Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: birm@productive ที่ กรกฎาคม 19, 2010, 14:40:28
-
จริงหรือไม่ครับ ที่รถสมัยนี้ มันไม่ต้องรันอินแล้ว?
มีข้อสงสัยบางอย่างที่เกิดขึ้น เพราะว่ามีคนถามว่ารถใหม่ต้องรันอินหรือไม่ มันก็เกิดสองความคิดเห็น ว่า
1. รถสมัยใหม่ไม่ต้องรันอิน
2. ยังต้องรันอินอยู่
ตัวผมเองก็ยังคงรันอินรถใหมุ่ทุกครั้งครับ แต่แค่อยากทราบว่ามันเป็นมายังงัย ทำไมถึงมีสองความเห็นได้
-
รันอินซะหน่อยก็ดีครับ
รันอินที่ว่า หมายถึงขับแบบคนธรรมดาทั่วไป ออกต่างจังหวัดก้อได้ ขึ้นเขาลงห้วยได้
แต่ไม่ใช่ลากเกียร์กันสุดเรดไลน์ หรือออกตัวล้อฟรีกันแบบนี้ มันก้อเกินไป
-
โอ๊ะ.. ค้นกระทู้เก่าเจอ...
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3126.0
แอดมินจะลบกระทู้นี้ไปก็ได้ครับ
-
รันอินซะหน่อยก็ดีครับ
รันอินที่ว่า หมายถึงขับแบบคนธรรมดาทั่วไป ออกต่างจังหวัดก้อได้ ขึ้นเขาลงห้วยได้
แต่ไม่ใช่ลากเกียร์กันสุดเรดไลน์ หรือออกตัวล้อฟรีกันแบบนี้ มันก้อเกินไป
ขอบคุณครับ
-
ผมรันอินครับ คู่มือก็บอกให้ทำนะ รถใหม่เหมือนกัน
ในคู่มือแนะนำว่าขับไม่เกิน 130 และไม่ควรใช้รอบคงที่เป็นเวลานาน ๆ
ไม่ควรใช้รอบสูงเกินไป ประมาณนี้ครับ ทั้งนี้ผมว่าแล้วแต่รถแต่ละรุ่นด้วยนะ
-
ผมไม่ได้รันครับ ใส่เลยตั้งแต่อาทิตย์แรก
ได้ข้อมูลว่าก่อนส่ง เขา Run in เครื่องให้ก่อนอยู่แล้ว แต่ก็ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอน 5000 โลเลยนะครับ
ใช้มา 3 ปี ยังฟิตปั๋ง
-
จริงหรือไม่ครับ ที่รถสมัยนี้ มันไม่ต้องรันอินแล้ว?
มีข้อสงสัยบางอย่างที่เกิดขึ้น เพราะว่ามีคนถามว่ารถใหม่ต้องรันอินหรือไม่ มันก็เกิดสองความคิดเห็น ว่า
1. รถสมัยใหม่ไม่ต้องรันอิน
2. ยังต้องรันอินอยู่
ตัวผมเองก็ยังคงรันอินรถใหมุ่ทุกครั้งครับ แต่แค่อยากทราบว่ามันเป็นมายังงัย ทำไมถึงมีสองความเห็นได้
ถ้า Run in หมายถึงวิ่งไม่เกิน 120 ขับไม่เกิน 3000 รอบ
ผมรันอินและไม่รันเอาท์เลยตั้งหลายครับ บางคันตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยขับไปถึง 3000 รอบเลยครับ เหอ เหอ
-
;) ถ้ารถผม ตามคู่มือก็ต้องรันอ่ะครับ ;D
-
รันอิน เถอะครับ
ใครก็ตามที่เคยบอกว่า ผู้ผลิตเขารันอินมาให้แล้วหนะ ไม่จริง!
