Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Naow27 ที่ สิงหาคม 01, 2010, 00:17:49
-
จริงๆแล้วกระทู้นี้ก็อยากตั้งมานาน แต่ยังไม่มั่นใจในหลายเรื่อง (ไม่ว่าจะกลัวผิดกฎ กลัวนู่น กลัวนี่!!)
ดังนั้นหากไม่เหมาะสม ขออภัยในมา ณ ที่นี่ด้วยครับ
_____________________________________________________________________
กระทู้นี้จะมาในเชิงการตลาดที่ว่า"คุณจะทำอย่างไรให้รถรุ่นดังกล่าว มีกระแสตอบรับที่พู่งกระฉูด"
ประเดิมครั้งแรกด้วย Ford Fiesta ที่ผมคิดว่าโอกาสแป็กมีสูงอยู่ ดังนั้นถ้าสมมุติว่าคุณเป็น
หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Ford Fiesta คุณจะทำอย่างไรเพื่อให้โอกาสแป็กนั้นลดลง??
-
สังคายนาฝ่ายการตลาดทั้งชุด จบ
เหอะๆ
-
อย่างแรกเลย ปรับภาพลักษณ์ศูนย์บริการซะใหม่
เปลี่ยนหนังสั้นให้เข้ากับคอนเซป
บอกกำหนดเวลาการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไม่เลื่อนไปเลื่อนมา
นำรุ่นดีเซลมาขายด้วย
-
ทำหนังโฆษณาใหม่ทั้งหมด ไม่ใช้ปล่อยรถให้เพ่นพล่านไปตามโชว์รูม
ศึกษาความต้องการของผู้บริโภคให้มากกว่านี้
ตบตีกับฝ่ายบัญชีแล้วทุ่มงบในการโฆษณา(รวมทั้งไม่ทำ Mini Series น้ำเน่าแบบนี้)ให้มากกว่านี้
-
ขั้นแรกไปโชว์รถในวันหยุด ในสถานที่คนเค้าฮิตๆ ไปกัน เอาไป หลายสีหลายรุ่นหน่อย อีกทั้งเอาไปวิ่งเยอะๆหน่อย
เอาไปจอดตามสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ คนที่ขับให้ข้อมูลบ้างถ้าคนถาม
เริ่มทำโฆษณาแบบโชว์รถวับๆแวมๆ เอาจุดที่สวยที่สุดเห็นแบบแว๊บๆๆ พร้อมโชว์เทคโนโลยีที่ละอย่างของรถ
ต่อจากนั้นเริ่มเอารถลงโชว์รูมรอคนทดสอบ
พอเริ่มใกล้เปิดตัวก็รุกหนักจัดอีเวนส์ ต่อยอดโฆษณาวับๆแวมๆ เป็นตัวเต็ม พร้อมชูจุดเด่นพร้อมในโฆษณา
รถวิ่งโชว์ในสนามจัดสื่อทดสอบ โหมโฆษณา สุดท้ายให้พี่ จิมมี่และคณะมาเทส ;D ทีนี้ ATT แย่งไลน์
กับมาสด้า2 สรุปทั้ง2ค่ายผลิตไม่ทัน คนด่า อ่าวกำ ไม่ช่ายๆ สุดท้ายก็แฮปปี้ ;D
-
มีของดีในมือ ดันทำมาร์เกตติ้งแบบนี้นี่ปวดตับ อยากไปลองสมัครฝ่าย PR ดูมั่ง - -*
ฟิเอสต้ามันประหยัดน้ำมันไม่ใช่เรอะ ถ้าจะเอาคอนเซปท์หนังสั้นจริง ๆ ก็
- ชายหนุ่ม ขับรถจาก กทม. (น้ำมันเต็มถัง)
- ชายหนุ่ม รับแฟนที่ เชียงราย/ ยะลา (น้ำมันลงมานิดหน่อย)
- ขับกันไปเที่ยวที่ ฝั่งตรงกันข้ามกันจังหวัดตะกี้ (น้ำมันเถิบลงมา)
- ชายหนุ่มไปส่งแฟนที่บ้าน (น้ำมันหนึ่งถัง ยังเหลือ)
ระหว่างนี้อยากจะโชว์ Power ของเล่นอะไรในเฟียสต้าก็ทำได้เยอะแยะ
นี่เอาแบบคิดง่วง ๆ นะเนี่ย :-[
-
หนังโฆษณา
- ตอนแรกถ่ายที่แม่สายและใครก็ได้โทรมาบอกว่า "มีเรื่องด่วนที่สงขลา ให้ไปด้วย"
- แล้วบอกว่า เรื่องแค่นี้เอง แล้วขับ
- ระหว่างขับให้มีการแซง jazz,yaris,mz2,swift บนถนน (หรือไม่ก็ vigo รถบรรทุก อะไรก็ตามแต่)
- ระหว่างทางก็เจอตัวซีดานประกบคู่ และขับผ่านปั๊มน้ำมัน (ที่มี Aveo,Vios,City,MZ2 sedan อยู่ด้วย)
- เล่นจุดเด่นรถ พวกควบคุมเสียง อะไรก็ตามแต่
- พอถึงที่ คนที่โทรมาก็ถามว่า ทำได้ไงเนี่ย แล้วตอบกลับว่า เรื่องแค่นี้เอง
ก่อนเปิดตัว
-ตอนมอเตอร์โชว์ เอารถมาโชว์พร้อมเปิด FB เกี่ยวกับรุ่นนี้พร้อมประกวดการตั้งออปชั่นรถ และราคาแข่งกัน
(ใครชนะได้ Fiesta)
- ซัก 2 เดือนก็มีคู่มือการขาย
- เปิดทีเซอร์ก่อนเปิดตัว 3 สัปดาห์
เปิดตัว
- จัดงานที่อิมแพค และเปิดให้คนเข้าชม 3 วัน (หลังเปิดตัว 2-3 วัน) โชว์หมดทุกอย่างทั้งเบาะนั่ง เครื่องเสียง ความปลอดภัย
- ระหว่างนั้้นก็มีโรดโชว์ ตามเชียงใหม่ โคราช ภูเก็ต ชลบุรี กรุงเทพ
- เป็นไปได้มี Fiesta โชว์ขับแบบผาดโผนในวันเปิดตัว
- สั่งปรับปรุงศูนย์บริการที่มีอยู่
-
