Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SuperBoyyy ที่ ตุลาคม 23, 2018, 12:05:58
-
ถ้าจะขับเบนซ์ ต้องเจอค่าใช้จ่ายอะไรบ้างครับ
ถามกันตรงๆ 555
ค่าตัวรถ ok
ค่าน้ำมัน ok
แต่ค่าบำรุงรักษา การเช็คระยะ และการเปลี่ยนอะใหล่ ความคงทน ค่าแรง มันโหดร้ายแค่ไหนครับ
ค่าที่ว่านี้ มันเหมือนไม่มีระบุในเอกสารอย่างชัดเจน ก็เลยยังไม่มั่นใจครับ
-
Service แต่ละรอบเตรียมเงินไว้ต่ำๆก็ 1 หมื่นขึ้นครับ
และอีกอย่างประกันภัยอย่าขาดนะครับ พวกไฟหร้าอะไรงี้แพงมากก
-
ยาง run flat เส้นละหมื่น พวกประกันปีละเกือบแสน
-
ตัวรถแล้วแต่รุ่นที่เลือก
ยางรันแฟลต เส้นละ 1 -1.5 หมื่น
เข้าศูนย์ฺครั้งนึง ตามรอบ 1 หมื่นโล ตีไว้ 1 - 1.5 หมื่น
ประกันปี ละ 4 หมื่นขึ้น
ยังไม่รวมอีจุกอีเปียเวลาเข้าศูนย์ ไหน น้ำยาบลู ในล้างแอร์ ไหนสารพัด ระบบแม่งเยอะ เวลาเก็บตังปวดหัวเลย
ผมเคยโดน ชน ไฟฟ้า แตก ดวงละ 120,000 รวมค่าแรง
ประกันที่เคลมให้ บอก พี่ๆ เวลาผมขี่เจอเบนซ์ ต้องหลบมัน ชนกับมัน เจ๊ง โดนฟ้องล้มละลายเลยพี่
ส่วนเวลาซื้อจะเจอแจ๊คพอตไหม แล้วแต่โชค เพื่อซื้อ อี ขับได้พันกว่าโล เทอโบรั่ว อีกคนซื้อ เอส ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จนต้องเปลี่ยนคัน อีกคน เอ เจอซีลเครื่องยนต์ แบบว่า ซื้อรถแพงๆ บางทีมีโอนแจ๊คพ๊อตครับ
-
ตัวรถแล้วแต่รุ่นที่เลือก
ยางรันแฟลต เส้นละ 1 -1.5 หมื่น
เข้าศูนย์ฺครั้งนึง ตามรอบ 1 หมื่นโล ตีไว้ 1 - 1.5 หมื่น
ประกันปี ละ 4 หมื่นขึ้น
ยังไม่รวมอีจุกอีเปียเวลาเข้าศูนย์ ไหน น้ำยาบลู ในล้างแอร์ ไหนสารพัด ระบบแม่งเยอะ เวลาเก็บตังปวดหัวเลย
ผมเคยโดน ชน ไฟฟ้า แตก ดวงละ 120,000 รวมค่าแรง
ประกันที่เคลมให้ บอก พี่ๆ เวลาผมขี่เจอเบนซ์ ต้องหลบมัน ชนกับมัน เจ๊ง โดนฟ้องล้มละลายเลยพี่
ส่วนเวลาซื้อจะเจอแจ๊คพอตไหม แล้วแต่โชค เพื่อซื้อ อี ขับได้พันกว่าโล เทอโบรั่ว อีกคนซื้อ เอส ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จนต้องเปลี่ยนคัน อีกคน เอ เจอซีลเครื่องยนต์ แบบว่า ซื้อรถแพงๆ บางทีมีโอนแจ๊คพ๊อตครับ
