Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ มกราคม 14, 2019, 20:16:57
-
บางประเทศในยุโรป เค้าถึงเรียกค่าปรับตามฐานะ
https://youtu.be/jYF7l89hWeE (https://youtu.be/jYF7l89hWeE)
-
ก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่ม Fortuner ทำแบบเดียวกัน ลักษณะการปิดกั้นเลนถนนก็ไม่ต่างกัน ไม่น่าจะเกี่ยวกับคนรวยหรือคนจนนะครับ
-
เห็นด้วยครับอยากให้ปรับตามฐานะและราคารถไปเลยเหอะๆ
ตรวจที่มาของเงินด้วยก็ดีนะ อุ๊ปป
-
น่าจะเอารายชื่อคนขับ มาออกสื่อสัก 3 วัน อาจจะอับอายกันบ้าง ลงโทษทางสังคมกันไป ค่าปรับเค้าไม่สนอยู่แล้ว
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
-
เสียดายฐานะ ต้นทุนชีวิตที่ดี และโอกาสที่เกิดมาได้ใช้รถดี มีชีวิตดีๆครับ
-
เห็นในข่าว ว่าดอดไปจ่ายค่าปรับ แค่คันละ 500 คันที่จอดขวาง คันละ 1000 ถ้าเทียบกันเงินที่เค้ามีคงขึ้ผง
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
-
เอ้า เค้ารวยกว่าแล้วทำไมต้องจ่ายมากกว่าล่ะครับ แบบนี้คนหาเช้ากินค่ำขับมอเตอร์ไซร์ฝ่าไฟแดงตำรวจเรียกมาเอาให้ให้ไปซื้อข้าวกินด้วยหรอ
ไปเป็นกลุ่มเจอแบบนี้แหละเห็นบ่อย แค่นี้รถแพงไงเลยโดนเยอะกว่าปกติดีที่เค้าไปเสียค่าปรับกันเร็วไม่ตอบโต้อะไร
ตอนฟอร์จูนเนอร์ก็โดนกันแต่เพราะไปตอบโต้เลยดราม่าเยอะ
-
การรวมกลุ่มแล้วเพิกเฉยต่อกฏจราจรเห็นกันได้บ่อยจังครับ ไม่เกี่ยวกับยานพาหนะที่ใช้หรอกครับ จะแว้น Scooter BB รถแต่งซิ่ง กระบะควันดำ ยันรถ Supercar ก็เหมือนๆกัน ทั้งหมดอยู่กับตัวคนและสังคมล้วนๆ
ค่าปรับเพิ่มตามรายได้มีอยู่จริงในต่างประเทศครับ เพื่อให้คนมีรายได้สูงๆไม่เพิกเฉยต่อกฏเนื่องจากไม่สะทกสะท้านต่อค่าปรับ (เพราะจุดประสงค์คือทุกคนควรทำตามกฏเพื่อความปลอดภัยส่วนรวม)
และการขับเร็วเกินกำหนด ยิ่งเกินเยอะยิ่งปรับเยอะก็มีอยู่จริงในต่างประเทศด้วยเช่นกัน
สำหรับบ้านเราไม่เป็นที่ยอมรับครับ และก็ใช่ว่ากฏหมายของต่างประเทศจะสามารถนำมาใช้ได้เสมอไป ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วยเช่นกัน เพราะแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันในหลายๆด้าน
ส่วนตัวไม่มีความเห็นเรื่องนี้ เพราะขอแค่เจ้าหน้าที่เคร่งครัดในการบังคับใช้กฏหมายที่มีอยู่(แม้ผมจะคิดว่าค่อนข้างล้าหลังในความเห็นส่วนตัว)แบบต่อเนื่องและเป็นมาตรฐานให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยคิดเรื่องอื่น
-
ไม่เห็นด้วยให้ปรับตามรายได้ ควรจะปรับมันแพงๆทุกชนชั้น หาเช้ากินค่ำแต่ขับรถแบบนี้ก็จ่าย 50,000 ไปเถอะ
แต่ที่สำคัญต้องดูเจตนาเป็นหลัก
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
-
ข่าวน้องโยโย่ เห็นนักข่าวไปถ่ายรูปด้านหน้ากันเยอะแยะ
ทีงี้ถ่ายแต่แผ่นหลังอาเสี่ย ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน :'( :'( :'(
-
รู้กันครับ ...........
