Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Smith686 ที่ ธันวาคม 19, 2018, 13:03:12
-
https://www.matichon.co.th/economy/news_1279340 (https://www.matichon.co.th/economy/news_1279340)
-
ตามกระทู้ก่อนหน้านี้ มีคนแจ้งแล้วครับ
-
ถ้าซื้อจากเกษตกร หรือผู้ค้ายางในประเทศเจ้าอื่นไม่ได้ ต้องซื้อจากการยางแห่งประเทศไทย ...ตกลงช้อปช่วยใคร ?
-
ตามกระทู้ก่อนหน้านี้ มีคนแจ้งแล้วครับ
ในกระทู้นั้นไม่มีคำชี้แจงของ Dunlop ครับ
-
รอ Bridgestone อีกเจ้า
เป็นอันจบข่าว (สำหรับผม)
-
- ถ้าคิดจะช่วยเกษตรกรจริง ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นที่ทำจากยางพาราน่าจะเข้าร่วมโครงการด้วย อย่างที่นอน ที่ใช้ยางพาราในอัตราส่วนผสมที่มากกว่ายางรถยนต์
- ถ้าคิดจะกระตุ้นการใช้จ่ายในการซื้อยางรถยนต์ ก็ไม่น่าบังคับว่าต้องผู้ผลิตยางในประเทศว่าต้องใช้วัตถุดิบจากหน่วยงานที่รัฐกำหนด
- การผูกเงื่อนไขแบบนี้ รัฐมีข้อมูลในมืออยู่แล้ว และรู้ว่าบริษัทยางไหนเข้าข่าย น่าจะประกาศออกไปเลย จะได้จบๆ ไป
-
ผมว่าคนช้อปช่วยชาติจำนวนอาจจะน้อยลง เพราะคนที่เขาเปลี่ยนยางไปไม่นานก่อนหน้านี้และอายุการใช้งานก็ยังไม่นาน เขาก้คงไม่เปลี่ยนอย่างเช่นผมเพิ่งเปลี่ยนยางไปไม่นาน ก้หมดสิทธิ์ ผมก้คงต้องไปขอปโอท้อปหรือสิ่งพิมพแทน
-
ผมว่า ทั้ง2 ยีห้้อ(โดยเฉพาะยี้่ห้อหลัง) เขาซื้อจากเอกชนไทยอยู่แล้ว และมีโควต้าล่วงหน้า ที่บริหารจัดการราคา และปริมาณ การควบคุมคุณภาพ ฯลฯ ต่างๆ แบบทำสัญญาเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว..และมีการกำหนดว่าจะผลิตอะไรมาช่วงไหนที่ เป็นวาระของเขาอยู่เดิมอยู่แล้ว ถ้ามาทำตามรัฐบาล เขาจะมีผลเสีย มากกว่าได้ประโยชน์
เป็นผม ๆ ก็ไม่ทำครับ ยกเว้นยางรุ่นยี่ห้อรองๆ อาจจะหวังผลกระตุ้นยอดจำหน่ายได้บ้าง
ซึ่งไม่ได้แปลกอะไร นโยบายนี้ มันทำเพื่อเป็นทางเลือก เป็นทางที่ไม่ได้หวังอะไรและหวังอะไรไม่ได้ อยู่ในตัว
ถามว่า ช็อบช่วยชาติเกี่ยวกับ ยางรถยนต์ กับ ที่นอน หรือ หมอนยางพารา หรือเครื่องเล่นสนามเด็กเล่นตามโรงเรียน ศูนย์เด็กเล้กตาม เทศบาล ผมว่า อย่างหลังนี่ ยังเห็นผลกว่าเยอะ ถ้าจะเอาจริงๆ จังๆนะ
-
รถผม 2 คัน อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องเปลี่ยนยางนะ