ลองประกาศว่ามีรุ่นดีเซลดูสิ คนแห่ไปจองเยียบกันตายแน่ "แต่อย่าเลย" สงสารคนที่จอง Eco Car ไว้แล้ว
-
ปรับปรุงศูนย์บริการใหม่ทั้งหมด ให้มีมาตรฐานเหมือนกันทั้งประเทศ
ศูนย์ไหนไม่ทำ ไม่ให้เป็นดีเลอร์อีกต่อไป
(แน่นอนว่าต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพลักษ์ใหม่ด้วย)
เอาตัวดีเซลมาขาย ถึงแม้ว่าตอนนี้ไม่มีเกียร์ออโต้
ก็เอาเกียร์ธรรมดานี่แหละขายไปก่อน
เน้นเรื่องความแรง และความประหยัด
ประชาสัมพันธ์ข้อดีสองข้อนี้ให้มากๆ แล้วลบความเชื่อเดิมๆ ของเครื่องดีเซลออกไปให้หมด
ประชาสัมพันธ์ข้อดีของรถให้เยอะๆ
ถ้าไม่รู้ ดูรีวิวของท๊อปเกียร์ ก็น่าจะบอกอะไรได้เยอะครับ
-
1. การตั้งราคาขายควรตั้งให้ถูกกว่าเจ้าตลาดส่วนต่างสัก 30,000 บาท
2. การบริการลูกค้าก็ต้องดีเลิศ ถึงเป้าหมายลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นนักเรียนนักศึกษาหรือวัยเริ่มทำงานก็เห่อะ รวมทั้งบริการหลังการขายด้วยนะ
แล้วนามที่ใช้เรียกลูกค้าห้ามใช้คำว่า "พี่ น้อง ป้า น้า อา" มันดูไม่เหมาะสม ให้ใช้คำว่า "คุณ หรือ คุณลูกค้า" แทน
3. ต้องมีฝ่ายดูแลเทคแคร์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับรู้ว่า "ให้ทุกวัน เป็นวันของคุณ" จริงๆ ให้โทรไปสอบถามความพึงพอใจในสินค้าและบริการ 1 สัปดาห์หลังซื้อ หลังจากนั้นอีก 1 เดือน อีก 3 เดือน และอีก 6 เดือน หลังจากนี้ทำตามความเหมาะสม
4. โฆษณาต้องดึงจุดเด่ดที่ค่ายอื่นให้ไม่ได้ออกมา
5. ออฟชั่นอยากให้เป็นแบบวอลโว่ ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เอง
แค่นี้ทำให้ได้ก่อน 55
-
[youtube]pRyLC9SisLM[/youtube]
เปิดตัวประมาณ นี้ก็ได้นะ
-
ทำเหมือนที่ชาวบ้านเค้าทำกันอะคับ
-
ลองประกาศว่ามีรุ่นดีเซลดูสิ คนแห่ไปจองเยียบกันตายแน่ "แต่อย่าเลย" สงสารคนที่จอง Eco Car ไว้แล้ว
ผมคิดว่า คนไทยทั่วไปหลายคน ยังรู้จักเครื่องยนต์ Diesel ในรถเก๋งไม่เท่าไหร่นะครับ
ไม่รู้จะยอมรับกันได้เปล่า ทั้งเรื่องราคา + เสียงดัง
-
ผลวิจัยการตลาดบอกว่า คนไทยชอบโฆษณาที่ใช้ดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือที่เรียกกันจนหรูหราว่า brand ambassador นั่นแหละครับ ถ้าอยากให้มันเกิด ลองหามาสักคน แบบมาสด้าสองที่ใช้เป้ เป็นต้น
อารมณ์ตัวโฆษณาแบบประมาณที่ทำหนังสั้นถือว่าดีอยู่แล้ว (คือสื่อสารบุคลิกผู้ใช้ที่นำเทรนด์ ทันสมัย เป็นคนทำงานยุคใหม่ที่บ้าเทคโนโลยี เพราะเจ๊แกเล่นใช้ไอแพด ไอโฟน4จี แกดเกจดีๆทั้งน้าน)
นอกจากนั้น การทำ PR และ Event ต่างๆก็สำคัญ แต่ต้องทำแล้วเกิด impact ไม่ใช่อิมแป้กแบบที่เห็นกัน คือจัดก็จัดงานใหญ่ไปเลย เน้นให้เกิดการบอกต่อ
บริการหลังการขายก็สำคัญ ทั้งศูนย์ โชว์รูม ควรปรับปรุงได้เสียที
แผนส่งเสริมการขายอาจจะเน้นการแถมประกันชั้น 1 หรือส่วนลดเงินดาวน์เงินผ่อน ดอกเบี้ยต่ำอะไรก็ว่าไป อาจจัดรายการส่งเสริมการขายสำหรับกลุ่มดีลเลอร์ควบด้วยก็ได้ (เช่นขายถึงเป้า จะมีสิทธิพิเศษหรือของรางวัลอะไรให้ก็ว่าไป)
ขี้เกียจลงรายละเอียดมากมาย เดี๋ยวจะกลายเป็นทำแผน IMC ให้เค้าไปซะฉิบ เอาเท่าที่นึกออกน่ะนะ เท่านี้ในภาพรวมก็น่าจะดีขึ้นบ้างละ คนซื้อก็อยากซื้อ(เพราะรถดี ข้อเสนอน่าสน หลังการขายน่าพอใจ) คนขายก็อยากขาย (เพราะยังลุ้นได้รางวัลหรือสิทธิพิเศษ จากฟอร์ดประเทศไทยอีกทอดด้วย)
-
เห็นด้วยกับทุกๆท่านมากๆครับ โดยเฉพาะของคุณ "OHM.KRABI" ในตอนท้ายที่บอกว่า
"สุดท้ายให้พี่ จิมมี่และคณะมาเทส"<-- ตรงนี้เป็นไฮไลท์เลย
ในทางกลับกัน ถ้าทาง Ford Thailand ไม่ทำตามที่หลายๆท่านแนะนำมาในนี้หล่ะก็ ผมมองว่ายอดขายน่าจะวิ่งอยู่ราวๆ 500-600 คันต่อเดือนก็หรูแล้ว...
