Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wisidsak ที่ กรกฎาคม 22, 2010, 17:52:05
-
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ขณะนี้กำลังฟังทาง ช่อง3 ช่วงคุณสรยุทธ
Taxi VIP แนวคิดคือ
2กม. แรก ราคาไม่เกิน 150บาท
เครื่อง 2200cc ขึ้นไป
ทำใบขับขี่แบบพิเศษ
จะให้มีการกำหนด ต้นทาง - ปลายทาง (ต้องมีรายงาน)
ใส่สูทธผูกไทด์ขับ
โดยมีความคิดว่า รถ Taxi เมืองไทยมีขนาดเล็ก !!! สู้ สิงคโปร์ ไม่ได้ : เ่อ่อ บ้านเรา Altis นี่ยังไม่ใหญ่อีกเหรอครับ บางประเทศ Vios ด้วยซ้ำ
แนวคิดด้านบน ทุกอย่างเป็นไปได้หมด แค่ยกระดับ TAXI บ้านเราให้ดี
เพียงแค่ อบรม เข้มงวด กับกฏที่มีอยู่ แค่นั้น พอ
โอยประเทศไทย ฟุ้งเฟ้อ
-------------------------------------เพื่อนๆว่าไงครับ = ='
-
ผมเฉยๆครับ.. :-\
แต่ผมว่าอย่างน้อยมันก็เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคครับ..
มีเงินจ่าย พอใจในการบริการ ก็นั่งแบบ VIP..
เงินไม่พอ คิดว่าแพง ก็เลือกแบบธรรมดาได้ครับ..
มีทางเลือกเพิ่มขึ้น ประโยชน์มันก็ตกอยู่กับผู้บริโภคนะครับ ผมว่า.. :-\
นี่ก็เป็นความคิดเห็นของผมครับ :)
-
ผมว่าก้อดีนะครับ อาจจะเป็นทางเลือกใหม่ของคนไทย ไม่ใช่อะไรๆก้อรถแบบเดิมๆไม่มีไรน่าสนใจ แล้วอย่างนี้มันจาไปทันประเทศอื่นเค้ายังไงล่ะครับ ดูอย่าง เยอรมัน ยังมี เบนซ์ บีเอ็ม แล้วประเทศไทยมีอะไรครับ toyota nissan honda ซีซีต่ำๆที่ไม่มีการพัฒนาเลย ผมว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนไม่อยากขับรถเอง แล้วอีกอย่างสมมติว่าเราเปนคนรวยๆแล้วมานั่งแท็กซี่ซีซีต่ำ ที่วิ่งกันทั่วทั่วเมือง แล้วไปงานสังคมหรูๆอย่างเนี่ย คนอื่นอาจจะไม่บอกว่าเราโลว์ คลาส แต่ในใจเขาบอกครับ ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าไปโดนใครเข้าต้องขอโทษด้วยครับ :) ส่วนเรื่องยกระดับโอเคอันนี้เห็นด้วยครับ แต่ผมคิดว่าควรจะมีระบบvipได้แล้วครับ เวียดนามยังแท็กซี่เปนคัมรี่เลยครับ ฝรั่งเศส มีlexus hybrid pergeot 407benz e-class
-
อืมม์
งั้นถ้ามุ่งเป้าไปที่ เป็นทางเลือกรถสาธารณะระดับพรีเมี่ยม ก็เป็นมุมมองที่ดีและน่าสนใจ
แต่ต้องรักษาคุณภาพให้ดี อย่างที่โม้ไว้
และปรับปรุงคุณภาพ TAXI ธรรมดา ด้วยนะครับ ไม่ใช่พอมี TAXI VIP แล้ว ก็ปล่อยคุณภาพ TAXI ธรรมดา โดยอ้างว่ามี TAXI VIP แล้วทำนองนั้นนะครับ
-
ใช่ครับ จะได้มีหลายทางเลือกด้วยครับ สำหรับผมนั่งแท็กซี่ธรรมดาต่อไป555
-
ปัญหาอย่างนึงคืออาจจะมีผลกระทบต่อคนขับ TAXI ธรรมดา นิหน่อย
-
ผมว่าก็ดีนะ ตอนกลางคืน ไปไหนคนเดียวผมไม่กล้าโบกเท็กซี่ครับ
