Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ภูมิใจไหม? ที่ พฤศจิกายน 17, 2018, 13:43:48
-
รถคือ BRZ M/T
เวลา shift gear จะมีไฟลูกศร indicator ชี้ขึ้น กระพริบ ๆ เพื่อส่งสัญญาณเตือนว่าเป็นเวลาเหมาะที่สุดที่จะเพิ่มเกียร์
(คนละอันกับ shift indicator สีแดงที่จะกระพริบเมื่อถึง Red line นะครับ)
โดยมันจะยึดเอาความประหยัดเป็นหลัก
ซึ่งรอบที่มีไฟ indicator กระพริบคือรอบประมาณ 2300 rpm
อยากถามว่า เมื่อวิ่งความเร็วคงที่ที่เกียร์สูงสุดคือเกียร์ 6 รอบเครื่องที่ประหยัดน้ำมันที่สุดของรถผมอยู่ที่เท่าไหร่ครับ?
ก. ต่ำกว่า 2000
ข. 2000 เป๊ะ
ค. 2300
ที่ผ่านมาในรถคันอื่น ผมใช้ความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์ อาจเป็นไปได้ว่าผมทำผิดมาตลอดครับ
-
ยิ่งรอบต่ำสุดยิ่งประหยัดครับ เหตุผลคือ
ยิ่งรอบต่ำแรงเสียดทานจากเครื่องยนต์ ยิ่งน้อย เลยทำให้ประหยัด
แต่ในชีวิตจริงอาจจะใช้งานลำบากโดยเฉพาะ MT เพราะมันจะไม่มีtorqueสำหรับเร่งหรือแซงเลย
ผิดกับatแค่คิกดาวน์ เกียร์ก็เปลี่ยนเพิ่มรอบแล้ว
ส่วนเกียร์อื่นๆ จะมีเตือนเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ2000++ เพื่อให้เกียร์ต่อไปยังคงมีtorqueบ้างจะได้ใช้งานง่ายขึ้นครับ
-
shift gear ที่แจ้งมา น่าจะเป็นรอบสูงสุดที่เกียร์นั้นใช้แล้วให้เพิ่มเกียร์รึเปล่าครับ ส่วน redขline indicator น่าจะเป็นรอบสูงสุดที่จะใช้งาน ส่วนรอบที่ประหยัดสุดที่เกียร์สุดท้ายคือรอบที่ต่ำสุด ณ เกียร์สุดท้ายทำได้นั่นละครับ
-
รอบต่ำสุดที่ยังสามารถรักษาความเร็วที่ต้องการให้คงที่ได้ครับ ถ้าoverdriveแล้ววิ่งช้าเกินแรงจะหมดก็จะเปลืองตอนต้องกดเพิ่มอยู่ดี
-
ยิ่งรอบต่ำสุดยิ่งประหยัดครับ เหตุผลคือ
ยิ่งรอบต่ำแรงเสียดทานจากเครื่องยนต์ ยิ่งน้อย เลยทำให้ประหยัด
แต่ในชีวิตจริงอาจจะใช้งานลำบากโดยเฉพาะ MT เพราะมันจะไม่มีtorqueสำหรับเร่งหรือแซงเลย
ผิดกับatแค่คิกดาวน์ เกียร์ก็เปลี่ยนเพิ่มรอบแล้ว
ส่วนเกียร์อื่นๆ จะมีเตือนเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ2000++ เพื่อให้เกียร์ต่อไปยังคงมีtorqueบ้างจะได้ใช้งานง่ายขึ้นครับ
รอบต่ำเกินไปที่เกียร์สูงสุดไม่น่าจะประหยัดนะครับ
แต่ปัญหาคือ ผมไม่ทราบว่ารอบที่พอดี ไม่สูงไม่ต่ำเกินไปนั่นมันอยู่ตรงไหนครับ?