-
ถ้าจะบอกว่า ทั้งหมด ที่คุณๆ เสนอกันเข้ามา
ชาวบ้านเขาทำกันหมดแล้ว และมันไม่แปลก ไม่น่าตื่นเต้นเลยละครับ?
หนังที่ Iwata Kana คิดให้ ก็มีคำถามขึ้นมาเหมือนกันว่า...
ขับรถไปเชียงใหม่ แล้วนั่งเครื่องต่อ 2 ชั่วโมง มันไม่เร็วกว่าเหรอ?
หนังที่คุณ thuang เสนอมา มันก็ "Vigo" มากๆ
สิ่งที่คุณ OHM.KRABI เสนอมา ครึ่งแรก ทั้งหมด คือสิ่งที่ ทีม Ford ทำแล้ว ในการเปิตดัว Fiesta ครั้งนี้ครับ ทั้งหมดของ 2-3 บรรทัดแรกนั่นละ
แผนการตลาดอะไรก็ตาม ทั้งหมด ถ้าคุณมีเงิน คุณใช้ได้เต็มที่ ละเลงได้สนุก ดังใจคิดละครับ
แต่ ถ้างบการตลาดมีในระดับหนึ่ง ก็ต้องคิด และวางแผนใช้จ่ายกันดีๆ
งบการตลาดของรถรุ่นนี้ ถือว่าเยอะกว่าปกติ ที่ Ford เคยใช้ น่าจะเยอะอยู่ จากที่ประเมินเล่นๆคร่าวๆ
สิ่งที่ผมมองคือ ว่า แผนอื่นๆหนะ ทำมาดีหมดแล้ว ตั้งแต่ต้น จนถึงปัจจุบัน
แต่ ดันมาพลาด เอาตรง หนังสั้น นี่แหละ ทำอะไรกันออกมาก็ไม่รู้ เสร่อ และไร้ความสมจริง ขาดความน่าติดตามชมต่อไปโดยปริยาย
------------------------------------------------
เคยเสนอพล็อตไปเมื่อนานมากแล้ว
เสนอให้ไปฟรีๆ นี่แหละ
ผมมองเห็น คุณ วู้ดดี้ ลอยมาก่อนเลย
พาคุณวู้ดดี้ เข้าไปดูการถ่ายทำหนังโฆษณา Fiesta บนถนน แถวๆ นราธิวาสราชนครินทร์ ตอนเช้าๆตรู่ๆ วันอาทิตย์ เหมือนในหนังสั้น นั่นแหละ
จู่ๆ มี มอเตอร์ไซค์ คันหนึ่ง มาซุ่มยิงน้องตัวประกอบ หรือ คนทำฉาก ถึงกองถ่าย ประมาณว่า เป็นหนี้พนันบอล เลยขู่จะเอาชีวิต ถ้าคิดเบี้ยว
ตัวแสดง และทุกคน ในกองถ่ายก็หลบหมด พอ มอเตอร์ไซค์ วิ่งออกไปแล้ว คุณวู้ดดี้ ก็ เอาวะ กูเห็นว่า มึงทำไม่ถูก มึงทวงหนี้ักันเลวเกินไป
กระโดดขึ้น Fiesta แล้วขับตาม มุด ไล่ มอเตอร์ไซค์
ผู้กำกับหนังโฆษณาในเรื่อง ตั้งสติได้ ก็รีบบอกให้ทุกๆคน ขับรถ ตามไป ช่างกล้อง ภาพนิ่ง ก็ไล่ตามไปด้วย
ส่วน ช่างภาพที่ถ่าย Handycam เก็บเบื้องหลังการถ่ายทำ ก้เลยต้องรับหน้าที่ เป็น Candid Camera ข่าวอาชญากรรมจำเป็น
ในระหว่าง ไล่ตาม Fiesta ที่ขับโดยคุณวู้ดดี้ นั่นละ
บางช่วง ต้องเจอว่า มอเตอร์ไซค์ มือปืน เข้าตรอก ซอกซอย หลบ
แต่ Fiesta ก็ไวพอที่จะขับไปดัก เกือบจะทัน ไล่ล่ากันไปสักพัก ในเมือง ขับผ่านเยาวราช ซึ่งรถยังไม่เยอะ ไล่กันให้ดูสมจริงสมจังหน่อย
เลี้ยวเข้าเส้นวังบูรพา ตรง คุกเก่า ฟิเอสต้าเลี้ยวขวา สาดโค้งมา ต้องมีช็อตที่ Vios รุ่นเก่า City รุ่นเก่า เบรกกันตัวโก่งท้ายปัดหมุนติ้ว กลางแยก
หลังากที่ Fiesta เข้าโค้ง Drift ผ่านไป สวยๆแล้ว
วิ่งไปออก แถวๆ อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วก็หาทางปาด ให้ล้มมอเตอร์ไซค์ ล้มลงตรงนั้น
มือปืนทำท่าจะลุกขึ้นมาได้ วู้ดดี้ เดินเข้าไป โดยไม่ลืม คว้าปืน ที่อยู่ในรถ (ซึ่งมีอยู่ตั้งแต่ ตอน ออกรถจากเส้นนราธิวาสมาแล้ว
ในฐานะ ปืนประกอบฉาก) เดินเข้าไปจ่อหัว
ทีมงาน และตำรวจ เข้ามารวบตัวหมอนี่ไป
ทุกคนเข้ามาชื่นชมวู้ดดี้ ถามไปว่า "พี่กล้ายิงจริงๆเหรอ?"
