Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Tiva ที่ สิงหาคม 24, 2018, 13:42:02
-
เนื่องจากประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา Civic Dimension (ตาเหยี่ยวอายุ 14 ปี) มีความร้อนขึ้นระหว่างขับไปรับน้องสาวที่สนามบิน ขากลับเข้าศูนย์เช๊คแจ้งว่าพัดลมมอเต้อร์หม้อน้ำเสีย (6,XXX บ.) และแนะนำให้เปลี่ยนชุดประเก็นวาวล์ฝาสูบ อีก 20,XXX บ. เนื่องจากมีธุระจำเป็นต้องใช้งานรถจึงเปลี่ยนแค่พัดลมหม้อน้ำแล้วนำมาใช้งานต่อชั่วคราว จนมาถึงเมื่อสองวันที่ผ่านมารถดับกลางพหลโยธินเรียกรถสไลด์ยกเข้าศูนย์เช๊คเจอว่าปั๊มติ๊กเสียค่าเสียหายอีกประมาณ 18,XXX บ. และทางศูนย์แนะนำให้ซ่อมชุดประเก็นฝาสูบไม่งั้นหากใช้งานต่อจะซ่อมหนักกว่าเดิม หมายความว่าจะมีค่าซ่อมแซมถึงเกือบ 4 หมื่นจึงเป็นที่มาของคำถามตามหัวข้อกระทู้ครับ (ประมาณปีที่แล้วมีแร๊คพวงมาลัยเสียก็พึ่งไปเปลี่ยนแร๊คไฟฟ้าเซียงกงมาประมาณ 7,XXX บ.)
(https://uppic.cc/d/iVi) (https://uppic.cc/v/iVi)
รูปภาพประกอบอารมณ์ :'( :'( :'(
จากที่แจ้งข้างต้นรู้สึกซ่อมเริ่มเยอะ ผมจึงลองให้ Honda Used Car มาประเมินราคาเทิร์น (ก่อนที่ปั๊มติ๊กจะมาเสีย) ทางนั้นให้ประมาณ 150,000 บ. เลยเริ่มลังเลว่าจะซ่อมขับต่ออีกซัก 2-3 ปีดี หรือเปลี่ยนคันใหม่ดีครับ ที่กังวลหลักๆเลยคือซ่อมนี่แล้วไม่จบมีรายการโผล่มาอีก (พอดีมีวางแผนอีกสองปีจะแต่งงานอยากจะเปลี่ยนตอนนั้นทีเดียวแต่น้องตาเหยี่ยวดันมาอาการหนักเสียก่อน) ตอนนี้ที่ดูๆอยู่คือ C-HR HV Mid (อยากลองขับ Hybrid แต่ก็กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Maintenance) ดูเทียบกับ Civic EL1.8 ผมเป็นคนขับรถไม่เร็วอยู่อยู่ใน กทม. ทำงานกิจการส่วนตัวที่บ้าน ต้องมีไปซื้อของที่ต้องใช้พื้นที่ขนของเป็นระยะๆ 2-3 เดือนครั้งถึงดูเทียบ C-HR (ทุกวันนี้ขับรถส่วนใหญ่คือขับไป Fitness 555+) หรือไปห้างฯไปกลับระยะทางไม่เกิน 20 กม.