เท่าที่ผมเห็น ก็ดูจะมีแต่ โรงงาน BMW ที่ระยองเท่านั้น
ที่เอารถขึ้น ไดนาโมมิเตอร์ แล้วอัดเต็มๆ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไล่ขึ้น ไล่ลง ตามโปรแกรม นั่นละครับ
เดี๋ยวไว้จะเอาทริปที่ไปดูโรงงาน มาเล่าให้อ่านกัน ใน "เจาะหลังบ้านบริษัทรถ"
ดังนั้น รันอิน ไปเถอะครับ
-
^
^
^
จะรออ่านนะครับ
ส่วนเรื่องรันอิน ผมก็ยังทำอยู่ครับ
ประมาณว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ถนอมรถไปในตัว
-
รันอิน เถอะครับ
ใครก็ตามที่เคยบอกว่า ผู้ผลิตเขารันอินมาให้แล้วหนะ ไม่จริง!
เท่าที่ผมเห็น ก็ดูจะมีแต่ โรงงาน BMW ที่ระยองเท่านั้น
ที่เอารถขึ้น ไดนาโมมิเตอร์ แล้วอัดเต็มๆ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไล่ขึ้น ไล่ลง ตามโปรแกรม นั่นละครับ
เดี๋ยวไว้จะเอาทริปที่ไปดูโรงงาน มาเล่าให้อ่านกัน ใน "เจาะหลังบ้านบริษัทรถ"
ดังนั้น รันอิน ไปเถอะครับ
อยากอ่านจังครับพี่จิม
ยอมให้ตัดหน้ารีวิวทุกรีวิวเลยคร้าบบบ
-
คู่มือ หรือ Manual book
ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนไว้ในนั้น มีจุดประสงค์สุดท้ายปลายทางที่ ผลประโยชน์ของบริษัทครับ
ความพึงพอใจของลูกค้า คือสิ่งที่อยู่ระว่างทาง
สิ่งที่เขียนในคู่มือ จะเขียนไว้กลางๆ ไม่บอกเหตุบอกผล บอกแค่ว่าให้ทำแบบนี้
เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการใช้งาน
อย่างโรงงานผมบางอย่างเราทำกันที่โรงงานเป็นเรื่องปรกติ แต่พอถึงดีลเลอร์ ถึงลูกค้า เราห้ามไม่ให้ทำแบบเดียวกันกับที่เราทำ :-X
ข้างล่างนี้ Credit ท่าน A-Z
วิธี รันอิน ที่โรงงานแนะนำ ให้ขับไม่เร็วนักในช่วง x00 กิโลแรก . . . จริงๆแล้วเป็นวิธีที่แค่ไม่ทำให้เจ้าของรถตกใจครับ . . . แต่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
ถ้าใครเคยได้ยินมาบ้าง . . . ออกรถป้ายแดงมาถึง อัดเลยครับ . . พอใช้ๆไป จะรู้สึกได้เลยว่าเครื่องจะแรงและลื่นกว่าคันที่รันอินแบบปกติตามคู่มือ เมื่อเทียบกับคันอื่นๆในรุ่นเดียวกัน . . . . บางคนคิดว่าลื่นเพราะมันหลวม (จะบ้าเหรอ หลวมแล้วมันจะแรงจะลื่นได้ไง) แต่จริงๆแล้วมันแรงเพราะแหวนมันเก็บกำลังอัดได้ดี ไม่รั่วไปที่อ่างครับ แรงที่ได้มาก็สมบูรณ์
