Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ สิงหาคม 29, 2018, 09:55:04
-
สถานที่ราชการควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน แต่หลายที่กลับไม่มีที่จอดให้ประชาชนได้ทำธุระ ผมว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมีกฎว่าห้ามจนท.รัฐขับรถมาทำงาน และควรมีรถรับส่ง หรือควรที่จะมีที่จอดขั้นต่ำให้ประชาชนมาใช้บริการกี่คันก็ว่าไป (ยกเว้นอาชีพหมอซึ่งสำคัญต่อชีวิตคน ควรมีที่จอดให้หมอได้ตรอดเวลา)
ที่จริงก็มีที่ว่างให้ประชาชนจอด5ช่อง สำหรับติดต่อเขต แต่มีที่ว่างอีก8-10ช่องดันไว้สำหรับจนท.รัฐที่ไม่ได้เข้ามาทำงาน ในความคิดผม ระบบรัฐควรทำเหมือนเอกชนไหมที่ว่าทำอย่างไรให้ประชาชนหรือผู้ใช้บริการรับความสะดวกมากที่สุด
เช่นโฉนดหาย ควรปริ้นใหม่หรือควรให้บริการทางMail หรือemailได้ หรือทะเบียนบ้านควรเป็นระบบonline ปริ้นเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจองที่จอดonline หรือทำบัตรประชาชนใหม่ที่ 7 11 หรือจ่ายใบสั่ง online ก็ดี
อีกข้อที่ผมคิดคือถ้ามีรถรับส่ง ราชการเช่นครูจะได้ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาผ่อนรถ พอไม่มีเงินคืนก็จะของดจ่ายหนี้ สุดท้ายก็เงินภาษีพวกเรานะครับ
-
เจ้าหน้าที่รัฐก็คือพนักงาน เค้ามาจากหลายๆที่ครับ ไม่ได้อยู่ละแวกเดียวกันแบบพนักงานบริษัทนั่นแหละเค้าก็ขับรถมา รถไปรับส่งมันก็งบประมาณรัฐ
ดูเห็นแก่ตัวไปถ้าจะห้าม จนท.รัฐ ขับรถมาทำงาน
-
เดี๋ยวนี้ลามปามไปถึงธนาคารแล้วครับ
ถึงจะมีที่จอด แต่พนักงานก็จอดเต็มหมด
นี่ยังไม่นับธนาคารแนวห้องแถวอีก
แสดงให้เห็นว่า เป็นข้าราชการ ชีวิตมีคุณภาพ มีรถขับกันทุกคนมั้งครับ
-
ในสถานที่ราชการก็ไม่ได้มีแต่รถของราชการครับ
ยังมี บ. ต่างๆที่เข้าไปทำงานในนั้นอีก
หรือคนมาติดต่อหมุนเวียนกันไป
เค้าก็มีที่จัดให้สำหรับคนทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าจะจอดก็มาให้ทัน
ส่วนของราชการก็มีรถรับส่งให้อยู่แล้ว แต่ก็ได้แค่จำนวนนึงเท่านั้น จะให้ราชการไม่ต้องใช้รถส่วนตัวก็ออกจะจำกัดสิทธิ์กันเกินไปนิดนึง
ทุกคนก็มีธุระ หรือความจำเป็นทั้งนั้นละครับ
-
ผมเป็นหมอรพ.รัฐ เป็นข้าราชการเหมือนกันจะไม่ให้ผมมาขับมาทำงานเลยเหรอครับเนี่ย
หรือจะให้นอนที่ทำงานไปเลย
-
เจ้าหน้าที่ก็คือประชาชนคนหนึ่งครับ มีความจำเป็นต้องใช้รถในหลายๆภารกิจ ทั้งภารกิจหลวงและภารกิจส่วนตัว
เพียงแต่ว่าทุกหน่วยงานราชการควรจัดสรรที่จอดรถอย่างเหมาะ แต่ต้องยอมรับว่ายังไงก็มีไม่เพียงพอครับที่จอดรถ เพราะคนมาติดต่อราชการสมัยนี้มา 10 คน ก็รถ 10 คัน
