Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Smith686 ที่ มกราคม 17, 2019, 18:58:46
-
วันนี้ (17 ม.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธาน ได้มีมติรับหลังการร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่
) พ.ศ
. ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ให้มีความทันสมัย ด้วยคะแนน 157 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และ ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ก่อนที่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายต่อไป นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงหลักการเพื่อแก้ไขกฎหมายให้มีความทันสมัย และเพื่อเป็นมาตรการเพิ่มระเบียบวินัยสำหรับผู้ใช้รถ ใช้ถนน ทั้งนี้ยังมีเนื้อหาที่ปรับให้สัมพันธ์กับกรณีที่จะให้มีใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ทั้งนี้ ได้มีสมาชิก สนช.ลุกขึ้นอภิปรายท้วงติงบางมาตรา และขอให้ทบทวนเนื้อหาในหลายประเด็น โดย นายกิตติ วะสีนนท์ สนช. อภิปรายว่า การตรวจสอบรถที่ทำผิดกฎจราจรผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) และออกใบสั่งเพื่อเสียค่าปรับนั้น ที่ผ่านมาพบว่าใช้ไม่ได้ผล เนื่องจากผู้ที่ได้รับใบสั่งปฏิเสธว่า เป็นผู้กระทำผิด
ดังนั้น ควรพิจารณามาตรการรองรับ หรือกรณีที่พบว่ากล้องจับรถที่กระทำผิด เช่น วิ่งคร่อมเส้นทึบ เพราะมีเหตุจำเป็นหรือเพราะเหตุฉุกเฉิน ควรพิจารณามาตรการรองรับด้วย รวมถึงขอให้หารือเป็นข้อตกลงเดียวกันกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก เป็นต้น
ขณะที่ นายมณเฑียร บุญตัน สนช. อภิปรายว่า เสนอเขียนมาตรการกรณีที่พบการทุจริตจากกรณีการชำระค่าปรับตามใบสั่ง รวมถึงให้แก้ไขคำนิยามว่าด้วยใบอนุญาตขับขี่ ที่เชื่อมโยงกับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ด้วย นอกจากนี้ยังมีสนช.อีกหลายคน
อภิปรายเพื่อขอให้กำหนดมาตรการเอาผิด และลงโทษผู้ขับขี่รถด้วยความเร็วต่ำ แต่วิ่งในเลนจราจรด้านขวา เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการแซงรถ เพราะช่องทางซ้ายสุดเป็นพื้นที่จราจรสำหรับรถที่ใช้ความเร็วต่ำ และหามาตรการลงโทษรถบรรทุก ที่บรรทุกหนัก แต่วิ่งในเลนจราจรด้านขวาด้วย
ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะคณะกรรมการแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชี้แจงว่า ประเด็นปฏิเสธใบสั่งจากตำรวจจราจรหรือใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ สามารถทำได้ เพราะใบสั่งเป็นเพียงใบกล่าวหาไม่ใช่คำพิพากษา แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดยตำรวจหลังปฏิเสธใบสั่ง
ขณะที่มาตรการชำระค่าปรับนั้น เดิมถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงชำระค่าธรรมเนียม ไม่ใช่มาตรการลงโทษ ดังนั้นเมื่อนำคะแนนความประพฤติบังคับใช้ และตัดแต้มบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎจราจร หากพบว่าแต้มความประพฤติถูกตัดจนถูกเพิกใช้ใบอนุญาตขับขี่ จึงต้องหาวิธีคืนแต้ม ผ่านการอบรมและสอบตามหลักสูตรของกรมขนส่งทางบก และ สตช. ทั้งนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อให้ตระหนักว่าไม่ควรทำผิดกฎจราจรอีก
พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีพกใบอนุญาตขับขี่ ตามที่ร่างกฎหมายกำหนดให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันกรมการขนส่งทางบกระบุสามารถใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนั้นต้องแก้ไขร่างกฎหมาย หากไม่เกินหลักการ จะแก้ไขจากให้พกติดตัว ไปเป็นการแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเรียกตรวจ แต่หากการแก้ไขเป็นเนื้อหาที่เกินหลักการ ต้องส่งไปยังครม. เพื่อขออนุมัติอีกครั้ง
ทั้งนี้ ใบอนุญาตขับขี่ เป็นเพียงการรับรองสถานะภาพของผู้ที่ขับรถได้ มากกว่าการควบคุมขับขี่ ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ในอนาคตอาจไม่ต้องพกใบขับขี่ เพราะข้อมูลทั้งหมดจะบรรจุในบัตรประจำตัวประชาชน ที่กำกับโดยเลขประจำตัว 13 หลัก
พล.ต.อ.เอกรักษ์ ชี้แจงต่อว่า สำหรับบทบัญญัติที่เพิ่มเติมห้ามผู้เมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นขี่จักรยานนั้น เพื่อแก้ปัญหากรณีที่เจ้าพนักงานจับผู้เมาสุราขณะขี่จักรยาน แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่กรบะวนการ ศาลสั่งไม่ฟ้อง เพราะตามกฎหมายไม่ระบุไว้ ทั้งนี้ผู้ที่ขี่จักรยานบนทางสาธารรณะและอยู่ในอาการมึนเมา อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้บทบัญญัติดังกล่าวเป็นเพียงการปรามไม่ให้ก่ออันตราย เพราะลงโทษเป็นค่าปรับเพียง 500 บาท ขณะที่ปัญหาการขับขี่รถช้าในเลนขวา จะพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงโดยให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดอัตราความเร็วตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกให้เหมาะสมตามสภาพการจราจรและยานพาหนะ เบื้องต้นเสร็จไปแล้ว 95%
สาระสำคัญ คือ จะเพิ่มความเร็วบนถนนให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด่วน และทางปกติ ส่วนผู้ที่ขับช้าอยู่ในเลนขวาสุด จะกำหนดความเร็ว ผู้ที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวาสุด เพื่อแก้ปัญหามนุษย์ลุง มนุษย์ป้าที่ขับช้า แต่แช่เลนขวา ที่ต้องถูกใบสั่งวันนี้ (17 ม.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธาน ได้มีมติรับหลังการร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่
) พ.ศ
. ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ให้มีความทันสมัย ด้วยคะแนน 157 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และ ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ก่อนที่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายต่อไป นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงหลักการเพื่อแก้ไขกฎหมายให้มีความทันสมัย และเพื่อเป็นมาตรการเพิ่มระเบียบวินัยสำหรับผู้ใช้รถ ใช้ถนน ทั้งนี้ยังมีเนื้อหาที่ปรับให้สัมพันธ์กับกรณีที่จะให้มีใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ทั้งนี้ ได้มีสมาชิก สนช.ลุกขึ้นอภิปรายท้วงติงบางมาตรา และขอให้ทบทวนเนื้อหาในหลายประเด็น โดย นายกิตติ วะสีนนท์ สนช. อภิปรายว่า การตรวจสอบรถที่ทำผิดกฎจราจรผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) และออกใบสั่งเพื่อเสียค่าปรับนั้น ที่ผ่านมาพบว่าใช้ไม่ได้ผล เนื่องจากผู้ที่ได้รับใบสั่งปฏิเสธว่า เป็นผู้กระทำผิด