แต่เจอแบบนี้เข้าไป ผมก็ใช้ไปก่อน เพราะใจจริง ตั้งใจจะเปลี่ยนก่อนเข้าหน้าฝนปีหน้าล่ะครับ
-
ผมว่า ทั้ง2 ยีห้้อ(โดยเฉพาะยี้่ห้อหลัง) เขาซื้อจากเอกชนไทยอยู่แล้ว และมีโควต้าล่วงหน้า ที่บริหารจัดการราคา และปริมาณ การควบคุมคุณภาพ ฯลฯ ต่างๆ แบบทำสัญญาเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว..และมีการกำหนดว่าจะผลิตอะไรมาช่วงไหนที่ เป็นวาระของเขาอยู่เดิมอยู่แล้ว ถ้ามาทำตามรัฐบาล เขาจะมีผลเสีย มากกว่าได้ประโยชน์
เป็นผม ๆ ก็ไม่ทำครับ ยกเว้นยางรุ่นยี่ห้อรองๆ อาจจะหวังผลกระตุ้นยอดจำหน่ายได้บ้าง
ซึ่งไม่ได้แปลกอะไร นโยบายนี้ มันทำเพื่อเป็นทางเลือก เป็นทางที่ไม่ได้หวังอะไรและหวังอะไรไม่ได้ อยู่ในตัว
ถามว่า ช็อบช่วยชาติเกี่ยวกับ ยางรถยนต์ กับ ที่นอน หรือ หมอนยางพารา หรือเครื่องเล่นสนามเด็กเล่นตามโรงเรียน ศูนย์เด็กเล้กตาม เทศบาล ผมว่า อย่างหลังนี่ ยังเห็นผลกว่าเยอะ ถ้าจะเอาจริงๆ จังๆนะ
ยางลบก็น่าเข้าร่วม
จะซื้อเก็บใช้ยันลูกโตเลย
-
ตั้งใจจะเปลี่ยน มิชลิน ตอนปีใหม่พอดี แต่ดันไม่ร่วมโครงการ
สรุป ก็เปลี่ยนมิชลินอยู่ดี 5555
-
ไม่ได้คิดจะช่วยอะไรหรอก ก็แค่อยากเอาไไปอ้างหาเสียงแหละว้า
-
ผมเพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อกลางปี ก็หมดสิทธิ์ครับ
แต่ในความเห็นผม ผมว่ายังไงยางที่ผลิตในไทยแทบจะทุกเจ้า เขาก็ใช้วัตถุดิบยางพาราในไทยเนี่ยแหละ เพียงแต่อาจจะจัดซื้อมาจากหน่วยงานเอกชน หรือผ่านพ่อค้าคนกลางโดยตรง ดังนั้นผมว่าน่าเสียดายครับ ที่หลักเกณฑ์ของโครงการนี้มันจำกัดไปสักหน่อย เลยทำให้ประชาชนมีตัวเลือกน้อย
-
ยี่ห้อหลักๆในตลาดลดหย่อนไม่ได้กันทัั้งนั้นเลยคับ เพราะต้องซื้อวัตถุดิบจาก กยท ในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น
ขออนุญาตแปะ หนังสือชี้แจงจากบริษัทต่างๆ ให้เพื่อนๆได้อ่านและทำความเข้าใจกันครับ
(https://uppic.cc/d/KxvS) (https://uppic.cc/v/KxvS) (https://uppic.cc/d/KxvR) (https://uppic.cc/v/KxvR)
(https://uppic.cc/d/KxvP) (https://uppic.cc/v/KxvP) (https://uppic.cc/d/KxvQ) (https://uppic.cc/v/KxvQ)
-
ถ้ามองในแง่ดี ถือว่าได้อุดหนุนยาง จากกยท แถมยังได้ลดหย่อนภาษีด้วย แต่ข้อเสียนั้น เมื่อเทียบกับข้อดีแล้วเหมือนจะไม่คุ้มเท่าไรกับการต้องใช้ยี่ห้อที่ไม่มั่นใจครับ