ตามท่านนี้ว่าครับ แต่ถ้า จขกท ใช้รถเยอะ ปีละ3-4หมื่นโลขึ้น แนะนำซื้อMBSP เหมาๆไว้ตั้งแต่ออกรถ จะฟรีการserviceของเหลว ที่ว่าครั้งละหมื่นไป ระยะเวลาสามปี ส่วนตัวผมก็ซื้อครับ
อ่อ ลืมไป ค่าทิปที่จอดด้วยนะครับ และ แน่นอน อาจจะต้องหาทะเบียนสวยๆสักหน่อย อิอิ
-
เหมือนความเห็นบนๆล่ะครับ ตอบไปครบแล้วล่ะ
ส่วนค่าใช้จ่ายต่างกัน C, E, S ครับ แต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจนเกินไป
-
บอกตรงๆจากคนใช้รถมาหลายยี่ห้อ ว่า หลังๆกลัว รถยุโรปมากครับ
มันเหมือนไอโฟน อะ วันๆมีแต่แพงขึ้น แพงขึ้น ไม่เข้าใจว่า อะไหล่ กะ ค่าซ่อมมันจะแพงอะไรนักหนา และราคาขายต่อมือสองก็ตกลงตกลง
จะซือ้ ตัว s/7/Pana เงินมีนะครับ แต่ไม่กล้าซื้อ กลัวเวลาซ่อมจริงๆ มันเจ็บปวดที่อยู่ดีๆ ต้องเสียเงิน หลายหมื่นๆ เฉยๆ แบบรถไม่ได้เสียอะไร
ล่าสุดไปเช็คระยะ โดนไป สามหมื่นกว่าๆ แค่นมค จานเบรคหลัง ผ้าเบรคหลัง
สรุปเลยต้องมีสองคัน ญี่ปุ่นไว้ใช้จริง ยุโรป ไว้ขี่เสาอาทิตย์
-
ถ้ามีเงินซื้อรถ มีเงินค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาถือว่าเด็กๆ ถ้าซื้อรถป้ายแดง 5 ปีแรกก็มีแค่รายการเซอร์วิสตามปกติปีละ 2 ครั้ง เซอร์วิสA ประมาณหกพัน เซอร์วิสB ประมาณหมื่นบาท ค่าประกันชั้นหนึ่งขึ้นอยู่กับราคารถ
-
ตัวรถแล้วแต่รุ่นที่เลือก
ยางรันแฟลต เส้นละ 1 -1.5 หมื่น
เข้าศูนย์ฺครั้งนึง ตามรอบ 1 หมื่นโล ตีไว้ 1 - 1.5 หมื่น
ประกันปี ละ 4 หมื่นขึ้น
ยังไม่รวมอีจุกอีเปียเวลาเข้าศูนย์ ไหน น้ำยาบลู ในล้างแอร์ ไหนสารพัด ระบบแม่งเยอะ เวลาเก็บตังปวดหัวเลย
ผมเคยโดน ชน ไฟฟ้า แตก ดวงละ 120,000 รวมค่าแรง
ประกันที่เคลมให้ บอก พี่ๆ เวลาผมขี่เจอเบนซ์ ต้องหลบมัน ชนกับมัน เจ๊ง โดนฟ้องล้มละลายเลยพี่
ส่วนเวลาซื้อจะเจอแจ๊คพอตไหม แล้วแต่โชค เพื่อซื้อ อี ขับได้พันกว่าโล เทอโบรั่ว อีกคนซื้อ เอส ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จนต้องเปลี่ยนคัน อีกคน เอ เจอซีลเครื่องยนต์ แบบว่า ซื้อรถแพงๆ บางทีมีโอนแจ๊คพ๊อตครับ
ตามท่านนี้ว่าครับ แต่ถ้า จขกท ใช้รถเยอะ ปีละ3-4หมื่นโลขึ้น แนะนำซื้อMBSP เหมาๆไว้ตั้งแต่ออกรถ จะฟรีการserviceของเหลว ที่ว่าครั้งละหมื่นไป ระยะเวลาสามปี ส่วนตัวผมก็ซื้อครับ