ดังนั้น ควรพิจารณามาตรการรองรับ หรือกรณีที่พบว่ากล้องจับรถที่กระทำผิด เช่น วิ่งคร่อมเส้นทึบ เพราะมีเหตุจำเป็นหรือเพราะเหตุฉุกเฉิน ควรพิจารณามาตรการรองรับด้วย รวมถึงขอให้หารือเป็นข้อตกลงเดียวกันกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก เป็นต้น
ขณะที่ นายมณเฑียร บุญตัน สนช. อภิปรายว่า เสนอเขียนมาตรการกรณีที่พบการทุจริตจากกรณีการชำระค่าปรับตามใบสั่ง รวมถึงให้แก้ไขคำนิยามว่าด้วยใบอนุญาตขับขี่ ที่เชื่อมโยงกับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ด้วย นอกจากนี้ยังมีสนช.อีกหลายคน
อภิปรายเพื่อขอให้กำหนดมาตรการเอาผิด และลงโทษผู้ขับขี่รถด้วยความเร็วต่ำ แต่วิ่งในเลนจราจรด้านขวา เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการแซงรถ เพราะช่องทางซ้ายสุดเป็นพื้นที่จราจรสำหรับรถที่ใช้ความเร็วต่ำ และหามาตรการลงโทษรถบรรทุก ที่บรรทุกหนัก แต่วิ่งในเลนจราจรด้านขวาด้วย
ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะคณะกรรมการแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชี้แจงว่า ประเด็นปฏิเสธใบสั่งจากตำรวจจราจรหรือใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ สามารถทำได้ เพราะใบสั่งเป็นเพียงใบกล่าวหาไม่ใช่คำพิพากษา แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดยตำรวจหลังปฏิเสธใบสั่ง
ขณะที่มาตรการชำระค่าปรับนั้น เดิมถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงชำระค่าธรรมเนียม ไม่ใช่มาตรการลงโทษ ดังนั้นเมื่อนำคะแนนความประพฤติบังคับใช้ และตัดแต้มบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎจราจร หากพบว่าแต้มความประพฤติถูกตัดจนถูกเพิกใช้ใบอนุญาตขับขี่ จึงต้องหาวิธีคืนแต้ม ผ่านการอบรมและสอบตามหลักสูตรของกรมขนส่งทางบก และ สตช. ทั้งนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อให้ตระหนักว่าไม่ควรทำผิดกฎจราจรอีก
พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีพกใบอนุญาตขับขี่ ตามที่ร่างกฎหมายกำหนดให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันกรมการขนส่งทางบกระบุสามารถใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนั้นต้องแก้ไขร่างกฎหมาย หากไม่เกินหลักการ จะแก้ไขจากให้พกติดตัว ไปเป็นการแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเรียกตรวจ แต่หากการแก้ไขเป็นเนื้อหาที่เกินหลักการ ต้องส่งไปยังครม. เพื่อขออนุมัติอีกครั้ง
ทั้งนี้ ใบอนุญาตขับขี่ เป็นเพียงการรับรองสถานะภาพของผู้ที่ขับรถได้ มากกว่าการควบคุมขับขี่ ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ในอนาคตอาจไม่ต้องพกใบขับขี่ เพราะข้อมูลทั้งหมดจะบรรจุในบัตรประจำตัวประชาชน ที่กำกับโดยเลขประจำตัว 13 หลัก
พล.ต.อ.เอกรักษ์ ชี้แจงต่อว่า สำหรับบทบัญญัติที่เพิ่มเติมห้ามผู้เมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นขี่จักรยานนั้น เพื่อแก้ปัญหากรณีที่เจ้าพนักงานจับผู้เมาสุราขณะขี่จักรยาน แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่กรบะวนการ ศาลสั่งไม่ฟ้อง เพราะตามกฎหมายไม่ระบุไว้ ทั้งนี้ผู้ที่ขี่จักรยานบนทางสาธารรณะและอยู่ในอาการมึนเมา อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้บทบัญญัติดังกล่าวเป็นเพียงการปรามไม่ให้ก่ออันตราย เพราะลงโทษเป็นค่าปรับเพียง 500 บาท ขณะที่ปัญหาการขับขี่รถช้าในเลนขวา จะพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงโดยให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดอัตราความเร็วตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกให้เหมาะสมตามสภาพการจราจรและยานพาหนะ เบื้องต้นเสร็จไปแล้ว 95%
