ ที่ชาจ ของ EA anywhere 10 นาทีวิ่งได้ 200 กม. พอๆ กับ เทสล่าเลย ตรงนี้ พวกรถ จีน รถญี่ปุ่น แม้แต้เบนซ์ bmw ยังไม่มีใครทำได้ ตอนนี้นะ แต่ต่อไป ไม่แน่ ต้องดูที่ vcu ของรถ กับ การรองรับการชาจแบบ DC เป็นสำคัญ
เรื่องที่ชาจ ก็สำคัญ EA anywhere ปีนี้จะตะลุยติดให้ได้ 1000 สถานีทั่วกรุงเทพ ด้วยเทคโนโลยี และ ราคาที่ถูกกว่า ของนำเข้าเยอะ ก็จะเป็นสิ่งที่แข่งขันได้ แน่นอน คอยดูกันไปว่าที่ผมพูดจะจริงไหม ในงานมอเตอรโชว์ปีหน้า
-
ผมขอเอาใจช่วยให้เค้าทำได้จริงครับ
ขอแค่ไม่มีบริษัทอื่นมาขวางก็พอนะผมว่า
-
รถไฟฟ้าจีน ภาษีนำเข้า 0% ครับ BYD ที่จีนขายคันละเก้าแสนกว่าได้เพราะรัฐบาจีนมีเงินอุดหนุนให้ส่วนหนึ่งครับ
ส่วนสรรพสามิต คงเป็นข้อได้เปรียบของรถไฟฟ้าที่ทำในไทยครับ รัฐบาลไทยคงช่วยส่งเสริมได้ในส่วนนี้ แต่ภาษีนำเข้า จีนเอาไปแล้วครับที่ 0%
ผมเชียร์รถคนไทยทำแน่นอน และอยากให้รถไฟฟ้าคนไทยขายดีๆ จะได้มีเงินไปต่อยอดได้ เราจะได้มีของเราใช้เอง เงินไม่ไหลออกนอกประเทศ
ยิ่งไปได้ดี ได้ส่งออกนำเงินเข้าประเทศด้วยยิ่งดี แต่พอมาเจอเงื่อนไขด้านภาษีนำเข้าและสเกลในการผลิตของจีน มันก็เป็นอะไรที่น่าหวันใจจริงๆ
ก็ได้แต่เอาใจช่วยรถคนไทยครับ ถ้าคุณภาพสู้ได้ ราคาไม่หนีกับคู่แข่ง ก็จะช่วยอุดหนุนครับ
-
รถจีนไม่มีภาษีนำเข้าเหรอครับ คุณศึกษาดีหรือยัง? รถ byd ที่เอามาทำแท้กซี่ นี่คันละ 1.6 ล้าน นะ เมืองจีน ขายกันราคานี้เหรอ ก็ไม่ใช่ ส่วนต่างมันคือภาษีครับ ตอนนี้ยังเสียสรรพสามิต 25 % อยู่เลยมั้ง ผมไม่ได้ตาม แต่ไม่ใช่ ปลอดภาษีแน่นอน
รถทำในไทย เสียภาษีสรรพสามิต แค่ 2 % ไม่รวมกับ boi อีก 10 ปี นะ ไม่งั้น รถ mine ทำราคาขายคันละ หกแสนไม่ได้หรอก คันสีฟ้า นี่แหละ
ทีมงานที่ทำขึ้นมา มีเกือบ 20 คน ทำตั้งแต่ clay model พวกนี้ไม่ใช่ ไก่กานะ เอาว่า รถ bmw i3 ส่วน vcu ที่คุมการทำงานของรถ มีส่วนหนึ่งเป็นคนไทยทำและ programming นะ ของแบบนี้ ไม่มีใครรู้หรอก กว่าจะได้รถมาคันนึง เขามี software มา simulation ด้วย etc.... ลงทุนตรงนี้ไปอย่างเดียว ก็เกือบ 100 แล้วนะ ตัว vcu, tranmission , battery พวกนี้ มีเทคโนโลยีทำเองได้หมดนะ
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำ ให้เป็น commercial product ว่า จะทำอย่างไร เดินสายการผลิตยังไง เอาไว้ motor show ปีหน้า จะได้เห็นตัวที่ทำขายจริงๆ และเริ่มขายปลายปีหน้า
รถ mine ได้เปรียบ ตรงที่ แบต เขาทำของเขาเอง และ มีคุณสมบัติ ไม่ติดไฟ มีสาร stoba ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่มี เทคโนโลยีนี้ ถึงได้ทำ รง.แบตไง ที่ ฉะเชิงเทรา มูลค่าการลงทุน น่าจะสูงสุดในเอเซีย ถ้าทำเต็มระบบ ซึ่งทั่วโลก เขามี รง. ทำ energy storage แบบนี้ กันเยอะแล้ว ไปดู เมกา ยุโรป ดู เขาลงทุน กันเป็น 100-200 gw
รถ fomm คงเทียบกันยาก เพราะ เอาเข้ามาทั้งคัน แถมให้ pea ขาย ก็เป็นอย่างที่เห็น
ส่วนตัวรถ mine จะไปเทียบกับ รถญีปุ่น ก็คงไม่ได้ เขาทำรถมากี่สิบปี แต่ถ้าด้าน เทคโนโลยี ไม่เป็นรองกันหรอก ของ mine ทำ ultra charge ได้ กับ ที่ชาจ ของ EA anywhere 10 นาทีวิ่งได้ 200 กม. พอๆ กับ เทสล่าเลย ตรงนี้ พวกรถ จีน รถญี่ปุ่น แม้แต้เบนซ์ bmw ยังไม่มีใครทำได้ ตอนนี้นะ แต่ต่อไป ไม่แน่ ต้องดูที่ vcu ของรถ กับ การรองรับการชาจแบบ DC เป็นสำคัญ
เรื่องที่ชาจ ก็สำคัญ EA anywhere ปีนี้จะตะลุยติดให้ได้ 1000 สถานีทั่วกรุงเทพ ด้วยเทคโนโลยี และ ราคาที่ถูกกว่า ของนำเข้าเยอะ ก็จะเป็นสิ่งที่แข่งขันได้ แน่นอน คอยดูกันไปว่าที่ผมพูดจะจริงไหม ในงานมอเตอรโชว์ปีหน้า
BYD เสียภาษีนำเข้า 0% เสียสรรพสามิต 8% ครับ ไม่แน่ใจทำไมไม่เสีย 10%
ที่จีน BYD e6 ราคาขายเต็มอยู่ที่ 1.5 ล้านครับ แต่รัฐบาลอุดหนุน 1 แสนหยวน เลยเหลือคันละ 9 แสนกว่า
มาไทยรัฐบาบไม่ได้ออกให้ แค่เว้นภาษีนำเข้า ราคาเต็มเลย 1.9 ล้านอย่างที่เห็นครับ
-
ว่าแล้ว...
-
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