ถ้ามี ผมก็จะได้เลือกโบก VIP
ไม่ใช่ว่าอยากนั่งคันใหญ่ๆน่ะ รู้สึกว่าปลอดภัยหน่อยครับ
แต่ไม่จำเป็นจริงๆผมก็ไม่นั่งครับ ถ้าไปไหนคนเดียวครับ เลือกนั่งรถเมลล์ครับ พวกเยอะไว้ก่อนครับ
ยังพออุ่นใจนิดหน่อยครับ
-
รถบนถนนจะเยอะขึ้น เยอะขึ้น และเยอะขึ้น
-
มีก็ดีครับ นอกจากจะ VIP ด้านตัวรถแล้ว ก็ควรจะ VIP ไปถึงบุคคลากร และการบริการด้วย
ผมยังไม่เห็นข้อเสียนะ มองในแง่ผู้บริโภค ก็มีตัวเลือกเพิ่มมาอีกอย่าง
-
มีก็ดีครับ นอกจากจะ VIP ด้านตัวรถแล้ว ก็ควรจะ VIP ไปถึงบุคคลากร และการบริการด้วย
ผมยังไม่เห็นข้อเสียนะ มองในแง่ผู้บริโภค ก็มีตัวเลือกเพิ่มมาอีกอย่าง
คิดข้อดีคือ ได้ทดลองนั่งรถใหญ่ๆหลายๆค่าย
เพราะจะให้ไปลองที่ศูนย์ทั้งเสียเวลา ทั้งต้องมาคุยกับเซล หรือรถรุ่นที่ต้องการก็ไม่มีให้ลอง
-
รถบนถนนจะเยอะขึ้น เยอะขึ้น และเยอะขึ้น
รถก็จะติดขึ้น ติดขึ้นไปอีก 555
-
รถบนถนนจะเยอะขึ้น เยอะขึ้น และเยอะขึ้น
รถก็จะติดขึ้น ติดขึ้นไปอีก 555
กรุงเทพ Taxi มีมากเกินความต้องการไปหรือเปล่าครับ พอดีไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่พอเข้ากรุงเทพทีไร
จะเห็น Taxi เยอะแต่ไม่มีคนนั่ง
-
รถบนถนนจะเยอะขึ้น เยอะขึ้น และเยอะขึ้น
รถก็จะติดขึ้น ติดขึ้นไปอีก 555
กรุงเทพ Taxi มีมากเกินความต้องการไปหรือเปล่าครับ พอดีไม่ได้อยู่กรุงเทพ แต่พอเข้ากรุงเทพทีไร
จะเห็น Taxi เยอะแต่ไม่มีคนนั่ง
taxi นี่ตัวทำให้ติดเลยครับชอบจอดกลางถนน ยังมี จอดกัน2เลนเหลือวิ่งเลนเดียว ครับ แต่คนที่ขับๆดีๆก็มีครับแต่น้อยอะ
ถ้าไม่มี taxi รถบน ถนน อาจจะมีสีสันน้อยลงก็ได้ครับ 5555
-
ผมว่าก็ดีเช่นกันครับ แต่ว่าก็ควรกลับมาพัฒนาคนขับ taxi ปกติด้วย
ชอบกับไอเดีย ที่ให้ใส่ shirt ผูกเน็คไท ยิ่งถ้าใส่ถุงมือด้วยแบบญี่ปุ่นเลย
ก็ดูเรียบร้อยดีครับ แถมรถให้ใช้สีขาวเรียบๆ เลย ไม่รู้ confirm หรือยัง แต่ คราวนี้
จะทำใ้ห้สีขาวฮิตน้อยลงรึเปล่า
-
แต่ก่อน Taxi ธรรมดาก็ทำให้หลายคน เลือกที่จะไม่ซื้อ Altis
แล้ว Taxi VIP จะเป็นรถระดับ Camry (แบรนด์อื่นเขาคงไม่ยอมให้ทำ) สีขาวพิมพ์นิยมของยุคนี้ด้วย
มันทำร้ายจิตใจลูกค้าไปหรือเปล่านี่ เฮอะๆ
หรือยิ่งจะทำให้ toyota มียอดขายเพิ่มขึ้นอีกเยอะ
ไม่ได้แบ่งชนชั้นนะครับ แต่มันอดรู้สึกไม่ได้
-
ผมว่าที่กระทบหนัก ๆ เห็นจะเป็น taxi ที่ชอบรับ ต่างชาติ
แล้วก็โกงไม่ยอมรับคนไทยพร้อมกับ ไม่กดมิตเตออะครับ
พวกนี้บอกราคาทีนี่ หลักพัน
ต่อไปถ้าหลักพันได้นั่ง Taxi VIP คนเหล่านี้อาจจะเสียผลประโยชน์
งงป่าวครับ - -"
-
