Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มกราคม 10, 2019, 21:11:09
-
💖 พอทราบอยู่ครับถึงรายได้ของรัฐ จากภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ
ซึ่งมีภาษีจากหลายหน่วยงาน
💖 แต่อยากทราบว่าถ้าบ้านเรา เก็บภาษีส่วนนี้เหมือนในประเทศที่เก็บภาษี
ด้านนี้ถูกๆ จะกระทบกับเศรษฐกิจของเราอย่างไรบ้าง และ ประเทศที่เก็บภาษีถูก
เขาจัดการกับเรื่องนี้ต่างจากบ้านเราอย่างไรครับ เขาถึงอยู่ได้
💖 อยากได้ความรู้ครับผม
💖 ประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์แบบในบ้านเรา เขาเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศในเรทพอๆกับที่บ้านเราภาษีรถยนต์ที่นำเข้ามาไหมครับ
-
ไม่มีอะไรได้มาและไม่เสียไปครับ ภาษีนำเข้าถูกก็ไปขึ้นในส่วนอื่นๆแทนครับ ต่างประเทศก็แบบนี้ครับ
ตามความคิดผมนะครับที่ภาษีนำเข้าแพง เพราะบ้านเราเป็นฐานการผลิตครับรัฐก็อยากจะให้คนใช้ของที่ผลิตในประเทศแหละครับ
-
ถ้ารถนำเข้าถูก รถในประเทศจะขายได้น้อย เศรษฐกิจจะเสียหายเยอะ
ภาษีเงินได้ การลงทุนจากต่างประเทศ คนตกงาน
-
ถ้ารถนำเข้าถูก รถในประเทศจะขายได้น้อย เศรษฐกิจจะเสียหายเยอะ
ภาษีเงินได้ การลงทุนจากต่างประเทศ คนตกงาน
💖 ประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์แบบในบ้านเรา เขาเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศในเรทพอๆกับที่บ้านเราภาษีรถยนต์ที่นำเข้ามาไหมครับ
-
พูดตรงๆก็คือ ภาษีนำเข้าเป็นกำแพงป้องกันอุตสาหกรรมรถยนต์ในบ้านเราครับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานสัญชาติญี่ปุ่น
ผมก็ขี้เกียจจะพูดแล้วน่ะว่ามันสำคัญยังไง ไอ้อุตสาหกรรมในประเทศเนี่ย... เอาเป็นว่าลองไปหาดูล่ะกันว่ามันคือ GDP กี่เปอร์เซนต์ของประเทศ
แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ ว่าการเก็บภาษีที่เกี่ยวกับรถนั้น ต้องการที่จะควบคุมเรื่องอะไร
ถ้าต้องการควบคุมเรื่องการนำเข้า ก็ต้องไปเลือกเก็บภาษีรถนำเข้าในอัตราที่แพง แล้วให้รถที่ผลิตในประเทศเก็บภาษีถูกๆ
แต่ถ้าต้องการควบคุมปริมาณรถในประเทศทั้งหมดเลย ก็อาจจะไปเก็บภาษีที่เกี่ยวกับรถด้านอื่นๆแทนเช่น เก็บภาษีค่าต่อประกันรถแพงหน่อย ภาษีป้ายทะเบียนแพงหน่อย
ภาษีค่าที่จอดรถแพงหน่อย เป็นต้นครับ
-
