Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: last_dezember ที่ สิงหาคม 04, 2010, 08:46:55
-
พวกท่านจะซื้อกันรึเปล่าครับ :D
-
อาจจะครับ
เพราะมันก็เย้ายวนไม่น้อยเลยอะ
แต่ขอราคาสัก 1.2 นิดๆได้มั๊ยอะ
-
อาจจะครับ
เพราะมันก็เย้ายวนไม่น้อยเลยอะ
แต่ขอราคาสัก 1.2 นิดๆได้มั๊ยอะ
อิอิ ตอนแรหผมกะตั้ง 1.2 กลัวว่ามันจะถูกไป อิอิ
เด๋วเปลี่ยนหัวใหม่ดีก่า
-
ถ้า 1.2 ล้านจริงผมจะเก็บเงินซื้อเลย ;D
เอาแลนเซอร์มาแปลงเป็น Evo ยังแพงกว่านี้เลย
แต่ 1.2 ล้าน คงไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะตัว 2.0 เดิมๆ ก็ ล้านนิดๆไปแล้ว
นี่ 2.3 Turbo
ช่วงล่าง เบรค ล้อ ยาง ที่เพิ่มมาก็เป็นแสนแล้ว
แถมแรงม้า 250 กว่าตัว เกินพิกัดรถบ้านๆ บ้านเรา
ภาษีสรรพสามิตรหน้าโรงงานจะกระโดดไปเป็น 50% จากเดิม 25%
1.5 ล้านยังไม่น่าจะเป็นไปได้เลยครับ
ถ้าจะกดราคาต้องล็อดแรงม้าจากโรงงานไว้ไม่เกิน 220 แรงม้า แล้วให้ลูกค้ามาปลดล็อคที่หลัง เหมือนกับที่บางยี่ห้อทำอยู่
-
ถ้า 1.2 ล้านจริงผมจะเก็บเงินซื้อเลย ;D
เอาแลนเซอร์มาแปลงเป็น Evo ยังแพงกว่านี้เลย
แต่ 1.2 ล้าน คงไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะตัว 2.0 เดิมๆ ก็ ล้านนิดๆไปแล้ว
นี่ 2.3 Turbo
ช่วงล่าง เบรค ล้อ ยาง ที่เพิ่มมาก็เป็นแสนแล้ว
แถมแรงม้า 250 กว่าตัว เกินพิกัดรถบ้านๆ บ้านเรา
ภาษีสรรพสามิตรหน้าโรงงานจะกระโดดไปเป็น 50% จากเดิม 25%
1.5 ล้านยังไม่น่าจะเป็นไปได้เลยครับ
ถ้าจะกดราคาต้องล็อดแรงม้าจากโรงงานไว้ไม่เกิน 220 แรงม้า แล้วให้ลูกค้ามาปลดล็อคที่หลัง เหมือนกับที่บางยี่ห้อทำอยู่
lสำหรับผม ม้า 220 ตัว ก็เพียงพอละค๊าบ
-
1.2 M คงได้แค่เครื่อง 2.0 + ชุดแต่ง MPS ของแท้
-
1.2 M คงได้แค่เครื่อง 2.0 + ชุดแต่ง MPS ของแท้
ชุดแต่ง + ล้อ MPS 18" + ใส่ Navi ด้วย
ก็น่าสนนะครับ :)
-
ที่เหมาะสมคือยกเลิกภาษีที่ไม่มีสาระและเหตุผลครับ
แต่ต้องสร้างความรับผิดชอบในการขับรถของคนไทยก่อน
-
ที่เหมาะสมคือยกเลิกภาษีที่ไม่มีสาระและเหตุผลครับ
แต่ต้องสร้างความรับผิดชอบในการขับรถของคนไทยก่อน
ถ้ายกเลิกภาษีที่บ้าบอออกไป
ผมว่าคงได้เห็น Type-R, Evo, MPS วิ่งเกลื่อนแน่ๆ ครับ
-
เอาด้วย ;D
แต่ก่อนจะยกเลิกภาษีแกรนแคนยอนของประเทศไทยก่อนอื่นปรับปรุงคุณภาพขนส่งมวลชนให้ดีกว่านี้ซะแล้วออกฏหมายควบคุมเลยว่าบ้านเนื้อที่เท่านี้มีสิทธิมีรถได้กี่คัน ถ้าหากเช่าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ต้องมีที่จอดรถชัดเจนไม่ใช่ทิ้งไว้ริมถนนเกลื่อนกลาดจนคนออกรถสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ >:(
ถ้ายกเลิกภาษีจริงๆเชื่อผมเหอะรถยี่ปุ่นจะน้อยลงมากกกกกกกกกกกกก ไปหนักเบนซ์กับ BMW แทนเพราะคนไทยบ้ายี่ห้อพวกนี้มากในต่างประเทศแพงกว่ารถยี่ปุ่นไม่กี่แสนมีหรือคนไทยจะไม่จ่ายเพิ่มเพื่อแสดงฐานะตัวเอง :P