วู้ดดี้ ก็ยิงให้ดู ว่า เป็น "ปืนฉีดน้ำ"
จบเรื่อง!
แค่เนี้ย!!!!
ถาพทั้งหมด โชว์ อัตราเร่ง ความคล่องตัว และประสิทธืภาพช่วงล่าง ตัดต่อให้ดีๆ มุมกล้อง ให้ติด Candid Camera ซุ่มถ่าย
มีภาพจาก รถคันที่ขับตาม Fiesta ด้วย ฯลฯ ดีเทลมีอีกแยะ ว่ากันไป
ใครจะเอาไปใช้ก็เชิญนะครับ ตามสบาย เพราะไอเดียผม ผมคิดใหม่เรื่อยๆขึ้นมาได้ อยู่แล้ว ไม่หวง ไม่งก เอาไปใช้เลย ถ้าอยากเอาไปใช้
-
ไอเดียพี่จิมมี่นิ เทพจริงๆ แต่ผมนิยังคิดไม่ออกว่าจะมาไม้ไหน??
-
ใช่เลยต้องแบบพี่จิมมี่ คือมีฉากไล่ล่ากัน ไม่ใช่ขับรถปาดหน้าแล้วยิ้มให้กันแล้วค่อยถ่ายรูปแชะ และก็ขับรถออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีความสมจริงความสนุกน่าติดตามเลย
-
สุดยอดลยครับพี่จิมมี่ บรรยายแบบเห็นภาพเลย
-
ไอเดียพี่โดนใจมากๆ มีลุ้นทุกวิยาทีเลยทีเดียว
-
ไอเดียพี่เจ๋งจริงๆ จาบอกให้ตอนแรกผมก้อคิดเหมือนพี่นี่แหละ
ฉากไล่ล่า อ่า ควรจะมีจะได้ทดสอบรถไปในตัวด้วยครับ เพลงก้อน่าจะเป็น lada gaga just dance มันเลย เหมาะกับฉากไล่ล่า
-
ไอเดียพี่จิมมี่ เห็นภาพเลย ;D
-
คงต้องเตือนกันในที่นี้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่ใช้รถ ไม่ชอบ โฆษณาเหยียดหยามหักหน้า รถยี่ห้ออื่น นะครับ
เชฟโรเล็ตไทย เคยทำแล้ว ที่ ใช้ คนขับรถเก๋งญี่ปุ่น ถูกออปตร้าแซงในโค้ง
และ มี อีกฉาก เก๋ง ไล่ล่า มอเตอร์ไซด์ที่คนเอเชียหน้าญีปุ่นขับ
คนทำ คนขาย รถฝรั่ง คงสะใจ
แต่ คนจะซื้อรถ เขาไม่สะใจ ด้วยนะครับ
เพราะ รถที่ พวกคุณไปหยามนั้น เขา อาจจะขับอยู่ พ่อแม่ เขาอาจจะขับอยู่
ดังนั้น การ มี ฉาก รถยี่ห้ออื่น หมุน หรือ เสียท่า จึง ไม่ควรทำ ใน สังคมโฆษณา ไทย ครับ
ขอ เตือน ว่า ถ้าคิดจะขายรถให้มาก ต้อง ไม่ทำ สิ่งผิดพลาดคิดแบบเด็กๆ เช่นนี้ นะครับ
ฟอร์ด แก้ เรื่องเดียว คือ ศูนย์บริการ เท่านั้น
ถ้า แก้ได้ ก็ จะขายรถ ดี แน่นอน ครับ
รถดี ศูนย์บริการ ดี
ตัวสินค้าและบริการ ย่อมขายตัวมันเองได้ ครับ
ปาก ต่อ ปาก สำคัญที่สุดครับ
ที่ผม กระทุ้ง เรื่อง ฟอร์ดลำปาง ใช้ศูนย์ฟอร์ดเป็นศูนย์ โปรตอน ทาทา นะ
แก้ไข เรื่อง ไปถึงไหนแล้วครับ
ทำให้ ศูนย์ฟอร์ด มี มาตรฐาน แบบ ยี่ห้อ อื่น ยังทำกัน ไม่ได้ซะที
คนใช้รถส่วนใหญ่ เขา อยู่กับ ความจริง นะครับ ไม่ได้ อยู่กับ หนังโฆษณา
คนซื้อรถใหม่ เขา ต้องเข้าศูนย์บริการ ครับ
ชีวิตจริง เขาเป็นอย่างนี้
