Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 2k ที่ สิงหาคม 04, 2010, 11:12:43
-
สงสัยมานานแล้วว่าเทคโนโลยีวาล์วแปรผันหลาๆยยี่ห้อทำกันมาเยอะแยะแต่ทำไมเห็นมีแต่ฮอนด้าเจ้าเดียวที่ทำให้เครื่องเล็กๆ 2000 CC มีกำลังมากไปฟาดฟันกับรถเครื่องโตๆใส่เทอร์โบได้? ยกตัวอย่างในซีวิคเครื่อง 2000, TYPE R, S 2000 สามเครื่องนี้ความจุเท่ากันแต่กำลังต่างกันมากโข มันแตกต่างกันไหนครับ? ชนิดของวีเทคที่ใส่ลงไปหรือว่าการปรับแต่งระบบของรถทั้งคันทำให้แรงม้าไม่เท่ากัน?
แล้วทำไมยี่ห้ออื่นๆถึงไม่เห็นผลิตรถแรงไม่พึ่งเทอร์โบออกมาอย่างฮอนด้าได้บ้าง? เป็นเพราะว่าเทคโนโลยีพวกนี้จะสร้างออกมาของใครของมันโดยจะไม่ยืมแม้หลักการของคายอื่นมาปรับแต่งให้เข้ากับของตัวเองเลยหรือเปล่า? หรือว่าเค้าเห็นฮอนด้ามีวีเทคออกมาเจาะกลุ่มตรงนี้แล้วไม่อยากจะทำเครื่องยนต์ออกมาซ้ำซ้อนกันอีก?
-
มารอเก็บข้อมูลครับ
-
ผมว่าสร้างรถให้แรงง่ายกว่าสร้างรถ แรงแล้วประหยัดน้ำมัน เยอะนะครับ
ผมว่าจริงๆสร้างรถแรงๆไม่ยากหรอกครับ
จากที่ดูเพื่อนผมใช้ทั้งอัลติสกับซิวิค
ผมว่าอัลติสประหยัดกว่าพอควรนะ แต่ก็แรงสู้ซีวิคไม่ได้เหมือนกัน
-
แต่ในเครื่องของซีวิคแล่นทางไกล้มีแต่คนบอกใช้น้ำมันได้อัตราดีนะครับ dual VVTI เห็นว่าใกล้เคียงกับ IVTECแล้วแต่ทำไมยังไม่มีชื่อเสียงด้านความเร็วปลายสูงเหมือนกันล่ะ? หรือว่าโตโยต้าเองก็มีเครื่องที่ดีเทียบเท่าแล้วแต่ว่ายังไม่เอามาใส่ให้ในรถระดับอัลติส? ทำไมๆๆๆและทำไมค่ายอื่นๆถึงยังสร้างออกมาได้ไม่เท่าฮอนด้าเลย? วิศวะกรยังไม่เก่งเท่าหรือแค่ว่าผู้บริหารยังไม่อยากให้มีเท่านั้น?
-
แต่ในเครื่องของซีวิคแล่นทางไกล้มีแต่คนบอกใช้น้ำมันได้อัตราดีนะครับ dual VVTI เห็นว่าใกล้เคียงกับ IVTECแล้วแต่ทำไมยังไม่มีชื่อเสียงด้านความเร็วปลายสูงเหมือนกันล่ะ? หรือว่าโตโยต้าเองก็มีเครื่องที่ดีเทียบเท่าแล้วแต่ว่ายังไม่เอามาใส่ให้ในรถระดับอัลติส? ทำไมๆๆๆและทำไมค่ายอื่นๆถึงยังสร้างออกมาได้ไม่เท่าฮอนด้าเลย? วิศวะกรยังไม่เก่งเท่าหรือแค่ว่าผู้บริหารยังไม่อยากให้มีเท่านั้น?
