Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ พฤศจิกายน 06, 2018, 00:13:26
-
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย : xDrive45e 47.6 กิโลเมตร/ลิตร ....... เขาทดสอบกันยังไงครับ แล้วเวลาใช้งานจริง จะได้ใกล้เคียงไหมครับ
จากข่าวนี้ครับ http://www.headlightmag.com/bmw-x5-xdrive45e-iperformance-plug-in-hybrid-g05-with-new-powertrains-launch-in-2019/
-
นั่งคนเดียว
ไม่เปิด infotainment ไม่เปิดแอร์
ขับไม่เกิน 90 km/h
ไม่ได้ใช้ยางเดิม
-
ทดสอบใน condition ที่ไม่ตรงกับการใช้งานจริงเท่าไหร่
ดูคล้ายๆ กับการประกวดขับรถประหยัดน้ำมันที่ค่ายรถค่ายหนึ่งจัดขึ้นบ่อยๆ
ถ้าแบบใช้งานจริงในไทย ตัวเลขพวกนี้ให้หาร 1.5 หรือ 2 ไว้เลย 55555+
-
EV ขับได้ 80 km นะครับ ค่อนข้างมากอยู่ เลยคิดว่าขับไฟฟ้าล้วน มาช่วยเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองไปได้เยอะ
แต่ใช้งานจริงๆ ทำไม่ได้หรอกครับ ตัวเลขแบบนี้
-
เมื่อก่อน Chevrolet Volt ยังบอกว่าได้ 90 โล/ลิตร เลยครับ 555+
-
ถ้าไม่ทดสอบภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน หรือ มาตรฐานเดียวกันอย่าง eco sticker มันก็แค่ราคาคุย
ปล. ดูอย่างอีซูซุสิครับ ที่แข่งกัน ที่ 1 เค้าก็ได้เยอะแบบนี้แหละ
-
eco stickerใช้มาตรฐานตามนี้ครับ
อ้างอิงจาก http://www.car.go.th/new/ReadReport?kw=pd
น้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมในรถยนต์ จะประกอบด้วยสารคาร์บอนเป็นหลัก โดยน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกเผาไหม้ในเครื่องยนต์เพื่อเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนรถยนต์ หากการเผาไหม้ของน้ำมันเป็นไปอย่างสมบูรณ์ รถยนต์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ออกมาทางท่อไอเสีย ในขณะที่ หากเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบรูณ์ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ CO จะออกมาแทน เมื่อคำนึงถึงหลักการ Carbon Balance สามารถสรุปได้ว่า หากปริมาณคาร์บอนของมลพิษไอเสียมาก ก็หมายความว่า รถยนต์คันนั้น บริโภคน้ำมันมาก ในทำนองเดียวกัน หากปริมาณคาร์บอนของมลพิษไอเสียน้อย ย่อมหมายถึง รถยนต์คันนั้นบริโภคน้ำมันน้อยด้วยเช่นกัน
ในส่วนของขั้นตอนการทดสอบอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จะต้องนำรถยนต์ทดสอบมาวิ่งบนลูกกลิ้งหรือแชสซีส์ไดนาโมมิเตอร์ในห้องปฏิบัติการ ณ ระดับความเร็วต่างๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด การวิ่งทดสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการจำลองการขับรถยนต์ตามสภาวะในเมือง จำนวน 4 วัฏจักร ระยะเวลา 780 วินาที ส่วนช่วงที่สอง เป็นการจำลองการขับรถยนต์ตามสภาวะนอกเมือง จำนวน 1 วัฏจักร ระยะเวลา 400 วินาที การวิ่งรถยนต์ในสองสภาวะดังกล่าว จะมีการวัดปริมาณก๊าซ CO2 ของสภาวะในเมือง และนอกเมือง เมื่อได้ปริมาณก๊าซ CO2 แล้ว ระบบจะทำการวิเคราะห์ปริมาณการใช้น้ำมันอ้างอิงของรถยนต์จากสูตรนี้