สาระสำคัญ คือ จะเพิ่มความเร็วบนถนนให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด่วน และทางปกติ ส่วนผู้ที่ขับช้าอยู่ในเลนขวาสุด จะกำหนดความเร็ว ผู้ที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวาสุด เพื่อแก้ปัญหามนุษย์ลุง มนุษย์ป้าที่ขับช้า แต่แช่เลนขวา ที่ต้องถูกใบสั่ง https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2100568 (https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2100568)
-
ควรทำเลนซ้ายให้ดีเหมือนเลนขวา
ไหล่ทางห้ามจอดซื้อของ
ใครตั้งร้านข้างทางมีความผิด จนท สามารถรื้อถอน,จับกุมได้ทันที
จะลดการแช่ขวาไปได้เกือบๆ 100%เลยครับ
-
....ทุกวันนี้ขับช้าขับเร็วก็อยู่เลนขวากันหมดแล้ว จริงๆแก้กฎหมายจราจรไปเป็นขับช้าชิดขวาเลยก็ได้ รับรองมีพวกขับช้าแช่ซ้ายมาแน่ 55
-
ควรทำเลนซ้ายให้ดีเหมือนเลนขวา
ไหล่ทางห้ามจอดซื้อของ
ใครตั้งร้านข้างทางมีความผิด จนท สามารถรื้อถอน,จับกุมได้ทันที
จะลดการแช่ขวาไปได้เกือบๆ 100%เลยครับ
จริง ถึงผมจะรำคาญพวกขับช้าแต่ก็เห็นใจนะ จะให้มาขับเลนซ้ายเป็นหลุมเป็นบ่อ ต่อให้ขับช้าก็ไม่ไหวหรอก แต่แก้ปัญหาคอรัปชั่นนี่ยิ่งยาก
-
น้ำตาจิไหล มีระบบตัดแต้มขอโหดๆแบบอังกฤษครับ ครบแต้มแบนตลอดชีพไปเลย
กลัวอย่างเดียวคือไม่เอาไอ้ที่พูดมาใช้จริง 8)
คือถ้าตำรวจขับรถไล่ล่าพวกทำผิดกฎหมายแบบที่เมกา คือเอารถเกี่ยวรถให้ลงข้างทาง
คนทำผิดจะน้อยลงมากๆ
-
เอางี้ไปเลยครับ
เร็วเกินกฎหมายกำหนด ปรับ = 500
ช้าแช่ขวา ปรับ 5,000
ขับช้าสมคววรชชิดซ้ายครับ ซ้ายทางไม่ดีก็จริงครับ แต่ไม่น่าจะเป็นไร เพราะขับช้าอยู่แล้วนิ ;D
-
ชอบกฎนี้ครับ แต่ก็อยากให้ช่วยซ่อมเลนซ้าย พร้อม ตรวจรถน้ำหนักเกินครับ
-
ถึงมีกฎหมายทันสมัย
แต่ถ้าการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นแบบเดิม
ก็ไม่มีประโยชน์
ตัวอย่าง
การใช้ไฟตัดหมอก กฎหมายกำหนดให้เปิดได้
เฉพาะเมื่อมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองเท่านั้น
และต้องไม่มีรถอื่นอยู่ด้านหน้าหรือสวนมา
แต่ลองดูบนถนนซิ เปิดกันเกินครึ่ง
-
เอาจับขับรถแล้วเล่นมือถือให้ได้ก่อน ทุกวันนี้เจอทุกวัน ตั้งกฎมาแล้วไม่บังคับใช้
-
ว่าแต่จะจับปรับอย่างไรครับ
-
ตำรวจทางหลวงก็ออกมาขับรถลาดตระเวนสิครับ แล้วปัญหาการบังคับใช้กฎหมายจะหมดไป ตอนนี้เห็นซื้อรถหรูแรงมา ก็ไม่ค่อยจะได้ใช้สักเท่าไหร่
อ๋อ กำลังคน งบประมาณไม่พอ ตั้งกล้อง เก็บเงินกันต่อไป คุ้มกว่าออกมาทำงานจริงๆเยอะ
-
เอางี้ไปเลยครับ
เร็วเกินกฎหมายกำหนด ปรับ = 500
ช้าแช่ขวา ปรับ 5,000
ขับช้าสมคววรชชิดซ้ายครับ ซ้ายทางไม่ดีก็จริงครับ แต่ไม่น่าจะเป็นไร เพราะขับช้าอยู่แล้วนิ ;D
ถนนบางเส้นถ้ามีคนแช่ขวา ผมก็ไม่รู้สึกอะไรหรอกครับเข้าใจว่าถนนมันทุเรศจริงๆ ต่อให้ช้าแค่ยี่สิบลงหลุมโครมไปทีโช้คอาจจะแตก
-
น้ำตาจิไหล มีระบบตัดแต้มขอโหดๆแบบอังกฤษครับ ครบแต้มแบนตลอดชีพไปเลย
กลัวอย่างเดียวคือไม่เอาไอ้ที่พูดมาใช้จริง 8)
แล้วคุณจะตัดแต้มใคร ปรับใคร เจ้าของรถ หรือคนขับ? มันยากตอนนี้แหละ...