แต่ก่อน Taxi ธรรมดาก็ทำให้หลายคน เลือกที่จะไม่ซื้อ Altis
แล้ว Taxi VIP จะเป็นรถระดับ Camry (แบรนด์อื่นเขาคงไม่ยอมให้ทำ) สีขาวพิมพ์นิยมของยุคนี้ด้วย
มันทำร้ายจิตใจลูกค้าไปหรือเปล่านี่ เฮอะๆ
หรือยิ่งจะทำให้ toyota มียอดขายเพิ่มขึ้นอีกเยอะ
ไม่ได้แบ่งชนชั้นนะครับ แต่มันอดรู้สึกไม่ได้
งงครับ เค้าจะห้ามได้ยังงัยครับ เราซื้อแล้วรถของเราสิทธิของเรา - -" เอาไปเผาเล่นเค้ายังไม่ว่าเลยนิครับ
ส่วนตัวเคยเจอเพื่อนแค่คนเดียวมันบอกว่าไม่เอาaltis เพราะเป็น Taxi แต่มันดันไปซื้อ แลนเซอ ผมก็ถามมัน
ึง ไม่เคยเห็นแลนเซอเป็นtaxi หรอฟะ มันก็เงียบไป 5555
-
ผมไม่ขึ้นครับ ถ้า 2 กม 150 บาท
-
ผมมองว่าเป็นข้อดีในด้านของทางเลือกด้านการบริการซึ่งมีความเหมาะสมกับบุคคลที่มีความชอบในบริการที่ดี หรือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการจริงๆ
ผมคิดว่า Taxi VIP ควรมีลักษณะบังคับดังนี้
1) ความสบายควรเป็นอันดับแรกที่จะสร้างความโดดเด่นน่ายอมควักกระเป๋าเงินจ่าย ฉะนั้นต้องเป็นรถที่พื้นที่นั่งด้านหลังสบายกว่ารถ Taxi ที่คิดราคาปกติซึ่งเป็นที่นิยมกันแพร่หลายในปัจจุบัน รถคันนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็น BMW หรือ Benz เสมอไป เพราะรถตู้อย่าง H1 หรือ Freed ที่ดัดแปลงพื้นที่ข้างหลังก็สามารถมอบความสบายได้เช่นเดียวกัน หรืออยากจะลองเอา Cube มาทำก็ได้
2) พนักงานขับรถจะต้องผ่านคอร์สอบรมที่สอนวินัยการขับขี่และมารยาทที่พึงปฏิบัติ มีการแต่งกายเรียบร้อย ใช้วาจาที่สุภาพในระดับสากล มีประวัติการขับขี่ที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีซึ่งสามารถต่อยอดในด้านความประทับใจจนลูกค้ารายเก่าโทรนัดขอเรียกไปใช้บริการอีกรอบหนึ่งได้ นอกจากนี้ยังต้องผ่านการอบรมการปฐมพยาบาล การช่วยชีวิตในเบื้องต้น
3) มีระบบติดตามตัวรถผ่านดาวเทียม ไม่ให้มีการออกนอกเส้นทางโดยไม่จำเป็น ติดตั้ง QR Code เพื่อที่ผู้โดยสารสามารถ scan แล้วส่งข้อมูลของผู้ขับไปยังบุคคลที่ต้องการเพื่อแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ผม/ดิฉันกำลังเดินทางบนแท็กซี่ซึ่งมีบุคคลนี้เป็นผู้ขับขี่อยู่
4) ตัวรถผมว่าไม่ได้จำเป็นเลยว่าจะต้องมีกี่ซี.ซี. 2,200 ซี.ซี.? กำหนดมาทำไม? เอาแค่ว่ารถมีพละกำลังพอเพียงที่จะพาคนในรถและสัมภาระไปได้อย่างปลอดภัยก็พอ
5) ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยป้องกันในกรณีที่คนขับอาจจะมีความคิดทุจริตคิดปล้น (เพราะจิตใจคนนั้นยากหยั่งถึง) ระบบประตูหลังต้องสามารถปลดล็อคได้โดยผู้โดยสารข้างหลัง มีการติดตั้งกระจกกันกระสุนระหว่างห้องโดยสารกับส่วนผู้ขับขี่ การสื่อสารระหว่างสองส่วนนี้ก็ใช้ไมโครโฟนกับลำโพงเอา มีปุ่มพิเศษสำหรับผู้โดยสารด้านหลังซึ่งเมื่อกดแล้วจะเปิดล็อคประตูทุกบาน ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ (เผื่อกรณีคิดจะลากไปปล้นโดยการซิ่งรถให้เร็วจนคนนั่งไม่กล้ากระโดดลง) และส่งสัญญาณไซเรนเรียกร้องความสนใจของคนรอบข้าง และส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไปที่สถานีควบคุมแท็กซี่
ทั้งนี้คนขับเองก็มีสิทธิ์ได้รับความปลอดภัยในกรณีที่ผู้โดยสารเกิดอยากจะเป็นคนร้ายขึ้นมา กระจกกันกระสุนในข้อตะกี้จะช่วยให้เขาปลอดภัยยิ่งขึ้น
ุ6) สามารถจ่ายค่าแท็กซี่ด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตได้ ลดปัญหาเรื่องไม่มีเงินทอน
ึ
เอาเท่าที่คิดได้ก่อน มีเท่านี้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ผมมองว่าสำคัญกว่าการที่รถ VIP จะต้องเป็นรถหรูหราราคาแพง หรือว่าคนขับต้องใส่สูทขับ (อันที่จริงแค่ใสเสื้อเชิ้ตผูกเน็คไทก็พอแล้ว) หรือว่ารถจะต้อง 2.2 ลิตรขึ้นไป
จุดประสงค์ของผม ถ้าจำเป็นจะต้องใช้บริการแท็กซี่ VIP ก็คือการไปรับไปส่ง พ่อ แม่ หรือบุคคลอันเป็นที่รักในช่วงเวลาที่คนเป็นลูกอย่างเราไม่สามารถไปได้ เช่นในยามทำงาน หรือในยามวิกาล คนวัยทำงานที่มีพ่อแม่อายุมากๆจะเข้าใจว่าบางเวลามันมีบางช่วงที่เราอยากไปรับพ่อแม่เราที่โรงพยาบาล หรือที่ท่าอากาศยาน ซึ่งเราเองไปไม่ได้จริงๆ ครั้นจะให้นั่งแท็กซี่ทั่วไป เราก็วิตกจริตไปต่างๆนาๆ หากมีแท็กซี่ชนิดที่เราทราบดีว่ามีมาตรฐานสูง สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ถึงค่าแท็กซี่จะเป็นพัน เราก็จะยอมจ่ายโดยไม่สนอะไรเลย
-
เห็นด้วยกับมาตรฐานของผู้การแพนครับ แต่คงได้ไม่ครบหรอกมั้ง เรื่องจริงน่ะ
-
ความคิดพี่แพร จ๊าบมาก(ขอยืมคำจากในคลิป เดอะคูป)
ชอบตรงปุ่มดับเครื่องเนี่ย เจ็งดี
ผมขอเสริมนิดนึง น่าจะมีจอแสดงเส้นทางด้วย จะได้รูว่าตอนไหนคนขับออกเส้นทางจะได้รีบกดดับเครื่อง
ก่อนจะไปโผล่แม่สาย
และก็ผมว่ามันไม่ควรไฮเทคมากเกินไปไม่ควรมีปุ่มเยอะเกินไป
เพราะอย่างแม่ของผมทุกวันนี้ยังเม็มเบอร์ใส่มือถือยังไม่เป็นเลย
น่าจะมีคนที่มีสิทธิกำหนสดสเป็กเข้ามาอ่านคห.พวกเราบ้างเนาะ
ปล.อยากอ่านรีวิวโอเล่จังเลย ;D
-
ผมชอบความเห็นของท่านผู้การครับ สิ่งเหล่านี้นี่คือสิ่งที่คนโดยสารแท๊กซี้่ส่วนใหญ่อยากได้กันทั้งนั้นละครับ
ส่วนตัวผมว่าลองทำแท๊กซี่ VIP ดูก่อนก็ได้ไม่เสียหายครับ แต่ "ควร" จะยกมาตรการส่วนใหญ่มาใช้กับแท๊กซี่ทั่วๆไปด้วยจะดีด้วยมากๆครับ