-
คุณดูง่าย ๆ ทอล์คสูงสุดที่รอบต่ำสุดอยู่ที่เท่าไรก็ตรงนั้นแหละครับ
-
รถมีกราฟแสดงความประหยัดไหมครับ
ในรถ AT,CVT ปัจจุบัน มักจะมี ผมใช้กราฟนั้นในการเรียนรู้เพื่อขับประหยัดครับ
ทำให้เราจับได้ว่า ในการวิ่งขณะนั้น ควรใช้คันเร่งอย่างไรให้ประหยัดสูงสุด โดยที่ไม่ได้ขับช้าผิดปกติ นะครับ
หรือ ความเร็วเดินทางช่วงไหน ให้อัตราสิ้นเปลืองดีสุด ของคันนั่นๆ(แต่ละคันไม่เท่ากัน)
ทีนี้ไม่รู้รถ MT จะมีไหมครับ
-
ถ้าเป็น M/T ต้องดูที่กราฟแรงบิดเครื่องครับว่ากองแบบไหน พยามใส่เกียร์สุดท้าย ให้เข้าใกล้ช่วงกองแรงบิดหน่อยครับ ต่ำไปไม่มีแรง สูงไปก็เปลือง ส่วน A/T ง่ายๆ เกียร์สุดท้ายตัดที่ความเร็วไหน ก็นั่นแหละครับน่าจะประหยัดสุดแล้ว อันนี้ว่าด้วยเรื่องทางเรียบ รถโล่งนะครับ
-
เห็นว่าอิสุๆที่จัดงานแข่งกัน ตัดเข้าเกียร 4 รอบต่ำสุดแค่พันต้นๆ ไม่เกินพันสอง
แต่ถ้าเข้าเกียร 5 หรือ 6 รอบต่ำสุดจะอยู่แถวๆพันหก เค้าคงคิดมาเผื่อแรงต้านอากาศแล้ว
ถ้าขับที่เกียร 4-5 ความเร็วช้ามากๆ และรอบต่ำสุดๆ คือประหยัดสุดๆ
แต่ประเด็นคือจะทนขับแบบนั้นไหวหรือเปล่า
ผมว่าอย่าซีเรียสเลยครับ ยืนพื้น 90-100 ถ้าเข้าเกียร 6 ได้ ก็ประหยัดแล้ว
-
ที่ผมเคยลองกับ jazz at ที่เกียร์ 5 รอบต่ำสุดไม่ได้ประหยัดสุดนะครับ ของผมอยู่ประมาณ 90 รอบเกือบๆสองพัน
แต่ fortuner หน้ายักษ์ เข้าเกียร์ 4 ความเร็ว 80 รอบ 1500 ประหยัดสุดครับ
แต่ผมดูจากจอบอกอัตราบริโภคน้ำมันนะครับ ไม่รู้ว่า 86 mt มีจอนี่บอกรึเปล่าครับ
-
ลองดูครับ รอบต่ำอาจจะไม่ประหยัดเสมอไป
https://youtu.be/iNspNdVkslA
-
เปิด MID แบบ real time ดูครับ แม่นสุดละ
รอบต่ำใช่ว่าจะประหยัดสุด รอบต่ำแต่ไปได้ช้า วิ่งระยะทางน้อยก็ไม่ประหยัดสุด
ต้องดูรอบที่เหมาะสมระหว่างน้ำมันที่ใช้ กับระยะทางที่วิ่งได้
-
ยิ่งรอบต่ำสุดยิ่งประหยัดครับ เหตุผลคือ
ยิ่งรอบต่ำแรงเสียดทานจากเครื่องยนต์ ยิ่งน้อย เลยทำให้ประหยัด
แต่ในชีวิตจริงอาจจะใช้งานลำบากโดยเฉพาะ MT เพราะมันจะไม่มีtorqueสำหรับเร่งหรือแซงเลย
ผิดกับatแค่คิกดาวน์ เกียร์ก็เปลี่ยนเพิ่มรอบแล้ว
ส่วนเกียร์อื่นๆ จะมีเตือนเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ2000++ เพื่อให้เกียร์ต่อไปยังคงมีtorqueบ้างจะได้ใช้งานง่ายขึ้นครับ
คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ
ช่วงรอบต่ำ พลังงานที่ได้จากการเผาไหม้ จะสูญเสียไปกับระบบระบายความร้อนครับ รอบที่ให้ความประหยัดสูงสุดของเครื่องยนต์ลูกสูบ 4 จังหวะส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆ 2,200 - 2,300 รอบ/นาที ครับ