-
แยกเดียวกับคราวที่แล้วเลยนิครับ
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
เท่าที่ผมรู้ เยอรมัน และ สวีเดน ใช้โทษปรับตามรายได้แทนการติดคุก
ไม่ใช่โทษปรับจราจร ถ้าคุณมีข้อมูลว่าใช้โทษปรับตามรายได้กับการทำผิดกฏจราจร
ผมขอแหล่งข้อมูลหน่อยครับ
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
เท่าที่ผมรู้ เยอรมัน และ สวีเดน ใช้โทษปรับตามรายได้แทนการติดคุก
ไม่ใช่โทษปรับจราจร ถ้าคุณมีข้อมูลว่าใช้โทษปรับตามรายได้กับการทำผิดกฏจราจร
ผมขอแหล่งข้อมูลหน่อยครับ
https://www.weforum.org/agenda/2018/06/in-finland-speeding-tickets-are-linked-to-your-income/
-
กำลังฮ็อต
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
เท่าที่ผมรู้ เยอรมัน และ สวีเดน ใช้โทษปรับตามรายได้แทนการติดคุก
ไม่ใช่โทษปรับจราจร ถ้าคุณมีข้อมูลว่าใช้โทษปรับตามรายได้กับการทำผิดกฏจราจร
ผมขอแหล่งข้อมูลหน่อยครับ
อีกแหล่งครับ UK แต่ผมไม่รู้นะว่าบังคับใช้หมดเลย (England, Northern Ireland, Scotland, Wales) หรือเฉพาะอังกฤษ
https://www.motoring.com.au/uk-introduces-new-income-based-speeding-fines-106940/
นำโดย Finland และมีหลายๆประเทศกำลังพิจารณาครับ
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
เท่าที่ผมรู้ เยอรมัน และ สวีเดน ใช้โทษปรับตามรายได้แทนการติดคุก
ไม่ใช่โทษปรับจราจร ถ้าคุณมีข้อมูลว่าใช้โทษปรับตามรายได้กับการทำผิดกฏจราจร
ผมขอแหล่งข้อมูลหน่อยครับ
อีกแหล่งครับ UK แต่ผมไม่รู้นะว่าบังคับใช้หมดเลย (England, Northern Ireland, Scotland, Wales) หรือเฉพาะอังกฤษ
https://www.motoring.com.au/uk-introduces-new-income-based-speeding-fines-106940/
นำโดย Finland และมีหลายๆประเทศกำลังพิจารณาครับ
หนุ่มนักซิ่งชาวสวีเดนทุบสถิติเสียค่าปรับ แพงที่สุดในโลก หลัง ขับรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี (Mercedes-Benz SLS AMG) ด้วยความเร็วสูงถึง 180 ไมล์ต่อชั่วโมง (290 ก.ม./ช.ม.) บนถนนมอเตอร์เวย์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ต้องบอกว่างานนี้แรงทั้งรถและค่าปรับ หลังหนุ่มใหญ่วัย 37 ปี ชาวสวีเดน ทุบสถิติผู้ทำผิดกฏจราจรที่โดนค่าปรับ แพงที่สุดในโลก โดยถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 1,080,000 ฟรังก์สวิส (ราว 33 ล้านบาท) ทั้งยังโดนยึดใบขับขี่ หลังขับรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี ซิ่งท้านรกด้วยความเร็วสูงถึง 290 ก.ม./ช.ม. เกินกว่าความเร็วที่กฏหมายประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำหนดไว้ถึง 2.5 เท่า
ค่า ปรับดังกล่าวสูงกว่าราคารถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี ซึ่งจำหน่ายที่ประเทศอังกฤษด้วยสนนราคา 160,000 ปอนด์ (ราว 8 ล้านบาท) หลายเท่า โดยรถคันดังกล่าวมีความสูงสุด 197 ไมล์ต่อช.ม. (317 ก.ม./ช.ม.)