สรุปประเด็น
- Civic Dimension อายุ 14 ปี หากอึดซ่อมสองรายการตามที่แจ้งข้างต้นเพื่อใช้ต่ออีก 2-3 ปีคุ้มไหม กลัวซ่อมแล้วไม่จบครับ
- หากเปลี่ยนรถเทียบ Civic / C-HR แนะนำคันไหนครับ (ที่ผมเลือกสองคันนี้หน้าตาล้วนๆครับ 555+)
- ตอนนี้เท่าที่ดูคือ Civic รู้สึกเหมือนจะคุ้มกว่าคันใหญ่กว่า ถูกกว่า C-HR ตัวที่เทียบประมาณ 1 แสน แต่ผมไม่ค่อยติดงบซื้อสดครับ
- ผมไม่ค่อยติดราคาขายต่อเพราะกะใช้นาน (10 ปี) ผมไม่เปลี่ยนรถบ่อย ขับรถน้อย มีไปเที่ยว ตจว.บ้างประปราย 2-3 เดือนครั้ง
รบกวนขอความรู้ชาว HeadlightMag ด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ ปกติไม่ค่อยเปิดเว็บรถแต่พอ Google ดูข้อมูล C-HR เว็บนี้โผล่มาแรกๆเลยจึงมาลองสอบถามในนี้ครับผม
Edited: แก้ไขคำผิดครับ
-
ของผมถ้ารถซ่อมบ่อยๆผมจะหาเรื่องเปลี่ยนคันใหม่ครับ ฮ่าๆ
แต่ จขกท ใช้รถต่อวันน้อยมาก อันนี้คงต้องพิจารณาเองว่าคุ้มมั้ย
แต่ตอนนี้รถใหม่ ผมคงไม่ซื้อ honda แล้วครับ เพราะตอนนี้ honda สวยอย่างเดียว คุณภาพมันแย่ลงกว่าเมื่อก่อนเยอะ บวกกับ option ความปลอดภัยสมัยใหม่ แบบประเทศที่เจริญแล้ว รุ่นไหนขายดี honda ไทยแลนด์ก็ไม่ใส่ให้คนไทยได้ใช้
รถ toyota hybrid อย่าไปกลัวมันมากครับ มันไม่ได้จุกจิกเสียง่ายขนาดนั้น camry hybrid ผมปี 2012 เครมแบตไฮบริดไปเมื่อต้นปีนี้เอง นอกนั้นไม่มีปัญหา
-
รถอายุสิบกว่าปี จะมีเสียจุ้กจิ้กๆเเบบนี้ตลอดเเหละครับ ซ่อมอันนี้ไปพังอันโน้น ถ้ารับได้ ลองเชคไหญ่ๆสักรอบนึงเก็บอาการที่คาดว่าจะะเสียให้หมด
ราคา่ที่คุณโดนเเต่ละอย่างสูงมากครับ ถ้ายังไม่ออกไปทำอู่นอก ซื้อรถไหม่ดีกว่าครับ
เเต่ถ้ายอมออกไปหาอู่นอกค่าซ่อมจะประหยัดไปได้บานเลยครับ
-
เป็นผม คงไม่ซ่อมแล้วแน่นอนครับ ซ่อมเดี่ยวต้องมีรายการซ่อมอีก ผมจะเริ่มเล็งคันใหม่แน่นอนครับ แต่คงไม่เอา ซีวิคแล้ว เพราะถ้าต้องใช้อีก 10 ปี ผมไปอัลติสแน่นอนครับ CHRมันยังมีดีเฟคไรบ้าง แต่อัลติสนี่ปรับจนเข้าที่แล้ว ผมไปอัลติสแน่นอนครับสบายใจ อะไหล่มีเป็นเข่ง
-
ซ่อมไม่เยอะหรอกครับ แต่ซ่อมศูนย์แพง เป็นปกติของรถทีอายุ13ปี อะไรเสียก็เปลี่ยนก็ใช้ได้อีกยาวครับ รถที่บ้านcivic 02 ประมาณ2แสนกว่าโล ก็ยังใช้ไม่มีปัญหาครับ