วิธีที่ทำให้แหวนเข้าที่ดีที่สุดคือ วอร์มเครื่องให้ได้อุณหภูมิเสร็จ ให้โลหะต่างๆขยายตัวเข้าที่เสร็จ . . . . อัดได้เลยครับ . . . . ครั้งแรกไม่ต้องอัดเต็ม เอาซัก 50-60% แล้วก็ค่อยเพิ่มไป 3-4 เที่ยว จนอัดเต็มที่ไปเลย ในซัก 50-100 กิโลแรก แล้วรีบๆเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งแรกเลย
!!!! แต่จะมีเจ้าของรถสักกี่คนกล้าทำแบบนั้นหละครับ . . . ออกมากระทืบเลย แล้วเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตั้งแต่ 100 โล . . . ขืน บ. แนะให้ทำแบบนี้คงถูกด่าเละ และค้านความรู้สึก รถอะไรห่วยจัง 100 โลแรกก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว และกี่คนจะกล้ากระทืบรถใหม่ๆป้ายแดง . . . จะมีซักกี่คนที่จะยอมเข้าใจเหตุผลและยอมทำตามโดย บ.ไม่ถูกด่า
บ.รถ เลือกเอาทางปลอดภัย ไม่ถูกด่า ก็แนะให้ทำแบบประเพณีปฏิบัติ คือนุ่มนิ่มไปเรื่อยๆครับ . . . ไม่เจ๋งที่สุด แรงม้าหายไปบ้างนิดหน่อยใครจะรู้ ไม่ถูกด่า ไม่ค้านความรู้สึกใคร
วิธีที่ให้เครื่องใหม่ๆออกมา ประกอบเสร็จ ลองติดเครื่องดูสักพักว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วเริ่มอัดได้เลย เป็นวิธีรันอินที่ดีที่สุด . . . . . มันค้านความรู้สึกใช่ไหมครับ แต่มันมีเหตุผลนะครับ ซึ่งเป็นเหตุผลที่คนไม่ยอมจะเข้าใจง่ายๆ
แหวนที่ออกมา มันไม่ได้กลมเรียบสนิทถ้าส่องด้วยกล้องขยาย . . . จะทำให้แหวนมันกลม เรียบสนิทกับกระบอก มันก็ต้องขัดส่วนเกินนี้ทิ้งให้เร็วที่สุด เข้ารูปให้เร็วที่สุด
ทำไมต้องเร็ว? . . . > แหวนลูกสูบที่มันกันแรงดันรั่วนั้น มันไม่ได้มีแรงถ่างตัวเองออกมาเท่าไรเลยนะครับที่จะถ่างตัวเองไปชิดกับกระบอกเพื่อสู้กับแรงดันมหาศาลในห้องเผาไหม้ . . ลำพังแรงดันถ่างตัวของแหวนหมดสิทธิสู้กับแรงดันครับ อย่างเก่งก็ถ่างได้แค่ไม่ให้น้ำมันเครื่องรั่วเข้ามาที่ห้องเผาไหม้. . . ดังนั้นมันก็เอาแรงดันในห้องเผาไหม้นั้นแหละครับ ที่มันจะลอดร่องแหวนเข้ามาอยู่ที่หลังแหวนเพื่อช่วยดันให้มันถ่างตัวไปยันขอบกระบอกสุบได้แน่น (ลูกสูบรถแข่งที่เนี๊ยบๆเจ๋งๆจะมีการเจาะรูเล็กๆที่หัวลูกสูบมาที่ร่องแหวนเพื่อมาช่วยดันแหวนตัวน้ด้วยเรียกว่า Gas port) . . . . ที่บอกว่าต้องเร็ว เพราะถ้าเครื่องวิ่งช้าๆไม่มีโหลด มันจะเอาแรงที่ไหนมาดันแหวนให้แน่น ให้แหวนได้ลบคมให้กลม . . . วิ่งช้าๆรอบต่ำๆ แรงดันแหวนมันน้อย มันก็ถูๆไปกับกระบอก มันก็ไม่ยอมสึกลบคมตัวเองออกไปซะที