เครื่องแรงๆ ของโต เค้าก็มีครับ
แต่ถ้าพูดถึงในรถตลาดเค้าเน้นความประหยัดมากกว่าครับ
รอท่านอื่นมาให้ข้อมูลด้วยครับ อิอิ ;D
-
ที่มีก็ LANCER EX ไงครับ
แรงม้าสูงสุดเยอะกว่า Civic 1ตัว แต่รถมันหนักกว่าถึง 80 กิโล (เหมือนเอาผู้ชายตัวใหญ่ๆไปนั่งอีกคนเลยล่ะ)
แถมล้อยังเป็น 18 นิ้ว แล้วก็เกียร์ยังเป็น CVT อีกด้วย
ก็เลยทำให้เอามาเทียบกันตรงๆเลยสู้ไม่ได้มั้ง
ต้องลองเอาเครื่อง EX ไปใส่ ใน Civic แล้วลองวิ่งเทียบกันดู จะได้รู้ครับ
แต่ EX แดร๊ก น้ำมันสุดๆอะ
-
หมายถึงรถบ้านนะครับ
โตโยต้าคงทำได้นะครับ เครื่องแรง ๆ เทคโนโลยีแม้ตามหลังนิดหน่อย
แต่เมื่อทำออกมาแล้ว ซดบรม มุมมองต่างกันไป โต เน้น กินน้อยมากกว่าพุ่ง
เพราะรถบ้านคงไม่มีใครนำมาแข่ง เครื่องปกติที่ใส่กันอยู่นี่ วิ่ง 140-150 ก็เร็วพอแรงแล้ว
เอาแบบเดิม ๆ กินน้อย ๆ ไปก่อน รอค้นพบของใหม่ ๆ ค่อยใส่ลงไป พร้อมความประหยัด
-
Formula 1
เครื่อง V8 2.4 ลิตร ก็ไม่มีระบบอัดอากาศ ยังทำกันได้ 650 แรงม้า
เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่ ฮอนด้าจะทำเครื่อง N/A 2.0 ลิตร 200 กว่าแรงม้า
-
อดรน ทนไม่ได้ คันไม้คันมืออยากตอบหนักหนา หลังจากแอบอ่านมานานนม ก็ขอเจิมด้วยกระทู้นี้แทนแล้วกัน ^^"
มันขึ้นอยู่กับการปรับจูนเครื่องครับผม ลองดู Lotus ที่ใช้เครื่องของ Toyota นะครับ รีดพลังออกมาได้สุดๆ เลย แท้ที่จริงแล้วก็เครื่อง Altis บ้านเราที่เอามาปรับจูนกันดีๆ นี่เอง แต่ก็แลกกับการซดน้ำมันเพื่อความแรงล่ะครับ ;D
-
สำหรับรถบ้าน ผมมองว่า HONDA เค้าคิดกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มองรถที่เสปคแรงม้าในการเลือกซื้อรถนะ
เช่น Civic เครื่อง1.8 140 ม้า มากกว่าค่ายอื่น เช่น Toyota ,Nissan แต่พอวิ่งจริง 0-100 นะ พวกแรงม้าต่ำกว่ามีแรงกว่า เพราะ Honda เค้าสนใจตัวเลขม้าที่ลูกค้าชอบดู ซึ่งไปอยู่ที่รอบสูงมาก เลยทำให้ต้องละทิ้งแรงบิดในช่วงรอบต่ำและรอบกลางลงมา ทำให้เร่งใช้งานทั่วไป อาจสู้รถบางค่ายที่ม้าต่ำกว่าไม่ได้
-
รอกูรูมาบอกเล่าเก้าสิบ ;D
-
แต่ตอนนี้ ฮยุนได ทักษอน 2.0l ได้ม้า 166 ตัว น้อยกว่า CR-V 2.4l แค่ 4 ตัวเองครับ
แต่ในระดับเหนือกว่านั้นไม่ทราบล่ะ
-
อยากรู้ว่าของแรงเป็นยังไง เปิดยูทูป search คำว่า engine f1 ดูเลยครับ
ของเค้าแรงจิง หัวฉีดมันฉีดน้ำมันอย่างกับรดน้ำต้นไม้ เหอๆ
จริงๆเครื่องเท่าไหร่ก็แรงได้ แต่ถ้าแรงแล้วเปลือง ผมก็ขอบายคนนึงล่ะครับ ไม่รุ้จะแรงไปไหน
-
เวลาจะบอกว่าวาล์วแปรผันอันไหนดีกว่ากัน คุณดูที่อะไรครับ
แรงม้า? อัตราเร่ง? มลพิษ? ประหยัด? หรือกลไกการทำงาน?
DOHC i-VTEC ก็ดีครับ แต่ไม่ได้ดีเด่นขนาดนั้น
ส่วนนึงก็อาศัยว่ารถเบา เลยทำให้ดูแรงมากขึ้นไปอีก
แล้วทำไมไม่มีใครเหมือนสักที?
คงเป็นเพราะไม่รู้จะทำให้เหมือนทำไม ในเมื่อทำให้ดีกว่าได้
ตอนนี้เข้าสู่ยุด Mechanical full-variable valve gear ยกตัวอย่างเช่น
- Valvematic (Toyota) น่าจะดีสุดในกลุ่ม
- VVEL (Nissan) ดีเหมือนกัน แต่ซับซ้อน ความฝืดในระบบเลยเพิ่มขึ้นมานิดนึง
- วาล์วแปรผันไม่ทราบชื่อ อยู่ใน Sky-G (Mazda) คล้ายๆ VVEL
- Advanced VTEC (Honda) ไม่รู้ไปไหนแล้ว?