-
ประหยัดสุดคือรอบต่ำสุดที่เกียร์สูงที่สุดครับ
ก่อนที่สมองของรถจะเลือก shift down
ความเร็วที่ประหยัดที่สุดก็ตามนั้นครับ
ปล.ขับ 80-100 แบบความเร็วคงที่ตลอดทางก็ประหยัดมากๆแล้วนะครับ
Eco car นี่ได้เกิน 20 km/l แน่ๆครับ
-
ยิ่งรอบต่ำสุดยิ่งประหยัดครับ เหตุผลคือ
ยิ่งรอบต่ำแรงเสียดทานจากเครื่องยนต์ ยิ่งน้อย เลยทำให้ประหยัด
แต่ในชีวิตจริงอาจจะใช้งานลำบากโดยเฉพาะ MT เพราะมันจะไม่มีtorqueสำหรับเร่งหรือแซงเลย
ผิดกับatแค่คิกดาวน์ เกียร์ก็เปลี่ยนเพิ่มรอบแล้ว
ส่วนเกียร์อื่นๆ จะมีเตือนเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ2000++ เพื่อให้เกียร์ต่อไปยังคงมีtorqueบ้างจะได้ใช้งานง่ายขึ้นครับ
คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ
ช่วงรอบต่ำ พลังงานที่ได้จากการเผาไหม้ จะสูญเสียไปกับระบบระบายความร้อนครับ รอบที่ให้ความประหยัดสูงสุดของเครื่องยนต์ลูกสูบ 4 จังหวะส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆ 2,200 - 2,300 รอบ/นาที ครับ
มีลิงค์ หรือ เวปอะไรที่เป็นหลักฐานอ้างอิงไหมครับ ว่าต้อง 2,200-2,300รอบ
ผมขับ mazda 3 นี่ขับ60-70 กม/ชม รถขึ้นเกียร์6 ซึ่งเป็นเกียร์สุดท้าย
รอบตกไปที่ พันห้า-พันหกร้อยรอบตลอดซึ่งนั่นก็เป็นรอบที่น่าจะต่ำที่สุดที่ผมอ้างอิงถึงแล้ว (<2,000รอบ)
รถรุ่นใหม่ๆที่มีหลายๆเกียร์ หรือ เกียร์cvt ก็เป็นแนวๆนี้เหมือนกันหมดคือ เวลาขับ60-80 บางคันขึ้นเกียร์สูงสุด และรอบต่ำกว่าสองพันรอบ นี่พูดถึงรถเบนซินนะ
ถ้าดีเซลที่ผมทำทดสอบ 520d G30 ขับ 80 แช่ๆไว้นี่รอบ แค่1,200 รอบเท่านั้นเอง ที่เกียร์สุดท้าย(เกียร์8)
ผมเองก็ยังนึกเหตุผลอื่นที่ต้องทำให้รอบต่ำๆเข้าไว้ไม่ออก นอกจากเหตุผลเรื่องความประหยัด
-
ยิ่งรอบต่ำสุดยิ่งประหยัดครับ เหตุผลคือ
ยิ่งรอบต่ำแรงเสียดทานจากเครื่องยนต์ ยิ่งน้อย เลยทำให้ประหยัด
แต่ในชีวิตจริงอาจจะใช้งานลำบากโดยเฉพาะ MT เพราะมันจะไม่มีtorqueสำหรับเร่งหรือแซงเลย
ผิดกับatแค่คิกดาวน์ เกียร์ก็เปลี่ยนเพิ่มรอบแล้ว
ส่วนเกียร์อื่นๆ จะมีเตือนเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ2000++ เพื่อให้เกียร์ต่อไปยังคงมีtorqueบ้างจะได้ใช้งานง่ายขึ้นครับ
คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ
ช่วงรอบต่ำ พลังงานที่ได้จากการเผาไหม้ จะสูญเสียไปกับระบบระบายความร้อนครับ รอบที่ให้ความประหยัดสูงสุดของเครื่องยนต์ลูกสูบ 4 จังหวะส่วนใหญ่จะอยู่แถวๆ 2,200 - 2,300 รอบ/นาที ครับ
