Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ กันยายน 03, 2018, 00:05:00
-
ผมมีความสงสัยครับ คือ เท่าที่สังเกตมา มาเลเซีย มักจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ ค่ายรองๆ ในบ้านเรา
เช่น Volvo เลิกประกอบรถยนต์ในไทย ย้ายไปประกอบที่มาเลย์เซียทั้งหมด
Subaru ณ ตอนนี้ ตันจงก็เอารถจากมาเลย์มาขาย เช่น XV Forester
Mazda ให้มาเลย์ประกอบ CX-5
Peugeot เคยส่ง 206 408 อะไรพวกนี้มาขายจากมาเลย์เซีย
สมัยนึงรถตู้ Commuter ก็ประกอบจากมาเลย์มาขายในไทย
อาจมีรุ่นอื่นๆ อีกแต่ผมจำไม่ได้หมดครับ ขออภัยครับ
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้มาเลเซีย มีโรงงานประกอบรถยนต์ของค่ายรองๆ ที่ผลิตจำนวนไม่เกินปีละ 1 แสนคันไปตั้งที่นั้นกันมากครับ
รบกวนแลกเปลี่ยนกันครับ
-
ผมมองว่าภาพรวมแล้ว South East Asiaเป็นพื้นที่เหมากับการตั้งโรงงาน ทั้งแง่ค่าแรง ค่าที่ และความสะดวกในการส่งออก
ตัวแปรสุดท้ายคือตลาด ในประเทศที่จะตั้งโรงงาน ทั้งในแง่ขนาดตลาด และการเมือง
Brand ญี่ปุ่นและยุโรป ที่ยุกเบิกการตั้งโรงงานฝั่ง SEAN ก่อนเลือกไทยเพราะถือว่าค่าแรงถูก ได้รับการต้องรับจากภาครัฐดี และตลาดโตดี พร้อมกับผลิตเพื่อส่งออกได้
มาถึงมาเลย์ละครับ
สมัยก่อนบ้านเรามีกำแพงภาษีสูงมาก
ถ้าไม่มาผลิตบ้านเรา ราคาจะโดดมากเกิดยาก
ถ้าจะทำราคาจริงๆก็ต้องเลือกไทย ตัดมาเลย์
แต่พอกำแพงภาษี afta หายไป ไปผลิตประเทศข้างเคียงก็มีความน่าสนใจมากขึ้น แต่จะไปสิงค์โปร์ ก็ไม่มีที่และต้นทุนแพง ไปพม่า ลาวก็เสี่ยงเกิน จึงเป็นโอกาสของมาเลย์ อินโด เวียดนาม
ตลาดรถในSEAN ที่ใหญ่ๆคงไม่พ้นไทย กับอินโด แต่ในอินโดคนยังนิยม mpv มากๆ มันไม่เกิดความหลากหลาย
ผมมองว่าที่มาเลย์ ดูน่าสนใจเพราะเขาเองก็ต้อบรับการลงทุนมากขึ้น ผลิตแล้วส่งออกได้แบบไทย และยังส่งมาไทยได้ด้วย รวมถึงกลุ่มทุนที่มาเลย์ก็พอมี เช่น ตันจง ซึ่งก็คงไม่ไปตั้งโรงงานที่สิงคโปร์
ส่วนค่ายอื่นๆเข่นvolvo Peugeot คงเลือกมาเลย์เพราะไทยก็ยังไม่ใช่ลูกค้าหลัก ไปขายมาเลย์สิงคโปร์ แล้วยกมาไทยดีกว่า
ทั้งหมดผมเดา และจากข้อมูลเก่ามาก
อย่าเขื่อหมดครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองและการเดา
-
มาเลเซียมีเสถียรภาพทางการเมืองครับ
-
มาเลเซียมีเสถียรภาพทางการเมืองครับ
อืมมมม 8)
-
ไม่ยากครับ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ per capita หรือรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรที่สูงพอจะซื้อรถที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อย มันมีแค่มาเลเซียและสิงคโปร์เท่านั้น เพราะมันเป็นกลุ่มลูกค้า
ของรถกลุ่มนี้ ถ้าจะขายของคุณก็ต้องตั้งโรงงานใกล้กับผู้ซื้อหรือแหล่งวัตถุดิบ เมืองไทยจนครับ low middle income ยิ่งไม่ต้องพูดถึง clmv เลย คือแม้ค่าแรงจะถูกแต่ถ้าไม่รู้จะขาย
ใครมันก็เจ๊งครับ
-
มันไม่คุ้มครับ. เงินลงทุนก้อไม่มากพอ ในเงื่อนไขการสร้างโรงงาน