-
ถ้าเล่นรถ เก่า แนะนำว่า ให้มีช่างประจำ อู่ประจำที่ไว้ใจได้ครับ ดีกว่าซ่อมศูนย์และถูกกว่ามาก
แต่ถ้าไม่มีช่างประจำ ไม่ค่อยถนัดงานช่าง แนะนำซื้อรถใหม่ อุ่นใจกว่าครับ
รถเก่า ที่บ้าน vios camry ปี 05 อายุ 13 ปีแล้วครับ ไม่เคยดับกลางทาง ถ้าซ่อมจบและซ่อมถึง
อาจจะให้ช่างดูสักเดือนละครั้ง ค่าซ่อม ของtoyota honda อะไหล่ถือว่าถูกครับ
ถ้าจขกท ไม่ติดเรื่องเงิน ซื้อใหม่ ก็ดีครับ 5 ปีแรกไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องซ่อม อิอิ
-
รถอายุขนาดนี้ ก็มีซ่อมตามอายุครับ
แต่ผมว่าไม่ต้องเอาเข้าศูนย์แล้วครับ
อู่ฮอนด้าข้างนอกเก่งๆ ไม่แพงเท่าศูนย์ ก็ไม่น่าหายาก
-
เป็นผม ถ้าไม่มีกิเลสรถใหม่มากเกิน ใช้รถเก่า แล้วซ่อมดีกว่าครับ แต่ต้องเป็นอู่นอกนะครัง
-
ถ้าไม่ได้ใช้รถเยอะ มีเวลาเอารถเข้าศูนย์หรืออู่ ก็ใช้รถเก่าต่อไปได้ครับ
รถยนต์แต่ละคันมันมีส่วนประกอบเยอะ ยิ่งอายุมากก็จะเริ่มทยอยเสียครับ แต่ผมว่ามันก็เป็นสเน่ห์ของคนเล่นรถเก่านะ ได้แกะได้แคะ เข้าไปคุยกับช่างหรือคนที่ชื่นชอบรถรุ่นเดียวกัน ก็ได้ความรู้เพลินๆดีครับ
ลองเอาไปเข้าอู่ฮอนด้าเก่งๆสักรอบ ให้เก็บงานทุกอย่างให้หมดก็น่าจะอยู่ 2-3 ปีสบายๆแล้วครับ
ตัวผมเองเปลี่ยนรถตอนรถอายุ 11 ปี เพราะไม่มีเวลาซ่อมครับ เนื่องจากทำงานประจำ ต้องใช้รถในการเดินทางไปทำงาน พอเข้าอู่บ่อยขึ้น มันไปกระทบกับงาน เลยตัดสินใจเปลี่ยนรถครับ
-
ใช้รถเยอะมั้ย เรื่องเงินโอเคหรือเปล่า ?
ผมเคยซื้อมือสองมาใช้ครับ
ค่อนข้างเบื่อรถเก่า ขับไปซ่อมไป เดี๋ยวไปตายกลางทาง กลางสี่แยกในเมืองนี่ น่าเบื่อสุด ๆ เลยนะครับ
ส่วนตัวเชียร์ รถใหม่ครับ
eco car โปรแรง ก็เยอะนะครับ
หรือกลัวน้ำท่วม ขับกะบะก็ดี 8)
-
ถ้าเล่นรถ เก่า แนะนำว่า ให้มีช่างประจำ อู่ประจำที่ไว้ใจได้ครับ ดีกว่าซ่อมศูนย์และถูกกว่ามาก
แต่ถ้าไม่มีช่างประจำ ไม่ค่อยถนัดงานช่าง แนะนำซื้อรถใหม่ อุ่นใจกว่าครับ
รถเก่า ที่บ้าน vios camry ปี 05 อายุ 13 ปีแล้วครับ ไม่เคยดับกลางทาง ถ้าซ่อมจบและซ่อมถึง
อาจจะให้ช่างดูสักเดือนละครั้ง ค่าซ่อม ของtoyota honda อะไหล่ถือว่าถูกครับ