-
คนใช้รถเยอะมากที่คิดว่าการขับต่ำกว่ากฏหมายกำหนด = ฉันทำถูก โดยไม่สนใจเลนซ้ายขวาเลย
ถ้าความเร็วสูงสุด 120 และกำหนดว่าเลนขวาห้ามใช้ความเร็วต่ำกว่า 100 ประมาณนี้จะทำให้ชัดเจนขึ้นว่าขับช้าเกิน=ผิด ไม่ใช่ปัจจุบันที่มีแต่ป้ายขับช้ากรุณาชิดซ้าย บางคนบอกฉัน 80 ไม่ช้านะ แต่มอเตอร์เวย์รถติดเพราะคันนั้นคันเดียวเลย
-
ถึงมีกฎหมายทันสมัย
แต่ถ้าการบังคับใช้กฎหมายยังเป็นแบบเดิม
ก็ไม่มีประโยชน์
ตัวอย่าง
การใช้ไฟตัดหมอก กฎหมายกำหนดให้เปิดได้
เฉพาะเมื่อมีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองเท่านั้น
และต้องไม่มีรถอื่นอยู่ด้านหน้าหรือสวนมา
แต่ลองดูบนถนนซิ เปิดกันเกินครึ่ง
เห็นด้วยครับ
เจอวิ่ง 100 แช่ขวา เส้นมอเตอร์เวย์บ่อยมาก ทั้งที่จำกัดความเร็ว 120
ส่วนไฟตัดหมอก ก็เปิดไฟตัดหมอกกันจนเป็นปกติไปแล้ว
บางคันดัดแปลงให้ไฟตัดหมอกหลังสว่างตอนเบรกอีกต่างหากครับ
-
ควรทำเลนซ้ายให้ดีเหมือนเลนขวา
ไหล่ทางห้ามจอดซื้อของ
ใครตั้งร้านข้างทางมีความผิด จนท สามารถรื้อถอน,จับกุมได้ทันที
จะลดการแช่ขวาไปได้เกือบๆ 100%เลยครับ
บนทางด่วน ถนนมอเตอเวย์ เลนซ้ายมันก็ไม่มีหลุมนะครับ
ทำไมยังมีคนขับช้าแช่ขวาล่ะครับ
-
คนใช้รถเยอะมากที่คิดว่าการขับต่ำกว่ากฏหมายกำหนด = ฉันทำถูก โดยไม่สนใจเล่นซ้ายขาวเลย
ถ้าความเร็วสูงสุด 120 และกำหนดว่าเลนขวาห้ามใช้ความเร็วต่ำกว่า 100 ประมาณนี้จะทำให้ชัดเจนขึ้นว่าขับช้าก็ผิด ไม่ใช้ปัจจุบันที่มีแต่ป้ายขับช้ากรุณาชิดซ้าย บางคนบอกฉัน 80 ไม่ช้านะ แต่มอเตอร์เวย์รถติดเพราะคันนั้นคันเดียวเลย
ถนนบางสายจะมีป้ายติดไว้ข้างทางเป็นระยะๆเลยนะครับว่า เลนขวามีไว้แซงเท่านั้น แปลว่าถ้ามีเลนซ้ายว่างคุณต้องเข้าเลนซ้าย
-
พึ่งรับร่างหลักการเองครับ อีกหลายขั้นกว่าจะออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ ยังท้วงติงกันอยู่เลย
-
ต้องบอกว่าเลนขวาเอาไว้แล้วแซงเท่านั้นถึงจะถูกต้อง
และให้ปชช ่วไปส่งคลิปทางลับกับคนที่กระทำผิดได้ด้วยกำหนดเวลาว่าคุณจะอยู่ใน้ลนขวาได้กี่นาที จะชัดเจนกว่าเหมือนที่บางครั้งที่โดนกล่าวหาลอยๆ
-
ควรทำเลนซ้ายให้ดีเหมือนเลนขวา
ไหล่ทางห้ามจอดซื้อของ
ใครตั้งร้านข้างทางมีความผิด จนท สามารถรื้อถอน,จับกุมได้ทันที
จะลดการแช่ขวาไปได้เกือบๆ 100%เลยครับ
บนทางด่วน ถนนมอเตอเวย์ เลนซ้ายมันก็ไม่มีหลุมนะครับ
ทำไมยังมีคนขับช้าแช่ขวาล่ะครับ
พวกรถบรรทุกจองสองเลนซ้าย รถช้าเลยขับเลนกลางแต่ก็ไม่ควรขวาสุดนะ
-
ขอแบบ "ขับช้ากว่า" ให้ชิดซ้ายได้ไหมครับ
เหมือนก็อยู่ขวาได้(ถ้าถนนซ้ายมันแย่มาก) แต่ถ้ามีรถคันหลังมาเร็วกว่า นั่นแปลว่าคุณต้องลงซ้าย ให้เค้าไป ( ไม่ใช่คิดในใจว่าฉันขับตามป้ายกำหนด )
สติ ต้องดี มองกระจกหลังบ่อยๆ ถ้าคิดจะอยู่ขวา
-
เพ้อเจ้อ.. ครับ เดี๋ยวก็โดน อารยะขัดขืน ของมนุษย์ลุงป้าอีกอยู่ดี กฏหมายนี้ก็บังคับใช้ไม่ได้อยู่ดี