-
กสิกร สาทร
ให้ พนง เอารถไปจอดที่อื่น
ลูกค้าจอดสบายเลยครับ
ตั้งแต่ 10ปีก่อน
ผมไปติดต่อราชการบ่อย
นั่งแท๊กซี่ไปตลอด รถจอดที่ห้าง
ผมว่าควรแบ่งส่วนนึงให้ คนนอกไปติดต่อราชการ
แบบ ไม่เกิน 1-2 ชม จะดีเลยครับ
-
ถ้าไปถึงแล้วเต็ม ก็เอารถไปจอดที่อื่นใกล้ๆ แล้วนั่งรถเมล์มาสิครับ
-
เมื่อก่อนผมก็เคยคิดอย่างนี้นะ แต่พอเวลาผ่านไปผมกลับคิดว่าเขาขับรถมาจอดวันนึงบริการประชาชนได้ตั้งหลายร้อยหลายพันคน เราขับไปบางทีไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ส่วนรวมเลย
แค่ไม่จอดกันเต็มหมดแบ่งที่ไว้ให้ประชาชนจอดบ้างเราก็ไปวนๆหาเอา หรือไม่ก็นั่งรถเมล์แท็กซี่ไปเอาละกัน
-
เริ่มเห็นแววว่ากระทู้จะโดนล็อค เหอๆ
-
แล้วมีประเทศไหนบ้าง ออกกฎหมายห้ามข้าราชการขับรถไปทำงาน
จะให้ข้าราชการขี่ม้าไปทำงานหรือไง
หรือคุณไม่ได้ขับรถไปทำงาน
-
ปัญหาเรื่องที่จอดรถ สถานที่ไหนก็เหมือนกันละครับ ในยุคที่ทุกคนมีพาหนะส่วนตัวกันเกือบทุกคน
ที่จอดรถมันน้อยกว่าจำนวนรถ ขนาดที่บ้านผมยังมีปัญหาเรื่องที่จอดรถเลยครับ ทุกคนในบ้านมีรถส่วนตัวหมด
แต่จอดในบ้านได้แค่ 2 คัน อีกสองคันต้องจอดนอกบ้าน ทุกวันนี้ใครมาถึงบ้านก่อนได้จอดในบ้านก่อนครับ
-
ไปห้ามเขาขับรถคงไม่ได้หรอก
แต่มันควรจะมีพื้นที่ไว้สำหรับ ลูกค้า/ผู้มาติดต่อ โดยเฉพาะ พนักงานห้ามจอด
พนักงานก็ไปจอดในพื้นที่เฉพาะของพนักงาน อะไรประมาณนี้
แต่ปกติผมยังไม่เคยเจอปัญหานี้
-
แหม่ มันก็สุดโต่งไปครับ
อาจจะต้องแบ่ง หรือจำกัดจำนวน ชม ผู้มาใช้ขริการ หรือขอความร่วมมือ จนท มาด้วยกัน แชร์รถ ก็ว่าไป
ห้ามเอารถมาเลย มันเป็นไปไม่ได้ครับ
-
ปัญหาคือที่จอดไม่เพียงพอ อ่านแค่ปัญหานี้ก็พอจะรู้แล้วว่าวิธีแก้คืออะไร
ควรจัดระเบียบ จัดสรรพื้นที่ ให้มีที่จอดรถเพียงพอ หรือใช้วิธีการอะไรก็แล้วแต่
ผมเห็น รพ.แห่งหนึ่งใช้ที่จอดรถแบบลิฟท์ แถวนึงจอดได้ 3 ชั้น จุรถได้เยอะดี เวิร์คมาก
(แต่จะไม่ให้จนท.ขับรถไปทำงาน ผมว่าใช้ไม่ได้ครับ อ่านแล้วตกใจ
ไม่ได้จะว่านะครับ แต่ text มันสื่อแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาเอง)
-
ผมกลับคิดว่าสถานที่ราชการมันหลายที่เกินไปซะมากกว่า กรมที่ดิน สรรพากร ที่ว่าการอำเภอ แรงงาน ศาล ประปา ไฟฟ้า อีกเยอะแยะมากมายก่ายกอง ทำเป็นตึกรวมๆด้วยกันไม่ได้รึไง ชั้น1 บัตรประชาชน ชั้นสองทะเบียนบ้าน ชั้นสามที่ดิน ชั้นสี่ประปา ชั้นห้าไฟฟ้า ชั้นหกทหาร ชั้นเจ็ดสรรพากรเงี้ย
-