-
ถ้าจำไม่ผิด เมืองไทยเก็บภาษีตั้งแต่อะไหล่นำเข้าแล้ว ถ้าประกอบรถแล้วส่งออกคงจะแพงจัด นอกจากว่าโรงงานตั้งในพื้นที่ปลอดภาษี
-
ด้วยฐานรายได้เฉลียคนมาเลเซีย รวยกว่าไทย 1 เท่า และสิงคโปร์รวยกว่าเรา 9-10 เท่า ดังนั้นมาเลเซียและสิงคโปร์จึงมีอำนาจการซื้อมากกว่าไทยเราครับ
ค่าแรงขั้นต่ำบ้านเราก็ถือว่าสูง กว่ามาเลเซีย (ไทย 300-340 บาท, มาเลเซีย 241-260 บาท)
รวมๆ แล้ว เลยไปตั้งไลน์ผลิตที่มาเลเซียดีกว่า
-
ผมมองว่าเพราะตันจงครับ
คือแทนที่มาไทยแล้วต้องลงทุนเอง 100% ไปรวมเงินกับตันจงแล้วตันจงลงทุนลงแรงให้ในหลายๆอย่างที่ต่างชาติไม่ถนัด ใครมองก็รู้ว่าเสี่ยงน้อยกว่า
-
Volvo เนี่ยโรงงานเมืองไทยที่ถนนบางนา-ตราดยังอยู่นะครับ แต่ Volvo car ขายโรงงานให้ Volvo group ทุกวันนี้ก็ยังประกอบ Volvo เหมือนเดิมแต่เป็นรถบรรทุกแค่นั้นแหละ ส่วน Peageot ยอดขายในมาเลเค้าถือว่าดีจะมาตั้งโรงงานในไทยทำไมล่ะครับ
-
ด้วยฐานรายได้เฉลียคนมาเลเซีย รวยกว่าไทย 1 เท่า และสิงคโปร์รวยกว่าเรา 9-10 เท่า ดังนั้นมาเลเซียและสิงคโปร์จึงมีอำนาจการซื้อมากกว่าไทยเราครับ
ค่าแรงขั้นต่ำบ้านเราก็ถือว่าสูง กว่ามาเลเซีย (ไทย 300-340 บาท, มาเลเซีย 241-260 บาท)
รวมๆ แล้ว เลยไปตั้งไลน์ผลิตที่มาเลเซียดีกว่า
+1 ครับ
ผลิตในมาเลเซีย แล้วขายในมาเลเซีย อาจจะขายดีกว่าในไทยด้วยครับ
-
ผมว่าเค้าก็แบ่งๆกันนะครับ ไทยบ้าง มาเลย์บ้าง อินโด บ้าง อะไรแบบนี้ ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ และตลาดของรถนั้นๆ สุดท้ายก็ส่งถึงกันอยู่ดี
-
ด้วยฐานรายได้เฉลียคนมาเลเซีย รวยกว่าไทย 1 เท่า และสิงคโปร์รวยกว่าเรา 9-10 เท่า ดังนั้นมาเลเซียและสิงคโปร์จึงมีอำนาจการซื้อมากกว่าไทยเราครับ
ค่าแรงขั้นต่ำบ้านเราก็ถือว่าสูง กว่ามาเลเซีย (ไทย 300-340 บาท, มาเลเซีย 241-260 บาท)
รวมๆ แล้ว เลยไปตั้งไลน์ผลิตที่มาเลเซียดีกว่า
+1 ครับ
ผลิตในมาเลเซีย แล้วขายในมาเลเซีย อาจจะขายดีกว่าในไทยด้วยครับ
คนมาเลเซียตอนนี้ รายได้ต่อหัวเทียบกับคนไทยแล้ว ถ้าจะบอกว่าดีกว่าไทยคงไม่เสมอไปครับ แถมมาเลเซียค่าครองชีพสูงกว่าบ้านเรา น้ำเปล่าทั่วไปขวดละ 2-2.75 Rm (ตอนนี้ 1 Rm = ประมาณ 8 บาทไทย) เบียร์ขวดใหญ่ในร้านสะดวกซื้อบ้านเรา 60 ที่มาเลเซียประมาณ 120 ข้าวร้านทั่วไปข้างทางจานละตีเป็นเงินไทย 60 บาทขึ้นไป ผมเดินทางไปรัฐ Kulim กับ Penang ทุกสัปดาห์ ขับผ่านโรงงานผลิต BMW ที่ Kulim ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมใหม่ ที่นั้นเคยถามได้ผลประโยชน์ทางภาษีเยอะ กฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนของต่างชาติก็เอื้อประโยชน์มาก การขออนุญาตต่างๆก็ไม่วุ่นวายและขั้นตอนเยอะแบบบ้านเรา แต่สำหรับผมเมื่อเทียบแล้ว เคยคุยกับนักลงทุน เขาชอบประเทศไทยมากกว่าด้วยหลายๆองค์ประกอบ แต่ของเรามันเสียตรงผู้มีอำนาจในลำดับต่างๆนี้แหละครับ จะเอาจะได้กันไปหมดจนต่างชาติส่ายหัว