Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: arta1722 ที่ กรกฎาคม 20, 2010, 11:57:28
-
ขออนุญาติยกคำพูดของคุณ athipats มาเลยนะครับ ฝากเฮียจิมช่วยดูให้หน่อยครับ เพราะเฮียสามารถติดต่อกับคุณสุรีย์ ได้โดยตรงครับ
เรื่องเป็นตามนี้ครับ
อัพ เดทเรื่องน้ำเข้ารถ และความรับผิดชอบของสำนักงานใหญ่
โพสต์โดย athipats » 18 ก.ค. 2010 21:39
มาอัพเดทความคืบหน้าหลังจากที่ห่างหายไป นานครับ หลังจากได้เอารถเข้าไปที่ศูนย์แล้วประมาณหนึ่งอาทิตย์ทางศูนย์ได้ทำการทดสอบ โดยการฉีดน้ำตรงบริเวณที่คิดว่าน้ำจะสามารถเข้าไปได้ โดยที่ผมก็ได้เข้าไปนั่งพิสูจน์กับช่างของทางศูนย์ด้วย ผลปรากฎว่าไม่มีหยดน้ำเข้าไปเลยแม้แต่หยดเดียว ซึ่งทำให้ผมกับแฟนงงมาก ซึ่งผมก็ได้เอารูปที่จอดรถของที่บ้านให้ทางศูนย์ดู ที่จอดรถหน้าบ้านจะเป็นหลังคาผ้าใบแต่หลังคาจะบังได้แค่ครึ่งคัน เวลาที่ฝนตกหนักทำให้ต้องคอยไปกระทุ้งน้ำออกจากหลังคาเพราะกลัวว่าจะรับ น้ำหนักไม่ไหวกลัวจะหล่นมาโดนรถ ซึ่งเวลากระทุ้งน้ำทำให้น้ำตกลงมาตรงกับช่องแอร์พอดีผมก็คิดว่าน้ำมันน่าจะ เข้ามาจากตรงนี้ วันนั้นผมก็เลยต้องเอารถกลับมาโดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าน้ำเข้ารถได้ยังไง แต่ผมก็ได้แจ้งกับทางศูนย์ไว้ว่าถ้ามีฝนตกหนักและน้ำเข้ารถอีก ผมจะให้ทางศูนย์ไปดูที่บ้านผมเองซึ่งทางศูนย์ก็รับปาก
ผ่านมาประมาณเกือบ 1 เดือน และแล้วฝนก็ได้ตกลงมาอย่างหนักอีกครั้งนึง ผมก็รีบสำรวจดูรถทันทีปรากฎว่าน้ำเข้ารถอีกแล้วครับท่าน แต่ครั้งนี้น้ำเข้าน้อยกว่าครั้งที่แล้ว ผมรีบโทรแจ้งศูนย์ให้เข้ามาดูรถ (ฝนตกตั้งแต่ 8 โมงเช้า เจ้าหน้าที่มาตอนบ่ายโมง) พอเจ้าหน้ามาถึงก็ได้สำรวจดูในรถ เห็นมีรอยน้ำลงมาจากทางด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสาร และได้ตรวจดูบริเวณที่จอดรถของที่บ้าน พื้นถนนหน้าบ้านไม่เท่ากันเวลาจอดรถฝั่งผู้โดยสารจะเอียงมาทางซ้าย เจ้าหน้าที่ก็เอารถผมกลับไปอีกครั้ง และขอเวลา 1 อาทิตย์สำหรับการทดสอบครั้งที่สอง
1 อาทิตย์ผ่านไป ผมก็ไปรับรถที่ศูนย์ คำตอบที่ผมได้รับก็คือ ทางฝ่ายช่างได้นำรถ Mazda 2 ทุกคันที่ศูนย์มาทดสอบดูแล้วผลปรากฎว่าน้ำเข้ารถทุกคัน ช่างบอกกว่าสาเหตุที่น้ำเข้ารถเป็นเพราะว่าจอดรถเอียงซ้าย ตรงช่องแอร์จะมีกล่องสี่เหลี่ยมอยู่หนึ่งกล่องทางฝั่งซ้ายของรถ ซึ่งกล่องนี้ทำมาได้มาตรฐานแล้ว แต่ถ้าจอดรถเอียงแล้วฝนตกหนักทำให้น้ำไหลเข้ามาทางกล่องสี่เหลี่ยม ทางศูนย์แจ้งว่าสำนักงานใหญ่ให้แนะนำลูกค้าว่า กรุณาปรับเปลี่ยนวิธีการจอดรถของท่านใหม่ จากทุกครั้งที่จอดฝั่งผู้โดยสารไว้ด้านซ้าย ให้ย้ายไปจอดด้านขวาแทนน้ำจะได้ไม่เข้ารถอีก นี่คือคำแนะนำของสำนักงานใหญ่ พอผมได้ยินดังนั้นผมโมโหมากครับ ผมก็เลยถามกลับไปว่า ในเมื่อคุณรู้อยู่แล้วว่าน้ำมันเข้ามาจากทางกล่องสี่เหลี่ยม ทำไมคุณไม่แก้ไขกล่องนั้นให้มันลึกและสูงขึ้นกว่าเดิม แต่เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่ากล่องนั้นผลิตมาได้มาตรฐานแล้ว และได้ผลิตมาเป็นลอตใหญ่แล้ว ผมก็เลยงงว่าถ้ามันผลิตมาได้มาตรฐานแล้วน้ำมันจะเข้าไปในรถได้ยังไง ซึ่งรถคันเดิมของผม Ford Ranger จอดเหมือนกันทุกอย่าง กล่องสี่เหลี่ยมอะไรนั่นก็อยู่ฝั่งเดียวกันทุกอย่าง ทำไมน้ำไม่เคยเข้า เจ้าหน้าที่ทางศูนย์ตอบไม่ได้ บอกว่าสำนักงานใหญ่ให้แจ้งแบบนี้ ผมก็เลยบอกไปว่าตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา สำนักงานใหญ่ไม่เคยติดต่อ ไม่เคยโทรมาหาผมเลยสักครั้ง ให้ศูนย์เป็นฝ่ายรับหน้าแทนอย่างเดียว ทางศูนย์ก็เลยบอกว่าถ้าเป็นเคสที่ถึงกับชีวิต จะได้รับการติดต่อกลับอย่างรวดเร็ว แต่เคสของผมมันธรรมดาไปและยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้ในรถ Mazda 2 ผมก็ฝากเรื่องไว้กลับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ว่าให้สำนักงานใหญ่ติดต่อผมด้วย (ผมเคยโทรเข้าไปที่สำนักงานใหญ่แล้ว ทางฝ่ายบริการลูกค้าก็ได้รับเรื่องไว้ และแจ้งว่าจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ แต่ก็ไม่มีใครติดต่อมาเลย) จนถึงทุกวันนี้ผ่านมาเกือบ 2 เดือน ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่ติดต่อเข้ามาเลย มันน่าโมโหจริง ๆ ครับ :l:8
เครดิต http://www.thaimazda2.com/webboard/viewtopic.php?f=2&t=10762
-
อ้าว กำลังขายดี เลย เจ้า 2 ดันมีปัญหาซะแล้ว ขอให้จบด้วยดีครับ
-
แก้ปัญญาโดยให้เราจอดรถทางใหม่เนี่ยนะ
เหอะๆ รถก็น่าใข้นะครับ แต่มีเรื่องๆห่วยๆแบบนี้มาสะกัดดาวรุ่งซะงั้น
-
แนะนำให้ขอหนังสือรับรองจากทางศูนย์ใหญ่ครับ ว่าพูดอย่างนั้นจริง เอามาโพส แล้วดูสิว่าเค้าจะทำยังไง ตอบแบบโยนความผิดให้ลูกค้า ไม่มีความรับผิดชอบเลย
-
ในบอร์ดแอคคอร์ดก็มีคนเคยเจอครับน้ำเข้าทางช่องรับอากาศเข้ารถ เจ้า G8 เนี่ยแหละ วิธีแก้ก็อย่างที่เขาว่ามาแหละครับ หลีกเลี่ยงมุมที่น้ำตกใส่แรงๆ ไม่งั้นน้ำมันระบายไม่ทัน+เสริมที่กั้นน้ำตรงปากช่องรับอากาศให้สูงขึ้นก็พอแก้ปัญหาไปได้
-
มาสด้า3เคยเป็นที่ฮือฮาเมื่อนานมาแล้ววเมื่อมีกรณีตกน้ำไปเป็นวันแต่ลอยได้เหมือนลูกมะพร้าว แต่ไหงรุ่นเล็กน้ำเข้าง่ายดายแบบนี้เล่า????
