Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ho-mannie ที่ พฤศจิกายน 13, 2018, 22:15:56
-
ตอนแรกดู 2.5G ไว้ พอได้ลองขับ ไฮบริดกลับชอบด้านอัตราเร่ง และคิดว่าคงประหยัดกว่าแน่ๆๆ และตัวท๊อปออฟชั่นน่าสนใจเลย ส่วนต่างจาก 2.5Gไป hybrid premium 210,000 ไปต่อหรือหยุดที่ 2.5G. ดีครับ กะใช้รถราวๆ5ปี ไมล์ไม่เกิน 130,000 กม. ถ้าขายตอนนั้นจะเป็นอย่างไรครับ
-
25 only
-
เป็นผมเอา 2.5 ครับ
ถ้าไม่แคร์ราคาขายต่อและชอบ hybrid ก็เอา hybrid ก็ได้ครับ
-
ใช้ 5 ปีก็นานอยู่นะครับ ถ้าเงินไม่มีปํญหา เลือกคันที่ขับแล้วชอบเลยครับ
-
hybrid ดีกว่าทุกด้าน ยกเว้นราคาขายต่อ
-
hybrid เท่านั้นครับ
2.5 ธรรมดา คงกินน้ำมันแหลก ผมเคยใช้รุ่นเก่าเครื่อง 2.4 ขับในเมือง 80% กินน้ำมันเฉลี่ยน 5-6 km/l ครับ ไม่โอเคอย่างแรง
-
เครื่อง na 2.5 น่าสนสุดละ ค่าน้ำมันจะเท่าไหร่กันเชียวครับ ขับรถระดับนี้
-
ชอบไฮบริดก็จัดเลยครับ 5ปีราคายังไม่ร่วงแบบดิ่งเท่าไหร่
-
ถ้าห่วงราคาขายต่อ d seg รุ่นอะไรก้ลำบากครับ ไฮบริดก้เจ็บหนัก ธรรมดาก้เยอะนะครับ รุ่นไหนก้เยอะครับ แต่ถ้าผมเชียร์ผมว่าไฮบริดคุ้มสุดครับ 2.5 ไม่ได้เวิคอะไรมากถ้าไม่ได้จะเอาล้อ18 ซึ่งหาเปลี่ยนได้ไม่ยากเลยครับ ใช้แบบนี้ไฮบริดได้ครับ ยกเว้นจะเอา top speed ที่ไฮบริดให้ไม่ค่อยได้อะครับ
-
ขอทราบลักษณะการใช้งานครับผม
ส่วนต่าง 210,000 นั้นถ้านับแค่อัตราเร่ง อัตราประหยัดน้ำมันที่่เพิ่มขึ้นมา ผมว่าไม่ค่อยน่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาครับ ดังนั้นจะขึ้นอยู่กับพวกออฟชั่นที่ได้ว่าได้ใช้มากน้อยแค่ไหนด้วยครับ
ส่วนเรื่องขายต่อต้องยอมรับว่าตัวไฮบริดอาจมีโอกาสที่ขายได้ราคาพอๆกับ 2.5G ถึงแม้ราคาตั้งต้นจะต่างกันพอสมควรนะครับ รวมถึงการซ่อมบำรุงตัวไฮบริดน่าจะแพงกว่าแต่คิดว่าต่างกันไม่มากครับ
-
5 ปีใช้ทุกวัน เลือกรุ่นที่ชอบที่สุดครับ
-
บอกว่าดูไว้นี่ไปลองขับหรือยังครับ แต่ถ้าจะชอบไฮบริดก็ไม่แปลก เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้แรงบิดมาตั้งแต่เหยียบคันเร่ง ขับใช้งานทั่วไปสบายกว่า สนุกกว่าแบบ 2.5 ปกติแน่ๆ แต่ถ้าขับแบบซัด ลากรอบทุกเกียร์ 2.5 จะให้ความสนุกกว่า ถามตัวเองว่าขับรถแบบไหน
-
เชียร์ไฮบริดครับ นอกจากจะแรงและประหยัดก็มีเรื่องช่วยลดมลพิษนี่แหละที่น่าสนใจ รวมๆกันสามข้อกับoptionที่เพิ่มขึ้นก็คุ้มครับ
-
จัดไฮบริดพรีเมียมเลยครับ ใช้แล้วจะติดใจ
แล้วเห็นว่ามีประกันราคาขายต่อ แต่ไม่รู้รายละเอียดยังไงนะ
-
เลือกรุ่นที่คุณชอบครับ จะได้ไม่ต้อง รู้งี้....