ผมกลับคิดว่าสถานที่ราชการมันหลายที่เกินไปซะมากกว่า กรมที่ดิน สรรพากร ที่ว่าการอำเภอ แรงงาน ศาล ประปา ไฟฟ้า อีกเยอะแยะมากมายก่ายกอง ทำเป็นตึกรวมๆด้วยกันไม่ได้รึไง ชั้น1 บัตรประชาชน ชั้นสองทะเบียนบ้าน ชั้นสามที่ดิน ชั้นสี่ประปา ชั้นห้าไฟฟ้า ชั้นหกทหาร ชั้นเจ็ดสรรพากรเงี้ย
แบบนี้ก็รถติดบรรลัยเลยครับ ดูศูนย์ราชการแจ้งวัฒนาเป็นตัวอย่าง
-
พื้นที่มีจำกัด ที่จอดรถคนทำงานก็แทบจะไม่พอแล้วครับ
ทำงานในมหาวิทยาลัย ที่จอดรถ ไม่ค่อยจะพอ ต้องแย่งกับนิสิต
ช่วงรายงานตัวนิสิต ไม่มีที่จอด ผู้ปกครอง ญาติ จอดรถมั่วไปหมด
มีป้ายห้ามจอด ก็ยังจอด
ช่วงจัดงานรับปริญญา นรกชัดๆ หยุด ทำงานที่บ้านแทน เพราะการจราจรมั่วมาก จัดที่ให้จอดเฉพาะกิจ มีรถรับส่ง ยังขับรถเข้ามาในมหาวิทยาลัยกัน ไม่มีป้ายเข้าส่วนหวงห้าม ก็ยังจะเข้าให้ได้
ถ้าบ้านเราระบบขนส่งมวลชนที่ดี เหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่นญี่ปุ่น ผมก็อยากนั่งรถไฟ รถบัสมาทำงาน ขี้เกียจขับรถ เบื่อคนขับรถช้าชิดขวา ฝ่าไฟแดง แซงซ้าย
-
ต้องใช้ระบบห้างมาควบคุมครับจอดได้ไม่เกิน2ชม.เกินนั้นคิดเงิน หลายๆที่ในกทม.ก็ทำอยู่นะ 8) 8)
-
หลายๆ ที่ รับพนักงานเพิ่ม ลูกค้าเพิ่ม สร้างตึกเพิ่ม แต่ไม่สร้างที่จอดรถเพิ่ม แล้วมันจะไม่เป็นปัญหาได้ยังไง
ไม่เคยเห็นสถานที่ไหนๆ จะให้ความสำคัญกับที่จอดรถเลย คอนโดเดี๋ยวนี้ยังที่จอดรถไม่ถึง 40%
-
ในสถานที่ราชการก็ไม่ได้มีแต่รถของราชการครับ
ยังมี บ. ต่างๆที่เข้าไปทำงานในนั้นอีก
หรือคนมาติดต่อหมุนเวียนกันไป
เค้าก็มีที่จัดให้สำหรับคนทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าจะจอดก็มาให้ทัน
ส่วนของราชการก็มีรถรับส่งให้อยู่แล้ว แต่ก็ได้แค่จำนวนนึงเท่านั้น จะให้ราชการไม่ต้องใช้รถส่วนตัวก็ออกจะจำกัดสิทธิ์กันเกินไปนิดนึง
ทุกคนก็มีธุระ หรือความจำเป็นทั้งนั้นละครับ
เห็นด้วย ในทางกลับกัน เมื่อรู้ว่าไม่มีที่จอดเพียงพอ ทำไม จขกท. จึงไม่เดินทางด้วยรถสาธารณะละครับ รถแท๊กซี่ รถเมล์ รถไฟฟ้า ฯลฯ ใจเค้าใจเรา จนท.รัฐก็คน ถ้าอยากได้ที่จอดก็ต้องมาให้ทัน First-Come-First-Serve (ยกเว้น จนท.ระดับผู้บริหารที่จะมีที่จอดเฉพาะ เอกชนก็เหมือนกัน)
-
ทำใจครับ เพราะเมื่อก่อนตอนสร้างตึกตอนเริ่มเขาคิดที่จอดรถแค่ราชการที่มีตำแหน่งระดับนึงแล้วมักจะมีรถขับกัน+เผื่อคนมาติดต่อกับคนมีรถขับอีกนิดๆหน่อยๆ
แต่เวลาผ่านไปทุกๆอย่างเปลี่ยนไป เดี่ยวนี้เด็กฝึกงานในส่วนราชการก็มีรถขับกันแล้ว เด็กบางคนบางคนขับรถยุโรปรถแพงกว่าข้าราชการซีสูงๆซะอีก ถ้าให้แก้คงต้องปรับแก้ระบบการขนส่งมวลชนใหม่ ไม่ก็สร้างตึกจอดรถเพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องยาก
