Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: RockmanJilly005 ที่ สิงหาคม 30, 2018, 17:12:37
-
สงสัยนานมากแล้วว่าตกลงรถกระบะสายพันธ์แต่งซิ่งที่ฮิตมากในปัจจุบันช่วง7ปีนี้เค้าเริ่มฮิตตั้งแต่สมัยมังกรทอง บิ๊กเอ็ม ไม้ตี้เอ็กซ์แล้วหรือไม่อย่างไรครับ
-
ผมไม่รู้ความเป็นมาจริงๆแต่มันไม่แปลกใจว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น
ถ้าอยากได้รถขับหลัง ราคาจับต้องได้ แต่งง่าย จูนง่าย รถไม่พังง่าย เกียร์ธรรมดา แรงทางตรงในระดับนึง นอกจากกระบะแล้วที่ไทยไม่มีรถแบบนี้
อยากให้คนเลิกแต่งกระบะ ก็มาประกอบMiata กับ Toyota 86/BRZ ในไทยสิ 55555 ::)
-
สมัยนั้นก็วางตระกูล j กันครับ
เสียงเวสเกท เสียงโบล์วออฟวาล์วสนั่นเมือง
-
มาจากช่วงน้ำมันแพงครับ เปลี่ยนมาเบนซิลเครื่องใหญ่ๆติดแก๊ซกัน
กับกระแสแข่งรถ one make race อีกอัน
-
มาหนักๆยุค common rail
-
อาจจะฝันว่าอยากลงแข่งที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอกิต บุรีรัมย์ สักครั้งนึงในชีวิต
-
ย้อนยุคกลับไป
สมัย บางใหญ่เซอร์กิจ
และ วิภาวดีเซอร์กิจ
(ไม่ช่ายเดอะพาเลซเซอร์กิจ)
สมัยนั้นเริ่มต้นมีเครื่อง
เก่ายุ่นติดโบมาคือ
1G-TE และตามมาด้วย
7M-TE เริ่มมาวางในรถกะบะ
เริ่มมาซัดกับรถเก๋งวางเครื่อง
และรถสปอร์ตในเวลาดึกๆๆ
สมัยโน้นคนดูเยอะแยะมากมาย
สองข้างถนนยาวหลายกิโล
ช่วงที่มันส์ที่สุด ถ้าเป็นที่
วิภาวดี คือ ยูเทอร์หน้า เซนจอนห์
ถ้าบางใหญ่ ก็จุดกลับรถ หัวท้าย
ตลอดถนน คนยืนชมกันเป็นพัน
อุบัติเหตุเกิดทุกคืน ศ.ส.
ส่วนมากคนที่ตาย ก็เป็นพวก
ที่ยืนข้างทางช่วงกลางๆขึ้นไป
เพราะรถเบียดกันเอง หรือ
เบียดรถคนใช้ถนนทั่วไป
แล้วก็เสียหลักลงข้างทาง
7M มาฮิตติดลมบนช่วงปี
2538 สมัยนั้นไม่มีแฟลช
มีแต่เปลี่ยนหอย เพิ่มหัวฉีด
เปลี่ยนอินเตอร์
แล้วยัดลงรถกะบะใจถึง
ยอมรับเลย ณ ตอนนั้น แรงจิงๆ
ตายก็เยอะ เรื่องช่วงล่าง
ก็แล้วแต่งบ โช้คอัด นม.
เบรคเดิมๆ
ยุคต่อมาก็เริ่มมากินเจ 1เจ 2เจ
สำหรับสายเบนซิน
พอสิบปีให้หลังจนถึงปัจจุบัน
ก็เริ่มสายหมึก ฉีดดำคละคลุ้ง
ไปทั่วปฐพี.......