รับความจริง เรื่องนี้ ให้ได้ก่อน นะครับ ฟอร์ดไทย และ คนทำโฆษณา
เฟียสต้า ขายดี แน่นอน ครับ
ผม ฟันธง ไว้ล่วงหน้าเลย
รถ ขายดี ใน ปี แรก
แต่ หลังจากนั้น ศูนย์บริการ นี่แหละครับ จะเป็นตัวทำให้ รถขายไม่ดี
โจทย์เดิม คำตอบเดิม
ลอง แก้ไข ศูนย์บริการฟอร์ดลำปาง ให้ผมเห็น ใน เจ็ดวัน สิบวัน ต่อจากนี้ได้ไหม ครับ
-
ถ้าจะโปรโมท ผมเห็นด้วยว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมสำหรับการโฆษณาแบบกัดตรง ซึ่งที่เราเห็นว่าฝรั่งทำกันเยอะนั้น ไม่ใช่ว่าทำแล้วคนชอบ หรือบริษัทต่างๆรับได้ ที่จริงมีเรื่องฟ้องกันหลายต่อหลายครั้ง แต่ผู้บริโภคอย่างเราเห็นแค่โฆษณา และไม่ได้ตามข่าวต่อว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก
นิสสันเองก็เคยใช้ จำได้ไหมว่าปี 2006 เขาเอาสติกเกอร์อยากขับทีด้าไปแปะรถคันโน้นคันนี้ หลายยี่ห้อ พอเปิดตัวมาแล้วแป้ก ต้อง Re-launch กันใหม่ กลายเป็นเรื่องให้ชาวบ้านเขาสมน้ำหน้า ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพราะประเทศไทยในใจลึกๆไม่ชอบคนขี้อวด ถึงแม้ว่าความสามารถจริงๆจะดีก็ตาม
ถ้าจะโปรโมท Fiesta? ผมคิดว่าไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะ ที่ผ่านมาก็เอารถไปวิ่งตามที่นู่นที่นี่ รวมถึงที่ Primo Posto ที่ผมเพิ่งไปมาเมื่อวานก็เจอ ปั่นกระแสจนคนตั้งหน้ารอกันแล้ว
สิ่งที่ Ford น่าจะทำตอนนี้คือ confirm event งานวันเปิดตัวเป็นวันที่ และเวลา ให้แน่นอนได้แล้ว เพื่อไม่ให้ใครๆที่เขารออยู่ใจร้อนจนไปออกรถยี่ห้ออื่นเสียก่อน
อย่างที่สองคือพาตัวลูกค้าให้เข้าถึงประสิทธิภาพของตัวรถให้ได้ดีที่สุด คนที่คิดจะซื้อฟอร์ด ถ้าไม่ใช่ลูกค้าเก่า เขาคงไม่ซื้อโดยแค่เปิดๆดมๆกดๆสวิทช์ตามโชว์รูมหรอกครับ การที่จะเอาลูกค้าคนใหม่ให้กล้าควักเงินซื้อ คุณต้องทำให้เห็นว่ามีตรงไหนที่สามารถตอบโจทย์ได้เหนือกว่าคู่แข่ง ชนิดที่สามารถเก็บเอาไปภาคภูมิใจ
สังคมไทย ไม่ชอบคนอวด แต่คนซื้อรถในยุคไซเบอร์ จะซื้อรถทั้งคัน ต้องแน่ใจว่ามันมีอะไรดีๆสักสองสามอย่างที่เอาไปอวดชาวบ้านได้
มุขที่ใช้ได้กับรถยุโรป (หรือมีเอี่ยวกับยุโรปเสมอ) ก็คือ "ตัวถังแข็ง" "ปลอดภัย" "ช่วงล่างเกาะสุดยอด"
บางทีรถก็ไม่เกาะสุดยอด ไม่ได้ปลอดภัยอันดับ 1 แต่ลูกค้าใส่ศรัทธาให้ในตัวผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ว่าเมื่อไหร่จะได้ซื้อ และเมื่อไหร่จะได้ขับ?