-
ได้แจ้งทาง ผู้เกี่ยวข้องที่ Mazda ไปแล้วครับ เมื่อ 15 นาที ที่แล้ว
และ เคสนี้ ทาง Mazda กำลังดูแลอยู่ครับ
และขอให้รับทราบตามนี้ ครับ
-
จริงๆผมก็ใช้รถมาหลายยี่ห้อแล้ว ก็มักจะเจอเรื่องแบบนี้ประจำสำหรับการไม่เอาใจใส่เรื่องลูกค้าเวลามีปัญหามากกว่าการตอบว่าปกติเป็นอย่างนี้ทุกคัน
อยากให้บริษัทรถรับผิดชอบมากกว่านี้หน่อย
เอาใจช่วยครับขอให้ได้รับการแก้ไขไวๆนะครับ :D
-
คือปัญหา ที่หลายๆคนเจอมานั้น ว่า บริษัทรถ เหมือนไม่ดูแลลูกค้านั้น
เท่าที่ผมเจอเรื่องพวกนี้มาโดยตลอด อยากจะบอกว่า
1. เริ่มต้น ด้วย Attitude ที่ดี ใจเขาใจเรา แม้ว่า จริงๆแล้ว รถเรามีปัญหา
เราเป็นลูกค้า ดังนั้น มันต้องเป็นหน้าที่ของบริษัทรถ ที่เขาจะต้องแก้ปัญหาให้เรา
อย่างไรก็ตาม อย่าไปคิดตั้งแง่ หรือตั้งป้อม เตรียมง้างไม้รอ แล้วเปิดฉาก ด้วยคำพูดขู่ๆ
หรือ มาถึง เหวี่ยงตูม วีนแตก กันก่อนเลย แบบนี้ ไม่ต้องบริษัทรถหรอกครับ
เป็นผมเองก็ลำบากใจ ที่จะดีลให้ด้วยหนะครับ
ท่องเอาไว้เสมอ เมื่อจำเป็นต้องเริ่มเปิดดีล เคส defect ก็คือ "เรา ไม่ใช่รายเดียว แต่คนทำงาน เขาคงต้องเจอจากรายอื่นมาเยอะแล้ว
อย่าเพิ่งไปกดดันเขา ถ้าจะกดดัน รอเอาไว้ จนกว่า จะเริ่มรู้สึกว่า ทิ้งช่วงไปนาน จนไม่เห็นความคืบหน้า เช่น ผ่านไปสัก
1-2 สัปดาห์ ในเคสเบาๆ และ 3-4 สัปดาห์ ในเคสหนักหนาสาหัส ที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนานกว่าปกติ"
2. ถ้ามีปัญหากับดีลเลอร์ อย่าเพิ่งไปเหมารวมว่า บริษัทแม่ ต้องเป็นเหมือนกันด้วย เพราะมันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป
และในทางกลับกัน บางบริษัท ที่มีเคสงี่เง่า ไม่ได้หมายความว่า ดีลเลอร์ จะเลว เหมือนบริษัทแม่เสมอไป
ฉันใดฉันนั้น กรุณา แยกแยะด้วย
เช่น...สมมตินะครับ
ถ้า เจอว่า ศูนย์บริการ สาขาสะพานหัวสิวช้าง ห่วยแตก
จะตำหนิ อะไรในเน็ต ก็ซัดตรงๆไปว่า " ศูนย์บริการ รถ โตโน่ สะพานสิวหัวช้าง ห่วยแตกมาก"
หรือ ถ้าเจอว่า ลูกค้าสัมพันธ์ พูดจา จนน่าจะจับเอาหมายัดใส่ปาก
จะตำหนิ ก็ควรใช้คำ ประมาณว่า "ลูกค้าสัมพันธ์ รถ โตโน่ ถูกสอนให้พูดแบบนี้ กับลูกค้า เหรอ?"