-
พวกขับช้าเกินไปชวนรำคาญ ถึงชิดซ้ายก็ต้องจับด้วยนะครับ
-
ผมว่ากฏหมายก็ส่วนหนึ่ง แต่จิดสำนึก วินัยจราจร น้ำใจบนท้องถนน สำคัญกว่า เอากฏหมายมาบังคับ นะครับ
คำว่า วิ่งแช่ขวาเท่าไหร่ดีครับ 160km/h ไปเลยดีไหม เย้ๆ เราไม่ใช่คนที่วิ่งช้าแช่ขวาแล้ว
..พอมีคนที่เร็วกว่า = จากที่ดีใจได้แปปเดียว กลายเป็น ว๊ายย!! วิ่งช้ายังกล้าแช่ขวา เหมือนเดิม โดนด่าเต่า โดนด่ามนุษย์ป้า มนุษย์ลุง เหมือนเดิม เคยได้ยินเหลือฟ้ายังมีจักรวาลไหมครับ
..เข้าใจให้ถูกก่อนดีกว่าไหมครับ ว่า ถนนที่มากกว่า 1 เลย เลนขวา = มีไว้แซง พอแซงเสร็จ ก็ต้องหลบเข้าซ้ายอยู่ดี ผมว่าอันนี้จะ 60km/h จะ 100km/h หรือ 160km/h ก็ไม่เดือดร้อนใคร มารยาทดีด้วย มันไม่ใช่ว่าด้วย แล้วเลนขวามันไม่ใช่ว่าวิ่งเร็วแช่ได้ วิ่งช้าแช่ไม่ได้ นะครับ มันแช่ไม่ได้ทั้งคู่ต่างหาก
ผมเห็นหลายคนยังมา กฏหมายโน่น นี่นั้น ปรับเพิ่มความเร็ว บลาๆๆๆ อยู่เลย
..เรื่องแช่ขวา กับ จำกัดความเร็ว มันคนละเรื่องคนละประเด็นกันเลย
-
ควรทำเลนซ้ายให้ดีเหมือนเลนขวา
ไหล่ทางห้ามจอดซื้อของ
ใครตั้งร้านข้างทางมีความผิด จนท สามารถรื้อถอน,จับกุมได้ทันที
จะลดการแช่ขวาไปได้เกือบๆ 100%เลยครับ
+1000 เลยครับ
-
แช่เลนขวาที่เจอบ่อย ๆ
รถกระบะ รถตู้ รถโดยสาร
รถเก๋งเจอบ้าง แต่น้อยกว่าสามประเภทแรก
-
ดีใจที่ได้ยินแบบนี้มาก คือเวลาออก ตจว.ทีไรหงุดหงิดมากๆ ถนนดีๆพี่แกแช่ 7-80 ขวายาวๆตลอดทางไม่สนโลก
แบบนี้ผมแนะนำผู้หลักผุ้ใหญ่ในบ้านเมืองครับ ติดกล้องจับเลนขวาไว้ ติดป้ายเตือนแบบเมืองนอกไปเลย ฝ่าฝืนจับปรับจริงๆจังๆกันไปเลยเพิ่มรายได้เข้ารัฐได้อีกทางมากขึ้นกว่ามาจับแต่ความเร็ว แบบนี้ปัญหารถติดคงน้อยลงแน่ๆ
-
ต้องทำอีกหลายอย่างควบคู่กันไปครับ นโยบายบ้านเรา มักไม่ครบวงจร มันเลยติดๆขัดๆ
เช่น เลนซ้าย พัง คนก็ไม่อยากวิ่ง แล้วพังเพราะอะไร??? บรรทุกเกิน พื้นถนนไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
-
ดีแท้ เคยเจอแบบ รถขับคล่อมเลน ช้า ๆ สบายใจ ไม่สนใจโลกเลย
ส่วนบางทีรถติด ๆ พอเราแซงซ้าย ไปเรื่อย ๆ ก็เห็นว่ารถติดเพราะ เจอรถขับช้าแบบหน้ากระดาน เลนขวาเลนกลางก็ช้าพอกัน :P
-
เห็นด้วยเรื่องปรับความเร็วให้สัมพันธ์กับถนนนะ ...
อย่างโทลเวย์,มอเตอร์เวย์ให้วิ่ง 120 ก.ม./ช.ม. มันน้อยไป ควรปรับ ห้ามวิ่งต่ำกว่า 80 ก.ม./ช.ม. และความเร็วสุงไม่เกิน 160 แบบนี้จะเหมาะสมกับทางด่วนหน่อย ไม่ใช่มายืนดักยิงความเร็วตรงหน้าดอนเมือง ที่วิ่งเกิน 120 ก.ม./ช.ม. ทั้งๆที่ถนนเป็นทางตรงโล่งและไม่มีทางแยกทางร่วมเลย กลายเป็นกับดักหาเงินของตำรวจไป
ส่วนทางหลวงชนบท ที่วิ่งระหว่างจังหวัดอย่างสาย เอเซีย ก็ควรปรับเป็น 120 หรือ 130 ดีกว่า อย่ามาดักกันที่ 90 ก.ม./ช.ม. เลย บังคับ 90 คนขับไปเชียงใหม่ชาติไหนจะถึง ...
