Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Newhang ที่ พฤศจิกายน 22, 2018, 12:08:34
-
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมกำลังจะออกจากหมู่บ้านออกถนนใหญ่ เวลาประมาณ17.30น.และผมก็พยายามมองเค้าจะมาทางตรงหรือเข้าซอยหมู่บ้าน แต่ผมกลับมองไม่ออกว่าเค้าตีไฟเลี้ยวอยู่รึเปล่า จนรถเข้ามาใกล้มากๆถึงเห็นลางๆวางเปิดไฟเลี้ยวอยู่แล้ว
รถคันนั้นเป็น altis mc ที่มีไฟเดย์ไลท์อยู่ที่ไฟหน้าด้านใน4-5จุด และไฟเลี้ยวก็อยู่ตรงแถวเดย์ไลท์
ผมเลยมีคำถามว่า เดี๋ยวนี้สายตาผมไม่ดีรึเปล่าครับ มีใครเป็นเหมือนผมบ้าง แล้วมีรถรุ่นไหนเป็นแบบนี้บ้าง
ผมสังเกตุว่ารถบางรุ่นถ้าเปิดไฟเลี้ยว เดย์ไลท์ข้างนั้นจะดับลง เพราะเรื่องแบบที่ผมเป็นรึเปล่า
-
ตกเย็นแล้วรีบๆเปิดไฟปัญหานี้ก็จะหมดไป แต่ส่วนมากผมเห็นรถที่มีDRLเปิดไฟช้ามากจนถึงไม่เปิดเลยจึงเป็นปัญหา
ส่วนแบรนด์ที่หรี่DLRลงหรือดับไปเลยเวลาเปิดไฟเลี้ยว แสดงว่างานออกแบบค่อนข้างใส่ใจอย่างฟอร์ด หรือมาสด้าใส่เกียร์PหรือNไฟก็ดับ
-
จริงๆๆมันควรอยู่นอกโคมไฟหน้า ย้ายมาไว้จุดข้างล่างก็ได้
-
ผมก็ไม่เข้าใจว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้อยอดนิยมยุคนี้ใันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงชอบออกแบบให้ไฟเลี้ยวมุดเข้าไปมุมในโคมแบบนั้น คือคนออกแบบไม่รู้จะเอาไปไว้ส่วนไหนของโคมแล้วหรือไง รถยุโรปเขามี DRL ถ้าไม่ใช้เส้น DRL เป็นไฟเลี้ยว เขาก็จะออกแบบให้ไฟเลี้ยวอยู่ตรงมุมด้านนอกเพื่อสังเกตเห็นได้ชัด
เมื่อวานก็เจอ Mazda รุ่นนึงที่ไฟเลี้ยวตรงกระจกมองข้างดันออกแบบไว้ตรงสันขอบ คือจุดมุ่งหมายเขาให้รถด้านข้างสังเกตเห็น แต่เอาไฟไปไว้ตรงขอบที่แทบมองด้านข้างนี่ไม่มีโอกาสเห็นเลย แย่มากๆ
-
วันก่อนก็เกือบกับ Altis MC เหมือนกันครับ .. ไม้รู้คนออกแบบคิดได้ยังไง ... จริงๆไม่ต้องให้เวลาเปิดไฟเลี้ยวแล้วดับก็ได้ แค่เอามันไปอยู่ห่างๆกันหน่อยก็ได้แล้ว
ปล. นึกว่าตัวเองตาไม่ดีเหมือนกัน
-
เป็นเหมือนกันครับ รถที่เอาไฟเลี้ยวไปไว้ใกล้ไฟ DRL แล้วเวลาเปิดไฟเลี้ยวมันไม่หรี่หรือดับเนี่ย มันทำให้ความเด่นของไฟเลี้ยวหายไปเยอะ
-
รถสมัยนี้ DRL สว่าง จนทำให้เวลากลางคืนหลายคันลืมเปิดไฟหน้า ปัญหามาเกิดกับรถที่ขับตามหลัง เพราะไฟท้ายไม่ติด จะชนตูดเอา
จริงๆรถที่มีDRL น่าจะต้องมีไฟหน้าAutoควบคู่ไปด้วย จะได้สลับกันทำงานตามช่วงเวลา
-
ผมว่า drl จำเป็นต้อง dim ลงเพื่อให้ไฟเลี้ยวชัดเจน เช่นรถยุโรปทั่วๆไป และถ้าจำไม่ผิดเช่นใน MG ZS (เรื่องเดียวที่ผมชื่นชม)
นอกนั่นทำมาเหมือนทำเพื่อให้เห็นว่ามี แต่ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ ว่าไฟเลี้ยวจะทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อความปอดภัยได้หรือไม่