แล้วค่อยๆถูเบาๆ ให้มันค่อยๆสึก ไม่ได้หรือ? . . . . > ทำได้ แต่จะไม่ได้ของดีที่สุดครับ
ของเวลามีติ่งออกมา ติ่งใหญ่ๆจะหักจะหลุดไปง่ายกว่าติ่งเล้กๆ . . .. การที่ค่อยๆถูก ติ่งส่วนเกินที่ไม่กลม มันก็สึกทีละนิด จนติ่งมันเล็ก พอมันเล็กทีนี้มันก็จะอยู่อย่างนั้นแล้ว หลุดออกไปยาก คุณก็จะไม่มีทางได้แหวนแน่นๆเรียบๆแล้ว . . . ระหว่างที่มันค่อยๆถู แทนที่จะถูมันแรงๆให้ติ่งมันหักหลุดกลายเป็นเศษโลหะไปเลย การที่ค่อยถูแทนที่มันจะหักหายไป มันก็จะเป็นต่างฝ่ายต่างกินเนื้อกันเอง แทนที่ติ่งจะหัก ถูเบาๆติ่งนี้มันจะไปกัดกนะบอกสูบทำให้กระบอกเป็นร่องตามติ่งแทน และพอติ่งนี้ค่อยๆสึกหายไป ร่องที่ผนังที่ติ่งนี้เคยฝากไว้ก็จะกลายเป็นจุดรั่วเล็ดรอดของแรงดัน . . . แรงม้าจะหายไปก็ตรงรูรั่วเหล่านี้แหละครับ
ที่เขาบอกว่า โรงงานรันอินมาให้ส่วนนึงแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ . . . . เพราะประกอบเสร็จ จับขึ้นไดโน . . เขาไม่ได้ขึ้นเพื่อตรวจเข็มไมล์หรอกครับ . . . . เขาขึ้นเพื่อทดสอบดูว่าเครื่องมีอะไรผิดปกติไหม ทำแรงม้าสูงสุดอยู่ในพิกัดที่เขายอมรับไหม (สเปคบอกร้อย แต่เครื่องมันไม่สามารถทำได้ครบร้อยแรงม้าทุกเครื่องเหมือนกันหมดหรอกครับ 98-99 ก็มี ถ้าอยู่ในเขตที่เขายอมรับ ก็ถือว่าผ่าน)
แต่จะเทสต์แรงม้าเขาก็ต้องใช้รอบเต็มที่ . . > การใช้รอบเต็มที่นี่แหละครับ คือการรันอินแบบถูกทางมาจากโรงงานแล้ว ส่วนนึง ใช้เวลาไม่นาน แต่นั่นคือรันอินแบบเข้าทางมาให้แล้วในส่วนใหญ่ๆ . . . . เขาจึงเหลืองานมาให้เจ้าของรถจัดการอีกเล็กๆน้อยๆ
ถ้าเจ้าของเอามาจัดการต่อแบบดุๆ ก็ Perfect . . . แต่ถ้าเอามารันอินต่อแบบแผ่วๆก็ได้แบบ Nearly Perfect . . . ที่มัน Near Perfect เพราะโรงงานกระทืบมาให้แล้ว(ถูกทาง) . . . แต่ถ้าประกอบเครื่องเสร็จ ไม่ขึ้นไดโนกระทืบ . . . เครื่องนี้เกิด แล้วส่งมาให้เจ้าของรถ รันอินแบบแผ่วๆอย่างเดียว แบบนี้ Far from Perfect ครับ
นึกเอาซิครับ . . . ถ้าการรันอินแบบเบาๆคือวิธีที่ถูกต้อง การบ้านที่เราต้องทำต่อแค่ 10-20% ยังซัดไปพันโล . . แล้ว 70-90% ที่เขาทำมาให้ มันต้องใช้เวลาเท่าไร ใครจะมีเวลาทำมาให้ครับ . . . เขาใช้เวลานิดเดียวบนไดโนนั่นแหละครับ รันอินเบื้องต้นมาให้คุณแล้วอย่างดี