-
ที่เหมาะสมคือยกเลิกภาษีที่ไม่มีสาระและเหตุผลครับ
แต่ต้องสร้างความรับผิดชอบในการขับรถของคนไทยก่อน
ภาษีที่มันสูงขนาดนี้ เป็นเพราะรัฐบาลก่อนๆ เขาเห็นว่าสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
แล้วอีกอย่างถ้าถาษีสรรพสามิตรลดลง ภาษีรถนำเข้าจะถูกลงตาม
แล้วปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศจะลดลงตาม ทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้า ทำให้แรงงานลดลง ปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็จะกลายเป็นอาชญากร ปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์
แล้วยังไม่ใช่แค่นั้น รถยนต์ที่มีแรงม้าที่สูง ย่อมใช้ปริมาณน้ำมันที่มาก
ลองคิดดูถ้าเราเห็นรถยนต์พวกนี้มากขึ้น มันจะใช้ปริมาณน้ำมันมากขึ้นเท่าไหร่?
น้ำมันซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ มันจะทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้าเข้าไปอีก
แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถที่พวกคุณว่า แล้วป้อนขายในตลาดภายในประเทศด้วยมันก็จะดียิ่งขึ้น
แต่จะมีสักกี่บริษัทที่คิดจะใช้ประเทศไทยของเราเป็นฐานการผลิตรถพวกนี้?
-
1.2 M คงได้แค่เครื่อง 2.0 + ชุดแต่ง MPS ของแท้
ชุดแต่ง + ล้อ MPS 18" + ใส่ Navi ด้วย
ก็น่าสนนะครับ :)
ถ้าได้ตามนี้ก็น่าเอามาครอบครองละครับ
แต่ปรับ spec เครื่อง 2.0 ให้แรงขึ้นอีกนิดเป็นสัก 170 แรงม้าได้มั๊ยอะ
-
1.2 M คงได้แค่เครื่อง 2.0 + ชุดแต่ง MPS ของแท้
ชุดแต่ง + ล้อ MPS 18" + ใส่ Navi ด้วย
ก็น่าสนนะครับ :)
ได้แค่่นี้ก็น่าเอามาครอบครองละครับ
แต่ปรับ spec เครื่อง 2.0 ให้แรงขึ้นอีกนิดเป็นสัก 170 แรงม้าได้มั๊ยอะ
อยากให้มาสด้าใจดีจัดให้จัง
-
ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรงด้วย DISI 2.3 TURBO
น่าจะกินพอๆ กับ 2.0 ถ้าไม่อัด
เอ้า ตื่นๆๆๆ ฝันไปป่าวเนี่ย
-
ถ้าได้จริง ก็ซื้อจริง
-
ถ้าทำได้จริงก็คงเห็น MPS กันจนนับไม่ถ้วน
;D
-
ที่เหมาะสมคือยกเลิกภาษีที่ไม่มีสาระและเหตุผลครับ
แต่ต้องสร้างความรับผิดชอบในการขับรถของคนไทยก่อน
ภาษีที่มันสูงขนาดนี้ เป็นเพราะรัฐบาลก่อนๆ เขาเห็นว่าสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
แล้วอีกอย่างถ้าถาษีสรรพสามิตรลดลง ภาษีรถนำเข้าจะถูกลงตาม
แล้วปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศจะลดลงตาม ทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้า ทำให้แรงงานลดลง ปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็จะกลายเป็นอาชญากร ปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์
แล้วยังไม่ใช่แค่นั้น รถยนต์ที่มีแรงม้าที่สูง ย่อมใช้ปริมาณน้ำมันที่มาก
ลองคิดดูถ้าเราเห็นรถยนต์พวกนี้มากขึ้น มันจะใช้ปริมาณน้ำมันมากขึ้นเท่าไหร่?