ก่อนหน้าที่จะถูกจับบนถนนมอเตอร์เวย์ในประเทศสวิตเซอร์ แลนด์ ชายคนดังกล่าวรอดพ้นจากการถูกถ่ายภาพด้วยกล้องจับความเร็วที่ติดตั้งไว้บน ถนนในหลายจุดด้วยกัน เนื่องจากกล้องบริเวณดังกล่าวเป็นรุ่นเก่าจึงไม่สามารถจับภาพรถที่วิ่งด้วย ความเร็วสูงเกินกว่า 200 ก.ม./ช.ม. แต่ในระหว่างที่เขาขับผ่านถนนเอ12 (ระหว่างกรุงเบิร์นและเมืองโลซานน์) กล้องตรวจจับความเร็วรุ่นใหม่สามารถจับภาพรถของเขาเอาไว้ได้ ตำรวจสวิสจึงเร่งออกติดตาม โดยระบุว่ารถคันดังกล่าววิ่งเร็วมากจนต้องใช้ระยะทางในการชะลอและเบรคราว 1 ก.ม. จึงจะหยุดรถได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง กล่าวว่า นี่เป็นการจับผู้กระทำผิดกฏจราจรที่ขับรถด้วยความเร็วสูงที่สุดในประวัติ ศาสตร์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
หลังถูกจับ ตำรวจได้ควบคุมตัวเขาไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ พอมอบบิลค่าปรับแล้ว ตำรวจได้ปล่อยตัวเขาในเวลาต่อมา ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของเขา เพราะถ้าถูกจับในประเทศอื่น (แถบยุโรป) นอกจากจะต้องเสียค่าปรับแล้วยังมีสิทธิติดคุกอีกต่างหาก
อย่าง ไรก็ตาม รถสปอร์ตสุดหรูของเขายังคงถูกตำรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากเขาให้การว่าเข็มไมล์ของรถ (ที่เพิ่งถอยมาใหม่) มีปัญหา ทำให้เขาไม่รู้ว่าตนเองกำลังขับรถซิ่งท้านรก (หนุ่มสวีเดนคนดังกล่าวเพิ่งถอยรถแรงหรูมาสดๆ ร้อนๆ จากโชว์รูมแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี และกำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน)
สาเหตุที่ชายคนดังกล่าวถูกปรับในอัตราสูงลิบลิ่ว เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีสูตรคำนวณค่าปรับ โดยพิจารณาจาก รายได้ ของผู้กระทำความผิดและ ความเร็วที่ขับเกินกฏหมายกำหนด (กฏหมายกำหนดความเร็วสูงสุดบนถนนดังกล่าวเอาไว้ที่ 75 ไมล์/ช.ม. หรือ 121 ก.ม./ช.ม.)
ด้วยเหตุนี้ หนุ่มสวีเดนจึงถูกยึดใบขับขี่และโดนลงโทษปรับขั้นสูงสุดเป็นเวลา 300 วัน โดยมีค่าปรับวันละ 3,600 ฟรังก์สวิส (กว่า 1 แสนบาท) หรือคิดเป็นเงินทั้งสิ้นถึง 33 ล้านบาท ทุบสถิติค่าปรับ แพงที่สุดในโลก แทนที่สถิติเดิมที่ชาวฟินแลนด์ วัย 44 ปี (ผู้บริหารระดับสูง บริษัท โนเกีย) เคยโดนปรับเป็นเงิน 5 ล้านบาท หลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ด้วยความเร็ว 47 ไมล์ต่อช.ม. (76 ก.ม./ช.ม.) ในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว (กฏหมายระบุความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 30 ไมล์ หรือ 48 ก.ม. ต่อช.ม. ) ซึ่งในครั้งนั้นมีการนำรายได้ของเขามาเปรียบเทียบเป็นค่าปรับด้วยเช่นกัน
-
รถหลายล้าน สัน_านสองสลึง
-
เรื่องนี้สะท้อนสภาพสังคมรุ่นลูกหลานได้ชัดเจน
น่าห่วงครับ
-