แนะนำต้องแก้ที่ตัวเองก่อนครับ ถ้าต้องไปติดต่อที่ที่จอดรถยากก็หาที่จอดรถใกล้เคียงตามห้างหรืออะไรแล้วต่อรถไปจะสะดวกกว่า
ใจเขาใจเราครับ เขาก็อยากไปทำงานสบายๆนั่งในรถ คุณก็คงอยากไปติดต่อสบายๆขับรถไปเหมือนกัน
บางคนไม่ได้ไปติดต่อแต่เอารถไปค้างไว้แล้วไปธุระที่อื่นก็เยอะครับเลยทำให้ไม่มีที่จอด
-
ควรเหลือที่ให้ผู้ไปใช้บริการ มากกว่าให้พนักงานประจำจอด
เพราะผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะหมุนเวียน พนักงานประจำจะจอดตั้งแต่เช้ายันเย็น ควรแบ่งอย่างน้อย 50:50
กระทรวงพาณิชย์ไปประจำเจอแต่ ที่จอดพนักงานประจำ 80 คนใช้บริการ 20 วนกันไป
-
ผมว่าควรมีที่จอดรถสำหรับพนักงาน แต่ไม่ใช่มีให้ครบทุกคน (ซึ่งคงไม่มีหน่วยงานไหนต่อให้เอกชนก็เหอะทำได้อยู่แล้ว) แล้วก็มีที่ส่วนหนึ่งให้คนที่มาติดต่อจอดได้ ถ้ามาช้าที่จอดไม่มีก็ต้องยอมรับ
-
มองอีกด้าน ถ้าให้เพิ่มพื้นที่จอดรถมากขึ้นหรือไม่ให้รถของ จนท. จอดมันเป็นการแก้ปัญหาแบบเห็นแก่ตัวไปหน่อย บางคนบ้านไกลมาก ไม่มีรถผ่าน บางคนรถคันเดียวต้องไปส่งลูก2คน ส่งเมีย แล้วมาจอดที่ทำงาน นี่เขาก็ใช้แค่จำเป็นก็มีครับ
ผมว่าทุกวันนี้เพื่อประโยชน์และสนับสนุนคนให้มีรถมากเกินไปนะ ถ้ามีขนส่งมวลชนดีๆ ไปถึงที่หมายได้สะดวกและสบายกว่าการขับรถไป คนจะค่อยๆเปลี่ยนไปใช้ขนส่งมวลชนแทนใช้รถตัวเอง เพราะเบื่อรถติดและปัญหาที่จอดรถครับ
-
มันก็พูดยาก พื้นที่มันมีน้อยนิด
ใครๆก็อยากขับนรถส่วนตัวสบายๆ เราเองยังอยากสบายเลยถูกมั้ยครับ
-
หาที่จอดใกล้ๆ แล้วนั่งรถเมล์มาครับ
ผมก็เคยทำแบบนี้ เช่น bitec (เอกชนนะครับ ไม่มีที่)
-
จากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็มีปัญหาเรื่องที่จอดรถทั้งนั้นครับ
ทั้งสถานที่ราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ฯลฯ
แม้กระทั่งห้างสรรพสินค้า ก็มีปัญหาเช่นว่านี้...
ผมคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้บริการขนส่งมวลชนเข้าถึงทุกพื้นที่ และความเสถียรมากกว่านี้ เพราะระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ น่าจะช่วยลดปริมาณการใช้รถของผู้คนได้ไม่มากก็น้อยครับ
ถ้าจะขยายพื้นที่ เพื่อสร้างที่จอดรถ ผมเห็นว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุน่ะครับ ต่อให้สร้างใหญ่ขนาดไหน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่พออยู่ดีนั่นแหละ
ทางออกที่ดีก็คือที่สุดก็คือ ต้องมีบริการขนส่งมวลชนที่เข้าถึงทุกพื้นที่
.
.
.
และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องมีราคาค่าโดยสารที่ไม่แพงจนเกินไป ไม่ใช่ว่าไปกลับวันๆนึงตกวันละเกือบๆ200บาท , รถต้องมาตรงเวลา ถ้าเป็นไปได้ก็สามารถเช็คตารางเวลารถผ่านทางแอพฯได้เลย ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า จะได้ไม่ต้องมานั่งคอยลุ้นหรือเสี่ยงดวงว่าเมื่อไหร่มันจะมา ให้คุกกี้ทำนายกัน(ฮาๆๆๆ), ไม่เสียกลางทาง, ไม่เจ๊งกลางทาง, มีปริมาณรถหรือขบวนรถที่เพียงพอที่จะรองรับผู้คนที่มาใช้บริการ เวลาคนใช้บริการก้าวขึ้นรถจะได้ไม่อัดกันเป็นปลากระป๋อง ทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า
ส่วนสถานีตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทาง ต้องทำให้ผู้คนขึ้นลงได้สะดวกและอยู่ในพื้นที่จุดสำคัญด้วย (ประมาณว่าถึงสถานีปุ๊บ เราลงเดินได้ไม่กี่ก้าวก็เข้าที่ทำงานหรือสถานที่ราชการได้เลย ไม่ต้องเดินจนขาลากหรือเดินอ้อมโลกเป็นกิโลๆเพื่อเข้าสำนักงาน) หรือถ้าจะต้องต่อรถ รถที่ให้บริการก็ต้องตรงเวลา รวดเร็ว และเพียงพอต่อผู้โดยสาร
อาจจะขอมากไปหน่อยนะครับ
จริงอยู่ที่มันเป็นเรื่องที่ยาก แต่ถ้าได้แก้ไขปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นและที่ไม่ได้กล่าวมานอกเหนือจากนี้ได้ และจูงใจให้คนหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะได้มากขึ้น ให้เห็นว่ามีความสะดวกสบายกว่าการใช้รถส่วนตัว ก็จะแก้ไขทั้งปัญหารถติดและปัญหาไม่มีที่จอดรถได้ครับ :)
-
ทุกวันนี้ผมต้องจอดใกล้ๆแถวนั้น แล้วต่อรถ หรือ เดินไปครับ
สถานที่ราชการหาที่จอดยากมาก
-
มันก็คือที่ทำงานที่นึง ไม่ต่างจากที่ทำงานอื่นๆหรอกครับ พื้นที่ใครมาก ก็ทำอะไรได้มาก พื้นที่ใครน้อย ก็ลำบากหน่อย เบียดๆกันไป
จะห้ามไม่ให้ใครเอารถมา คงทำไม่ได้ ส่วนค่าจอดรถรายเดือน ก็เก็บกันไปตามแต่ละพื้นที่
-
ผมอาจจะชิน กับสิ่งที่เจอ เรื่องไม่มีที่จอด
แก้อย่างอื่น ระบบ หรือสิ่งต่างๆแก้ยาก
แก้ที่ตัวเองปรับที่ตัวเอง ผมว่าง่ายกว่า
อย่างผมถ้าต้องเดินทางเข้าเมืองรถติดๆ ไปสถานที่ ที่หาที่จอดยาก ก็รถสาธารณะไม่ก็แท็กซี่ครับ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ไปเช้าขึ้น
หลายๆอย่างแก้ยาก แต่เราสามารถปรับตัวให้อยู่กับมันให้ได้ครับ
ปล. อย่างคนในครอบครัวก็ทำงานรัฐ ครับ คุณพ่อ เป็นแพทย์อยู่ที่รพ. บางทีหมอเองไม่มีที่จอดเข่นกัน แกก็เอารถไปจอดห้างที่อยู่ใกล้ๆ รพ.แล้วแกก็เดินมาทำงาน แกก็ไม่บ่นนะครับ
คุณแม่ ทำงานอยู่ที่กระทรวงแห่งหนึ่ง บางทีตึกที่แกทำงานไม่มีที่จอด แกก็ต้องจอดตึกอื่น จอดนอกกระทรวงแล้วเดินไปทำงาน แกก็ ไม่อะไรครับ คงปรับตัวได้
-
ไม่เห็นเคยมีปัญหา ไปกรมนู้นกรมนี้ ไปขนส่ง ไปเขต ไปที่ดิน ไปสถานีตำรวจ ไปโรงพยาบาลรัฐ ไปมหาลัยรัฐ ไม่เคยมีปัญหา แม้แต่ห้างที่คนบ่นกันว่าที่จอดรถวนเป็นชั่วโมง