พูดตรงๆก็คือ ภาษีนำเข้าเป็นกำแพงป้องกันอุตสาหกรรมรถยนต์ในบ้านเราครับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานสัญชาติญี่ปุ่น
ผมก็ขี้เกียจจะพูดแล้วน่ะว่ามันสำคัญยังไง ไอ้อุตสาหกรรมในประเทศเนี่ย... เอาเป็นว่าลองไปหาดูล่ะกันว่ามันคือ GDP กี่เปอร์เซนต์ของประเทศ
แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ ว่าการเก็บภาษีที่เกี่ยวกับรถนั้น ต้องการที่จะควบคุมเรื่องอะไร
ถ้าต้องการควบคุมเรื่องการนำเข้า ก็ต้องไปเลือกเก็บภาษีรถนำเข้าในอัตราที่แพง แล้วให้รถที่ผลิตในประเทศเก็บภาษีถูกๆ
แต่ถ้าต้องการควบคุมปริมาณรถในประเทศทั้งหมดเลย ก็อาจจะไปเก็บภาษีที่เกี่ยวกับรถด้านอื่นๆแทนเช่น เก็บภาษีค่าต่อประกันรถแพงหน่อย ภาษีป้ายทะเบียนแพงหน่อย
ภาษีค่าที่จอดรถแพงหน่อย เป็นต้นครับ
ภาษีรถกระบะหรือppvที่ควรจะเก็บแพงขึ้นกว่านี้ตามขนาดccและตัวถัง แต่กลับอุ้มจังภาษีสรรพสามิตรหละราคาถูกมากครับเมื่อเทียบกับควันดำๆที่ปล่อยให้คนไทยดมทุกวัน หรือขับตีนผีกันจังว่าถนนี้เป็นของข้าคนเดียว แต่รถเล็กๆอย่างพวก b segment หละภาษีสรรพสามิตรแพงจังทั้งที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่า แรงน้อยกว่า
-
ถ้ารถนำเข้าถูก รถในประเทศจะขายได้น้อย เศรษฐกิจจะเสียหายเยอะ
ภาษีเงินได้ การลงทุนจากต่างประเทศ คนตกงาน
💖 ประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์แบบในบ้านเรา เขาเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศในเรทพอๆกับที่บ้านเราภาษีรถยนต์ที่นำเข้ามาไหมครับ
จะดูที่การเป็นฐานการผลิตใหญ่อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะมันมีองประกอบในปรัเทศอย่างอื่นอีกหลายอย่าง
ประเทศที่เป็นฐานการผลิตใหญ่ๆประเทศอื่นเขามีสินค้าอุตสาหรกรรมส่งออกอย่างอื่นด้วยอีกเยอะครับ
(เช่น จีน เยอรมัน ญี่ปุ่น อเมริกา) เทียบกันจริงๆคงไม่ได้ ที่พอได้ก็คงเป็น Mexico กับตุรกี
ซึ่งราคารถในตุรกีก็พอๆกับบ้านเรานี้แหล่ะครับ
อย่างที่คุณ KEZ ว่า มันเป็น chain reaction ครับ
รถนำเข้าถูก รถผลิตในก็ถูกตาม คราวนี้ก็กระทบ ตลาดรถมือสองตลาดรถมอไซต์
พอขายได้น้อย ก็ผลิตน้อย แล้วก็นำมาซึ่งการเลิกจ้าง
โรงงานผลิตรถเองไม่เท่าไหร่หรอกครับ
พวก Suppliers ต่างๆก็กระทบด้วย
ภาษีที่รัฐขาดรายได้ไปไม่ได้มีแค่จากการนำเข้ารถ แต่เป็นภาษีรายได้ของทั้ง supply chain ด้วยครับ
-
ถ้ารัฐเก็บภาษีรถนำเข้าถูก
1. โรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศก็จะผลิตได้น้อยลง เนื่องจากยอดขายที่ลดลง
2 ส่งผลให้มีการจ้างงานที่ลดลงไปด้วย
3. ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ
4. อาจจะส่งผลทำให้ GDP ตก
5. ทำให้รัฐเก็บภาษีได้น้อยลง
-
สมมติไทยเก็บภาษีได้ล้านบาท แต่การลดภาษีลดนำเข้าลง ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ได้ 5%
ทำให้ปีนี้รัฐเก็บภาษีได้ 950,000 บาท
แต่ในขณะที่รายจ่ายเท่าเดิม รัฐก็ค้องหาเงินมาเติม 50,000 บาทที่ลดลงไป เพราะรายจ่ายค้ำคออยู่
อันนี้นอกเหนือจากการกระทบห่วงโซ่อุปสงค์ อุปทานของวงการรถยนต์ด้วยครับ
-
แล้วทำไมรถที่ผลิดในประเทศเราหลายๆตัวถึงแพงกว่า หลายประเทศทั้งที่ผลิดในบ้านเรา
-
แล้วทำไมรถที่ผลิดในประเทศเราหลายๆตัวถึงแพงกว่า หลายประเทศทั้งที่ผลิดในบ้านเรา
จากความเข้าใจของผม
นอกจากภาษีนำเข้า รถที่ผลิตในประเทศไทยต้องเสียภาษีสรรพสามิต ตามข้อกำหนด ขนาดเครื่องยนต์และอัตราการปล่อยผลพิษ
ส่วน Premium Brand ที่ประกอบในประเทศไทย จะมีชิ้นส่วนที่ต้องนำเข้ามาเช่นเครื่องยนต์ ชุดเกียร์ ecu เพราะไม่สามารถผลิดในไทยได้ ชิ้นส่วนพวกนั้นก็จะโดนภาษีชิ้นส่วนรถยนต์
เมื่อประกอบเสร็จก็เสียภาษีสรรพสามิต บวก กำไรเข้าไป ราคาก็เลยสูงกว่า
-
แล้วทำไมรถที่ผลิดในประเทศเราหลายๆตัวถึงแพงกว่า หลายประเทศทั้งที่ผลิดในบ้านเรา
หลายๆประเทศราคาขายรถ ถูกกว่า แต่เค้าเสียอย่างอื่นด้วยครับ ไม่ได้ซื้อง่ายแบบไทย
อย่างญี่ปุ่นกำหนดเอาไว้ว่าผู้ที่ต้องการจะซื้อรถยนต์ส่วนตัวจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนเองนั้นมีสถานที่จอดรถเป็นของตนเอง เว้นแต่จะเป็นรถที่มีขนาดไม่เกิน 660 CC ซึ่งถ้าคุณไม่มีที่จอดรถ แต่อยากซื้อรถก็ต้องไปเช่าที่จอดก่อนแล้วเอาเอกสารไปขอซื้อรถ และค่าเช่าจอดไม่แน่ใจว่าเท่าไร แต่เคยอ่านเจอว่า ถ้าเช่า 1 ปี จะแพงพอๆกับซื้อรถได้อีกคันเลยทีเดียว ..
และถ้าคุณมีรถส่วนตัวแล้ว และขับไปห้างหรือที่สาธารณะอื่นๆ จะถูกเก็บค่าจอดทุกที่ ที่ญี่ปุ่นไม่มีจอดฟรี เฉลี่ยค่าจอดจะอยู่ที่ 900บาทต่อวัน ถ้าจ่ายแบบเหมาวัน
ดังนั้น อย่าคิดว่า มนุษย์เงินเดือนจะซื้อรถขับไปทำงานโก้ๆแบบคนไทยได้ง่ายๆ หรือขับรถไปห้าง ซื้อของแล้วปั๊มตราจอดฟรีแบบเมืองไทยครับ