- Valvetronic (BMW) อันนี้รอบสูงๆไม่ค่อยดี
บางค่ายไปไกลถึงขั้น Electro-hydraulic variable valve actuation แล้วครับ เช่น
- Multiair (Fiat)
แต่ถ้าจะมองหาเทคโนโลยีดีๆสักอัน วาล์วแปรผันไม่ต้องถึงกับดีมากหรอกครับ
เอาแค่ VVT + Direct Injection ก็ไม่น่าจะด้อยกว่าสุดยอดวาล์วแปรผัน + MPI
-
อย่าลืมนะครับ ว่ารถ N/A พวก TYPE R แรงมารอบสูงมากๆ
-
เครื่อง n/a ของพวก Type R ม้ากว่าจะมาโน้น 7-8000รอบ แถมมาไม่นานก็หมดแรงล่ะ สับเกียร์กันมือหงิก
ยิ่งแรงบิดไม่ต้องคุย น้อยนิดเหลือเกิน
จะขับให้สนุกก็ต้องเลี้ยงรอบให้อยู่แถวๆ 7พัน ไม่งั้นแรงไม่มี - -"
สู้ขับรถ Turbo หรือเครื่องโตหน่อย ม้าพอกันแต่มาในรอบต่ำกว่าบานตะเกียง แถมแรงบิดเหลือกินเหลือใช้ ผมว่ารถแบบนี้น่าจะขับสนุกกว่า
-
Formula 1
เครื่อง V8 2.4 ลิตร ก็ไม่มีระบบอัดอากาศ ยังทำกันได้ 650 แรงม้า
เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่ ฮอนด้าจะทำเครื่อง N/A 2.0 ลิตร 200 กว่าแรงม้า
F1 รอบเดินเบาอยู่ที่ 5-6000 รอบต่อนาทีนะครับ และ ม้าแยะ แต่แรงบิดไม่เท่าไหร่ เพียงแต่รถมันเบา (ค่า cd ไม่หนีจากรถทั่วๆไปเท่าไหร่ เพราะเขาเซ็ทให้เกาะถนนมากๆ)
จริงๆแล้ว ถ้าเครื่องระดับ 100ม้า/ลิตร และเป็นรถบ้าน ไม่ได้มีฮอนด้าทำได้เป็นเจ้าแรกนะครับ มิตซูบิชิ FTO เครื่อง 6A12 2.0ไร้หอย ก็ยังได้200ม้า โตโยต้า อัลเทสซ่า เครื่อง 3S-GE BEAM VVTL-i 2.0 210ม้า(200ม้าสำหรับเกียร์ออโต้) ส่วนจะมีรุ่นอื่นๆไหม ผมไม่ทราบครับ
อยากรู้ว่าของแรงเป็นยังไง เปิดยูทูป search คำว่า engine f1 ดูเลยครับ
ของเค้าแรงจิง หัวฉีดมันฉีดน้ำมันอย่างกับรดน้ำต้นไม้ เหอๆ
จริงๆเครื่องเท่าไหร่ก็แรงได้ แต่ถ้าแรงแล้วเปลือง ผมก็ขอบายคนนึงล่ะครับ ไม่รุ้จะแรงไปไหน
ประมาณ 1.5 กิโล ต่อลิตรครับ
หรือ แข่ง1สนาม ห้ามใช้น้ำมันเกิน 200 ลิตร ระยะทางในการวิ่งทั้งหมดประมาณ300กิโลเมตร (ไม่แน่ใจว่าใช้น้ำมันรวมกับรอบ practice กับ qualify รึเปล่า)
-
ค่า cd ไม่หนีจากรถทั่วๆไปเท่าไหร่ เพราะเขาเซ็ทให้เกาะถนนมากๆ
Cd ห่างกันอย่างเยอะเลยครับ รถบ้านๆ 0.3 - 0.4 แต่ F1 อาจไปถึง 1.0
Altezza ใช้ BEAMS 3S-GE Dual VVT-i (ไม่มี L นะครับ ปรับ Lift ไม่ได้)
-
อยากขับให้สนุก ก็มองที่แรงบิดดีกว่าครับ พวกแรงม้าเยอะ แรงบิดต่ำ ก่าแรงจะมา เร่งซะถึงตูดคันหน้าแว้ว แล้วก็ต้องเบรก โดยเฉพาะในกทม. อิอิ
-
VTEC ม้ามาที่รอบสูงๆ..