ถ้าจขกท ไม่ติดเรื่องเงิน ซื้อใหม่ ก็ดีครับ 5 ปีแรกไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องซ่อม อิอิ
+1
-
ถ้าขายเลยแบบไม่ต้องซ่อมได้ราคานี้ ขายไปซื้อคันใหม่ก็เข้าท่าอย่าซ่อมก่อนขายแล้วได้ 150k แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อใหม่ให้ไปอู่นอกครับ
-
ถ้าจะใช้คันเดิม
ซ่อมอู่นอกที่ทำ HONDA โดยเฉพาะ ประหยัดได้เยอะครับ
-
ตามท่าน sm ไปครับ
ดูแต่ละอย่างที่ท่านโดน เลือดอาบเลยนะครับ อย่างปั๊มติ๊ก ผมเปลี่ยน สามสี่พัน แค่นั้นแหละครับ
ถามว่ารถเก่าไปไหม? ไม่ครับ อะไหล่ อาจจะเสียไปเรื่อย ๆ อาจจะปีครั้งสองปีครั้ง ฯลฯ ไม่แน่นอน
ถ้าคุณมีความสุขกับการเก็บเงิน ใช้คันเก่าไป ถ้ามีความสุขกับการใช้เงิน ก็ เปลี่ยนใหม่ก็ดี
-
ปั๊มติ๊กศูนย์ราคาหมื่นแปด ไปอู่นอกเถอะครับ
แต่รุ่นนี้มีพัดลมไฟฟ้าสองตัว ถ้าตัวหนึ่งเดี้ยงก็ยังมีอีกตัวมาช่วย แสดงว่าวิ่งช้า ๆ ถึงช้ามาก ๆ ในเมืองอย่างเดียวใช่ไหมครับ ถึงเป็นแบบนี้ได้
แต่มาช่วยยืนยันให้ว่าพัดลมไฟฟ้าของแท้ตรงรุ่น ซื้อที่วรจักรก็ยังเห็นเลข 6 ข้างหน้าเหมือนกัน
-
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รถ อยู่ที่หาแหล่งซ่อมถูกกว่าเข้าศูนย์มากกว่า
-
ถ้าเอาสบายใจ ก็ถอยใหม่ครับ
ดูเหมือน จขกท. จะไม่ค่อยมีพื้นฐานเรื่องรถสักเท่าไหร่ด้วย ไปอู่นอก เจออู่ห่วย ก็ซ่อมไม่จบ เจออะไหล่เทียม ก็ไปกันใหญ่อีกแหละ
...........
ปกติ รถมันจะเตือน มันจะบอกเราก่อนนะ
อย่าง พัดลมไฟฟ้าพัง มันไม่ได้อยู่ดีๆพัง มันจะหมุนช้าลงเรื่อยๆ ที่สังเกตได้ก็คือ แอร์เริ่มไม่เย็น เกจ์ความร้อนเริ่มสูงกว่าปกติครับ
หรือ ปั๊มติ๊ก ผมก็เชื่อว่า มันไม่อยู่ดีๆสิ้นใจหรอก มันน่าจะมีอาการสตาร์ทอืด สตาร์ทยาก เตือนมาแล้ว แต่คุณไม่ได้สนใจมันเองแหละ
เคยใช้รถเก่า ตั้งแต่ป้ายแดง จนปีที่ 13 กล้าพูดว่า ไม่เคยตายกลางทาง ไม่เคยขึ้นยานแม่ ครับ ปีหลังๆซ่อมบ่อยนะ แต่รถมันบอกผมก่อนทุกครั้ง แล้วผมก็เอาเข้าศูนย์จัดการครับ
13 ปี ไปไหนไปกัน คว้ากุญแจสตาร์ทแล้วไปได้เลย รถพร้อมวิ่งทางไกลเสมอครับ
-
ผมมีเพื่อนใช้ Civic ตัวนี้
จะบอกว่าอาการที่ จขกท เจอ หลังจากนี้มันจะยิ่งทวีความรุนแรงครับ
รถเพื่อนผมซ่อมไปขับไปเลย น่าเบื่อและแพงมากๆ สำหรับ Honda