น้ำมันเบนซิน
FC = (0.118/D)[(0.848*HC) + (0.429*CO) + (0.273*CO2)]
FC = อัตราการใช้เชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ชนิด Positive Ignition Engine ที่ใช้น้ำมันเบนซิน หน่วย : ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
HC = ปริมาณการปล่อยไฮโดรคาร์บอน หน่วย : กรัมต่อกิโลเมตร
CO = ปริมาณการปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์ หน่วย : กรัมต่อกิโลเมตร
CO2 = ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หน่วย : กรัมต่อกิโลเมตร
D = ความหนาแน่นของเชื้อเพลิงทดสอบ
ข้อมูลอัตราการใช้น้ำมัน (หน่วย ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ กิโลเมตรต่อลิตร) ซึ่งผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ UN R101 ในห้องปฏิบัติการ จะต้องประกอบด้วย 3 สภาวะ ได้แก่ สภาวะรวม (Combined) สภาวะในเมือง (Urban) และสภาวะนอกเมือง (Extra-Urban) โดยอัตราการใช้น้ำมัน
ซึ่งจากข้อมูล คิดว่ารถวิ่งไม่ได้ไกล คือน่าจะอยู่ราวๆ 50-70 กม(เดา) แถมยังมีวัฏจักรที่วิ่งในเมืองยิ่งทำให้รถplugin ได้เปรียบเข้าไปอีก
ที่ได้ตัวเลขสวยหรูขนาดนั้นเพราะ ไฟฟ้าเพียวๆวิ่งได้20-30กม เครื่องยนต์จึงติดน้อยมาก
แต่ในทางปฏิบัติก็ขึ้นอยู่กับความขยันชาร์จเลยครับ บางคนชาร์จได้ทุก20-30 กม เพราะวิ่งในเมืองใกล้ๆ ก็ทำได้100โล/ลิตรก็มี ทำได้ 100กม/ลิตรก็มี
แต่ถ้าชาร์จไม่ค่อยได้ อย่าผมใช้s500e ตัวเลขอ้างอิง 40โลลิตร ทดสอบทางไกลแบบไม่ชาร์จเลย120กม อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่10โล/ลิตรครับ
-
ถ้าใช้งานต่อวันระยะทางไม่ไกลมาก และเสียบปลั้กชาร์จทุกวัน ก็น่าจะได้ตามที่ BMW เคลมนะครับ
ยกตัวอย่างครับ
สมมติว่า รถสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้า 80 km และเครื่องยนต์มีอัตราสิ้นเปลือง 14.5 km/l.
ถ้าใช้งานวันละ 115 km จะมีช่วงที่ใช้เครื่องยนต์ 35 km คิดเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ = 35 หารด้วย 14.5 = 2.42 ลิตร
เมื่อคิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในแต่ละวันที่วิ่ง 115 km ก็จะตกประมาณ (115/2.42) = 47.5 km/l
แต่ถ้าวิ่งระยะทางไกลขึ้นอีก อัตราสิ้นเปลืองก็จะไม่ดีเท่าที่เคลมครับ
-
ถ้าใช้งานต่อวันระยะทางไม่ไกลมาก และเสียบปลั้กชาร์จทุกวัน ก็น่าจะได้ตามที่ BMW เคลมนะครับ
ยกตัวอย่างครับ
สมมติว่า รถสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้า 80 km และเครื่องยนต์มีอัตราสิ้นเปลือง 14.5 km/l.