คร่าวๆนะ พอจำได้แค่นี้
-
ผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเอาเท่าที่จำได้ละกันครับ ยุคที่เล่นกันหนักจริงๆเริ่มต้นจากยุคแรกของดีเซลติดเทอร์โบมาจากโรงงานครับ ราวๆปี2000-2005
ตัวที่เอามาโมเพิ่มเติมในยุคแรกของแต่ละค่ายซึ่งก่อนจะมาเป็นยุคคอมมอนเรล Nissan-BigM(TD25) Mitsu-Starda(4M40/4D56) Ford-Ranger/Mazda-Fighter (WLC) Toyota (5L/1KZ) Isuzu(4JJ1)
ตอนนั้น WL นี่เดิมๆวิ่งกระจายสุดในบรรดากระบะด้วยกันเดิมได้ถึง 180กันสบาย ตามมาด้วย TD25 แต่พอเอาไปโมกัน4D56 จะเหนียวกว่า
พวกนี้จะมีเทอร์โบมาจากโรงงาน พอเริ่มมีเทอร์โบช่างไทยก็เริ่ม รื้อเครื่องยกลงมาเปิดดูแล้วครับว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง โดยที่เทอร์โบที่หาได้จากเชียงกงในยุคนั้นก็มี Z18 , M24 ,TD04-08,F5V,TF06,TF035
มีขนาดใหญ่กว่าของติดรถพอสมควร เนื่องจากเป็นเทอร์โบจากรถบรรทุก
เมื่อลมเพิ่ม น้ำมันก็ต้องเพิ่ม ร้านรับทำปั๊มมีมากมาก ไทยเจริญจิตร บางค้อ มนตรี ทำปั๊ม 12Mm ใส่รถกันควันดำปี๋ แต่ยุคนั้นค่าแรงแพงมากเมื่อเทียบกับราคาสมัยนั้น ลูก12Mm ราคาใส่อยู๋ที่ 2-3 หมื่น (ปัจจุบัน 1-2หมื่น) เฮดเดอร์ก็หล่อเหล็กกันบ้านๆ ไม่มีหรอกสแตนเลส อลูมิเนียม
แคมชาร์ฟ ก็เอาเครื่องรหัสเดียวกันแต่ไม่มีไม่มีเทอร์โบ มาใส่จมูกจะสูงกว่า อัตราเร่งมาดีกว่าจากนั้นก็ตั้งวาล์วกันใหม่
อินเตอร์ก็ไปเอาของพวกเบนซินมาใส่ เยอะแยะครับในเชียงกง
ช่วงล่างโช้คก็อัดน้ำมันเอาครับ พวกโช้คเทพก็แพงมาก
หลายคนที่ไม่ได้เอาไปลงสนามก็ทดเฟืองหลังกันใหม่เพราะ รอบมันสูงเกินไป 3.5 3.7 3.9 3.1 วิ่งกันยาวๆ ผมเคยนั่ง BigM ทดเฟืองท้าย3.5 TD06 ปั๊ม 12Mm Topspeed 220+ สายเอเชียครับแช่ได้ด้วยครับ แต่ควันอลังการมากครับ (ยังสงสัยเพราะคนในนี้นักชอบปรามาสว่ากระบะแช่ไม่ได้มันทำได้เป็น10ปีแล้ว )
ในยุคนั้นคนแต่งความรู้แน่นกว่าสมัยนี้มาก ด้วยการลงทุนแต่ละครั้งมันแพงกว่า เพราะอาศัยระบบกลไกล้วนๆต้องเข้าใจพื้นฐานระบบ "เพิ่มน้ำมันได้ควันเอาควันไปปั่นใบปั่นใบได้ลมเอาลมอัดเข้าเครื่อง" ::) ::) ::)
น้ำมันก็จูนเป็นสเกลรอบเครื่องแบบ ECUไม่ได้ อาศัยถมไว้ก่อนให้มันเยอะ (แม้ว่าปั๊มฝาสูงจะมีสเกลจ่ายน้ำมันตามรอบเครื่องให้บ้างแต่มันไม่ละเอียดครับ) ควันมันก็เลยดำมากแม้ยังไม่ถึงรอบบูสต์