ฉะนั้นเมื่อการครอบครองรถของคนญี่ปุ่นมันไม่ได้ง่าย แล้วถ้ายังจะขายแพงอีก ใครจะซื้อครับ มีรถคันนึง เสียนู่นเสียนี่ ต้องมีที่จอด ต้องมีเอกสารเช่าจอด ขับไปไหนก็มีแต่เสียเงิน และนี่ยังไม่รวมต่อภาษีประจำปีที่แพงกว่าเรามาก และ รถยิ่งเก่า ปียิ่งเยอะยิ่งแพง ต่างจากไทยที่ยิ่งเก่ายิ่งถูก
เรื่องการใช้รถยนต์ เมืองไทยนี่สวรรณ์ที่สุดแล้วครับ
-
พูดตรงๆก็คือ ภาษีนำเข้าเป็นกำแพงป้องกันอุตสาหกรรมรถยนต์ในบ้านเราครับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานสัญชาติญี่ปุ่น
ผมก็ขี้เกียจจะพูดแล้วน่ะว่ามันสำคัญยังไง ไอ้อุตสาหกรรมในประเทศเนี่ย... เอาเป็นว่าลองไปหาดูล่ะกันว่ามันคือ GDP กี่เปอร์เซนต์ของประเทศ
แต่มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ ว่าการเก็บภาษีที่เกี่ยวกับรถนั้น ต้องการที่จะควบคุมเรื่องอะไร
ถ้าต้องการควบคุมเรื่องการนำเข้า ก็ต้องไปเลือกเก็บภาษีรถนำเข้าในอัตราที่แพง แล้วให้รถที่ผลิตในประเทศเก็บภาษีถูกๆ
แต่ถ้าต้องการควบคุมปริมาณรถในประเทศทั้งหมดเลย ก็อาจจะไปเก็บภาษีที่เกี่ยวกับรถด้านอื่นๆแทนเช่น เก็บภาษีค่าต่อประกันรถแพงหน่อย ภาษีป้ายทะเบียนแพงหน่อย
ภาษีค่าที่จอดรถแพงหน่อย เป็นต้นครับ
ภาษีรถกระบะหรือppvที่ควรจะเก็บแพงขึ้นกว่านี้ตามขนาดccและตัวถัง แต่กลับอุ้มจังภาษีสรรพสามิตรหละราคาถูกมากครับเมื่อเทียบกับควันดำๆที่ปล่อยให้คนไทยดมทุกวัน หรือขับตีนผีกันจังว่าถนนี้เป็นของข้าคนเดียว แต่รถเล็กๆอย่างพวก b segment หละภาษีสรรพสามิตรแพงจังทั้งที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่า แรงน้อยกว่า
น่าจะตัดตอนไปที่กระบะตอนเดียวไปเลยนะครับ ที่เก็บถูกๆได้ หรือผ่อนผันให้แค้ปอีกนิด
ที่เหลือก็ปล่อยไปตามสเต็ปไปเลย แต่ก็อีก ไทยดันเป็นฐานผลิต ppv ส่งออก เลยต้องตามใจผู้ผลิต
แล้วทำไมรถที่ผลิดในประเทศเราหลายๆตัวถึงแพงกว่า หลายประเทศทั้งที่ผลิดในบ้านเรา
หลายๆประเทศราคาขายรถ ถูกกว่า แต่เค้าเสียอย่างอื่นด้วยครับ ไม่ได้ซื้อง่ายแบบไทย
อย่างญี่ปุ่นกำหนดเอาไว้ว่าผู้ที่ต้องการจะซื้อรถยนต์ส่วนตัวจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนเองนั้นมีสถานที่จอดรถเป็นของตนเอง เว้นแต่จะเป็นรถที่มีขนาดไม่เกิน 660 CC ซึ่งถ้าคุณไม่มีที่จอดรถ แต่อยากซื้อรถก็ต้องไปเช่าที่จอดก่อนแล้วเอาเอกสารไปขอซื้อรถ และค่าเช่าจอดไม่แน่ใจว่าเท่าไร แต่เคยอ่านเจอว่า ถ้าเช่า 1 ปี จะแพงพอๆกับซื้อรถได้อีกคันเลยทีเดียว ..