อ่อ ลืมไป ค่าทิปที่จอดด้วยนะครับ และ แน่นอน อาจจะต้องหาทะเบียนสวยๆสักหน่อย อิอิ
แต่ยอมรับอย่างนึง รถยุโรป มันเหนือกว่ารถญี่ปุ่น ทุกมิติ ความปลอดภัย อัตราเร่ง ความเร็ว ความนุ่มนวล เหนือกว่าหมด
-
ตัวรถแล้วแต่รุ่นที่เลือก
ยางรันแฟลต เส้นละ 1 -1.5 หมื่น
เข้าศูนย์ฺครั้งนึง ตามรอบ 1 หมื่นโล ตีไว้ 1 - 1.5 หมื่น
ประกันปี ละ 4 หมื่นขึ้น
ยังไม่รวมอีจุกอีเปียเวลาเข้าศูนย์ ไหน น้ำยาบลู ในล้างแอร์ ไหนสารพัด ระบบแม่งเยอะ เวลาเก็บตังปวดหัวเลย
ผมเคยโดน ชน ไฟฟ้า แตก ดวงละ 120,000 รวมค่าแรง
ประกันที่เคลมให้ บอก พี่ๆ เวลาผมขี่เจอเบนซ์ ต้องหลบมัน ชนกับมัน เจ๊ง โดนฟ้องล้มละลายเลยพี่
ส่วนเวลาซื้อจะเจอแจ๊คพอตไหม แล้วแต่โชค เพื่อซื้อ อี ขับได้พันกว่าโล เทอโบรั่ว อีกคนซื้อ เอส ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จนต้องเปลี่ยนคัน อีกคน เอ เจอซีลเครื่องยนต์ แบบว่า ซื้อรถแพงๆ บางทีมีโอนแจ๊คพ๊อตครับ
ตามท่านนี้ว่าครับ แต่ถ้า จขกท ใช้รถเยอะ ปีละ3-4หมื่นโลขึ้น แนะนำซื้อMBSP เหมาๆไว้ตั้งแต่ออกรถ จะฟรีการserviceของเหลว ที่ว่าครั้งละหมื่นไป ระยะเวลาสามปี ส่วนตัวผมก็ซื้อครับ
อ่อ ลืมไป ค่าทิปที่จอดด้วยนะครับ และ แน่นอน อาจจะต้องหาทะเบียนสวยๆสักหน่อย อิอิ
แต่ยอมรับอย่างนึง รถยุโรป มันเหนือกว่ารถญี่ปุ่น ทุกมิติ ความปลอดภัย อัตราเร่ง ความเร็ว ความนุ่มนวล เหนือกว่าหมด
ไม่เห็นด้วยกับ อัตราเร่ง และ ความเร็ว เพราะไม่มี Camry 3.5 มาขายแล้ว แบร์นยุโรปนํ่ามันล้วนก่อนที่ C43 จะออกมา ไม่มีใครสู้ 3.5 V6 ได้
-
ตัวรถแล้วแต่รุ่นที่เลือก
ยางรันแฟลต เส้นละ 1 -1.5 หมื่น
เข้าศูนย์ฺครั้งนึง ตามรอบ 1 หมื่นโล ตีไว้ 1 - 1.5 หมื่น
ประกันปี ละ 4 หมื่นขึ้น
ยังไม่รวมอีจุกอีเปียเวลาเข้าศูนย์ ไหน น้ำยาบลู ในล้างแอร์ ไหนสารพัด ระบบแม่งเยอะ เวลาเก็บตังปวดหัวเลย
ผมเคยโดน ชน ไฟฟ้า แตก ดวงละ 120,000 รวมค่าแรง
ประกันที่เคลมให้ บอก พี่ๆ เวลาผมขี่เจอเบนซ์ ต้องหลบมัน ชนกับมัน เจ๊ง โดนฟ้องล้มละลายเลยพี่