น้ำมันซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ มันจะทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้าเข้าไปอีก
แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถที่พวกคุณว่า แล้วป้อนขายในตลาดภายในประเทศด้วยมันก็จะดียิ่งขึ้น
แต่จะมีสักกี่บริษัทที่คิดจะใช้ประเทศไทยของเราเป็นฐานการผลิตรถพวกนี้?
- ผมคิดว่าหลายสิ่งหลายอย่างในประเทศสามารถทำได้แต่มัวแต่ขัดผลประโยชน์กันเองเลยไม่ทำ
- การขนส่งสาธารณะสามารถทำได้ดีกว่านี้ครับ แต่ก็มีปัญหาดังข้อด้านบน
- ส่วนข้อนี้เกี่ยวกับการตัดถนน รถไฟใต้ดินหรืออะไรก็แล้วแต่ ความเห็นแก่ตัวของประชาชนมีมากมายครับ ทำโน่นหน่อยก็ไม่ได้ เรียกร้องเอาโน่นเอานี่ ถ้าใครสักคนไม่ยอมเสียสละ ส่วนรวมจะได้หรือเปล่า แล้วถ้าจะเวนคืนก็กรุณาหาที่ใหม่ดี ๆ ให้เขาด้วยพร้อมกับเงินชดเชย เพราะคนที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่โดยไม่ได้ตั้งใจก็มีผลกระทบอยู่มากเหมือนกัน
- เมื่อปริมาณความต้องการน้ำมันมากเกินไปจนรัฐบาลนำเข้ามาแล้วขาดดุล ราคาน้ำมันก็ต้องขึ้นครับ แล้วคนก็จะปรับตัวให้เข้ากับสถาณการ์เองครับ
- สำหรับผมแล้วเรื่องปัญหาแรงงานนั้น คนไทยไม่ใส่ใจว่าเรามีลูกแล้วจะสามารถเลี้ยงดูได้ดีหรือไม่ อยากจะทำโน่นทำนี่ตามความฝัน ตามใจอยาก พอมีลูกออกมาก็ปล่อยปะละเลย สังคมเลยเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย บางคนไม่มันอันจะกินก็มีลูกตั้ง 2 3 คน ทุกคนต่างก็คิดว่าไม่ใช่ของเขา เป็นเรื่อของรัฐบาลที่ต้องแก้ไข เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของพวกเราแล้วครับ (ผมพูดตามสิ่งที่เป็นเพราะความจริงยังไงก็คือความจริง ถ้าไม่พูดออกมาก็คงจะมัวแต่หลงละเมออยู่ภายใต้ความฝันอันสวยงามตลอด)
-
ถ้า 1.2 ล้านจริงผมจะเก็บเงินซื้อเลย ;D
เอาแลนเซอร์มาแปลงเป็น Evo ยังแพงกว่านี้เลย
แต่ 1.2 ล้าน คงไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะตัว 2.0 เดิมๆ ก็ ล้านนิดๆไปแล้ว
นี่ 2.3 Turbo
ช่วงล่าง เบรค ล้อ ยาง ที่เพิ่มมาก็เป็นแสนแล้ว
แถมแรงม้า 250 กว่าตัว เกินพิกัดรถบ้านๆ บ้านเรา
ภาษีสรรพสามิตรหน้าโรงงานจะกระโดดไปเป็น 50% จากเดิม 25%
1.5 ล้านยังไม่น่าจะเป็นไปได้เลยครับ
ถ้าจะกดราคาต้องล็อดแรงม้าจากโรงงานไว้ไม่เกิน 220 แรงม้า แล้วให้ลูกค้ามาปลดล็อคที่หลัง เหมือนกับที่บางยี่ห้อทำอยู่
อ่านๆ อยู่ นึกว่า บอร์ดมือถือ อ่านไปิ่านมา ถ้าปลดล๊อก แรงม้าได้ง่ายๆ มีร้านไหนเขารับ เจลเบรก เอ้ย ปลดล๊อกบ้างไหมเนี่ย แต่ก็ดีค่ะ ถ้าจะขาย ก็กั๊กๆ ไว้ก่อน ลูกค้า คัสโตไมซ์ที่หลังเอา
แต่ถ้าขายราคานี้ สำหรับ MPS จริงๆ เกรงว่า กลัว ประวัติศาสตร์รถยนต์บ้าน เรา จะมีให้จดจำเพิ่มอีกคันสิคะ คริคริ
ริงโกะค่ะ
-
ที่เหมาะสมคือยกเลิกภาษีที่ไม่มีสาระและเหตุผลครับ
แต่ต้องสร้างความรับผิดชอบในการขับรถของคนไทยก่อน
ภาษีที่มันสูงขนาดนี้ เป็นเพราะรัฐบาลก่อนๆ เขาเห็นว่าสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
แล้วอีกอย่างถ้าถาษีสรรพสามิตรลดลง ภาษีรถนำเข้าจะถูกลงตาม
แล้วปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศจะลดลงตาม ทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้า ทำให้แรงงานลดลง ปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็จะกลายเป็นอาชญากร ปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์
แล้วยังไม่ใช่แค่นั้น รถยนต์ที่มีแรงม้าที่สูง ย่อมใช้ปริมาณน้ำมันที่มาก
ลองคิดดูถ้าเราเห็นรถยนต์พวกนี้มากขึ้น มันจะใช้ปริมาณน้ำมันมากขึ้นเท่าไหร่?