-
ตำรวจอยากรวย ตั้งกล้องจับช้าแช่ ขวา รวยกว่าจับความเร็วอีก
-
อยู่ที่ผู้บังคับกฎจริงๆ :-\
ผลประโยชน์แก้ยังไง
"เคลียร์แล้ว" .. รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ---> ถนนเลนซ้ายพัง
---> รถไม่อยากวิ่งซ้าย = ช้าแช่ขวาเพิ่มขึ้น
จะตัดแต้มก็ตัดไป จะยึดใบก็ยึดไป คิดว่าเดี๋ยวก็เกิดวิธีการซิกแซกแบบใหม่ขึ้นมาอีก
-
ด้วยหลักการเห็นด้วยนะครับ แต่ด้วยบริบทการใช้รถในเมืองไทย มันมีเหตุผลประกอบอื่นๆ ที่ทำให้คนทำผิดกฎข้อนี้ได้ง่ายมาก และ เหมือนหลังๆ จะเน้นสร้างกฎมาเพิื่อให้รัฐเก็บเงินเพิ่มได้ตลอด ๆ
แต่สิ่งที่ทางรัฐต้องแก้ไขเช่น
- การติดตั้งป้ายจราจร การตีเส้น ที่มันผิดๆ
- การชำรุดของทาง
- การป้องกันอันตราย เวลาก่อสร้าง
ทางรัฐก็ไม่ได้เห็นสนใจจะแก้ ถ้ามันทำให้ทางรัฐต้องเสียเงิน หรือเสียผลประโยชน์
-
อยากขับซ้ายด้วยซ้ำ แต่ไปดูเลย ทางวิ่งระหว่างจังหวัด
ซ้ายห่วยบรม ทั้งหลุม ทั้งแตก ขรุขระ สะเทือน
ไฟก็มืด เสี่ยงตกหลุมยางระเบิด ช่วงล่างนี่แทบพัง สะเทือนยันตับ
ไม่มีรถ ก็แช่ขวาเหมือนกันไม่ไหว
-
สรุป ค่าปรับ ใบสั่ง ตัดแต้ม เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ต้องให้ศาลตัดสิน
-
ดีครับ การแก้ กม. จราจรให้เหมาะสมกับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา และให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมจราจรเมืองไทย
แต่ก็เหมือนกับหลายๆคน ที่อยากให้เพิ่มมาตรการจัดการกับการขับช้าในช่องขวาสุดด้วย เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการก่อให้เกิดอุบัติเหตุจราจร
-
คนใช้รถเยอะมากที่คิดว่าการขับต่ำกว่ากฏหมายกำหนด = ฉันทำถูก โดยไม่สนใจเลนซ้ายขวาเลย
ถ้าความเร็วสูงสุด 120 และกำหนดว่าเลนขวาห้ามใช้ความเร็วต่ำกว่า 100 ประมาณนี้จะทำให้ชัดเจนขึ้นว่าขับช้าเกิน=ผิด ไม่ใช่ปัจจุบันที่มีแต่ป้ายขับช้ากรุณาชิดซ้าย บางคนบอกฉัน 80 ไม่ช้านะ แต่มอเตอร์เวย์รถติดเพราะคันนั้นคันเดียวเลย
ผมว่า ถ้าง่ายกว่านั้นอีก กฎหมายแค่เพิ่ม คำว่า "กว่า" ต่อท้ายคำว่า ช้า ก็น่าจะทำให้ มนุษย์ ทั้งหลาย เข้าใจตรงกัน มากขึ้น และ คำว่า "ช้ากว่า" นี้แหละ น่าจะทำให้ลดข้อโต้แย้งจากทุกฝ่าย ได้ในทุกกรณีเลย ไม่มีใคร ศรีธนนชัยได้
เพราะ ถ้า กฎหมายใช้แค่คำว่า ช้า บางคน ก็บอกว่า ฉันขับไม่ช้า 110 นี่ โครตเร็วแล้ว ซึ่งเถียงกันยังไงก็ไม่จบ
แต่ ถ้ากฎหมาย เปลี่ยน จากคำว่า "ขับช้าชิดซ้าย" เป็น คำว่า ขับ "ช้ากว่า" ชิดซ้าย ทีนี้ ก็ไม่ต้องเถียงกันแล้วว่า ฉันขับ 110 นี่เร็วแล้วนะ มันเข้าใจตรงกันมากกว่า ว่า รถคันนึงขับช้ากว่าอีกคันนึง ยังไง คันช้ากว่าก็ต้องหลบซ้าย ไม่ต้องมานั่ง เถียงกันว่า ฉันขับตามกฎหมาย แล้ว เท่านั้นเท่านี้ แล้ว อีกคัน ขับ เร็วไป ฉันขับดี แล้ว ฉันไม่ผิด
บลาๆๆ
ส่วน คัน ที่เร็วกว่า จะเร็วกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ ถ้าขับเร็ว เกินกำหนด ก็ คงโดนถ่ายรูปปรับกันไป ตามข้อหา ก็ว่ากันไป
-
ตำรวจอยากรวย ตั้งกล้องจับช้าแช่ ขวา รวยกว่าจับความเร็วอีก
5555+ จริงครับ
-
เห็นด้วยเรื่องปรับความเร็วให้สัมพันธ์กับถนนนะ ...