ส่วนเวลาซื้อจะเจอแจ๊คพอตไหม แล้วแต่โชค เพื่อซื้อ อี ขับได้พันกว่าโล เทอโบรั่ว อีกคนซื้อ เอส ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จนต้องเปลี่ยนคัน อีกคน เอ เจอซีลเครื่องยนต์ แบบว่า ซื้อรถแพงๆ บางทีมีโอนแจ๊คพ๊อตครับ
ตามท่านนี้ว่าครับ แต่ถ้า จขกท ใช้รถเยอะ ปีละ3-4หมื่นโลขึ้น แนะนำซื้อMBSP เหมาๆไว้ตั้งแต่ออกรถ จะฟรีการserviceของเหลว ที่ว่าครั้งละหมื่นไป ระยะเวลาสามปี ส่วนตัวผมก็ซื้อครับ
อ่อ ลืมไป ค่าทิปที่จอดด้วยนะครับ และ แน่นอน อาจจะต้องหาทะเบียนสวยๆสักหน่อย อิอิ
แต่ยอมรับอย่างนึง รถยุโรป มันเหนือกว่ารถญี่ปุ่น ทุกมิติ ความปลอดภัย อัตราเร่ง ความเร็ว ความนุ่มนวล เหนือกว่าหมด
ไม่เห็นด้วยกับ อัตราเร่ง และ ความเร็ว เพราะไม่มี Camry 3.5 มาขายแล้ว แบร์นยุโรปนํ่ามันล้วนก่อนที่ C43 จะออกมา ไม่มีใครสู้ 3.5 V6 ได้
เค้าอาจจะหมายถึงถ้าแรงม้าเท่าๆกันมังครับ
อย่างที่ผมไปดูที่ทีมงาน HLM ทดสอบไว้ Camry 3.5 272แรงม้า อัตรางเร่ง 0-100 มันพอๆกะ BMW 520d 190ม้า เองนะครับ
ความเร็วปลายก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
ถ้ามาเจอยุโรปที่ม้าพอๆกันก็ไม่ต้องพูดถึงครับ
-
ราคา service ก็ตามที่ท่านบนๆบอกค่ะ เตรียมไว้อย่างต่ำๆก็ 1หมื่นต่อครั้ง แล้วก็มีอย่างอื่นอกเหนือจาก service เช่น ประกันภัย ถ้าใช้ยาวๆเกิน 5 ปี ก็
- ยาง rft (เราพึ่งเปลี่ยนไปประมาณ 3หมื่นกว่าบาท 4 เส้น)
- แบตเตอรี่
- ผ้าเบรค เปลี่ยนเฉพาะผ้าไม่ได้ ต้องเปลี่ยนจานด้วย
ส่วนหลอดไฟ เรายังไม่เคยเปลี่ยนเลยสักคันค่ะ ขายก่อนตลอด
-
หนักๆ คือ ประกัน กับยาง และโช๊คครับ
-
ตัวรถแล้วแต่รุ่นที่เลือก
ยางรันแฟลต เส้นละ 1 -1.5 หมื่น
เข้าศูนย์ฺครั้งนึง ตามรอบ 1 หมื่นโล ตีไว้ 1 - 1.5 หมื่น
ประกันปี ละ 4 หมื่นขึ้น
ยังไม่รวมอีจุกอีเปียเวลาเข้าศูนย์ ไหน น้ำยาบลู ในล้างแอร์ ไหนสารพัด ระบบแม่งเยอะ เวลาเก็บตังปวดหัวเลย
ผมเคยโดน ชน ไฟฟ้า แตก ดวงละ 120,000 รวมค่าแรง
ประกันที่เคลมให้ บอก พี่ๆ เวลาผมขี่เจอเบนซ์ ต้องหลบมัน ชนกับมัน เจ๊ง โดนฟ้องล้มละลายเลยพี่
ส่วนเวลาซื้อจะเจอแจ๊คพอตไหม แล้วแต่โชค เพื่อซื้อ อี ขับได้พันกว่าโล เทอโบรั่ว อีกคนซื้อ เอส ระบบไฟฟ้ามีปัญหา จนต้องเปลี่ยนคัน อีกคน เอ เจอซีลเครื่องยนต์ แบบว่า ซื้อรถแพงๆ บางทีมีโอนแจ๊คพ๊อตครับ