แต่กระบะยุคนั้นความสะดวกสบายมันยังไม่เท่ายุคนี้ คนที่เอามาแต่งมันก็น้อย เพราะส่วนใหญ๋ออกแคป กระบะสี่ประตูยิ่งน้อย และคนใช้งานก็อยู่ต่างจังหวัดกันหมด เลยไม่ค่อยเห็นว่าเค้าเอามาแต่งกันเท่าไหร่
ในยุคนั้น มีคนทำStarda ใส่ TF06 ปั๊ม12MM วิ่งคลอง5 อยู่13วิ เป็นที่ฮือฮามากเพราะไล่กวดกับพวกเบนซินได้แบบายใจรดต้นคอ (JZ ยุคนั้นก็ 11วิ ) แต่วิ่งได้ Run เดียวตลอดเพราะโบเท่าหม้อข้าว วาว์ลไม่ทน
ลูกสูบแตก เลยเป็นที่มาว่าดีเซลก็ทำไล่เบนซินได้ กระบะแต่งจริงๆจังก็คงเริ่มจากตอนนั้นละมั้งผมว่านะ
ยิ่งพอเข้าสู่ Commonrail มีอู่ทางสุพรรณยกเทอร์โบที่เคยวางไว้ใน4D56 มาใส่ D-max บูสต์เท่ากัน มันดันปั่นได้แรงกว่า สวิงแชมเบอร์กว่าร้อยตัว เลยเป็นกระแสมาจนถึงทุกวันนี้
:P :P :P
-
ขอบคุณพี่ Weettingและพี่mr_jub ได้สาระเต็มๆครับ
-
อยากวิ่งได้ 10 วิ กัน เลยจัดกันใหญ่เลย
-
ความเป็นมาของกระบะแต่งซิ่งติดเทอร์โบ
เท่าที่พอจำได้ เริ่มเล่นเกันมาก เอากระบะรถบ้านมาติดเทอร์โบ น่าจะเริ่มปี 2529 30 ไม่แน่ใจ มิตซูก่อน L200 และมีนิสสัน บิ้คเอ็มด้วย ที่เอามาติดเทอร์โบ
ก็ติดกันทุกยี่ห้อน่ะครับที่ติดเทอร์โบ
-
เท่าที่จำได้ก็ ฮิต กันมานานแล้วนะครับ
แรกๆเริ่มจาก สองแถวพัทยา แล้วก็เริ่มจับมาแต่งกันตั้งแต่ นิสสัน sd ทรงเหลี่ยม มิตซูกระบะ ร้านตงเฮดเดอร์มั้งที่เริ่มๆเอามาแต่ง ติดเทอร์โบกันเป็นจริง เป็นจัง
แล้วก็เริ่มมายุค L200 ไซโคลน ที่มาเริ่มฮิตแต่งกันเต็มเมือง จากล้อ 15 ยางโดนัท ล้นๆเหมือนสมัยนี้ แล้วก็พัฒนาเอาล้อรถเก๋ง มาแปลงใส่กัน กลายเป็นล้อมุดๆอยู่ในซุ้ม BBS AMG lorinser เป็นกระแสกันไปพักใหญ่
ไซโคลน ไมตี้เอ๊กซ์ มังกรทอง big m มีเอามาติดเทอร์โบเพิ่มเติมกันทุกค่าย ยุคนั้นเทอร์โบดีเซล ก็เริ่มบูสกันหนักๆแล้วโหดๆก็เห็นว่ามีไป 50 - 60 psi กัน
กระแสล้อ 15 ควันดำ ก็ฮิตกันอยู่พักนึง แล้วก็เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ เอาเครื่องเบนซินมาลง จากล้อ 15 เริ่มมาเป็น 17 18 ออกแนวกระบะเงินล้านกันก็มีเยอะ
เข้าใจว่ายุคนั้นกระบะ คันนึงราคาไม่แรงมาก คนมีเงินก็เอามาทำเล่นกันได้แบบไม่ต้องเสียดายอะไรกันมาก บางคนก็กระบะในบ้านที่มีอยู่มาแต่งเพิ่มกัน แต่เท่าที่ผมเห็น กระบะซิ่งยุคนั้น มักจะเป็นคนมีสตางค์กันซะส่วนมาก เหมือนๆออกมาเพื่อการนี้กันโดยเฉพาะ ล้อแพงๆ เครื่องแรงๆ ทำสีแปลกๆ เบาะ recaro คอนโซลรถเก๋ง เกจ์วัด autometer เอามาใส่วิ่งกันให้เพียบ