ความคิดโคตรเห็นแก่ตัว ห้ามจนท.รัฐ ขับรถไปทำงาน ผมจะบ้าตาย
-
สมัยก่อนไปทำหนังสือเดินทางที่กรมกงสุล
รู้ว่าที่จอดหายาก ก็ไปจอดหลักสี่พลาซ่า แล้วนั่งแท็กซี่ไป
หรือไปโรงพยาบาลจุฬายุค 2544-2547 สมัยที่จอดรถไม่เยอะเหมือนปัจจุบัน ก็ต้องไปตั้งแต่ 0530LT เพราะสายกว่านี้ก็ไม่มีที่จอด
ส่วนเรื่องราชการครู แฟนผมเป็นครูชำนาญการพิเศษอยู่ รร.มัธยมแห่งนึงแถวบางกะปิ แต่บ้านอยู่บางบัวทอง
เงินเดือนครูชำนาญการพิเศษ+ค่าวิทยฐานะ ก็สามหมื่นนิดๆแล้ว ไม่ได้น้อยอย่างที่เข้าใจ บ้านมีตังค์ ซี้อรถเงินสด ไม่เคยกู้หนี้ยืมสี้น
ถ้าเค้าเลือกบรรจุได้ เค้าก็ไม่อยากมาแถวนี้หรอก
ทุกวันนี้ต้องเช่าคอนโดแถวนี้อยู่ เพราะไม่อยากเดินทางไกล แต่ก็ต้องขับรถ
จะให้แบกตำรา + แผนการสอนขึ้นรถเมล์หรือ :(
แค่งบจะเบิกซี้อคอมกว่าจะเซ็นอนุมัติต้องรอกันเหงือกแห้ง เรื่องรถรับส่งก็คงลืมไปได้เลย
-
ผมว่า มันผิดตั้งแต่การออกแบบก่อสร้าง
น่าจะสร้างแบบยกพื้นสูงแบบย้านทรงไทย
จะได้จอดรถใต้อาคารได้ด้วยครับ
-
ผมชินแล้ว ไปติดต่อราชการแล้วไม่มีที่จอด
รพ.รัฐทุกที่เลย กระทรวงต่างๆ ประกันสังคม ขนส่ง จัดหางาน สำนักงานเขตบางเขต ไปรษณีย์ ไฟฟ้า ประปา แม้กระทั่งวัด ;D
ที่พูดมานี่คือจอดข้างในไม่ได้ ต้องมาวนๆหาจอดรอบๆสถานที่ เสียตังค์มั่งฟรีมั่ง
ปัญหาคือรถมันเยอะ ระบบขนส่งมวลชนมันแย่ บลาๆๆๆ ก็ปัญหาที่เราเห็นๆกันอะครับ แก้ยากกกกก
มันไม่ใช่แค่ราชการนะ สถานที่เอกชนสมัยนี้ก็พอๆกัน กสิกรสนง.ใหญ่ตรงราษฎร์บูรนะ พนง.ต้องเอารถมาจอดริมฟุตบาททั้ง2ฝั่งยาวเป็นกิโล วันดีคืนดีเจอจราจรล็อคล้อด้วย ห้างสรรพสินค้าจะค้าส่งค้าปลีก เด๋วนี้แทบทุกที่รถหนาแน่นมาก แล้วไม่เฉพาะเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดานี่ตัวดีเลย รถตึม
ส่วนจะไปห้ามไม่ให้ข้าราชการไปจอดที่อื่นหรือไม่ขับรถมา ข้าราชการก็ประชาชนนะครับ ทำแบบนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมซักเท่าไหร่ ผมเห็นบางที่เขามีโควต้าให้รถของข้าราชการเข้าไปจอดได้ส่วนนึง ที่เหลือไปจอดรอบๆ แล้วกันที่ส่วนนึงให้ผู้มาติดต่อราชการ ก็คงทำได้เท่านี้ครับ
-
ปัญหาคือที่จอดรถไม่พอ ต้องทำให้รถมีจำนวนลดลง ครับ เช่น
ทุกคนห้ามเอารถออกมาใช้วันคู่/คี่ บ้านใครไม่มีที่จอด ห้ามซื้อรถ ขึ้นภาษีกันเข้าไปอีกเอาแพงๆ ขึ้นราคาน้ำมันด้วยเอาให้หนัก
ไปละ........ฟิ้ววววววว
-
คงเป็นเฉพาะสถานที่ราชการใน กทม. หรือเมืองใหญ่ครับ ถ้าต่างจังหวัดที่เคยไปติดต่อ ที่จอดมีเหลือเยอะ
-
เจ้าหน้าที่รัฐ นอกเวลาทำการก็คือประชาชนคนหนึ่งเหมือนกับคุณนั่นแหละครับ เขาก็มีสิทธิ์เหมือนกับคุณทุกประการ จะไปจำกัดสิทธิ์แบบความคิดคุณ เห็นแก่ตัวไปนะครับ
-
ผมว่าเป็นไปได้ยากครับที่จะให้ไม่ขับรถไปทำงานและมีรถรับส่ง
ผมยกตัวอย่างแฟนผมที่ทำงานเป็นราชการของศาลให้ดูก็แล้วกันและได้สัมผัสการทำงานของเขา