อืม ก็เหมือนเดิม ผมว่า ค่าปรับน้อยไป เอาตาม ตปท ครับ หลักหมื่น ถึงหลายหมื่น ไม่เว้นรวยจน จับจริง ปรับจริง รับรอง ถนนไทยดีขึ้นเยอะ
ประวัติใบขับขี่ ปรับแต้ม ยึด รับรอง คนขับรถดีขึ้นเยอะ
-
เรื่องปรับตามรายได้ ผมเห็นด้วย เห็นด้วยอย่างยิ่งเลย
เหมือนกรณีเดียวกับผิดกฏหมายความเร็ว เพราะคนมีเงินพร้อมจ่าย ผมว่าแค่เรื่องเงิน 500-1000 นึง ขี้ปะติ๋วมากกกก ไม่เดือดร้อนอะไรสักกะนิด ยกเว้น จะมีรายชื่อโพล่มา 1...2...3.. เป็นใครบ้าง อันนี้ผมว่าเต้นครับ อยู่เฉยไม่ได้แน่นอน ต้องมาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ออกสื่อแน่นอน
แต่ รวย หรือ จน ผมว่าไม่ใช่ประเด็น เพราะคนรวยก็ทำ คนจนก็ทำ เหมือนกัน แต่พฤติกรรมอาจะแตกต่างกันไปตามสันดาน ลองไปดูตามแยกไฟแดงในกรุงเทพฯ มีให้เห็นทุกแยก ทุกไฟแดง พอรถฝั่งไฟเขียวทิ้งจังหวะนิดเดียว เหล่าพวก.เ...ี้.ย. จะ พลูดพลาด ฝ่าไฟแดง กันเป็นเรื่องปกติไปเลย ผมเคยเจอกับตัว รถเตือนชนด้านหน้า(รถผมมี radar) ทั้งบีบแตร ทั้งเบรคเกือบหัวทิ่ม ทั้งๆ ที่เราไฟเขียว มันบ่งบอกว่า วินัยจราจร กับ ยางอาย บ้านเราต่ำมาก ถึงขั้นล่มเหลวทางจิตสำนักทางจราจร ก็ว่าได้
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
เท่าที่ผมรู้ เยอรมัน และ สวีเดน ใช้โทษปรับตามรายได้แทนการติดคุก
ไม่ใช่โทษปรับจราจร ถ้าคุณมีข้อมูลว่าใช้โทษปรับตามรายได้กับการทำผิดกฏจราจร
ผมขอแหล่งข้อมูลหน่อยครับ
อีกแหล่งครับ UK แต่ผมไม่รู้นะว่าบังคับใช้หมดเลย (England, Northern Ireland, Scotland, Wales) หรือเฉพาะอังกฤษ
https://www.motoring.com.au/uk-introduces-new-income-based-speeding-fines-106940/
นำโดย Finland และมีหลายๆประเทศกำลังพิจารณาครับ
หนุ่มนักซิ่งชาวสวีเดนทุบสถิติเสียค่าปรับ แพงที่สุดในโลก หลัง ขับรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี (Mercedes-Benz SLS AMG) ด้วยความเร็วสูงถึง 180 ไมล์ต่อชั่วโมง (290 ก.ม./ช.ม.) บนถนนมอเตอร์เวย์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ต้องบอกว่างานนี้แรงทั้งรถและค่าปรับ หลังหนุ่มใหญ่วัย 37 ปี ชาวสวีเดน ทุบสถิติผู้ทำผิดกฏจราจรที่โดนค่าปรับ แพงที่สุดในโลก โดยถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 1,080,000 ฟรังก์สวิส (ราว 33 ล้านบาท) ทั้งยังโดนยึดใบขับขี่ หลังขับรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี ซิ่งท้านรกด้วยความเร็วสูงถึง 290 ก.ม./ช.ม. เกินกว่าความเร็วที่กฏหมายประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำหนดไว้ถึง 2.5 เท่า
ค่า ปรับดังกล่าวสูงกว่าราคารถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี ซึ่งจำหน่ายที่ประเทศอังกฤษด้วยสนนราคา 160,000 ปอนด์ (ราว 8 ล้านบาท) หลายเท่า โดยรถคันดังกล่าวมีความสูงสุด 197 ไมล์ต่อช.ม. (317 ก.ม./ช.ม.)