ถ้ามองเหตุผลข้างต้นออก รวมถึงวิธีที่โรงงานใช้กับรถเรา ก้จะรู้ว่าการรันอินจริงๆแล้ว มันต้องใส่เลยครับ . . . ถ้าใครกลัวพังก็นึกเอาว่าก่อนที่เราจะมานวดคันเร่งแบบแผ่วๆเพราะกลัวพังนั้น โรงงานเขากระทืบเต็มๆมาก่อนเราแล้ว ซึ่งนั่นคือการรันอินอย่างดีเลย . . . เราไม่ใช่คนแรกที่ค่อยๆนวดคันเร่งรถเรานะครับ ถ้าคิดแบบนี้ได้ จะไปกลัวอะไรอีกหละครับ
ไม่ได้เชียร์ หรือชวนให้ทำแบบนี้นะครับ เพราะรู้ว่ามันฝืนใจ คนใช้รถส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้สิ่งที่ควรได้มาเต็มที่เท่าไรอยู่แล้ว ขาดไปนิดก็ไม่รู้สึกอะไร . . . แต่ถ้าอยากได้แหวนที่ทำงานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ ต้องกล้าๆทำแบบนี้ครับ
-
ที่คุณ banch เขียนก็มีเหตุผลและล้อกันกับโพสของคุณจิมมี่เหมือนกันนะครับที่ว่า
"...เท่าที่ผมเห็น ก็ดูจะมีแต่ โรงงาน BMW ที่ระยองเท่านั้น
ที่เอารถขึ้น ไดนาโมมิเตอร์ แล้วอัดเต็มๆ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไล่ขึ้น ไล่ลง ตามโปรแกรม นั่นละครับ..."
สรุปยังไงกันน้อ
-
น้องแจ๊ส ผม ก็ ยังรันอินอยู่นะคับ ตอนป้ายแดง
1. รันอินเครื่อง 3000 โล
แต่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กึ่งสังเคราะห์ออก ตั้งแต่ วันแรกเลยนะคับ
แล้วใส่ สังเคราะห์ 100% เข้าไปแทน แล้ว ก็รันอินซะ
2. รันอินผ้าเบรค 300 โล
3. รันอิน ยาง ซัก 500-1000 โล
-
งั้นพวกรถนำเข้า เขาจะรันอินแบบที่ว่ามาจากโรงงานด้วยหรือเปล่า ? ถ้ารันอินแบบนั้นมาแล้ว ผมต้องมาเก็บงานด้วยมั๊ยครับ?
ออกวันแรกซัดให้สุดตีนเลย....แบบนั้นเลยหรือเปล่า?
แล้วได้ 100 กิโลเมตรแรกถ่ายน้ำมันเครื่องทิ้งเลยหรือครับ หรือว่า เก็บไว้สักอีก 900 โลค่อยได้จะได้มั๊ย (ตอนพันโลแรกมันฟรีอ่ะ)
-
น้องแจ๊ส ผม ก็ ยังรันอินอยู่นะคับ ตอนป้ายแดง
1. รันอินเครื่อง 3000 โล
แต่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กึ่งสังเคราะห์ออก ตั้งแต่ วันแรกเลยนะคับ
แล้วใส่ สังเคราะห์ 100% เข้าไปแทน แล้ว ก็รันอินซะ
2. รันอินผ้าเบรค 300 โล
3. รันอิน ยาง ซัก 500-1000 โล
เท่าที่ผมได้อ่านๆมา ช่วงรันอินไม่ควรใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ครับ
เหตุผลไม่ทราบเหมือนกัน อาจจะเพราะว่าลื่นเกินไป
-
ยกมือด้วย 1 คนครับ