ถ้าใช้งานวันละ 115 km จะมีช่วงที่ใช้เครื่องยนต์ 35 km คิดเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ = 35 หารด้วย 14.5 = 2.42 ลิตร
เมื่อคิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในแต่ละวันที่วิ่ง 115 km ก็จะตกประมาณ (115/2.42) = 47.5 km/l
แต่ถ้าวิ่งระยะทางไกลขึ้นอีก อัตราสิ้นเปลืองก็จะไม่ดีเท่าที่เคลมครับ
การทดสอบคงอิงตามนี้แหละครับ ใช้ในชีวิตจริงมันมีหลายปัจจัยส่วนบุคคลเข้ามาเกี่ยวเยอะเลยครับ
แต่ส่วนตัวผมใช้ plug in อยู่ อัตราเฉลี่ยน้ำมัน 47 กิโลลิตร (จากการวิ่งมาเกือบ 2,000 กิโล) แต่ถ้าวิ่งมางไกลๆ ยาวๆ อาจจะเหลือ 15-18 กิโลลิตร ไม่น่าเกินนี้
-
ขอขอบคุณทุกท่าน ได้รับความเข้าใจดี ขึ้นมากเลยครับ
-
ใช้ 40e F15 อยู่ครับ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสำหรับการใช้งานจริงโดยเฉพาะทางไกลนี่น่าจะต่ำกว่า 15 km/l แน่นอนครับ ตอนขับไม่ค่อยได้จำตัวเลขเท่าไหร่ แต่เปลืองแน่นอน
นอกจากนั้น range สำหรับ EV mode ในการใช้งานจริง ได้ไม่ถึง 40 km หรอกครับ ขนาดรถเองยังแจ้งตัวเลขตอน charge ไฟฟ้าเต็มที่ประมาณ 27-29 km เอง รุ่นใหม่ G05 ก็น่าจะเอา 80 ไปหักออก 1 ใน 3 เช่นกันมั้ง
-
ใช้ 40e F15 อยู่ครับ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสำหรับการใช้งานจริงโดยเฉพาะทางไกลนี่น่าจะต่ำกว่า 15 km/l แน่นอนครับ ตอนขับไม่ค่อยได้จำตัวเลขเท่าไหร่ แต่เปลืองแน่นอน
นอกจากนั้น range สำหรับ EV mode ในการใช้งานจริง ได้ไม่ถึง 40 km หรอกครับ ขนาดรถเองยังแจ้งตัวเลขตอน charge ไฟฟ้าเต็มที่ประมาณ 27-29 km เอง รุ่นใหม่ G05 ก็น่าจะเอา 80 ไปหักออก 1 ใน 3 เช่นกันมั้ง
x5 ตัวเก่ามันยังใช้เครื่อง n20 ตัวเก่าของ bmw อยู่ไม่แปลกที่ผลจะเป็นแบบนั้น ไม่เหมือน 330e 530e ที่ใช้เครื่องตัวใหม่เป็น b48 แล้ว ส่วน x5 ที่จะเปิดตัว 45e เปลี่ยนมาใช้ 6 สูบ น่าจะพัฒนาขึ้นไปอีก
-
อย่างข้างบนตอบ แบตฯเต็ม วิ่งในระยะทางกำหนด ก็ได้แบบนั้น
คุณลองวิ่งระหว่างจังหวัดดูซิครับ นั่นของจริง...
-
47.6 km/l มาจากการทดสอบของ BMW เอง
ซึ่งตัวเลขที่สวยหรูนี้มันมีที่มา จากการทดสอบแบบ MPGe
MPGe คืออะไร??