ตามท่านนี้ว่าครับ แต่ถ้า จขกท ใช้รถเยอะ ปีละ3-4หมื่นโลขึ้น แนะนำซื้อMBSP เหมาๆไว้ตั้งแต่ออกรถ จะฟรีการserviceของเหลว ที่ว่าครั้งละหมื่นไป ระยะเวลาสามปี ส่วนตัวผมก็ซื้อครับ
อ่อ ลืมไป ค่าทิปที่จอดด้วยนะครับ และ แน่นอน อาจจะต้องหาทะเบียนสวยๆสักหน่อย อิอิ
แต่ยอมรับอย่างนึง รถยุโรป มันเหนือกว่ารถญี่ปุ่น ทุกมิติ ความปลอดภัย อัตราเร่ง ความเร็ว ความนุ่มนวล เหนือกว่าหมด
ไม่เห็นด้วยกับ อัตราเร่ง และ ความเร็ว เพราะไม่มี Camry 3.5 มาขายแล้ว แบร์นยุโรปนํ่ามันล้วนก่อนที่ C43 จะออกมา ไม่มีใครสู้ 3.5 V6 ได้
ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ ไม่มีทางที่ยุโรปจะดีกว่าทุกมิติแน่นอนครับ ซึ่งถ้าจะวัด วัดกันที่ราคาที่จ่ายน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วครับ ซึ่งพอวัดที่ราคาแล้ว Camry กับ GLA ยังไงก็ไม่มีทางที่ยุโรปจะเหนือกว่าทุกมิติครับ
ส่วนเรื่องกำลังเครื่องตอนแรกผมก็คิดว่าม้ายุโรปตัวใหญ่กว่า แต่พอมี Civic Turbo ออกมาความคิดผมก็เปลี่ยนไป
-
ราคา service ก็ตามที่ท่านบนๆบอกค่ะ เตรียมไว้อย่างต่ำๆก็ 1หมื่นต่อครั้ง แล้วก็มีอย่างอื่นอกเหนือจาก service เช่น ประกันภัย ถ้าใช้ยาวๆเกิน 5 ปี ก็
- ยาง rft (เราพึ่งเปลี่ยนไปประมาณ 3หมื่นกว่าบาท 4 เส้น)
- แบตเตอรี่
- ผ้าเบรค เปลี่ยนเฉพาะผ้าไม่ได้ ต้องเปลี่ยนจานด้วย
ส่วนหลอดไฟ เรายังไม่เคยเปลี่ยนเลยสักคันค่ะ ขายก่อนตลอด
เปลี่ยนยาง Run Flat เป็นยางธรรมดาแล้วซื้ออุปกรณ์เติมลมยางติดรถ หรือซื้อยางอะไหล่แบบบางมาใส่ท้ายรถไว้ก็ได้ครับ คนที่ใช้ยาง Run Flat ถ้ายางแตกส่วนใหญ่ไม่กล้าขับบดไปหรอกครับ ต้องเรียกรถสไลด์อยู่ดี
แบตเตอรี่เปลี่ยนข้างนอกก็ได้ ราคาไม่กี่พันบาท
เปลี่ยนเฉพาะผ้าเบรกก็ได้ ถ้าจานยังไม่บาง ปกติเปลี่ยนผ้าเบรกประมาณสามครั้งถึงจะเปลี่ยนจานเบรก
หลอดไฟแค่หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน แพงตรงโคมไฟ อย่าไปชนจนโคมไฟแตกก็แล้วกัน อาจจะต้องเสียเงินแสน
-