ใช้รถนาน เลือกรุ่นที่ชอบดีที่สุดครับ เพราะคุณจะมีความสุขทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัยครับ
-
ขอตอบเป็นข้อๆนะครับ
1.ต้องถามใจคุณเองครับ ว่ามีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะออกรถหรือเปล่า ถ้าจะออกไฮบริดที่ราคาแพงขึ้นมาอีกสองแสนเศษ จะกระทบกับการเงินของตัวคุณเองหรือไม่
2.ถ้าผ่านข้อแรก ทีนี้คุณสามารถรับความเสี่ยงเมื่อใช้ไปนานๆได้หรือเปล่า รวมทั้งอะไหล่ที่มันจุกจิกกว่ารถทั่วไปนิดหน่อย ค่าบำรุงรักษาอาจสูงกว่ารถธรรมดานิดหน่อย
3.ถ้าขายต่อ ต้องทำใจว่าราคาตกอย่างแน่นอน (แต่ถ้าคุณไม่แคร์เรื่องราคาขายต่อก็ไม่ต้องแคร์ข้อนี้)
ถ้าเจ้าของกระทู้รับกับ 3 ข้อนี้ ได้แนะนำให้ไปไฮบริดเลยครับ
แต่ถ้าคุณไม่สนออพชั่นในตัวท็อป เพราะเห็นว่ามันเกินความจำเป็น ไม่ค่อยได้ใช้
เพราะออพชั่นมาตรฐานที่ติดมากับตัวรถในรุ่นเครื่องธรรมดาก็เพียงพอแล้ว ไม่อยากเสี่ยงกับระบบไฮบริดที่อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในอนาคต กรณีที่หากมีอะไหล่เสีย เช่น แบตเตอรี่ไฮบริด และต้องการการบำรุงรักษาที่ง่ายกว่า ไม่จุกจิก ความแรงก็มีเพียงพอแล้ว แต่ไม่จัดจ้านเท่าไฮบริด
อย่างนี้ให้ไปตัวธรรมดา 2.5 ครับ
ทั้งสองรุ่นต่างมีข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง ขึ้นอยู่ว่าเจ้าของกระทู้จะรับได้หรือไม่ก็เท่านั้นเอง
ขอให้เจ้าของกระทู้ได้รถที่ถูกใจครับ :) :)
-
ณ ตอนที่คุณขายไม่รู้ราคาครับ
แต่ที่แน่ๆ โรงงานผมซื้อมา 1.7 ล้าน
เปลี่ยนแบตไป 1 แสนนิดๆ
ขายได้ 4.5 แสน รถใช้ 5 ปี
-
ณ ตอนที่คุณขายไม่รู้ราคาครับ
แต่ที่แน่ๆ โรงงานผมซื้อมา 1.7 ล้าน
เปลี่ยนแบตไป 1 แสนนิดๆ
ขายได้ 4.5 แสน รถใช้ 5 ปี
:) ขออนุญาติถามหน่อยครับ ที่ว่าเปลี่ยนแบตไป 1 แสนนิดๆ หมายถึงเปลี่ยนตอนระยะ 1 แสนนิดๆ หรือ ราคาแบต 1 แสนนิดๆ ครับ
:) และ ถ้าเป็นอย่างหลัง แบตไม่ได้รับประกัน 10 ปี หรือครับ. ขอบคุณนะครับ
-
ไหวไหมครับ กับเงินสองแสนกว่า ถ้าไหวจัดเลยครับคุณแมน แต่ถ้าไม่ไหว 2.5G ก็ไม่เลว มีตังค์ก็เบิกไฟหน้าไฟท้ายมาใส่หล่อๆ
-
ต้องดูที่ว่า เทียบกับอะไรอยู่ครับ
ถ้าคุณลังเลระหว่าง 2.0 กับ Hybrid เรื่องราคาขายต่อกับค่าซ่อม ให้ไป 2.0 เลยครับ ถูกกว่าแถมกว่าราคาขายดีกว่า ถึงจะสวยน้อยกว่าเครื่องแรงน้อยกว่า และ option น้อยกว่า ถ้าติดเรื่องงบประมาณเรื่องแค่นี้ต้องทนให้ได้ครับ
ถ้าคุณลังเลระหว่าง 2.5 กับ Hybrid เรื่องราคาขายต่อกับความ sport และความคุ้มค่าเรื่องค่าน้ำมันไม่สน option ไป 2.5 เลยครับ ราคาขายดีกว่าแน่นอนโดยรวมค่าน้ำมันกับราคาที่เพิ่มขึ้นมาและราคาขายต่อที่ร่วงติดดิน ยังไงก็ไม่คุ้มครับ
ถ้าคุณลังเลระหว่าง Hybrid กับ Premium car แบบ C class หรือ Series 3 แล้วต้องการใช้รถ 5 - 8 ปี ไม่สนใจภาพลักษณ์ เลือก Hybrid ตัว Top ครับ option ครบ สวย ประหยัดน้ำมัน นั่งสบาย เบาะหลังปรับเอนได้ ประหยัดไปได้หลายแสนทั้งค่าซ่อมและราคารถและประกันภัย ต่อให้สุดท้ายแล้วใช้แปดปีขายได้ 3 แสนก็เถอะ