และถ้าคุณมีรถส่วนตัวแล้ว และขับไปห้างหรือที่สาธารณะอื่นๆ จะถูกเก็บค่าจอดทุกที่ ที่ญี่ปุ่นไม่มีจอดฟรี เฉลี่ยค่าจอดจะอยู่ที่ 900บาทต่อวัน ถ้าจ่ายแบบเหมาวัน
ดังนั้น อย่าคิดว่า มนุษย์เงินเดือนจะซื้อรถขับไปทำงานโก้ๆแบบคนไทยได้ง่ายๆ หรือขับรถไปห้าง ซื้อของแล้วปั๊มตราจอดฟรีแบบเมืองไทยครับ
ฉะนั้นเมื่อการครอบครองรถของคนญี่ปุ่นมันไม่ได้ง่าย แล้วถ้ายังจะขายแพงอีก ใครจะซื้อครับ มีรถคันนึง เสียนู่นเสียนี่ ต้องมีที่จอด ต้องมีเอกสารเช่าจอด ขับไปไหนก็มีแต่เสียเงิน และนี่ยังไม่รวมต่อภาษีประจำปีที่แพงกว่าเรามาก และ รถยิ่งเก่า ปียิ่งเยอะยิ่งแพง ต่างจากไทยที่ยิ่งเก่ายิ่งถูก
เรื่องการใช้รถยนต์ เมืองไทยนี่สวรรณ์ที่สุดแล้วครับ
อันนี้เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ขนาดคนบ่นแพงๆๆๆ แต่ก็ซื้อมาจอดจนชาวบ้านชาวช่องเข้าบ้านลำบาก
น่าจะมีกฏหมายมีที่จอด 1 ต่อ1 ไปเลยนะครับ
แต่อย่างว่า ตราบใดที่ข้าราชการไทยยังกินใต้โต๊ะไม่เลิก เดี๋ยวก็มีการสวมสิทธิ์ที่จอดรถกันอยู่ดี เหมือนที่ชอบต่อเติมบ้านผิดแบบ มีให้เห็นกันทุกหมู่บ้าน
-
ภาคอุตสาหกรรมเราจะล้ม และกลุ่มทุนญี่ปุ่นพร้อมจะย้ายฐานการผลิต ไปที่อื่น คนจะตกงานเป็นแสนๆ คน คุ้มไหม??? กับการแลกมาด้วยการอยากได้รถสวยๆ ของคนส่วนน้อย การเอาประเทศอื่นๆ อย่างเพื่อนบ้านมาเทียบว่า "ทำไมเขาใช้รถสวย รถดี รถแพง รถหรู รถเท่ รถแปลกๆ รถใหม่ก่อนเราฟระ!!!" จะบอกให้ ประเทศอื่นๆ รอบๆข้างเราเขาใช้พวงมาลัยซ้าย ซึ่งเป็นประชากรรถส่วนใหญ่ในโลก หานำเข้ารถจากที่ไหนในโลกมาใช้ก็ได้เลย ตรงข้ามกับรถที่ใช้พวงมาลัยขวาเป็นประชากรส่วนน้อยของโลก แถมเขาไม่มีโรงงานแบบเรา จึงนำเข้าได้แบบเสรีภาษี ถูก
-
ถ้ามีกำแพงภาษีแล้วควบคุมคุณภาพ และราคารถผลิตในประเทศให้เป็นธรรมกว่านี้ การนำเข้าคงไม่ถูกพูดถึง...
-
.
.