ก่อนหน้าที่จะถูกจับบนถนนมอเตอร์เวย์ในประเทศสวิตเซอร์ แลนด์ ชายคนดังกล่าวรอดพ้นจากการถูกถ่ายภาพด้วยกล้องจับความเร็วที่ติดตั้งไว้บน ถนนในหลายจุดด้วยกัน เนื่องจากกล้องบริเวณดังกล่าวเป็นรุ่นเก่าจึงไม่สามารถจับภาพรถที่วิ่งด้วย ความเร็วสูงเกินกว่า 200 ก.ม./ช.ม. แต่ในระหว่างที่เขาขับผ่านถนนเอ12 (ระหว่างกรุงเบิร์นและเมืองโลซานน์) กล้องตรวจจับความเร็วรุ่นใหม่สามารถจับภาพรถของเขาเอาไว้ได้ ตำรวจสวิสจึงเร่งออกติดตาม โดยระบุว่ารถคันดังกล่าววิ่งเร็วมากจนต้องใช้ระยะทางในการชะลอและเบรคราว 1 ก.ม. จึงจะหยุดรถได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง กล่าวว่า นี่เป็นการจับผู้กระทำผิดกฏจราจรที่ขับรถด้วยความเร็วสูงที่สุดในประวัติ ศาสตร์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
หลังถูกจับ ตำรวจได้ควบคุมตัวเขาไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ พอมอบบิลค่าปรับแล้ว ตำรวจได้ปล่อยตัวเขาในเวลาต่อมา ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของเขา เพราะถ้าถูกจับในประเทศอื่น (แถบยุโรป) นอกจากจะต้องเสียค่าปรับแล้วยังมีสิทธิติดคุกอีกต่างหาก
อย่าง ไรก็ตาม รถสปอร์ตสุดหรูของเขายังคงถูกตำรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากเขาให้การว่าเข็มไมล์ของรถ (ที่เพิ่งถอยมาใหม่) มีปัญหา ทำให้เขาไม่รู้ว่าตนเองกำลังขับรถซิ่งท้านรก (หนุ่มสวีเดนคนดังกล่าวเพิ่งถอยรถแรงหรูมาสดๆ ร้อนๆ จากโชว์รูมแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี และกำลังขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน)
สาเหตุที่ชายคนดังกล่าวถูกปรับในอัตราสูงลิบลิ่ว เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีสูตรคำนวณค่าปรับ โดยพิจารณาจาก รายได้ ของผู้กระทำความผิดและ ความเร็วที่ขับเกินกฏหมายกำหนด (กฏหมายกำหนดความเร็วสูงสุดบนถนนดังกล่าวเอาไว้ที่ 75 ไมล์/ช.ม. หรือ 121 ก.ม./ช.ม.)
ด้วยเหตุนี้ หนุ่มสวีเดนจึงถูกยึดใบขับขี่และโดนลงโทษปรับขั้นสูงสุดเป็นเวลา 300 วัน โดยมีค่าปรับวันละ 3,600 ฟรังก์สวิส (กว่า 1 แสนบาท) หรือคิดเป็นเงินทั้งสิ้นถึง 33 ล้านบาท ทุบสถิติค่าปรับ แพงที่สุดในโลก แทนที่สถิติเดิมที่ชาวฟินแลนด์ วัย 44 ปี (ผู้บริหารระดับสูง บริษัท โนเกีย) เคยโดนปรับเป็นเงิน 5 ล้านบาท หลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ด้วยความเร็ว 47 ไมล์ต่อช.ม. (76 ก.ม./ช.ม.) ในเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว (กฏหมายระบุความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 30 ไมล์ หรือ 48 ก.ม. ต่อช.ม. ) ซึ่งในครั้งนั้นมีการนำรายได้ของเขามาเปรียบเทียบเป็นค่าปรับด้วยเช่นกัน