ราคา service ก็ตามที่ท่านบนๆบอกค่ะ เตรียมไว้อย่างต่ำๆก็ 1หมื่นต่อครั้ง แล้วก็มีอย่างอื่นอกเหนือจาก service เช่น ประกันภัย ถ้าใช้ยาวๆเกิน 5 ปี ก็
- ยาง rft (เราพึ่งเปลี่ยนไปประมาณ 3หมื่นกว่าบาท 4 เส้น)
- แบตเตอรี่
- ผ้าเบรค เปลี่ยนเฉพาะผ้าไม่ได้ ต้องเปลี่ยนจานด้วย
ส่วนหลอดไฟ เรายังไม่เคยเปลี่ยนเลยสักคันค่ะ ขายก่อนตลอด
เปลี่ยนยาง Run Flat เป็นยางธรรมดาแล้วซื้ออุปกรณ์เติมลมยางติดรถ หรือซื้อยางอะไหล่แบบบางมาใส่ท้ายรถไว้ก็ได้ครับ คนที่ใช้ยาง Run Flat ถ้ายางแตกส่วนใหญ่ไม่กล้าขับบดไปหรอกครับ ต้องเรียกรถสไลด์อยู่ดี
แบตเตอรี่เปลี่ยนข้างนอกก็ได้ ราคาไม่กี่พันบาท
เปลี่ยนเฉพาะผ้าเบรกก็ได้ ถ้าจานยังไม่บาง ปกติเปลี่ยนผ้าเบรกประมาณสามครั้งถึงจะเปลี่ยนจานเบรก
หลอดไฟแค่หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน แพงตรงโคมไฟ อย่าไปชนจนโคมไฟแตกก็แล้วกัน อาจจะต้องเสียเงินแสน
ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำ ส่วนตัวเราเหมาะกับยาง rft มากกว่า เพราะเป็นผู้หญิง อยู่ ตจว. ซึ่งยางรั่วค่อนข้างบ่อย และยาง rft ช่วยเราไว้ได้หลายครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องเบรคนั้น ทางศูนย์บอกว่ารุ่นเราต้องเปลี่ยนทั้งจาน เพราะมันมีเซ็นเซ่อด้วย ต้องขอบคุณสำหรับข้อมูลในส่วนนี้นะค่ะ ถ้าเปลี่ยนอีกคัน จะเอาไปแย้งกับศูนย์ค่ะ
ส่วนแบตเตอรี่เราเปลี่ยนร้านข้างนอก เวอต้า เมดเกาหลี พอใช้ได้ แต่รู้สึกเสื่อมไวไปนิดนึงค่ะ
-
ราคา service ก็ตามที่ท่านบนๆบอกค่ะ เตรียมไว้อย่างต่ำๆก็ 1หมื่นต่อครั้ง แล้วก็มีอย่างอื่นอกเหนือจาก service เช่น ประกันภัย ถ้าใช้ยาวๆเกิน 5 ปี ก็
- ยาง rft (เราพึ่งเปลี่ยนไปประมาณ 3หมื่นกว่าบาท 4 เส้น)
- แบตเตอรี่
- ผ้าเบรค เปลี่ยนเฉพาะผ้าไม่ได้ ต้องเปลี่ยนจานด้วย
ส่วนหลอดไฟ เรายังไม่เคยเปลี่ยนเลยสักคันค่ะ ขายก่อนตลอด
เปลี่ยนยาง Run Flat เป็นยางธรรมดาแล้วซื้ออุปกรณ์เติมลมยางติดรถ หรือซื้อยางอะไหล่แบบบางมาใส่ท้ายรถไว้ก็ได้ครับ คนที่ใช้ยาง Run Flat ถ้ายางแตกส่วนใหญ่ไม่กล้าขับบดไปหรอกครับ ต้องเรียกรถสไลด์อยู่ดี
แบตเตอรี่เปลี่ยนข้างนอกก็ได้ ราคาไม่กี่พันบาท