ลดภาษีรถนำเข้าเถอะครับ
เห็นเวลาสิ้นปีทีพวกโรงงานประกอบรถยนต์
ประกาศโบนัสกัน 8 เดือนมั่ง 12 เดือนมั่ง
แสดงว่าทุกวันนี้มันกำไรเกินควรอยู่ครับ
-
งั้นถามต่อว่า ทำไมรถบางยี่ห้อ ไปขายที่เมกาถูกกว่าบ้านเรา ทั้งที่บ้านเราก็เป็นฐานประกอบชิ้นส่วน
เอาง่ายๆเลย Camry ใหม่ รุ่นเริ่ม เมกาขายเก้าแสนเอง บ้านเราขายล้านสี่ ทั้งที่ของเรา Option ด้อยกว่า
-
กระทบเป็นลูกโซ่เลยครับ เพราะภาษีรถยนต์ที่ขายในประเทศก็สูงกว่าต่างประเทศเยอะเหมือนกัน ถ้าปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์จริงก็ต้องมีการปรับทั้งระบบนั่นล่ะ มันไม่ใช่ว่าปรับลดแค่ภาษีนำเข้าอย่างเดียวแล้วจบ สุดท้ายแล้วจะเรียกว่าเสียหายมากน้อยหรือไม่เสียหายก็ต้องมาดูหลังจากปรับเปลี่ยนทั้งหมดแล้วอีกที
-
.
.
ลดภาษีรถนำเข้าเถอะครับ
เห็นเวลาสิ้นปีทีพวกโรงงานประกอบรถยนต์
ประกาศโบนัสกัน 8 เดือนมั่ง 12 เดือนมั่ง
แสดงว่าทุกวันนี้มันกำไรเกินควรอยู่ครับ
ทำแบบนั้นก็เหมือนฆ่าตัวตายครับ ....
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติเราปลูกข้าวขายเอง ราคาตันละ 10,000 บาท
แต่บังเอิญ ข้าวที่ลาวขาย ตันละ 5,000 บาท ถามว่าใครจะซื้อข้าวคนไทยกินครับ เค้านำเข้ามากินไม่ถูกกว่าหรอ ..
เช่นเดียวกับรถยนต์ครับ ถ้าไม่มีกำแพงภาษี รถยนต์นำเข้า บริษัทรถยนต์ที่ไหนจะมาสร้างโรงงานลงทุนเป็นพันล้านล่ะครับ ทุกยี่ห้อ นำเข้ามาจากประเทศของตัวเองหมด แล้วคนไทยก็ตกงาน โตโยต้า นิสสัน มาสด้า ฯลฯ ปิดตัวลง เพราะนำเข้ามาถูกกว่า ไม่ต้องปวดหัวกับแรงงานไทยที่เรียกร้องโบนัสและสวัสดิการจิปาถะ โรงงานผู้ผลิตอะไหล่ก็ต้องปิดตัวเพราะไม่มีใครสั่งแล้ว เค้าสั่งญี่ปุ่นหมด ....
.
อยากให้ประเทศเป็นแบบนั้นหรือครับ ...
-
ภาษี เป็นยาแรง สำหรับระบบเศรษฐกิจครับ กระทบหลายด้านมาก จะหาจุดสมดุลให้ทุกฝ่ายชอบนั้น ผมว่าทำยากมากๆ
-
.
.
ลดภาษีรถนำเข้าเถอะครับ
เห็นเวลาสิ้นปีทีพวกโรงงานประกอบรถยนต์
ประกาศโบนัสกัน 8 เดือนมั่ง 12 เดือนมั่ง
แสดงว่าทุกวันนี้มันกำไรเกินควรอยู่ครับ
ทำแบบนั้นก็เหมือนฆ่าตัวตายครับ ....
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติเราปลูกข้าวขายเอง ราคาตันละ 10,000 บาท
แต่บังเอิญ ข้าวที่ลาวขาย ตันละ 5,000 บาท ถามว่าใครจะซื้อข้าวคนไทยกินครับ เค้านำเข้ามากินไม่ถูกกว่าหรอ ..
เช่นเดียวกับรถยนต์ครับ ถ้าไม่มีกำแพงภาษี รถยนต์นำเข้า บริษัทรถยนต์ที่ไหนจะมาสร้างโรงงานลงทุนเป็นพันล้านล่ะครับ ทุกยี่ห้อ นำเข้ามาจากประเทศของตัวเองหมด แล้วคนไทยก็ตกงาน โตโยต้า นิสสัน มาสด้า ฯลฯ ปิดตัวลง เพราะนำเข้ามาถูกกว่า ไม่ต้องปวดหัวกับแรงงานไทยที่เรียกร้องโบนัสและสวัสดิการจิปาถะ โรงงานผู้ผลิตอะไหล่ก็ต้องปิดตัวเพราะไม่มีใครสั่งแล้ว เค้าสั่งญี่ปุ่นหมด ....