ขับไม่เกิน 100 รักษาไม่ให้รอบเกิน 3000 พึ่งไปเปลี่ยน นมค ที่ 0 มาเมื่อ 1 พันกิโล
-
สำหรับผมยังเชื่อในรันอินอยู่ครับ
แต่ไม่ใช่รันอินกัน 5,000 โล นั่นมันเรื่องของ 20 ปีก่อน สมัยนี้ด้วยวิทยาการในการผลิต ผมคิดว่าผมจะรันอินแค่ 1,500 โลอย่างมากและนั่นก็คือสิ่งที่ผมทำกับรถของผมเอง
และคำว่ารันอิน ไม่ได้หมายความว่าต้องรักษารอบคงที่ ต้องขับนุ่มๆ รันอินของผมคือขับปกติ ถ้าต้องแซง ต้องกด คือกด ขับอย่างไรก็ขับตามที่ต้องการ เพียงแต่ไม่ทำอยู่สองอย่างคือไม่ขับแบบอัดรอบชนขีดแดงต่อเนื่องราวกับกำลังวนรอบ Nurburgring และไม่แช่รอบสูงทำความเร็วสูงสุด นอกนั้น 0-60 หรือ 80-120 ผมกล้าอัดเต็มเท้า และอัดจนชนขีดแดงเลยด้วย
วิธีคิดของคุณ A-Z อาจไม่เหมือนกับของผม แต่ก็เป็นวิธีคิดที่มีเหตุผลและหลักการประกอบ เพียงแต่มันจะค้านความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ถ้าเราไปโฟกัสแค่ว่า "ซัดได้เลย" ไม่ได้ดูว่ามีเหตุผลเรื่องแหวนลูกสูบประกอบ
ส่วนที่ผมเห็นต่าง ก็มีแค่ว่าเครื่องยนต์มีทั้งแหวน ทั้งแบริ่ง ทั้งแค็ม ทั้งตัวดันโซ่ และองค์ประกอบมากมายที่ไม่ใช่แค่แหวนลูกสูบ ชิ้นส่วนเหล่านั้นจะชอบที่จะถูกขัดให้กลมตั้งแต่ยังแบเบาะเหมือนกันหรือเปล่า?
อย่างเวลาติดตั้งแค็มชาฟท์ใหม่ซิงๆ คู่มือที่แนบมากับแค็มชาฟท์ที่ผมซื้อมายังแนะนำให้รันอินแค็มชาฟท์ก่อน..ไม่ใช่ 5,000 โลนะ แต่อย่าเพิ่งซัดทันทีหลังประกอบเสร็จ เขาให้วิ่งด้วยรอบไม่เกิน 4,000 เป็นระยะทางประมาณ 100 ไมล์ก่อนทำการซัด อาจจะฟังดูเหมือนเชื่อฝรั่งคนทำแค็ม หรือจะบอกว่าเขากลัวมันพังก็ไม่น่าใช่เพราะไม่ช้าก็เร็วงานหนักก็จะมาอยู่แล้ว
เรื่องการรันอินจากโรงงานแบบกดมิด..ผมมองว่าไม่แปลกที่จะทำ เพราะอย่างน้อยต้องตรวจสอบว่ารถสามารถเร่งได้เนียนไปโดยไม่มีปัญหา ดีกว่าไม่รันอินให้ลูกค้าแล้วมาพบปัญหาในภายหลังตอนลูกค้าเอาไปซัด 180! อัดบนไดโน่แค่นี้เครื่องที่ไหนที่ประกอบมาดีก็ทำได้ เพราะกดแค่แว๊ดเดียว ไม่ใช่ 4,000-7,000 แล้วก็ 3,000-6,000 แล้วก็ทำซ้ำๆหลายๆรอบเหมือนรถแข่ง
อย่างไรก็ตามถ้าใครคิดจะรันอิน..พูดกันในระดับรถบ้าน รันไปเถอะครับ 1,000-1,500 โล ผมมองว่าไม่เสียหายอะไร แล้วหลังจากนั้นค่อยเพิ่มดีกรีความโหดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่ระยะ 3,000 โลนั้นผมซัดแบบเต็มพิกัดแล้วครับ