ตามนี้ครับ ฝั่งยูโรป เขามีมา ดังตั้งแต่ผู้บริหารค่ายมือถือมาแล้ว เคยได้ยิน
-
เสือดำตายฟรี นาฬิกายืมเพื่อน แหวนยืมแม่
นี้แค่ฝ่าไฟแดง จิ๊บๆ ยังไงก็รอด >:(
-
ไปเที่ยวกัน ก็ไม่น่าทำคนอื่นเดือดร้อน แค่ทำตามระเบียบสังคมแค่นี้เอง :'( :'( :'( :'(
-
กระทู้เปิดโลก ผมก็เพิ่งรู้นะว่าแถบยุโรปบางประเทศจ่าย
ค่าปรับตามรายได้ เพราะผมก็ไม่เคยไปยุโรปเลย ก็ดีครับ
เพราะคนรวยมักคิดว่ามีตังค์เยอะแค่จ่ายค่าปรับถูกๆก็ไม่เห็น
จะเป็นไร ;D
-
ผมแค่อยากจะบอกว่า Fortuner ควรปรับหลักครึ่งหมื่น Porsche ควรปรับหลักแสน
ถ้าปรับ Porsche 5000 เค้าคงทำอีก
หรือปรับ Fortuner 500เค้าก็คงทำอีกเช่นกัน
อันนี้เรียกปกครองระบอบอะไรครับ
มีด้วยหรอ ถ้าคนรวยกว่าทำผิดปรับมากกว่า
ทำผิดก็คือทำผิด ไม่เกี่ยวว่ารวยจน
จะปรับ 1 แสนก็ต้อง 1 แสนเท่ากัน
กฏหมายมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าลงโทษยังไง
ก่อนทำผิดก็รู้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่ารวยจน
ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามที่กฏหมายเขียนไว้แค่นั้นครับ
ส่วนพวกคนที่ทำแบบนี้ผมว่าหน้าด้านมาก
แค่ไม่อยากให้ขบวนขาดก็จอดรอกันสิครับ
ทำอะไรให้คนเค้าด่า
ประเทศ Scandinavian หลายประเทศที่ค่าปรับตามรายได้ครับ ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ ไม่ใช่ระบอบหมูหมากาไก่ที่ไหน
เท่าที่ผมรู้ เยอรมัน และ สวีเดน ใช้โทษปรับตามรายได้แทนการติดคุก
ไม่ใช่โทษปรับจราจร ถ้าคุณมีข้อมูลว่าใช้โทษปรับตามรายได้กับการทำผิดกฏจราจร
ผมขอแหล่งข้อมูลหน่อยครับ
https://www.weforum.org/agenda/2018/06/in-finland-speeding-tickets-are-linked-to-your-income/
ขอบคุณครับ ความรู้ใหม่เลย
-
แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กแว๊นซ์ ที่ปิดถนนซิ่ง
-
เหมือนพวกวัยรุ่นยกพวกตีกันกับพวกเด็กแว๊นซ์
คือ เดี่ยวๆ ไม่กล้าหรอก พอมีพวกขึ้นมาอะไรก็ทำได้
-
ถ้าเพิ่มค่าปรับตามรายได้ คนรวยจ่ายแพง คนจนจ่ายน้อย มันไม่ใช่ภาษีนะครับ
แล้วถ้าคนจ่ายแพงเขาถามว่าแบบนี้เป็นธรรมกับเขาไหม คุณจะตอบว่าอย่างไรละครับ?
อย่าเคียดแค้นพูดเอามันสิครับ คือดูอะไรพวกนี้แล้วมาโกรธแค้นกันมากเกินไป สังคมมันก็เสื่อมนะครับ ถ้าอยากให้ดัดสันดานพวกนี้จริงๆ ผมว่าเพิ่มโทษจำคุกไปเลยดีกว่าครับ จนรวยก็คุกเหมือนกันหมด แบบนี้จะแก้ปัญหาได้ดีกว่า
-
จะรถหรูรถไม่หรู มาคันเดียวก็หมาไม่กล้าทำการอย่างนี้ครับ
อย่างว่าบทลงโทษ เบาหวิวเหมือนไม่มีโทษ แถมใต้โต๊ะตำรวจได้อีก
"Progressive punishment" << อันนี้ความรู้ใหม่
กฎหมายถนนฟินแลนด์แมร่งโหดสัส
-
ไม่น่าเกี่ยวกับฐานนะ นะครับ
เพราะนิสัยแบบนี้มีตั้งแต่คนขับจักรยานยันคนขับรถถัง ;D