น้ำมันซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ มันจะทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้าเข้าไปอีก
แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถที่พวกคุณว่า แล้วป้อนขายในตลาดภายในประเทศด้วยมันก็จะดียิ่งขึ้น
แต่จะมีสักกี่บริษัทที่คิดจะใช้ประเทศไทยของเราเป็นฐานการผลิตรถพวกนี้?
- ผมคิดว่าหลายสิ่งหลายอย่างในประเทศสามารถทำได้แต่มัวแต่ขัดผลประโยชน์กันเองเลยไม่ทำ
- การขนส่งสาธารณะสามารถทำได้ดีกว่านี้ครับ แต่ก็มีปัญหาดังข้อด้านบน
- ส่วนข้อนี้เกี่ยวกับการตัดถนน รถไฟใต้ดินหรืออะไรก็แล้วแต่ ความเห็นแก่ตัวของประชาชนมีมากมายครับ ทำโน่นหน่อยก็ไม่ได้ เรียกร้องเอาโน่นเอานี่ ถ้าใครสักคนไม่ยอมเสียสละ ส่วนรวมจะได้หรือเปล่า แล้วถ้าจะเวนคืนก็กรุณาหาที่ใหม่ดี ๆ ให้เขาด้วยพร้อมกับเงินชดเชย เพราะคนที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่โดยไม่ได้ตั้งใจก็มีผลกระทบอยู่มากเหมือนกัน
- เมื่อปริมาณความต้องการน้ำมันมากเกินไปจนรัฐบาลนำเข้ามาแล้วขาดดุล ราคาน้ำมันก็ต้องขึ้นครับ แล้วคนก็จะปรับตัวให้เข้ากับสถาณการ์เองครับ
- สำหรับผมแล้วเรื่องปัญหาแรงงานนั้น คนไทยไม่ใส่ใจว่าเรามีลูกแล้วจะสามารถเลี้ยงดูได้ดีหรือไม่ อยากจะทำโน่นทำนี่ตามความฝัน ตามใจอยาก พอมีลูกออกมาก็ปล่อยปะละเลย สังคมเลยเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย บางคนไม่มันอันจะกินก็มีลูกตั้ง 2 3 คน ทุกคนต่างก็คิดว่าไม่ใช่ของเขา เป็นเรื่อของรัฐบาลที่ต้องแก้ไข เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหามาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของพวกเราแล้วครับ (ผมพูดตามสิ่งที่เป็นเพราะความจริงยังไงก็คือความจริง ถ้าไม่พูดออกมาก็คงจะมัวแต่หลงละเมออยู่ภายใต้ความฝันอันสวยงามตลอด)
เห็นด้วยตามนั้นครับ
-
เอาด้วย ;D
แต่ก่อนจะยกเลิกภาษีแกรนแคนยอนของประเทศไทยก่อนอื่นปรับปรุงคุณภาพขนส่งมวลชนให้ดีกว่านี้ซะแล้วออกฏหมายควบคุมเลยว่าบ้านเนื้อที่เท่านี้มีสิทธิมีรถได้กี่คัน ถ้าหากเช่าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ต้องมีที่จอดรถชัดเจนไม่ใช่ทิ้งไว้ริมถนนเกลื่อนกลาดจนคนออกรถสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ >:(
เห็นด้วยครับ ถ้าขนส่งมวลชน(รถเมล์)ปลอดภัยกว่านี้ และรถไฟฟ้าครอบคลุมทั่วถึง คงดีครับ แต่นิสัยคนไทย จะยอมเปลี่ยนไปใช้บริการที่ดีๆเหล่านั้นหรือ?