แต่ I-VTEC นี่ ม้ามาตั้งแต่รอบต้นแล้วไม่ใช่หรอคับ.. :-\
-
เครื่อง n/a ของพวก Type R ม้ากว่าจะมาโน้น 7-8000รอบ แถมมาไม่นานก็หมดแรงล่ะ สับเกียร์กันมือหงิก
ยิ่งแรงบิดไม่ต้องคุย น้อยนิดเหลือเกิน
จะขับให้สนุกก็ต้องเลี้ยงรอบให้อยู่แถวๆ 7พัน ไม่งั้นแรงไม่มี - -"
สู้ขับรถ Turbo หรือเครื่องโตหน่อย ม้าพอกันแต่มาในรอบต่ำกว่าบานตะเกียง แถมแรงบิดเหลือกินเหลือใช้ ผมว่ารถแบบนี้น่าจะขับสนุกกว่า
เห็นด้วยครับ ผมไม่ค่อยชอบรถรอบจัดๆ เพราะไม่ชอบลากรอบ นิยมรถแรงบิดมาที่รอบต่ำ
อย่าง CR-V G2 2.0 (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า) มีความรู้สึกว่ากว่าแรงจะมาก็ต้องเกิน 4500 รอบไปแล้ว
ผมไม่ค่อยชอบขับ เพราะจะแซงทีต้องลากรอบตลอด ผลที่ตามมาคือเสียงดัง แถมยังกินน้ำมันมากอีกตังหาก
-
สงสัยว่า อนาคต ดีเซล น่าจะขายได้ดี เพราะ แรงบิตเยอะ มาตั้งแต่รอบต่ำ ประหยัดน้ำมัน ม้าน้อยไปหน่อย แต่ก็โอเค ;D
-
ค่า cd ไม่หนีจากรถทั่วๆไปเท่าไหร่ เพราะเขาเซ็ทให้เกาะถนนมากๆ
Cd ห่างกันอย่างเยอะเลยครับ รถบ้านๆ 0.3 - 0.4 แต่ F1 อาจไปถึง 1.0
Altezza ใช้ BEAMS 3S-GE Dual VVT-i (ไม่มี L นะครับ ปรับ Lift ไม่ได้)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
ตอนนี้ทางยุโรป เค้าเน้นพัฒนาเครื่องดีเซลกัน เทคโนโลยีไปไกลว่าเบนซินเยอะมากครับ
เบนซินอย่างมาก็ mecnatic valve +Derect Injec ก็หมดแล้วครับตอนนี้
-
ความแรงของ honda ฝาแดงทั้งหลาย กว่าแรงจะมาก็ 7000รอบ ขึ้นทั้งนั้นคับ
ถ้าลากแค่ 7000รอบ แล้วเปลี่ยนเกียร์ มันก็แรงไม่ต่างจากรถบ้านๆเลย
เครื่องแบบนี้ มันเหมาะสำหรับคน ไม่ชอบเครื่อง เทอร์โบ และชอบลากรอบสูงๆ
ผมชอบนะคับ เครื่อง honda มันลากได้ไกลดี สนุกดี เสียงเนี่ยสุดๆ ไปเลย
แต่ถ้าให้ใช้ใน ชีวิตประจำวัน no สถานเดียวคับ
ส่วนตัวขับ evo6 เบื่อละคับ แรงจิง กว่าจะแรงก็ 3500รอบขึ้น ลากแปบเดียวก็หมดละเทอร์โบ
ตอนนี้เลยอยากขับที่ไม่ใช่เครื่องเทอร์โบ ก็มี type r กับ 350z 2คันนี้ อยากขับมากมายคับ
ติดตรงไม่มีตังซื้อขับ แต่ถ้าขาย evo6 ได้ ก็คงไม่คบ เครื่องเทอร์โบ ละคับ เบื่ออีกนาน
-
จริงเรอะ? ::)
-
ผมมองว่า Honda เป็นนึ่งแนวหน้าในด้านเครื่องยนต์ของวงการเลย
แต่เครื่อง 2.0 NA เซ็ตแบบรถบ้าน (กำลังสูงสุดที่แถวๆ 6พันรอบ)
ที่ Honda ทำได้ 150กว่าแรงม้านั้น ก็ไม่ใช่อะไรที่มากที่สุด (และก็ไม่ได้ประหยัดสุด)
ถ้าเรามองในรถตลากทั่วโลกยังมี 160กว่ามาอีกเยอะ (บ้างค่ายรอบต่ำกว่า และก็เป็นรถในระดับเดียวกัน)
แต่บ้านเราไม่มีให้เลือก
และอย่าลื่มว่า Handa เป็นนึ่งในรถที่ค่อนข้างเบา เมื่อเทียบรุ่น/รุ่น แถมกำลังที่เยอะกว่า และระบบเกียร์ก็จัดว่าอยู่แถวหน้า
เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามัน "แรง" ในกลุ่มรถตลาดของถนนบ้านเราจริง