เรื่องบริการ ผมคิดว่าคนที่ออกฟอร์ดได้ เขาทำใจรับมาส่วนหนึ่งแล้ว ถ้าจะทำให้ดีขึ้น ก็ยิ่งดีไปอีก แต่เรื่องนี้ยังมีเวลา ฉะนั้นเอาเวลาไปให้กับการเตรียมรถให้พร้อมสำหรับการขาย และกรุณาหารถ Demo ประจำการไว้ทุกโชว์รูมละกัน
ที่สำคัญ รถล็อตแรกๆ อย่าให้มีปัญหา Defect รุนแรงเป็นอันขาด ไอ้นี่ล่ะตัวหยุดยอดขายชั้นดี ถ้า Defect โผล่มาตั้งแต่เพิ่งเริ่มขาย มันจะไปหยุดยั้งการเจริญเติบโตที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นทำให้มีน้อยที่สุด ชู Quality ด้านการประกอบและวัสดุให้ดีเลิศ ถ้าอย่างอื่นดีกว่าชาวบ้านหมด ยกเว้นด้านบริการ ผมเชื่อว่าคนยุคไซเบอร์ส่วนใหญ่ยอมรับได้และกล้าเสี่ยงที่จะซื้อ
นั่นก็อาจจะรวมถึงคนใกล้ตัวผมแถวๆนี้ด้วย
-
ผมกลับไม่คิดว่ามันจะเสียหายตรงไหนครับ คุณ Traveller
เพราะ สิ่งที่ออกมาคือ ภาพที่สมจริง และ ในความจริง
จากที่เคยทำมา ลองนึกดูว่า ในช่วงเวลาที่ จะต้องไล่ล่า ใครสักคนบนถนน
แล้วจำเป็นต้องถึงขั้นขับผ่าฝูงการจราจร ไปอย่างกระทันหัน
รถอะไรก็ตาม ที่โดนตัดหน้า คุณต้องเบรกอยู่แล้ว หรือไม่ก็หักหลบ
เราก็ไม่ต้องถึงขนาดที่ว่าจงใจถ่าย
แค่ว่า รถสัก 2-3 คัน เบรก หักหลบ แล้วท้ายปัด แล้วก็ออกรถต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตามเดิม อาจมีลงมาตะโกนด่านิดหน่อย
แค่นี้ ทุกอย่างมันก็ปรับกันได้
ไอเดียทุกอย่าง มันคิดกันได้ พลิกกันได้
เพราะถ้าไม่ควรมีรถคันอื่นอะไรอยู่เลยในหนังเรื่องนี้
ยังไงก็ตาม การที่รถก็แล่นไปตามท้องถนน ไล่ล่ากันไป ยังไงก็ต้องติดภาพรถคันอื่นๆ บนถนนไปอยู่ดี
ดังนั้น ผมจึงไม่เชื่อว่า ถ้าเราทำทุกอย่างออกมา สมจริงสมจัง ไม่ดูเหมือนเตรียมมา ไม่ดู fake
มันจะทำให้เกิดความเสียหายอะไรแบบนั้น แต่อย่างใด
ผมอาจจะคิดแบบเด็กๆ ในสายตาคุณ traveller
แต่อย่างน้อย
ผมเลือกที่จะ "เริ่มคิด โดยที่ไม่ต้องรอนั่นรอนี่ กลัวนั่นกลัวนี่ คิดกังวลอะไรที่เกินเหตุไปก่อน"
แต่ ถ้าสมมติจะทำจริงๆ ดีเทลตรงนั้น ถ้ากลัวกันมากนัก ก็ตัดออกไป ก็ไม่มีปัญหาอะไร สาดโค้งไล่ล่า ดริฟต์ ธรรมดา ให้ท้ายปัดออกไป ก็ืทำได้
----------------------------------
อ้อ เห็นคุณกระทุ้ง ที่ว่า แก้ปัญหา ศูนย์ ฟอร์ด ลำปางแห่งเดียว
มันไม่อาจจะช่วยแก้ปัญหาให้ศูนย์บริการฟอร์ด ทั้งประเทศได้หรอกครับ
ถ้าตราบใดที่คนข้างบน เขายังทำงานได้ไม่เต็มที่ อย่างที่ควรจะเป็นอยู่
อีกอย่างนึง
การแก้ไขัญหาของศูนย์บริการ เป็นหน้าที่ของผู้บริหาร และฝ่ายบริการหลังการขาย
ไม่ใช่ฝ่ายการตลาดครับ
นี่คือความจริง ทุกบริษัทรถยนต์ในไทย ตั้งแต่ บริษัทที่ ศูนย์บริการ ลูกค้าชื่นชม กับลูกค้าด่าทอ
ระบบการจัดการ ก็ ประมาณนี้ ละครับ
ฝ่ายการตลาด ทำหน้าที่ได้อย่างเดียว คือ กระทุ้ง ฝ่ายบริการ กลางที่ประชุม ว่า ฝ่ายบริการ ทำงานไปถึงไหนอย่างไรแล้ว แค่นั้น
เพราะถ้ามากกว่านั้น เท่ากับเป็นการก้าวก่ายในหน้าที่ของเขา และนั่นก็คงจะวุ่นวายกัน แบรนด์ก็ยิ่งบรรลัยหนักกว่าที่เป็นอยู่นี้อีก
มองอะไร มองรอบๆด้านครับ อย่ามองโฟกัสแค่ปัญหาจุดเดียว แล้วคิดว่า มันคือปัญหาทั้งหมด
เพราะ ปัญหาที่คุณโฟกัส เป็นแค่ปัญหาหนึ่งในล้านแปดปัญหาที่ ฟอร์ด ต้องแก้ ถ้าไม่แก้ ก็ช่วยไม่ได้ครับ เขาทำตัวเขาเอง ไม่เกี่ยวกับเรา
และจะไปเร่ง ไปคาดคั้นให้ใครแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 7 วัน 10 วันนั้น
ผมว่า เรากำลังเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วครับ
การแก้ัญหาอะไรก็ตาม ต่อให้แก้ไขได้ใน 7 - 10 วัน แต่กว่าผลจะเกิดขึ้น กว่าจะปากต่อปาก
ต้องใช้เวลา โชว์รูม ฟอร์ด กิจการขนาดเล็ก ไม่ใช่ประเทศไทย ทั้งประเทศ ในยามต้องแก้ปัญหาวิกฤติของชาติ ไม่ถึงขนาดนั้นครับ scale ต่างกันลิบ
ขนาด Mazda พยายามแก้ภาพลักษณ์เรื่องอะไหล่แพง ใช้เวลาแก้ไม่นาน แต่กว่าจะเห็นผล ก็ว่ากันเป็น 10 ปี
ขนาด Suzuki พยายามจะกลับมา เปิดตลาด Swift ใหม่ กว่าจะแก้ปัญหาเรื่องบริการหลังการขาย ตอนนี้ก็แค่เริ่มทำไปบ้าง
ก็ต้องดูกันต่อไป
ขนาด Nissan จะแก้ปัญหา ปากต่อปาก เรื่องสนิมบนตัวถัง แม้จะแก้ไปแล้ว แต่กว่าผู้บริโภคจะเชื่อ ก็ต้องรอกันอีกหลายปี
ขนาด Chevrolet กว่าจะแก้ปัญหาเรื่อง ศูนย์บริการน้อย เขาก็ต้องค่อยๆ ทำ จนวันนี้ ศูนย์ฯ เชฟ คนไม่บ่นว่ามันน้อยแล้ว (แต่บริการเป็นไง อีกเรื่องนึง)
ทั้งหมดนี้ ปัญหาหนะ แก้ง่ายครับ แป๊บเดียวเสร็จื แต่กว่าจะเป็นรูปธรรม กว่าคนจะเห็น ต้องใช้เวลาทั้งนั้นครับ
ปลูกต้นไม้ เรายังต้องรอกว่าจะแตกกิ่งก้านงอกออกดอกผลใบ กันเลย
นับประสาอะไรกับการแก้ปัญหา?