ไม่ทราบว่าหมายถึงเฉพาะ MT หรือไม่
น่าจะขึ้นกับรถแต่ละคันครับ ชนิดของเกียร์ด้วย ครับ
ถ้า CVT นี่ฉลาดสุดเรื่องประหยัด
2.5 ลิตร CVT ต้องขับ 70-80 รอบเครื่อง 1250-1350 ได้ถึง 20 กม/ลิตร
1.5 ลิตร CVT ต้องวิ่ง 40-80 กม/ชม. เลี้ยงคันเร่งให้ดี 1100-1500 รอบ กินพอๆกัน 20 กม/ลิตร ขึ้นตลอด
ทั่งหมดดูจากจอแสดงการสิ้นเปลือง ไม่มีหลอกครับ ตามนั้นจริง ขับตามจอนั่นแหละครับกินน้อยสุด
รถสมัยนี้ฉลาด จ่ายน้ำมันน้อยสุดตาม load ได้ทุกรอบเครื่องครับ ขับดีๆประหยัดเกือบทุกความเร็วที่ใช้ (ผมรู้สึกแบบนั้นนะครับ)
-
ลองให้คอมพิวเตอร์ของรถคำนวณให้แบบที่เพื่อนสมาชิกบอกเลยครับ
ถ้ามีทางและช่วงเวลาที่รถโล่งๆ
ตอนรอบ 2,300 ที่เกียร์ 5 พอเข้าเกียร์ 6 รอบตกลงมาเหลือเท่าไหร่
ลองขับให้นิ่งที่รอบนั้น (ถ้ามี cruise control ก็ cruise เลย)
แล้วกด reset อัตราการกินน้ำมัน ขับไปซักพัก บันทึกตัวเลขไว้
แล้วเพิ่มและลดรอบทีละ 100 , ทำหมือนเดิม พอรอบนิ่ง กด reset อัตราการกินน้ำมัน
ขับไปซักพัก บันทึกตัวเลข
(เรื่องความคลาดเคลื่อนกับน้ำมันที่เติมจริงไม่เป็นประเด็น เพราะเราวัดเชิงเปรียบเทียบ
คอมพิวเตอร์เดียวกัน รถคันเดียวกัน ใช้คอมพิวเตอร์ของรถวัดได้เลย)
รถผมคันนึงเบนซิน เกียร์ออโต้ 5 สปีด
มันจะขึ้นเกียร์สูงสุดและ lock up จับก็ที่ความเร็ว 90 กม/ชม รอบเครื่องเหลือ 1,900
ถ้าความเร็วต่ำกว่านั้น มันลงเกียร์ต่ำให้ตลอด
(รถเก่าแล้ว เกียร์ออโต้รุ่นเก่า เล่นเกียร์เองไม่ได้ ไม่รู้เกียร์จะยาวไปไหน
แค่ 5 สปีด กว่าจะขึ้นเกียร์ 5 แล้ว lock up จับ ก็ต้องความเร็ว 90 กม/ชม)
จากที่ผมสังเกตุอัตราสิ้นเปลืองที่คอมพิวเตอร์ของรถคำนวณ
ถ้าขับนิ่งๆ ก็จะประหยัดสุดที่ความเร็ว 90 กม/ชม (รอบเครื่อง 1,900 ในเกียร์สูงสุด)
ถ้าขับเกินกว่านั้น อัตราสิ้นเปลืองก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น
อันนี้คือถ้าทางโล่งๆครับ
แต่ทางปฏิบัติ ถ้าทางไม่โล่งมาก มีรถคันอื่นๆใช้ถนนอยู่ด้วย ขับ 90 อาจไม่ประหยัดสุด
เพราะพอมีเร่งมีผ่อน พอผ่อนคันเร่ง ความเร็วตกมา 89 มันก็ลงเกียร์ต่ำให้ รอบเครื่องก็ดีดขึ้นไปอีก
ถ้าเร่งๆผ่อนๆให้ความเร็วผ่านขึ้นลงจุด 90 กม/ชม ขึ้นๆลงๆเกียร์อยู่อย่างนั้น ก็อาจไม่ประหยัด
ในทางปฏิบัติ (ถ้ามีรถอื่นรอบข้างแบบ flow ไปด้วยกัน)
ถ้าจะประหยัดสุด อาจต้องขับซัก 100 เพื่อพยายามให้เกียร์อยู่ในเกียร์สูงสุดตลอด
-
ขอบคุณทุกท่านครับ ที่แนะนำได้ละเอียดเป็นขั้นตอน
ผมยังต้องเรียนรู้ศึกษาดูใจรถคันใหม่ต่อไปอีก กว่าจะเข้าใจกันดีครับ