เปลี่ยนเฉพาะผ้าเบรกก็ได้ ถ้าจานยังไม่บาง ปกติเปลี่ยนผ้าเบรกประมาณสามครั้งถึงจะเปลี่ยนจานเบรก
หลอดไฟแค่หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน แพงตรงโคมไฟ อย่าไปชนจนโคมไฟแตกก็แล้วกัน อาจจะต้องเสียเงินแสน
ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำ ส่วนตัวเราเหมาะกับยาง rft มากกว่า เพราะเป็นผู้หญิง อยู่ ตจว. ซึ่งยางรั่วค่อนข้างบ่อย และยาง rft ช่วยเราไว้ได้หลายครั้งแล้วเหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องเบรคนั้น ทางศูนย์บอกว่ารุ่นเราต้องเปลี่ยนทั้งจาน เพราะมันมีเซ็นเซ่อด้วย ต้องขอบคุณสำหรับข้อมูลในส่วนนี้นะค่ะ ถ้าเปลี่ยนอีกคัน จะเอาไปแย้งกับศูนย์ค่ะ
ส่วนแบตเตอรี่เราเปลี่ยนร้านข้างนอก เวอต้า เมดเกาหลี พอใช้ได้ แต่รู้สึกเสื่อมไวไปนิดนึงค่ะ
เปลี่ยนผ้าเบรกต้องเปลี่ยนเซ็นเซอร์ด้วย แต่เซ็นเซอร์อยู่ที่ผ้าเบรก ไม่ใช่อยู่ที่จานเบรก
-
มิน่าถึงมีคนบอกว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปไปเรื่อยๆ ควรมี 20-30 ล้าน จะได้เปลี่ยนรถทุกๆ 5 ปีตามอายุการใช้งานและการรับประกันของมัน
ไม่งั้นก็ใช้คันเดียว แล้วกลับมาใช้ Camry Teana Accord เหมือนเดิม เก็บเงินได้ 4 ล้านค่อยซื้อรถยุโรปมาใช้อีกที
-
เงินไว้ทิป รปภ. ครับ
-
ค่า service ไม่ได้แพงมากครับ เทียบกับราคารถ
ตีไว้ว่า ปีนึง 3-5 หมื่น
ประกัน 50-80k ต่อปี
ส่วนเรื่องค่าเสียหายตัวรถ ส่วนใหญ่ทำประกัน ชน เฉี่ยวก็ซ่อมเหมือนทั่วไป
แต่ที่จะเบื่อก็คือ อยู่ดีๆมันก็ไฟโชว์ ให้ไปเสียเงิน ครับ
-
มิน่าถึงมีคนบอกว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปไปเรื่อยๆ ควรมี 20-30 ล้าน จะได้เปลี่ยนรถทุกๆ 5 ปีตามอายุการใช้งานและการรับประกันของมัน
ไม่งั้นก็ใช้คันเดียว แล้วกลับมาใช้ Camry Teana Accord เหมือนเดิม เก็บเงินได้ 4 ล้านค่อยซื้อรถยุโรปมาใช้อีกที
รถเบนซ์ราคา 4 ล้านบาท อายุ 5 ปีขายได้ประมาณ 50% ของราคาซื้อก็ประมาณ 2 ล้าน เอาเงิน 2 ล้านไปดาวน์รถใหม่ ผ่อน 2 ล้าน เดือนละประมาณสี่หมื่นบาท ทำแบบนี้วนไปได้เรื่อยๆครับ
-