กระบะซิ่งจะเห็นในยุควิภา บางใหญ่ ท้ายๆ จนตอนหลังเขามาจัดระเบียบ วิภาวดี กระบะซิ่งก็มาหายๆไป จนมายุคหลังนี้ที่โรงงานเริ่มเอาเครื่องเทอร์โบเข้ามาทำตลาด กระแสกระบะซิ่งก็เริ่มกลับมาให้เห็นกันใหม่
ที่ผมเห็นๆก็ประมาณนี้ครับ
-
เกิดไม่ทัน ดีจังมีผู้ใหญ่มาเล่าเรื่องเก่าๆให้อ่าน
-
มีมานานแล้ว
แต่กระแสแรงมากช่วง มังกรทอง, mighty, cyclone, B2200, BigM อาจเป็นเพราะช่วงนั้นเศษฐกิจดีมาก ฟองสบู่ยังไม่แตก
และของแต่งยังไม่แพงมาก
เมื่อก่อนผมมี Isuzu มังกรทอง 90HP ไม่มี turbo มา ยังเอาไปยัดเพิ่มที่ร้านแถวรามอินทรา
ใส่ Turbo Nissan Z18 มา boost 7psi ตั้งแต่สองหมื่นกว่าโล ยันขายไปเกือบ สามแสนโล
ท่อไอเสียตรงยิงหน้าเพลา ปั้มเดิมแต่งสปริง คลัทช์เดิม เฟืองท้ายเดิม
ล้อ Lorinser RSK2 ขอบ17"+ ยาง yokohama AVS 215/45-17 (ยางกับล้อ แพงมากกกกก ในสมัยนั้น)
เว้าแชสสีย์ หัวเพลา โขกกระบะท้าย หูแหนบกล่องฟิลม์แนวนอน (ลงหนังสือชื่อดังด้วยในสมัยนั้น 8) )
ขับโหด ไล่กับพวก 1G-GTE, 1G-GZE ได้สบาย แต่ถ้าเจอ 7M-GTE ต้องยอมให้เขา ยังไม่พังเลย
สมัยนั้นติด turbo มือสองบิวมาไม่มี inter ครบชุดพร้อมวิ่ง เริ่มต้นที่ 10000 ผมก็เป็น 1ในนั้นที่ติดมาด้วย
เพิ่มน้ำมันด้วยการโมปั้ม ผมเองก็แปลก ไม่ชอบให้รถมีควันตั้งแต่เริ่มแต่งรถ ผมก็จะเน้นร้านว่า ไม่เอาควันนะ
แต่ยังไงมันก็ต้องมีบ้าง เพราะมันเป็นกลไกเพียวๆ ไม่มี electronic มาควบคุมให้มันละเอียดเหมือนปัจจุบัน
การขับแข่งบนถนนหลวง สมัยก่อน (ไม่ดีนะ ไม่ควรทำ)
แข่งกัน แพ้-ชนะ ปะปนกัน แต่ไม่เคยจะมีมาปาดหน้า ไล่ยิงกันเลย อัดเสร็จ หรือเจอทางแยกที่จะไปต่อ ก็บีบแตร ปิ๊นๆ 2 ครั้ง บ๊ายบาย
แสดงมิตรภาพต่อกัน ก็จบแค่นั้น
-
ที่นึกขี้นมาได้คือ สิงห์คะนองนา
ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นดีเซล ที่โมมาเต็ม
ในยุค กระบะฮิตเจ
สมัยนั้นคนเล่นรถ เป็นนักเลงรถจริงๆ เหมือนชื่อหนังสือดังสมัยนั้น คือบ้ารถ ชอบรถ แต่สมัยนี้เหลือแต่คำว่านักเลง
-
กระทู้เช็คอายุ ;D ;D ;D ;D
-
ที่นึกขี้นมาได้คือ สิงห์คะนองนา
ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นดีเซล ที่โมมาเต็ม