และเห็นด้วยกับความคิดบน ที่รถระดับล่างๆเริ่มใส่มาให้ ควรมีควบคู่กับระบบ auto ด้วย เพราะบางรายโพล้เพล้ไม่เปิดไฟ แสงแยงตามากครับ
-
Taxi บางคันตัดสาย Dim เมื่อเปิดไฟออก สว่างจนแทบอยากจะปาอะไรใส่กระจก
-
Toyota อาจจะลืมนึกไปมั้งครับ
-
หลายๆยี่ห้อของยุ่นเลยครับ ที่ไม่ทำให้ไฟกลางวัน หรี่ลงตอนเปิดไฟเลี้ยว :(
-
ออกแบบมาแบบงี่เง่าไง รู้ว่าอยู่ตรงโคมแต่ดันไม่ยอมให้ Dim ไม่ก็ดับ DRL เวลาไฟเลี้ยวติด
-
ผมว่า drl จำเป็นต้อง dim ลงเพื่อให้ไฟเลี้ยวชัดเจน เช่นรถยุโรปทั่วๆไป และถ้าจำไม่ผิดเช่นใน MG ZS (เรื่องเดียวที่ผมชื่นชม)
นอกนั่นทำมาเหมือนทำเพื่อให้เห็นว่ามี แต่ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ ว่าไฟเลี้ยวจะทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนเพื่อความปอดภัยได้หรือไม่
และเห็นด้วยกับความคิดบน ที่รถระดับล่างๆเริ่มใส่มาให้ ควรมีควบคู่กับระบบ auto ด้วย เพราะบางรายโพล้เพล้ไม่เปิดไฟ แสงแยงตามากครับ
เห็นด้วยครับ รถยุโรปที่ใช้อยู่จะDim DRLเวลาเปิดไฟเลี้ยวหรือเปลี่ยนไฟDRLเป็นไฟเลี้ยวอย่างในS Classก็มี
-
เท่าที่เห็นถ้าเป็นพวก chr หรือ lexus ที่เป็นไฟเลี้ยววิ่งจะเห็นชัดไม่เเน่ใจว่าตอนเปิดไฟเลี้ยว chr daylight ดับไหม ส่วนหลายคัน ไฟเลี้ยวกับ daylight ตำเเหน่งมันทับๆกันยิ่งถ้าเเสงสะท้อนยิ่งมองยากไปอีก
-
โดยส่วนตัวผมสังเกตไฟเลี้ยวทั้งใน โคมไฟหน้าและที่กระจังมองข้างครับ
-
เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่ามี MG ด้วยที่ีไม่ข้ามรายละเอียดจุดนี้ ก่อนหน้านี้ ถ้าไม่นับรถ Premium จากค่ายยุโรปทั้งหลาย สำหรับรถทั่วๆไปผมเห็นแต่ Ranger / Everest นะที่ไฟ DRL ข้างนั้นจะดับเมื่อเปิดไฟเลี้ยวด้านนั้น แสงจะไม่กวนกันเห็นชัดเจนจุดนี้ใส่ใจดีมากเพราะรุ่นอื่นๆที่เหลือ คือ แสง DRL กลืนแสงจากไฟเลี้ยวเกือบทุกคัน บางคันดีหน่อย ที่ตำแหน่ง DRL กับไฟเลี้ยวบนโคมไม่ใกล้กันก็พอเห็น บางคันนี้ไฟอยู่ติดกันมองยากมาก
-
รถผม เปิดไฟเลี้ยว ไฟ DRL จะดับ ครับ
คงแล้วแต่คัน และ ก็การดีไซต์ แต่จริงๆ มันจะเป็น เปิดไฟเลี้ยว ไฟ DRL จะดับ ป้องการการมองไม่เห็นไฟเลี้ยว เพราะไฟ DRL บางคันแสงจ้ามาก บางคันใช้ DRL แทนไฟหน้ารถ ยังไม่เลย ผมเจอประจำ 2-3 ทุ่ม บนทางด่วน วิ่งไม่เปิดไฟหน้ารถ วิ่งตามหลังมืดๆ ตะคุ่มตะคุ่ม นึกว่าอะไร(รถสีทึบๆ) พอเราแซงไป มองกระจกหลัง เห็นแต่ DRL
-
รถที่บ้านเวลาเปิดไฟเลี้ยว DRL ข้างนั้นจะดับ
และเห็นด้วยเรื่องรถที่มี DRL ควรจะเปิดไฟหน้าทันทีที่ฟ้าเริ่มจะคลึ้ม ไม่ต้องรอให้ฟ้ามืด
แต่ใจจริงอยากให้เป็นกฎไปเลยว่า รถทีติดตั้ง DRL ต้องมีระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติมาคู่กันด้วยเสมอ และต้องเป็นแบบที่ไม่มีสวิตท์ปิดด้วย (แบบเดียวกับ Revo / Fortuner)