ขนาดเราคิดกันเล่นๆ ออกไอเดียขนาดนี้ ถ้าเขาไม่เอาไปใช้ ก็เรื่องของเขาครับ มันคือเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา ท่องกันเอาไว้ครับ อย่าลืม
-
ผลวิจัยการตลาดบอกว่า คนไทยชอบโฆษณาที่ใช้ดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือที่เรียกกันจนหรูหราว่า brand ambassador นั่นแหละครับ ถ้าอยากให้มันเกิด ลองหามาสักคน แบบมาสด้าสองที่ใช้เป้ เป็นต้น
อารมณ์ตัวโฆษณาแบบประมาณที่ทำหนังสั้นถือว่าดีอยู่แล้ว (คือสื่อสารบุคลิกผู้ใช้ที่นำเทรนด์ ทันสมัย เป็นคนทำงานยุคใหม่ที่บ้าเทคโนโลยี เพราะเจ๊แกเล่นใช้ไอแพด ไอโฟน4จี แกดเกจดีๆทั้งน้าน)
นอกจากนั้น การทำ PR และ Event ต่างๆก็สำคัญ แต่ต้องทำแล้วเกิด impact ไม่ใช่อิมแป้กแบบที่เห็นกัน คือจัดก็จัดงานใหญ่ไปเลย เน้นให้เกิดการบอกต่อ
บริการหลังการขายก็สำคัญ ทั้งศูนย์ โชว์รูม ควรปรับปรุงได้เสียที
แผนส่งเสริมการขายอาจจะเน้นการแถมประกันชั้น 1 หรือส่วนลดเงินดาวน์เงินผ่อน ดอกเบี้ยต่ำอะไรก็ว่าไป อาจจัดรายการส่งเสริมการขายสำหรับกลุ่มดีลเลอร์ควบด้วยก็ได้ (เช่นขายถึงเป้า จะมีสิทธิพิเศษหรือของรางวัลอะไรให้ก็ว่าไป)
ขี้เกียจลงรายละเอียดมากมาย เดี๋ยวจะกลายเป็นทำแผน IMC ให้เค้าไปซะฉิบ เอาเท่าที่นึกออกน่ะนะ เท่านี้ในภาพรวมก็น่าจะดีขึ้นบ้างละ คนซื้อก็อยากซื้อ(เพราะรถดี ข้อเสนอน่าสน หลังการขายน่าพอใจ) คนขายก็อยากขาย (เพราะยังลุ้นได้รางวัลหรือสิทธิพิเศษ จากฟอร์ดประเทศไทยอีกทอดด้วย)
ปกติไม่ค่อยจะขัดอะไรกับคุณเติ้งนะครับ เพราะเราเป็นสาวก Corolla เหมือนๆ กัน
แต่อยากจะบอกเลยว่า Short film ตัวนี้ ปัน-ยา-อ่อน มากครับ ไร้ซึ่งสเน่ห์ ไม่สื่อถึงบุคลิกของตัวรถ
ทำให้หลายคนที่อยากได้มัน มีความอยากได้ลดน้อยลง (รวมทั้งผม) เหยียบย่ำซ้ำเติม คุณภาพ
ของรถที่ถือว่าดีเป็นอันดับต้นๆ ของคลาส แค่เลือกใช้ theme แบบ wedding studio แค่นี้
ก็ผิดไปกันคนล่ะเรื่องแล้วครับ plot เรื่องที่ดีหายไปไหน สมัยผมกับคุณเติ้ง หรือเพื่อนคนไหนๆ
ตอนอยู่ ป.5-ม.3 ก็คงจะแต่งเรื่องประมาณนี้ได้ไม่ยาก ดูเสร็จแล้วมีแต่กลุ้มกับกลุ้่มครับ เพราะ
เชียร์ Fiesta อยู่ใจขาด แต่พอเห็น PR มาแนวนี้แล้วขาดใจเลย ห่วยยยยยยยเจงงงง เจงงงงง!!!!!!!!
-
ผมก็ชอบไอเดียพี่จิมมี่ครับ ส่วนถ้าวางแผนทำ short film ไว้หลาย part
สมมติมี 4 part ของพี่จิมมี่ก็จะเป็น part 4 หรือจุด climax ก่อนหน้านั้น
อีก 3 part ก็ยังมีไอเดียอะไรต่างๆ ให้เล่นอีกมากมาย รถคันนี้มีอะไรให้พูดถึงอีก
เยอะแยะครับ เรื่องวงเลี้ยวไม่ต้องพูดถึงยังได้ มันควรจะพูดเรื่องนั้นกับรถที่น่าจะ
มีวงเลี้ยวกว้างๆ ทำให้เราอ้าปากค้างได้ว่า "ห๊าา รถกระบะคันนี้วงเลี้ยวแค่ 5.1 เมตรเองหรือ!!?"