ถ้าเป็นไปได้ขายไปออก Eco car หรือ 1.5 มือสองไม่เก่ามากดีกว่าครับ
-
Civic & Chr ดีกว่าครับคุ้มแล้วถึงตอนนี้ ราคาถือว่าโอเคมากเลยนะครับที่ตีมา
-
ไปอู่ honda ดังๆเลยครับ จับเปลื่ยนของใหม่ให้หมดผมว่าไม่ถึงแสน
ยกเว้นว่าอยากเปลื่ยนรถ เพราะถ้าเก่ากว่านี้จะขายยากแล้วครับ ขายตอนนนี้ยังได้เงินแสนมาดาวน์รถใหม่ ไม่งั้นก็ซ่อมใหญ่เก็บให้หมดแล้วใช้ยาวๆ
-
เป็นผม ขอไม่ซ่อมล่ะกันครับ กับอายุ 13 ปี ใช้เค้าจนคุ้มแล้ว
ดีกว่าให้เค้าเสียหนักๆ บางทีมันเสียเวลา เสียความรู้สึก และอันตรายนะครับ
-
ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ซื้อรถใหม่สบายใจและจบกว่า ทั้งนี้ก็แล้วแต่ว่าจะคิดยังไงครับ
แต่โดยส่วนตัวผมก็ยังมีรถเก่าๆอยู่ เพราะคิดอีกแง่นึงซ่อมจบจริงๆก็ไม่เสียเงินเท่าซื้อคันใหม่ครับ
-
ถ้าต้องขับรถไปต่างจังหวัดไกลๆแล้วรู้สึกไม่มั่นใจว่ารถจะเสียไม่เสียแนะนำเปลี่ยนใหม่ครับสบายใจกว่า
แต่ถ้าใช้รถเก่าต้องหมั่นเปิดกระโปรงรถสังเกตบ่อยๆครับ
ส่วนตัวรถเก่าเกิน 10 ปีผมจับเปลี่ยนระบบระบายความร้อนหมดพวก มอเตอร์พัดลม ปั้ม วาล์วน้ำ ส่วนฝาหม้อน้ำเปลี่ยนทุก 7 ปี ยกเว้นพวกรังผึ่งหม้อน้ำอันนี้รอให้เริ่มกร่อนรั่วค่อยเปลี่ยน ยังมีพวกประเก็นชุดใหญ่อีก ซีลวีเทค ปัญหาต่อไปของพวกรถอายุเยอะคือเซ็นเซอร์จะค่อยๆทยอยลาโลกไปทีละตัวต้องนั่งหามาเปลี่ยนเรื่อยๆ ถ้าอยากไปเที่ยวแบบสบายใจก็เชียร์ chr 1.8midครับ
-
Civic ESคันเก่าของผมก็ขายไปตอนครบ13ปีเช่นกันครับ
ถ้าไม่นิยมเข้าอู่นอก แนะนำให้ขายเถอะครับ เพราะรุ่นนี้ซ่อมศูนย์แพงมากๆ และมันจะซ่อมเรื่อยๆ ลามไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนอะไหล่มันหมดอายุไปหมดแล้ว ถ้าเข้าศูนย์อย่างเดียว รับค่าใช้จ่ายมันไม่ได้แน่นอน
แต่ถ้าเข้าอู่นอกได้ ซ่อมมันตามอาการไปเรื่อยๆก็ได้ครับ แต่ผมเชื่อว่าจะทนรำคาญจนใช้ต่อไม่ไหวแน่นอน
-
เงินไม่ใช่ปัญหา ขายไปเถอะครับ
-
นี่แหละความจุกจิกของรถยี่ห้อนี้ ขายเถอะครับใช้คุ้มละ
-
ของผม 16 ปี เหนื่อยมากแล้ว ล่าสุดรถตายช่วงวันแม่ที่อุบลดีที่ถึงที่หมายแล้ว หัวฉีดตัน เปลี่ยนหัวเทียน ไดชาร์จช็อต รวมๆทั้งหมด 6200 ส่วนก่อนหน้านี้ก็เครื่องน็อค ผ่าเครื่องไสฝา เปลี่ยนหม้อน้ำ โอ๊ยอีกหลายอย่าง