อะไรประมาณนี้ ไม่ใช่มาถึง เจอแค่ ศูนย์แห่งเดียว ทำอะไรให้ไม่ถูกจิต แม่เจ้าประคุณ ก็คิด เหวี่ยงก่นด่า แม่ม ทั้งแบรนด์ มันก็ไม่ถูกนะครับ
3. จากที่ผมดีลมาในหลายๆเคส ผมพบความจริงว่า จาก เรื่องต่างๆ สมมติ 10 เรื่อง
จะมีเคสที่ลูกค้า เจอปัญหาจริงๆ 5-6 เรื่อง แต่อีก 4 เรื่อง จะเป็นเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง
ประเภท ไม่ยอมอ่านคู่มือรถ ให้ดีๆ เข้าใจอะไรผิดๆ ไปจนถึง เคสที่ว่า รถไปหมุน ชน
ก็จะจับโยง เข้าไปให้เกี่ยวกับ คดีความระดับโลก ทั้งที่ เมื่อสอบสวนกันอย่าง โคตรละเอียดแล้ว
ตัวคนขับรถเองนั่นแหละ คนผิด แล้วยังจะมาร้องเรียนอีก แบบนี้ก็เคยมีครับ
ดังนั้น กรุณา สำรวจเคสที่ตัวเองเจอให้ดีๆ เสียก่อนครับ
ถ้าไม่แน่ใจ ว่า จะเข้าข่าย ไหม ส่งหลังไมค์มาปรึกษากันก่อนได้ ก่อนที่จะเริ่มเดินเรื่อง
อย่าเพิ่งไปลุยส่งเดชเอง เดี๋ยวจะ แป๊กกลับมา อันนี้ข้าพเจ้า ไม่รับรู้เรื่องด้วยนะคร้าบ
4. ยากจะเน้นย้ำว่า "การที่ เจอรถมีปัญหาแล้วมาร้องเรียนสื่อมวลชนนั้น มันอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนักเสมอไป"
ยิ่งในเวลาที่คุณ ไปดีลมาเอง ก่อนหน้านี้ แล้วไม่พอใจ จะใช้สื่อมวลชน ไปช่วยกดดันกันอีกแรง
เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าไว้ ผมว่า นั่นไม่ใช่วิธีการต่อสู้ เลยครับ แต่นั่นแค่เป็นการเอาชนะ
และปัญหา มันก็จะยังอยู่ละครับ
บางเคส เช่น เคสอย่าง คุณพี่ FullMoon หรือ เจ๊เดือนเพ็ญ กับ การทุบ CR-V
หน้าตึก ชิน 3 ในตอนนั้น ถือว่า เป็นเคสที่สมควรแล้ว ที่จะต้องให้เรื่องถึงมือสื่อมวลชน
5. นโยบาย บริษัทรถทุกค่าย แน่นอน เขาอยากทำให้ลูกค้าพึงพอใจกันมากที่สุด
แต่ทีนี้ ถ้าเป็น เหมือน สยามกลการสมัยก่อน เวลามีเคสเกิดขึ้น การเป็นสาขา ก็มีข้อดี
ในการตัดสินใจ ด้านต่างๆ เร็ว และ มาตรฐานเดียวกัน
แต่ ปัจจุบัน ทุกค่าย ใช้ระบบ ดีลเลอร์ / แฟรนไชส์ ให้นักลงทุน มาทำโชว์รูมเอง
ดังนั้น ถ้าเกิดเคสอะไรขึ้นมา ศูนย์ฯ เอง ก็มักไม่ค่อยอยากยุ่ง อยากผลักให้ลูกค้า
ไปคุยกับบริษัทแม่เอง
หรือในบางเคส มันสามารถจบได้ ที่ดีเลอร์ แต่ ลูกค้า ก็ไม่พอใจ
จะให้สำนักงานใหญ่มาเล่นงานเอง และดีลเลอร์ เอง ก็กลัว บทลงโทษของบริษัทแม่
ซึ่งมักมีเกิดขึ้น หลังเคสจบ
ดังนั้น บางอย่าง ที่คุณอาจจะสงสัยว่า ทำไมชั้นขอไม่เคยได้เลย
เรื่องเล็กน้อยทำไมไม่ทำให้ ก็เพราะว่า บางทีขั้นตอนการอนุมัติอาจจะนาน
ตามระบบสายงาน และหลายเรื่อง คนตัดสินใจ ไม่ใช่คนที่คุณกำลังคุยด้วย
หากแต่เป็นผู้บริหาร อันนี้ขึ้นอยู่กับ ขีดความสามารถในการทำงาน
และการขออนุมัติ จากเจ้านายของพวกเขาอีกที
นี่คือสิ่งที่ควรรู้ไว้สักนิดหน่อยครับ