.
อยากให้ประเทศเป็นแบบนั้นหรือครับ ...
ใช้คำว่าประเทศไม่ได้หรอกครับ มันแค่อุตสาหกรรมเดียว
แล้วคำว่าลดภาษีนำเข้าไม่ได้แปลว่ายกเลิก มันคนละความหมายกัน
หรือต่อให้ยกเลิกมันก็ไม่มีทางที่นำเข้าจากญี่ปุ่นจะถูกกว่าไทย
ออกความเห็นแบบนี้เวอร์ไปมากครับ
ที่ให้ลดภาษีนำเข้าหมายถึงว่ามันควรจะมีการแข่งขันมากกว่าการผูกขาดแบบนี้
บริษัทที่ขายรถในไทยกำไรมากเกินไป รวมถึงบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ
กำไรเละเทะ โบนัสทีเกือบปีแบบนี้ก็รู้แล้ว มันควรจะมีการจัดการกันบ้าง
-
มันอยู่รัฐบาลอยากให้เป็นยังไงมากกว่าครับ จะบอกว่าบ้านเมืองเสียหายหรือไม่นั้นผมว่า มันมีคนได้คนเสียอยู่แล้ว เท่าที่มองเห็นคือคนที่จะซื้อรถมีทางเลือกมากขึ้น รถที่ประกอบในประเทศราคาก็น่าจะถูกลงเพื่อแข่งขัน โดยรวมผู้บริโภคได้ซื้อของราคาถูกลงและตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น ส่วนฝั่งผู้ผลิตภายในประเทศ กำไรจากการขายรถก็จะน้อยลงเพราะ ต้องแข่งขันมากขึ้น นี่แค่เท่าที่มองแบบง่ายๆ ในฐานะคนใช้รถคนนึง และมองด้านเดียว ซึ่งผมอยากให้เป็นแบบนั้น แต่รัฐบาลเค้าคงมีเหตุผลมากมาย ที่คงจะทำไม่ได้ เราก็ได้ใช้รถแพงกว่าที่ควรจะเป็นเหมือนเดิม เอวังจ้า
-
.
.
ลดภาษีรถนำเข้าเถอะครับ
เห็นเวลาสิ้นปีทีพวกโรงงานประกอบรถยนต์
ประกาศโบนัสกัน 8 เดือนมั่ง 12 เดือนมั่ง
แสดงว่าทุกวันนี้มันกำไรเกินควรอยู่ครับ
ถ้าพนักงานที่เป็นคนไทยได้เต็มๆ ก็ไม่น่าจะต้องไปเปลี่ยนแปลงอะไรนะครับ
8 เดือน ปีนึง เดี๋ยวเงินก้อนนี้ก็วนเข้าระบบอยู่ดี
ส่วนตัว มองว่า โรงงานญี่ปุ่นเวลากไรแล้ว ยังไมีกระเด็นมาให้ปลายทางบ้าง
แต่ถ้าจีนนี่ ก็น่าคิดอย่างแรง...
อุตสาหกรรมรถแท้ๆยังไม่มีให้เปรียบเทียบ
แต่อุตสาหกรรมอื่นๆที่ผมคลุกคลีมาด้วย
เอาแค่ห้องทำงานเหลาปั่น มันยังให้ช่างจีน บริษัทจีนมาตกแต่งเลย แม่บ้งแม่บ้านก็ขนมาจากประเทศเค้าเอง
เอาที่เหมาะสมดีกว่าครับ ^^