แหะแหะ เรื่องจริงมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ แต่พูดให้เห็นภาพเท่านั้นว่า อะไรคือสิ่งที่
ทำให้เราอ้าปากค้างได้ ก็ควรโปรโมทมันออกมา
-
ตอนนี้ ฟอร์ด เชียงใหม่ จะได้พบเฟียสต้าล็อตแรก 13 เดือนนี้ครับ
ส่วนโฆษณาตัวเต็มนั้นมาวันที่ 19 เดือนนี้ครับ
-
พี่จิมสุดยอดมากเห็นทุกรูขุมขนเลย
-
ตั้งแต่โฟกัสเดตัวแรกๆแล้วไม่มีผลงานที่มันได้ความสักอัน ไล่ฝ่ายการตลาดออกไปให้หมดแล้วเปลี่ยนบริษัทโฆษณาที่จ้างอยู่ซะ กลับไปนึกให้ออกว่าเฟียสต้ามีบุคลิกแบบไหนแล้วจะเข็นออกมาขายใคร พื้นฐานการตลาดง่ายๆต้องตอบให้ได้แต่ไอ้หนังสั้นที่ทำออกมาไม่ได้ตรงกับสิ่งที่รถเป็นผมเห็นแต่ฉากงี่งเที่คิดอยากจะใส่ก็ใส่เข้ามาเหมือนละครหลังข่าว ถ้านึกไม่ออกจริงๆไปเปิดยูทูปดูเนื้อหาแนวทางของต่างประเศแล้วเลียนแบบเค้าก็ได้ ไม่ใช่นำเสนอเนื้อหาประหนึ่งว่าเฟียสต้าคันนี้ใช้เกียร์ตโนมัติ 4 จังหวะพร้อมเครื่อง 1500cc ไม่มีวาวแปรผัน ไม่มี ABS ESP คืออะไรเราไม่มีให้ :-\
-
ชอบ คห พี่จิมมี่ครับ ผมว่าสร้างสรรค์ดี ไม่มีใครเหมือน อิอิ
-
ผมว่าลองเล่นมุกแบบ Old School ดูหน่อยไหมครับ? (แต่คิดว่าหลายคนคงคิดไม่ถึง)
ปกติแล้วบ้านเราไม่ชอบสไตล์การอวดอ้างหรือ "ขี้อวด" ตามที่คุณแพน (Commander Cheng) บอกไว้ข้างต้น
แทนที่เราจะอวดว่า เฮ้ รถฉันดีอย่างโน้นอย่างนี้ แบบสไตล์การโฆษณามะกันจ๋านั้น คงพับไว้ก่อน เพราะโดยธรรมขาตินั้น ยิ่งอวดมาก ยิ่งหมั่นไส้มากขึ้น
ทีนี้มุกที่ผมคิดแว่บแปล๊บๆ ขึ้นมาในหัวก็คือ "ถ้ากังวลทำโฆษณามากนัก ก็เอารถไปเป็นสปอนเซอร์ในละครเสีย" จริงๆ หลายคนไม่ค่อยคุ้น แต่ถ้าไล่ดูดีๆ นี่มันคือวิธีแบบเก่า แต่ติดตาติดใจได้แน่นกว่า อย่างเช่นกรณี Volvo p1800 ที่ทุกคนจำได้ว่า หนัง The Saint นั้น Simon Templar ต้องขับ P1800 หรือไม่ว่าจะเป็น Ashes to Ashes (ดราม่าฝั่ง UK ที่ดังเปรี้ยงปร้างใน BBC1 ฝีมือคนกำกับ Doctor Who) ที่ตัวเอก (จีน ฮันท์) ขับ Audi (UR) quattro
พอยิ่งทำให้คนติดตามากขึ้น ทีนี้จะขยายต่อแพร่ข่าวก็ง่ายขึ้น แต่วิธีนี้ก็ออกจะเสี่ยงบ้าง ถ้าไปแจ็คพ็อตลงเอยกับหนัง หรือละครที่มันไม่ดังเปรี้ยงปร้างให้คนจำจดขึ้นมา
ยิ่งรถท่าทางมุดบนท้องถนนนี่ เอาไปไล่ล่าแบบที่จิมมี่กล่าถึงนั้น คงมันสะเด็ดใช่ย่อยนะ
-
อ่า เรื่อง รถยืมนั้น กองถ่ายละครบ้านเรา ยืมค่ายรถกันสนุกสนานอยู่แล้วครับ
X Act นี่ ยืมเยอะเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว
-
"เป็นต่อ"
ช่วงนี้ มาสด้า 2 แพลมๆอยู่ในฉากตลอด
ก่อนหน้านี้เป็นซิวิค
-
อ่า เรื่อง รถยืมนั้น กองถ่ายละครบ้านเรา ยืมค่ายรถกันสนุกสนานอยู่แล้วครับ
X Act นี่ ยืมเยอะเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว
จริงๆด้วย การตลาดเขาเรียก บาเทอร์กันครับ ล่าสุดเพิ่งเห็น ford focus TDCI มาใน ละคร โอ๋ย นานๆ ทีจะเห็น แต่สีเงินไม่สวยเลย