ตอนนี้เพิ่งเอารถออกจากอู่ ปัจจุบันใช้บีที50โปรยืมที่บ้านมาใช้ชั่วคราวก่อน สิ้นปีค่อยจัดหาป้ายแดงใช้ยังลังเลระหว่าง Jazz Yaris อยู่เลยโดยสเปคแล้วก็ต้อง Jazz แต่ก็กังวลระยะยาวอีกเพราะคงไม่ได้มีตังเปลี่ยนรถบ่อยๆ
เล่าให้ฟังและแนะนำว่าเปลี่ยนเถอะครับ เปลี่ยนจากเงินค่าซ่อมเป็นค่าผ่อนดีกว่า ใช้รถอย่างสบายใจกว่ากันเยอะยิ่งไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินด้วยแล้วก็ซื้อคุณภาพชีวิตดีกว่าครับ (ผมตังน้อยต้องรอโบนัสก่อน)
-
ซ่อมข้างนอกครับ รถผมคันนึงก็อายุประมาณนี้แหละ เจอราคาศูนย์เข้าไปครั้งเดียว เลิกเข้าเลย
หาร้านเฉพาะทางข้างนอกทำจบๆครับ รุ่นนี้ไม่ซับซ้อน หาที่ทำไม่ยากครับ
ถ้าจะประหยัดก็ยังเล่นได้อยู่ครับ เพียงแต่ให้เริ่มเก็บเงินหรือมองหาคันใหม่ได้แล้วตั้งแต่เนิ่นๆ
เพราะรายการซ่อมมันจะมาเรื่อยๆจนกว่าจะครบทั้งคันครับ
เพียงแต่ถ้าซ่อมที่หลักๆจบ มันใช้ได้อีกยาวเลยครับ (แต่รวมบิลค่าซ่อมอาจจะได้อีโค่คาร์มือสองปีใหม่ๆ 1 คัน)
-
จขกท.มีเงินซื้อสด แนะนำเปลี่ยนคันใหม่ครับ
รถเก่า ไม่ว่าจะดูแลดีขนาดไหน มันก็มีโอกาสเสียกลางทางครับ
สมมุติ เราจะไป ตจว. ตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง หม้อน้ำ โน่นนี่นั่นก่อนเดินทาง
แต่หม้อน้ำ อาจจะรั่งระหว่างเดินทาง ก็เป็นได้
ปั๊มน้ำ อาจจะเสียขึ้นมา ก็เป็นได้ครับ
-
ถ้าเงินพร้อมอยู่แล้ว แนะนำให้ซื้อรถใหม่เลยครับ
ใช้อีกยาวๆ สบายใจกว่าเยอะครับ
-
แนะนำอู่นอกอีกเสียงครับจะประหยัดเงินได้เยอะมาก ๆ
อีกอย่างเห็นเจ้าของกระทู้วางแผนไว้ว่าจะซื้อในอีก 2 ปีข้างหน้าอยู่แล้ว
แต่เลือกอู่ที่เน้นทำเฉพาะ Honda ครับ เพราะร้านกลุ่มนี้จะชำนาญกว่า
เพราะทำแต่ Honda เขาจะแนะนำสิ่งต่าง ๆ ได้ตรงจุดครับ
ปล.ผมใช้ Civic อยู่. แต่เป็นบอดี้ EG (26ปีแล้ว) ซ่อมจบ ๆ ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา
ในคลับลงเครื่อง D17A ของ Dimension กันเยอะมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย
ถ้าทำแบบจบ ๆ ใช้ได้อีกนานครับ ค่าเครื่อง+วาง ถูกกว่า D15B ตรงรุ่นด้วยซ้ำไป