ผมคิดแบบนี้ครับ จากใจคนเคยใช้ C Class
-
ณ ตอนที่คุณขายไม่รู้ราคาครับ
แต่ที่แน่ๆ โรงงานผมซื้อมา 1.7 ล้าน
เปลี่ยนแบตไป 1 แสนนิดๆ
ขายได้ 4.5 แสน รถใช้ 5 ปี
โห
-
หากกังวลราคาขายต่อ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็น ราคาขายต่อแคมรี่แย่กว่า ซีรี่ย์ 3 อีกครับ รถ 5 ปีจาก 1.8 เหลือ 7แสน
ซี่รีย์ 3 2.2 ล้านเหลือ 1.3 ล้าน
-
ราคาขายต่อที่ตกจะต่างกันเท่าไรกันเชียว...ก็ประมาณว่า 210,000 ที่จ่ายเกินมากับรุ่น HV Premium ตอนขายที่ 5 ปี ไม่ได้คืนมาน่ะครับ ก็ต้องชั่งใจว่า คุ้มค่ากับของที่ได้มาหรือเปล่า
ถ้ารุ่นใหม่นี้ ผมก็ว่าคุ้มนะครับ โดยเฉพาะพวก active safety ที่ให้มาเฉพาะรุ่นท้อปสุดเท่านั้น รุ่น 2.5 G ไม่มีเลย
คุ้มกับค่าน้ำมันที่ต่างกันไหม...อันนี้ก็แล้วแต่การใช้รถนะครับ
อัตราเร่ง ตีนต้น ยังไงๆ ไฮบริดดีกว่าแน่นอนครับ กดปุ๊บมาปั๊บ ไม่มีรอรอบ รอเปลี่ยนเกียร์ ถ้าต้องการความปู๊ดป๊าด ยังไงๆรุ่น 2.5 G ก็สู้ไม่ได้แน่นอน
จุกจิกกว่าไหม...ผมว่าไม่นะครับ ก็แค่ต้องเปลี่ยนแบตตอนมันเจ๊งครับ ของผมแคมรี่ ไฮบริดตัวเก่า แบตพังที่ แสนกิโล ครับ ตอนนั้นรอแบตจากญี่ปุ่น 3 สัปดาห์ครับ แต่ก็ยังใช้รถได้อยู่นะครับ ไม่ต้องจอดทิ้งไว้รออะไหล่ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น (เห็นว่าตอนนี้ไม่ต้องรอจากญี่ปุ่นแล้ว มีโรงงานทำแบตในเมืองไทยแล้ว)
...แต่ด้วยความที่มันมีอายุขัยค่อนข้างแน่นอน ก็เดาว่า อนาคต ก็ต้องเปลี่ยนอีกแน่นอน แล้วถ้าใช้ยาวๆนานๆเกินสิบปีละ ทั้งราคาขายต่อไม่เหลือ แล้วยังจะต้องมาเสียตังค์เปลี่ยนแบตเพิ่มเติมจากอะไหล่ของรถสันดาปล้วนอื่นๆอีก ถ้าคิดว่าไม่ใช้รถจนหมดประกันแบตแน่นอน ก็ไม่ต้องกังวลจุดนี้ครับ
-
2.5G 2012 1.55 ล้าน
ใช้ 5 ปี วิ่ง 70,000 km. ขายได้ 6.5 แสนบาท
ขาดทุน 9 แสนบาท
ซื้อรถราคาเกินล้านบาท หากไม่ใช้ยาวๆ เกิน 10 ปี up มองมุมไหนก็ไม่คุ้ม
ตอนขาย คนซื้อเขาไม่สนใจหรอกว่า รถคุณ 2.5 นะ หรือ hybrid top นะ คนซื้อเขาสนแค่ ถ้าคุณจะขาย คุณก็ต้องตั้งราคาไล่ๆ กับรุ่นราคาถูกสุดคือ 2.0G สภาพดีๆ ปีเดียวกัน และให้แพงกว่ากันได้ไม่เกิน 50,000 บาท
-
ถ้าเงินไม่ใช่ประเด็น คือเพิ่มได้ เอาคันที่ชอบครับ
ซื้อรถ มันมีคุณค่าเรื่องอารมณ์และความพอใจมาผสมด้วยครับ ไม่รู้จะประเมินเป็นตัวเงินยังไงเหมือนกัน
ดีกว่าซื้อเพราะคุ้มเป็นหลัก แต่เจอรุ่นที่ชอบทีไรบนถนนหรือตามลานจอดรถก็แอบมองทุกครั้ง แล้วแอบเสียดายว่า รู้อย่างนี้....
ปล. ผมว่าตัว Top คุ้มสุดครับ ; 2.5 มันกั๊กเเกินไปครับ
ญาติผมตอนแรกกะจองแค่ 2.0 ไปลองมา 2-3 รอบ จะไปตัว Top แทนละครับ
-
ถ้าห่วงตอนขายต่อ ไฮบริดจะดูไม่น่าสนเลยครับ