1.ข้าราชการทุกคนจะไม่สามารถไปทำงานพร้อมกันทุกคนได้เพราะบางท่านมีลูกต้องไปส่งลูกที่โรงเรียนและทุกคนก็ไม่ได้กลับพร้อมกันบางท่านลูกเลิกโรงเรียนก็ต้องไปรับลูกกลับ อย่างแฟนผมยังไม่มีลูกแต่อยู่แผนกที่งานเยอะเลิกอย่างต่ำ1ทุ่มเกือบทุกวัน มีน้อยมากที่จะเลิกตรงเวลา
2.ที่จอดรถเขาจะเเบ่งอย่างชัดเจน ที่จอดรถของข้าราชการเขาจะให้เข้าไปจอดที่ชั้นใต้ดินทั้งหมด ถึงอย่างนั้นก็ไม่พอจอดครับผมยังเห็นจอดซ้อนคันกันครับ
เท่าที่นึกออกก็มีประมาณนี้ครับ
-
ผมเคยไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองจังหวัดแห่งหนึ่ง ตั้งตรงข้ามตลาด เชื่อมั้ยว่าผมพาเพื่อนไป แต่ไม่มีที่จอดรถเลย คนมาตลาดจะชอบเอารถมาจอดใน สภ. จนผมต้องให้เพื่อนลงแล้วขับวนอยู่4รอบถึงจะเสร็จ เห้อ
-
สงสาร จขกท โดนว่าเต็มเลย
เอกชนในเมือง ไม่มีที่จอดให้พนักงานนะครับ มีสำหรับผู้บริหารเท่านั้น ที่เหลือกันไว้ให้ลูกค้าหมด ใครแอบเอารถมาจอดเดี๋ยวก็เจอหัวหน้าด่า ถ้านอกเมืองก็อีกเรื่องนึง
แต่ราชการในเมืองหรือนอกเมืองก็ไม่ต่างกัน กันที่ให้ระดับบริหารแล้ว ที่เหลือใครมาก่อนก็จอดไป ไม่มีกันให้ประชาชน เลยเป็นเหตุให้ไปทีไรไม่เคยได้จอด
ก็อย่างว่า ประเทศนี้ใครใหญ่เป็นที่รู้กัน คนไปทำงานควรจะปรับตัว คนที่ไปติดต่อควรได้รับความสะดวกไม่ใช่หรอ (ยกเว้นอาชีพที่เกี่ยวกับชีวิตคน เช่น หมอ) หรือถ้าคุณมีเหตุด่วนไปโรงพัก แต่คุณต้องนั่งรถเมล์ไป มันเหมาะสมหรือไม่
-
เมื่อก่อนข้าราชการ หลายๆแห่ง เคยมีรถรับส่งพนักงานด้วยรถบัส รถตู้.. รถตราฯ ของหน่วยงานเลิกงานแล้ว พนักงานจะนั่งแบบ CARPOOL กลับไปหมู่บ้านสวัสดิการพนักงานกันเอง แต่เพราะปัญหา "คนไทยอะไรก็อคติ " เวลามีรถหน่วยงานราชการ (สมัยก่อนเหมือนราชการ) มันวิ่งไปแถวที่ตัีวเองอยู่ แล้วมีคนนั่ง แล้วเวลานั้นเป็นเวลานอกงานราชการ ......... เช่น 18.30 .... วิ่งผ่านหน้าหมู่บ้านผม คนที่นั่งอยู่ป้ายรถเมล์ ก็จะพูดขีึ้นมาว่า
1.--- "........... แม่งเอารถหลวงมาใช้ วิ่งนอกเวลาแล้วเห็นไหม" .........>> มันไม่เห็นหรอืว่า คนในรถเขาใส่เสื้อดำกันทั้งรถ มันไปงานศพใครมาหรือเปล่าล่ะ ประชาชนผู้มากด้วยสิทธิ เสรีภาพแต่ไร้สมองก็จะคิดแบบนั้นไปทางเดียวกันทันที
2.- วันหยุด มีรถบัส รถตู้ ยี่ห้อหรือตรากระทรวงฯ หน่วยงานวิ่งไป แถวๆไหนก็ตาม แล้วเข้าปั๊มฉี่ กันบ้างกินข้าวบ้าง เคยมีคน "ถ่ายรูป" มาโพ้สในเเน็ต พันทิป โน่น .... แล้วบอกว่า ใช้รถนอกเวลาราชการ ....ก็ได้ด้วยหรอ???? แล้วตอนมึงเห็นเขาเดินกัน ทำไมไม่เข้าถามเขาเลย ว่าเขาไปไหนกัน สรุป รายนั้นเขาพาเด็กในชุมชนสลัมคลองเตย (สมัยก่อนก็ไปเลิกยา.........แหละ) ไปทัศนศึกษา ไปดูถ้ำกระบอก มา........ อันนี้ นานมากแล้ว แต่ผมจำได้ เพราะรุ่นพี่อุดมศึกษา ผมโดนสอบวินัยเพราะแบบนี้แหละ .....