ในยุค กระบะฮิตเจ
สมัยนั้นคนเล่นรถ เป็นนักเลงรถจริงๆ เหมือนชื่อหนังสือดังสมัยนั้น คือบ้ารถ ชอบรถ แต่สมัยนี้เหลือแต่คำว่านักเลง
Mazda Familia ควันดำปี๋
-
ที่นึกขี้นมาได้คือ สิงห์คะนองนา
ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นดีเซล ที่โมมาเต็ม
ในยุค กระบะฮิตเจ
สมัยนั้นคนเล่นรถ เป็นนักเลงรถจริงๆ เหมือนชื่อหนังสือดังสมัยนั้น คือบ้ารถ ชอบรถ แต่สมัยนี้เหลือแต่คำว่านักเลง
Mazda Familia ควันดำปี๋
เครื่องRD28
ยังจำวันที่สิงห์คะนองนาวิ่งชนะR32 Junได้เลย เฮหนักมากเต่เสียงดังไม่ได้เดี๋ยวที่บ้านตื่น 555
-
เกิน35 ทั้งนั้น.......55
เมื่อก่อนมากกว่านี้อีกนะ เดี๋ยวนีถือว่าน้อยเพราะกระบะรุ่นใหม่ออกแบบบวมๆใหญ่ๆ โหลดไม่สวย
สมัยก่อนต้อง L200 หน้าเหลี่ยมเลย โหลดทุกคัน bodykit ไฟเบอร์รอบคัน..ครีบระบายอากาศ
แบบ ferrari ด้วย
แล้วก็ลงหนังสือ นักเลงรถกระบะ ช่วง รถใครวะเตี้ย...
-
กระบะยุคก่อน
ถ้าพวกขาแรง จัดเต็ม ก็ 1G-GTE / 7M-GTE พวกยุค L200 / Mighty X / Big M D21 / มังกร
แต่ถ้า ใครบอกว่า แค่พอกระฉับกระเฉง ก็หาเทอร์โบ เครื่อง Z18 บูสท์สัก 1 bar เอามาลงในงบสัก หมื่นกลางๆ แล้วทำปั๊มเพิ่มอีกนิด หรือ เปลี่ยนฝาปั๊มมือสองของรุ่นเทอร์โบ ก็จบครับ
ยุคนั้น มี L200 Aero Body Turbo ออกมาด้วย จำนวนจำกัด มีม้า 90 กว่าตัว (92 หรือ 94 นี่แหละ)
-
ผมไม่รู้ความเป็นมาจริงๆแต่มันไม่แปลกใจว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น
ถ้าอยากได้รถขับหลัง ราคาจับต้องได้ แต่งง่าย จูนง่าย รถไม่พังง่าย เกียร์ธรรมดา แรงทางตรงในระดับนึง นอกจากกระบะแล้วที่ไทยไม่มีรถแบบนี้
อยากให้คนเลิกแต่งกระบะ ก็มาประกอบMiata กับ Toyota 86/BRZ ในไทยสิ 55555 ::)
กะบะ ภาษี 3-5%
เก๋ง ภาษี 30 % คนก็ซื้อกะบะ เหมือนเดิม
กะบะ เทอรืโบ แรงบิด มหาศาล Remap ปลดล๊อค ม้า ม้า ง่าย 50+ ทอร์ค มา 100 +
Toyota 86 เครื่อง 2.0 NA remap เข็นให้ตาย ก็แค่ 20 ตัว ไม่น่าจะถึง ทอร์ค มาเท่าเดิม
-
เกิน35 ทั้งนั้น.......55
เมื่อก่อนมากกว่านี้อีกนะ เดี๋ยวนีถือว่าน้อยเพราะกระบะรุ่นใหม่ออกแบบบวมๆใหญ่ๆ โหลดไม่สวย
สมัยก่อนต้อง L200 หน้าเหลี่ยมเลย โหลดทุกคัน bodykit ไฟเบอร์รอบคัน..ครีบระบายอากาศ
แบบ ferrari ด้วย
แล้วก็ลงหนังสือ นักเลงรถกระบะ ช่วง รถใครวะเตี้ย...