-
ทำออกมาแล้ว ไป Lock กล่องให้มีแรงม้า ที่ 220 พอ จะได้ไม่โดนภาษีอีกระดับ
-
ถ้า 1.2 ล้านจริงผมจะเก็บเงินซื้อเลย ;D
เอาแลนเซอร์มาแปลงเป็น Evo ยังแพงกว่านี้เลย
แต่ 1.2 ล้าน คงไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะตัว 2.0 เดิมๆ ก็ ล้านนิดๆไปแล้ว
นี่ 2.3 Turbo
ช่วงล่าง เบรค ล้อ ยาง ที่เพิ่มมาก็เป็นแสนแล้ว
แถมแรงม้า 250 กว่าตัว เกินพิกัดรถบ้านๆ บ้านเรา
ภาษีสรรพสามิตรหน้าโรงงานจะกระโดดไปเป็น 50% จากเดิม 25%
1.5 ล้านยังไม่น่าจะเป็นไปได้เลยครับ
ถ้าจะกดราคาต้องล็อดแรงม้าจากโรงงานไว้ไม่เกิน 220 แรงม้า แล้วให้ลูกค้ามาปลดล็อคที่หลัง เหมือนกับที่บางยี่ห้อทำอยู่
อ่านๆ อยู่ นึกว่า บอร์ดมือถือ อ่านไปิ่านมา ถ้าปลดล๊อก แรงม้าได้ง่ายๆ มีร้านไหนเขารับ เจลเบรก เอ้ย ปลดล๊อกบ้างไหมเนี่ย แต่ก็ดีค่ะ ถ้าจะขาย ก็กั๊กๆ ไว้ก่อน ลูกค้า คัสโตไมซ์ที่หลังเอา
แต่ถ้าขายราคานี้ สำหรับ MPS จริงๆ เกรงว่า กลัว ประวัติศาสตร์รถยนต์บ้าน เรา จะมีให้จดจำเพิ่มอีกคันสิคะ คริคริ
ริงโกะค่ะ
รถยนต์มันก็มีเฟิร์มแวร์เหมือนมือถือนั่นแหล่ะครับ
จะโปรแกรมยังงัยก็ได้ โดยไม่เกินลิมิตความสามารถด้าน Mechanics
-
ที่เหมาะสมคือยกเลิกภาษีที่ไม่มีสาระและเหตุผลครับ
แต่ต้องสร้างความรับผิดชอบในการขับรถของคนไทยก่อน
ภาษีที่มันสูงขนาดนี้ เป็นเพราะรัฐบาลก่อนๆ เขาเห็นว่าสินค้าชนิดนี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
แล้วอีกอย่างถ้าถาษีสรรพสามิตรลดลง ภาษีรถนำเข้าจะถูกลงตาม
แล้วปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศจะลดลงตาม ทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้า ทำให้แรงงานลดลง ปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็จะกลายเป็นอาชญากร ปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์
แล้วยังไม่ใช่แค่นั้น รถยนต์ที่มีแรงม้าที่สูง ย่อมใช้ปริมาณน้ำมันที่มาก
ลองคิดดูถ้าเราเห็นรถยนต์พวกนี้มากขึ้น มันจะใช้ปริมาณน้ำมันมากขึ้นเท่าไหร่?
น้ำมันซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ มันจะทำให้ประเทศไทยเสียดุลการค้าเข้าไปอีก
แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถที่พวกคุณว่า แล้วป้อนขายในตลาดภายในประเทศด้วยมันก็จะดียิ่งขึ้น
แต่จะมีสักกี่บริษัทที่คิดจะใช้ประเทศไทยของเราเป็นฐานการผลิตรถพวกนี้?