นี่ไงครับ .................. เหตุที่ว่า หน่วยงานราชการ หลายๆยุคหลังๆ บอกว่าเลิกเหอะ ซื้อรถมาพ่นตรากระทรวง ทำอะไรก็ไม่สะดวก ..... โดนแต่คำว่า รถหลวงๆๆ รถราชการ ...........
ทีสุ่ดแล้ว ใช้เช่า "เช่าแบบราคาแพงกว่าซื้อ3-5เท่า" (ไม่ต้องพ่นตรา อะไรเพื่อประกาศหน่วยงานก็มีเยอะนะ ไม่มีใครรู้แล้วว่า รถหลวงรถราษฏร์) แล้วก็ต้องคืนรถไป เมื่อครบ3ปี บางคัน รถผู้บริหาร เขาแทบไม่ได้ใช้ เพราะมีรถส่วนตัวแล้ว สบายกว่า ค่าน้ำม้นเบิกเอา ..จบกว่า ไม่อยากรับผิดชอบปัญหา
หลายๆ อย่าง เกิดขึ้น เพราะ "คิดด้านเดียว" .............. โปรดคิดใหม่ครับ ไอ้คนที่ทำผิด ใช้รถหลวงไปรับเมีย ส่งลูกไปโรงเรียน นั่นว่าไป แต่อย่าเหมา โพ้ส แบบนี้ กำลังเหมาว่า ข้าราชการ ทำให้ไม่มีที่จอดรถ ........... ท่านทราบได้อย่างไรว่า มันเป็นรถข้าราชการทั้งหมดอ่ะครับ
***************
อีกอย่าง นะ มันก็มีหน่วยงานที่พอจะแตกต่างกับหน่วยงานอื่นๆ ก็มีนะครับ เช่น คนในหรือข้าราชการ พนักงานฯ เสียค่าที่จอดรายวัน ส่วนคนนอก จอดฟรี !!!
เขายอมเสียค่าที่จอดมีนะครับ ลองๆดู แต่ผมว่า หน่วยงานในศูนย์ราชการต่างจังหวัด(ใหญ่ๆ) เขาก็จัดการเพียงพอนะ ... มหาวิทยาลัย วนๆ แล้วจอดได ้
ผมเคยไป ศูนย์แพทย์กาญจนา แถวสายสี่ ของ ม.มหิดล จะไปทำฟัน ผมต้องวนไปหาที่จอดไกลกว่า ก็ร้อน ก็ด่า ก็บ่น เพราะปวดฟัน แต่พอเดินไป เดินมาแล้ว ........ ส่วนมาก คนที่ได้จอดถัดจากนอกๆ เข้ามาคือ "ที่จอดรถแพทย์..."(ติดป้ายไว้เลย) ผมว่า มันจำเป็นนะครับ สำหรับบางหน่วยงาน ที่จะต้องจัดระบบการจอดไว้ให้ พนักงานในหน่วยงาน .............. คนพวกนี้ ถ้าจอดไกล เดินตากฝน ตากแดดมาทำงาน บ่อยๆ แล้วป่วยคนนึง ...งานชะงักไปกี่วัน คุณทราบไหมครับ แล้วก็บ่นว่า ข้าราชการทำงานช้าอีกแหละ
**************************
อย่างที่ผม โพ้สไปน่ะครับ ตรงที่ว่า ตอนนี้ "รถหลวง" ส่วนมาก ใช้ระบบการ "เช่า" แล้วเขาไม่ต้องติดตรามาให้คนเพ่งเล็ง ....
ข้อต่อมาคือ เจ้าของโพ้ส จะทราบได้ไงครับว่า รถคันนั้น ไม่ใช่รถ "หน่วยงาน" หรือ "รถหลวง" หรือ "รถหน่วยงานรัฐที่มาติดต่องาน" ....
แล้วกำลังเข้าใจไปได้เองว่า ............... เป็นรถของ "ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่" ที่เอามาจอดจนไม่มีที่จอดสำหรับคนที่มาติดต่องาน มันอาจจะเป็น "รถหน่วยงาน" อย่างที่ผมโพ้สแหละนะ บอกได้เลย หลายที่ ทำแบบนี้แหละ ไม่ใช่รถส่วนตัวหรอกครับ
-
แก้ทีาระบบให้ประชาชนไม่ต้องไปสถานที่ราชการไม่ดีกว่าหรือครับ
เช่นแจ้งความ online แล้วเอารหัสไปทำบัตรประชาชนใหม่อีกweb(uploadรูปจากมือถือ)แล้วค่ิอยส่งมาที่บ้าน (ต่อให้เข้า2webยังสะดวกกว่าเลยครับ)