อ้อ เท่าที่ฟังจากขนส่งมาราคา 2 กม.แรก 150 บาทเป็นค่าโดยสาร "ขั้นสูง" ครับ ราคาจริงอาจจะอยู่แถวๆ 65-70 บาทครับ
-
สำหรับผมก็ว่าดีคับ แต่ข้อกำหนดมันน่าจะรื้อทำใหม่กันหมดเลยนะ อย่าง
1. 2 กม. แรกไม่เกิน 150 บาท ราคานี้คงได้แต่ชาวต่างชาตินะคับ คนไทยหรือผมมองว่า มันแพงไป
2. เครื่อง 2.2 CC. เห็นด้วยกับพี่แพนคับ จะกำหนดมาทำไม
ถ้าเป็นแบบ 2 ข้อนี้จริง ดับแน่ๆ คับ เผลอๆ อาจจะขาดทุน
แต่ไม่ว่าจะมีหรือไม่อย่างไร สงสัยอย่างเดียวคับ แล้วลีมูซีนสนามบินล่ะ??? จะทำอย่างไร
-
แก้ปัญหาเรื่องมารยาทให้ได้ก่อนเถอะ แล้วก็ตีนผีด้วย คิดอะไรไม่คิด เดียวมันก็เหมือนป้ายแท็กซี่โคตรอัจฉริยะ
-
เท่าที่ฟังเหตุผลว่า ทำไมต้องระบุที่ความจุกระบอกสูบ
น่าจะเป็นเพราะ มันจะเป็นรถยนต์ประเภท Camry Accord Teana ทำนองนี้นะครับ
ทำไมไม่ระบุ Segment ไปในกฏหมายเลยนะ = =' จะได้ระุบุขัดๆ
ถ้าอนาคตมี Super Premium Ultra Toyota Vios Sport 2200cc. ออกมา ก็เอามาทำได้นะจิครับ
-
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ
-
เท่าที่ฟังเหตุผลว่า ทำไมต้องระบุที่ความจุกระบอกสูบ
น่าจะเป็นเพราะ มันจะเป็นรถยนต์ประเภท Camry Accord Teana ทำนองนี้นะครับ
ทำไมไม่ระบุ Segment ไปในกฏหมายเลยนะ = =' จะได้ระุบุขัดๆ
ถ้าอนาคตมี Super Premium Ultra Toyota Vios Sport 2200cc. ออกมา ก็เอามาทำได้นะจิครับ
เห็นด้วยครับ ผมคิดว่าควรกำหนดระยะฐานล้อและพื้นที่ภายในห้องโดยสารมากกว่าครับ
-
ผมทำแท็กซี่ให้เช่าแต่ผมก็ไม่เคนได้รายได้ที่สมหวังซะที เดี๋ยวก็ติดเดี๋ยวก็ชน มีแต่เรื่องบางทีคนขับชนแล้วหนี คนขับขับรถหลายวันแล้วไม่จ่ายค่าเช่า โอยปวดหัวนี้รัฐบาลยังทำเรื่องไร้สาระสิ้นดี ใครจะขึ้น แถมบางคนทำแท็กซี่แล้วรวยนะผมบอกได้เลยว่ายากมาก
-
ตอนนี้ผมกลับอยากให้มีคันเล็ก ๆ สำหรับคนที่จะไปไหนมาไหนอย่างเดียว ไม่มีสัมภาระ ผู้โดยสารอย่างมาก 2-3 คน เอาแบบพวก eco car มาทำ เช่น march ข้างหลังก็ติดแก๊ส ห้องโดยสารก็นั่งอย่างเดียว เพราะขับในเมือง ความจุกระบอกสูบสูง ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เอามาจับกลุ่มที่จะไปตุ๊ก ๆ หรือ มอเตอร์ไซด์ น่าจะแชร์ตลาดมาได้ส่วนหนึ่ง โดยคิดราคาถูกกว่าขั้นต่ำ 35 บาทซะหน่อย ผู้บริโภคจะได้มีทางเลือกมากขึ้น ชาติก็จะได้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
เพราะอดีตเคยอ่านนิยายเห็นว่าแค่ Fiat คันเล็ก ๆ ก็เป็นแท็กซี่มาแล้ววว
ก็เป็นแค่ความคิดผมนะครับ.......
-
ตามความคิดผมรู้สึกว่า ทำให้ปัจจุบันมันมาครฐานและดีขึ้น เสียก่อนดีกว่าอย่างอื่นค่อยว่ากัน