มิน่าถึงมีคนบอกว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปไปเรื่อยๆ ควรมี 20-30 ล้าน จะได้เปลี่ยนรถทุกๆ 5 ปีตามอายุการใช้งานและการรับประกันของมัน
ไม่งั้นก็ใช้คันเดียว แล้วกลับมาใช้ Camry Teana Accord เหมือนเดิม เก็บเงินได้ 4 ล้านค่อยซื้อรถยุโรปมาใช้อีกที
รถเบนซ์ราคา 4 ล้านบาท อายุ 5 ปีขายได้ประมาณ 50% ของราคาซื้อก็ประมาณ 2 ล้าน เอาเงิน 2 ล้านไปดาวน์รถใหม่ ผ่อน 2 ล้าน เดือนละประมาณสี่หมื่นบาท ทำแบบนี้วนไปได้เรื่อยๆครับ
ตามนี้ครับ แต่เดี๋ยวนี้ 5 ปี มันไม่ได้ขายได้ 2 ล้านแล้วสิครับ ลองไปดูในเว็ปรถมือสองขายกันแค่ล้านต้นๆเองครับ
-
การซื้อ service ของเหลวและอะไหล่เช่นกรอง
ต้องเป็นคนที่ใช้รถปีละ 30,000 กม ขึ้นไป คือเข้าศูนย์ 3 ครั้งขึ้นไปถึงจะคุ้ม
!! บางรายการเช่นกรองบางตัวตามปกติศูนย์อาจแจ้งให้เราเปลี่ยนทุกครั้ง (เพราะเราจ่ายเงินเอง และศูนย์ได้ขายของ)
แต่ถ้าซื้อ service เมื่อไหร่แล้ว มันอาจจะไม่ได้เปลี่ยนทุกครั้งนะครับ เพราะศูนย์จะอ้างว่าต้องเปลี่ยนตาม service ที่รถแจ้งถึงจะเปลี่ยนให้ (ทีจ่ายเองบอกเปลี่ยนทุกครั้ง)
!! กรณีนี้เพื่อนผมเจอมาแล้วก่อนซื้อ Service ศูนย์แจ้งด้วยว่าเปลี่ยนกรองทุกครั้ง แต่ถึงเวลาเข้าศูนย์ระบบไม่แจ้งก็ไม่เปลี่ยนให้ ทำให้สุดท้ายศูนย์ต้องคืนเงินค่าซื้อ service ให้หมด เพราะไม่เป็นตามที่ศูนย์แจ้งแต่แรกครับ
-
ผมว่ามันก็ไมได้แพงอะไรมากมายนะ มีเงินซื้อ ก็มีเงินซ่อมแน่นอน ที่แพงก็พวกน้ำมันเกียร์ ครั้งนึงก็หมื่นนิดหน่อย แต่ก็ สองสามปีหนนึง น่าจะรับได้มั้ง
-
ป๊าดดด ต้องมีน้อยๆๆๆปีละ 1 แสน ซินะ
-
Service ทีค่านู้นนี้นั้น ยิบย่อยไปหมดครับ จะเชียร์เปลี่ยนอย่างเดียว 10,000 รถ4เดือน จะเชียร์เปลี่ยนกรองแอร์ ถ้าถึงระยะ 40,000 โล service B แล้วเจอผ้าเบรค+จานด้วย ก็เตรียมไว้ 25,000++ครับ
-
เซอวิสครั้งละประมาณหมื่นครับ แต่ยางไม่ได้ใช้ Runflat ครับ พอถึงกำหนดเปลี่ยนก็มาใช้ยางธรรมดาแทน
-
ทำไมเปลี่ยน ผ้าเบรกต้องเปลี่ยนจานเบรกด้วยครับ เปลี่ยนบ่อยแค่ไหน ผมขับ bm f30นี่ 53000`km ยัง ไม่เห็นจะเปลี่ยนเลย ใน จอโชวอีกตั้งเยอะ
-
ขอบคุณทุกท่านทุกข้อมูลครับ..เข้ามาศึกษาครับ..เยี่ยมมากๆ