ขอยกตัวอย่างรุ่น xDrive40e ซึ่งทางรัฐบาลกลางได้ทำการทดสอบแบบ EPA ไว้ (รุ่นใหม่ยังไม่ได้ทดสอบ)
แล้วเทียบกับ prius prime ซึ่งเป็นเจ้าแห่ง hybrid และเป็นแบบ plugin เหมือนกัน
(https://uppic.cc/d/LLe)
-MPGe คือการทดสอบในเมืองและนอกเมืองในโหมด EV เมื่อชาร์ตเต็ม ทำการวิ่งเป็นระยะทาง 100 mile หรือ 160 km
โดยหาว่าใช้พลังงานไปเท่าไร kWh
ซึ่งเขาคำนวนไว้เรียบร้อยแล้วพลังงานที่ใช้ไป 33.7 kWh จะเทียบเท่ากับการใช้พลังงานจากน้ำมัน 1 gallon
จากวงกลมเขียว x5 วิ่งเป็นระยะทาง 100 mile ใช้พลังงานไป 59kWh
เทียบเท่าน้ำมัน 59/33.7 = 1.75 gallon
mile per gallon คือ 100/1.75 = 57 MPG
น้ำมัน 1 gallon มี 3.79 ลิตร ดังนั้นเทียบเท่าใช้น้ำมันไป 1.75*3.79 = 6.64 ลิตร ที่ระยะทาง 160 km
160/6.64 = 24.1 km/l
ทาง BMW เครมว่า 30.3 km/l ซึ่งยังห่างไกลจากที่เครมไว้
ส่วนวงกลมสีเหลืองคือเมื่อแบตหมดเครื่องก็ติดมาชาร์ตไฟ เหมือนรถ Hybrid ทั่วไป
อันนี้นี่แหละจะเป็นตัวบ่งบอกว่าอัตราสิ้นเปลืองที่แท้จริงคือเท่าไรกันแน่
ให้ลองคำนวนเองละกัน
วิธีแปลง MPG (mile per gallon) เป็น km/l
ให้เอา 0.425 ไปคูณ
อย่าง x5 คันนี้ได้ 24 MPG
= 24*0.425 = 10.24 km/l (ตามการทดสอบแบบ EPA แบบในเมืองและนอกเมือง)
จะเห็นได้ว่าต่างจากตัวเลข 30km/l ตามที่โฆษณาไว้
ส่วนรุ่นใหม่น่าจะดีขึ้น ต้องรอผลทดสอบอย่างเป็นทางการเสียก่อน
ตัวเลข 47.6 กิโลเมตร/ลิตร ที่สวยหรูมันคือ MPGe ใครแบตใหญ่ ย่อมได้เปรียบ
แต่ตัวเลขที่ใช้ในชีวิตประจำวันคือโหมด Hybrid ในวงกลมเหลืองต่างหาก ที่จะบอกว่ากินน้ำมันเท่าไร
-
ชัดเจนมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ
-
ขอให้ข้อมูลเรื่อง MPGe เพิ่มเติมดังนี้ครับ
อ้างอิงจาก Fueleconomy.gov https://www.fueleconomy.gov/feg/label/learn-more-PHEV-label.shtml
การคำนวณค่า MPGe กับ MPG ที่แสดงอยู่บน fuel economy label ของรถ plug-in hybrid คำนวณแยกกันครับ
MPGe มาจากปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อน เมื่อใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว หน่วยเป็น kWh ครับ โดยเทียบว่าถ้าต้องวิ่งโดยใช้ไฟฟ้า เป็นระยะทาง 100 miles จะต้องใช้ไฟฟ้ากี่ kWh เช่น BMW X5 40e ต้องใช้ไฟฟ้า 59 kWh ในการวิ่งด้วยไฟฟ้า 100 miles (ถึงในความเป็นจริง X5 40e จะวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไม่เกิน 14 miles ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในการทดสอบก็ตาม)
แล้วจึงนำตัวเลข kWh ที่ได้ มาเทียบเป็น MPGe ด้วยสมมติฐานที่ว่า น้ำมัน 1 gallon ให้ปริมาณความร้อน 115,000 BTUs เทียบเท่ากับพลังงานไฟฟ้า 33.7 kWh ครับ
ดังนั้นขนาดความจุแบตเตอรี่ในรถ plug-in hybrid แต่ละรุ่น จะมากหรือน้อย ไม่มีผลกับตัวเลข MPGe ครับ
สิ่งที่มีผล คือ น้ำหนักรถ aerodynamics ประสิทธิภาพของมอเตอร์และชุดควบคุม ระบบส่งกำลัง และ แรงต้านการหมุนของยางรถยนต์
-
เคยคิดแบบง่ายๆนะครับ ได้กี่กิโลลิตรแน่ก็วิ่งจากน้ำมันเต็ม แบตเต็ม วนในเส้นทางที่คุมตัวแปรไปเรื่อยๆจนหมดเกลี้ยงแล้วหารเอา
แต่คงไม่ practical แน่ๆ