ผมคิดว่า เป็นแค่ "ข้ออ้าง ที่ดูเป็นเหตุเป็นผล" ครับ
ถ้าจริงใจเรื่องพวกนี้จริง ขนส่งมวลชน ต้องมาก่อนครับ
มี "ผลประโยชน์" มาก่อน แน่นอน (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/103.gif)
-
??? ยุคสมัย ได้เปลี่ยนไปแล้วเเต่ทำไมภาษีสรรพสามิตร ยังคงต้องใช้จุดเเบ่งที่ 220 แรงม้า เครื่องยนต์ รุ่นใหญ่ๆ ก็ 3.5 แทบไม่เห็น 3.0เเล้ว
-
ภาษีคิดตามเรตแรงม้าและความจุ เป็นการวัดด้วยสเป็คบนกระดาษ (กระดาษจริงๆไม่งั้นจะมีสเป็ค 219,218 ม้าหรือไม่)
หรือเรามองว่ารถม้าเยอะ ต้องกินน้ำมัน เลยคิดภาษีแพง งั้นลองคิดดูเล่นๆว่าถ้าคิดภาษีตามแรงม้า รถเครื่อง VQ35DE 280 แรงม้า ก็ต้องมีภาษีถูกกว่า 335i 300 แรงม้า แต่ใครปล่อยมลภาวะน้อยกว่า?
คิดตาม ซี.ซี. หรือตามแรงม้า หรือตามขนาดตัวรถ ผมว่าในวินาทีนี้ไม่สำคัญเท่ากับการวัดมลพิษที่ปล่อยในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วคงที่ หรือรอบเดินเบา การวัดมลพิษตอนกดคันเร่งเต็มคงไม่จำเป็นเพราะเราซื้อรถมามีช่วงเวลาที่กดคันเร่งเต็มแค่กี่ % ของอายุการใช้งานเครื่องกันเชียว แต่เดินเบา กับวิ่งคงที่ เจอเกือบตลอด
การวัดแบบนี้ผมว่าน่าจะยุติธรรมมากกว่า เพราะถ้ายึดกับกฏเกณฑ์เดิมๆ แปลว่ารถเครื่อง 3.0-4.0 ลิตร ใช้เทคโนโลยีเก่าๆเดิมๆ ตอนม้าไว้ 218 ตัว จะจ่ายภาษีน้อยกว่ารถเครื่อง 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ DI 200-230 แรงม้า ทั้งๆที่เครื่องยนต์อันหลัง มีแนวโน้มใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า และปล่อยมลพิษน้อยกว่าในการขับขี่ทั่วไป
- - - - -
สำหรับ Mazda 3 MPS นั้น
ผมคิดว่าแค่รุ่นท้อป NA มาก็อาจเหยียบล้านแล้ว การจะเพิ่มสเป็คให้สูงไปขนาดนั้น แล้วเพิ่มแค่ 200,000 บาท เป็นไปได้หรือไม่? Margin ระหว่าง Vios กับ Vios Turbo อาจจะทำให้เราคิดว่าเป็นไปได้ แต่ที่จริง อาจจะไม่ได้
แต่ถ้าบอกว่าหาก ลิมิตม้าให้อยู่ที่ 219 ตัวแล้วจะทำราคาได้ 1.3 ล้าน ก็ลิมิตไปเลย ไม่มีปัญหา เพราะแรงม้าแรงบิดของเดิมนั้นก็มากล้นจนกล่องต้องสั่งตัดลดบูสท์ใน 3 เกียร์แรก ฉะนั้นแรงม้าแรงบิดสูงสุดตามโบรชัวร์ จะลดลงมาหน่อยก็เอาเถอะ เพราะม้ากับบิดพวกนั้นกว่าจะใช้ได้ก็เกียร์ 4 ยอมเสียอัตราเร่งความเร็วปลายไปหน่อย ไม่มีปัญหา
ถ้ามีรถคันนึงที่ให้ความสามารถ 80% ของ Golf GTi แต่ราคา 50% ของ Golf GTi ผมก็ไม่มีปัญหาถ้าจะต้องขาย Tiida, Legacy, CR-V รวมกันไปซื้อ ขอแค่ถึงเวลาขับแล้วผมชอบก็แล้วกัน
-
ถ้าเป็นผมนะ ราคาขนาดนี้ ไปเอาอิมดีกว่า (รึป่าว)
-
สำหรับผม งบ 1.2-1.3 ล้าน ขอเครื่อง 2.3 NA แล้วรับประกันอะไหล่ ทุกชิ้นเบิกใด้ในไทยโดยไม่ใช้เวลาเกิน 1 เดือน
ก็น่าจะขายใด้เยอะพอสมควรแล้วครับ สำหรับบ้านเรา ;D ;D
-
ทำ All New M3 MPS ไฮบริด 1.6ล้าน ขายได้แน่นอน บวกกะแคมรี่เรย ไปดึงรถประเภทไฮบริด จากแคมรี่ ซัก 10%