-
Altis
Fortuner
ไฟเลี้ยวหน้า
มองไม่เห็น เลย หลอดไฟก็เล็กกกกกกกกกกกก ไม่รู้จะ งก ไปไหน สว่างได้แค่ กระเปาะ เดียว
จะชนเขาหลายรอบแล้วครับ เผลอ ด่าไปทุกทีว่าไม่เปิดไฟเลี้ยว ทีไหนได้ DRL กลบหมด
-
Benz ไฟเดย์ข้างนั้นจะดับไปเลยเวลาเปิดไฟเลี้ยว แรกๆมองแล้วตลก แต่ความปลอดภัยถือว่าชัดเจนดี
ส่วนไฟเลี้ยวท้ายรถญี่ปุ่นใหม่ๆโคมก็ใส ช่องไฟเลี้ยวก็เล็ก แดดแยงไล่ท้ายมามองไม่เห็นเลย
-
All new volvo ที่เป็น Daylight เป็นทรงค้อนทอร์ จะเป็นไฟเลี้ยวไปเลยในตัว
ผลที่ได้ ไฟเลี่ยวเห็นชัดมากครับ เพราะ ไฟสีส้มสว่างแรงจนสังเกตุได้ เลยไม่เกิดปัญหาเหมือนที่เจ้าของกระทู้เจอครับ
-
เบื่อโคมไฟเลี้ยวของโตโยต้ามากๆ ดวงก็เล็ก มองก็ไม่เห็น เป็นทั้งไฟหน้าและไฟท้าย ลำบากคนใช้ถนนร่วม
เบื่อพวกไม่เปิดไฟเลี้ยวก็มากพออยู่แล้ว ยังต้องมาเบื่อการออกแบบไฟที่ไม่ได้เรื่องอีก
หวังว่าพอข้ามผ่านไป Tube LED แล้วจะหมดปัญหาไป เป็นปัญหาหลอดชอบขาดแทน เห้อ :-\
-
ง่ายๆ เอาแบบ Ford Ranger ก็ได้นะ เปิดไฟเลี้ยวข้างใน DRL ข้างนั้นดับ
-
ตามกฏหมาย ตอนนี้ ถ้า daylight อยู่ติดกับ ไฟเลี้ยว ข้างไหน เปิดไฟเลี้ยว daylight ข้างนั้นต้องดับนะครับ เช่น everest cayens ที่เจอบ่อยๆ
-
บ้างรุ่นออกแบบไฟเลี้ยวเล็ก ที่กระจกมองข้างก็เล็ก เปฺดแล้วแทบไม่เห็น เวลากลางแดด
-
Toyota ออกแบบไฟโคมไฟหน้าโดยมีไฟเลี้ยวได้ดูยากมากครับดวงเล็กแถมยังอยู่ฝั่งติดกระจังหน้าแบบขี้ตาตอนเพิ่งตื่นมาใหม่ มีหลายครั้งที่รถคันนั้น เช่นยาริส
ฟอร์จูนเนอร์ จะเลี้ยวออกจากซอยแต่มองไม่เห็นนี่สิครับ เพรื่อว่าไฟเลี้ยวไปอยู่ด้านฝั่งกระจังหน้าอันเป็นจุดบอดต่อคนใช้ถนนร่วมกันครับ
-
เห็นด้วยอย่างแรงเลยครับ เป็นแบบนี้ซะหลายรุ่นเลย ไม่รู้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวกับสัญญาณ ไฟแสงสว่างอะไรพวกนี้กันมาได้ยังไง หรือไม่มีการทดสอบอะไร คือต้องใช้ความตั้งใจในการดูไฟเลี้ยวรถพวกนี้มากเกินไป แทนที่จะมองแว๊บๆ แล้วเห็นได้ชัดเจนเลย
-
อยากจะให้ขนาดของไฟ ใหญ่ขึ้นด้วยนะครับ
CR-V ตัวปัจจุบัน ไฟเลี้ยวด้านท้าย เป็นขีดเล็กๆ เอง
อาจจะคิดว่ามันสว่างพอแล้ว แต่บางทีแดดจ้าๆ มันมองไม่ชัดนะครับ
-
จริงๆน่าจะทำแบบรถยุโรปนะครับ DRL เปลี่ยนเป็นไฟเลี้ยวในตัวได้ สวยและคมชัดอีกตะหากประหยัดพื้นที่โคมที่จะแบ่งไปใส่หลอดไฟเลี้ยวอีกด้วยนะผมว่า
-
Dmax1.9 2018 ที่เป็นไฟหน้า led.ก็เช่นกันไฟเลี้ยว
เล็กมากเอาไปยัดไว้ด้านในโคมมองเห็นยาก
ต่างจากรุ่นเดิม 2017ที่ผมใช้ไฟเลี้ยวอยู่ด้านบนสุด
ของโคมรากยาวทั้งโคมเลยสว่างเห็นง่าย
ถึงแม้ว่า DRL จะไม่ได้หรี่ไฟลงหรือดับไปเลย