ดูจากคำพูดของพี่น้าที่กระทู้นี้ ผมว่าอาจจะ40+ด้วยซ้ำครับ :-X
-
ย้อนยุคกลับไป
สมัย บางใหญ่เซอร์กิจ
และ วิภาวดีเซอร์กิจ
(ไม่ช่ายเดอะพาเลซเซอร์กิจ)
สมัยนั้นเริ่มต้นมีเครื่อง
เก่ายุ่นติดโบมาคือ
1G-TE และตามมาด้วย
7M-TE เริ่มมาวางในรถกะบะ
เริ่มมาซัดกับรถเก๋งวางเครื่อง
และรถสปอร์ตในเวลาดึกๆๆ
สมัยโน้นคนดูเยอะแยะมากมาย
สองข้างถนนยาวหลายกิโล
ช่วงที่มันส์ที่สุด ถ้าเป็นที่
วิภาวดี คือ ยูเทอร์หน้า เซนจอนห์
ถ้าบางใหญ่ ก็จุดกลับรถ หัวท้าย
ตลอดถนน คนยืนชมกันเป็นพัน
อุบัติเหตุเกิดทุกคืน ศ.ส.
ส่วนมากคนที่ตาย ก็เป็นพวก
ที่ยืนข้างทางช่วงกลางๆขึ้นไป
เพราะรถเบียดกันเอง หรือ
เบียดรถคนใช้ถนนทั่วไป
แล้วก็เสียหลักลงข้างทาง
7M มาฮิตติดลมบนช่วงปี
2538 สมัยนั้นไม่มีแฟลช
มีแต่เปลี่ยนหอย เพิ่มหัวฉีด
เปลี่ยนอินเตอร์
แล้วยัดลงรถกะบะใจถึง
ยอมรับเลย ณ ตอนนั้น แรงจิงๆ
ตายก็เยอะ เรื่องช่วงล่าง
ก็แล้วแต่งบ โช้คอัด นม.
เบรคเดิมๆ
ยุคต่อมาก็เริ่มมากินเจ 1เจ 2เจ
สำหรับสายเบนซิน
พอสิบปีให้หลังจนถึงปัจจุบัน
ก็เริ่มสายหมึก ฉีดดำคละคลุ้ง
ไปทั่วปฐพี.......
คร่าวๆนะ พอจำได้แค่นี้
สายหมึก น่าขยะแขยงครับ
อยากแรง ก็แรงไปเลย กูไม่ตาม
สกปรก !! :P
-
เกิน35 ทั้งนั้น.......55
เมื่อก่อนมากกว่านี้อีกนะ เดี๋ยวนีถือว่าน้อยเพราะกระบะรุ่นใหม่ออกแบบบวมๆใหญ่ๆ โหลดไม่สวย
สมัยก่อนต้อง L200 หน้าเหลี่ยมเลย โหลดทุกคัน bodykit ไฟเบอร์รอบคัน..ครีบระบายอากาศ
แบบ ferrari ด้วย
แล้วก็ลงหนังสือ นักเลงรถกระบะ ช่วง รถใครวะเตี้ย...
ดูจากคำพูดของพี่น้าที่กระทู้นี้ ผมว่าอาจจะ40+ด้วยซ้ำครับ :-X
ยังฮ๊ะๆ ;D