อย่างโทลเวย์,มอเตอร์เวย์ให้วิ่ง 120 ก.ม./ช.ม. มันน้อยไป ควรปรับ ห้ามวิ่งต่ำกว่า 80 ก.ม./ช.ม. และความเร็วสุงไม่เกิน 160 แบบนี้จะเหมาะสมกับทางด่วนหน่อย ไม่ใช่มายืนดักยิงความเร็วตรงหน้าดอนเมือง ที่วิ่งเกิน 120 ก.ม./ช.ม. ทั้งๆที่ถนนเป็นทางตรงโล่งและไม่มีทางแยกทางร่วมเลย กลายเป็นกับดักหาเงินของตำรวจไป
ส่วนทางหลวงชนบท ที่วิ่งระหว่างจังหวัดอย่างสาย เอเซีย ก็ควรปรับเป็น 120 หรือ 130 ดีกว่า อย่ามาดักกันที่ 90 ก.ม./ช.ม. เลย บังคับ 90 คนขับไปเชียงใหม่ชาติไหนจะถึง ...
ใช่ครับ น่าจะแก้ตามการใช้งานที่เป็นจริง ก่อนจะบังคับใช้ น่าจะถามความเห็นของคนใช้รถด้วยครับ เลนซ้ายคุณพร้อมแค่ใหน บังคับให้เขาวิ่ง ถนนไปต่างจังหวัดเลนซ้ายนี่ สุดยอด และเวลาที่การจราจรคับคั่งแค่ใหน จะให้เขาวิ่ง 80 หรือ 90 เช่น เที่ยงคืน ตี 1 แทบไม่มีรถเลย จะให้วิ่ง 80 ผมว่าคงง่วง กลายเป็นอันตรายไป ถ้าไปเชียงใหม่ เมื่อไรจะถึง
-
ตอนบ่ายวันนี้พึ่งโดนมา บนบูรพาวิถี กำลังรีบเอางานไปส่งลูกค้า ผมมา 140 ไม่เกินนี้ ยอมรับว่าผิดแต่มันรีบจริงๆ เจอคันข้างหน้า hrv น่าจะไม่เกิน 120 แต่ข้างหน้าโล่ง แต่ไม่ยอมหลบ เรามาเร็วกว่าก็ต้องเบรค ปกติผมจะไม่เสียเวลากับเรื่องนี้ ถ้าซ้ายว่างผมก็ไป แต่ตอนนั้น เลนกลางติดอีกคัน ช่วงรอ อาจจะดูว่าไปจี้เขา และแล้วก็มามุขเดิม ชลอรถและแตะเบรคใส่ 4-5ครั้ง แต่ผมเฉยๆ ถ้าไม่หลบก็ขอแค่ซ้าย พอซ้ายว่าง ไม่รู้พึ่งนึกได้หรืออย่างไร ใจดีเปิดไฟเลี้ยวจะเข้าซ้าย แต่ไม่ทันแหละ ผมกระทืบคันเร่งออกซ้ายแซงออกไปก่อนแล้ว :'(
-
ถ้ามางไปเชียงใหม่ ทางกำเเพงเพชร ตาก หรือจะไปเชียงรายทาง พิษณุโลก ผมว่าทางมันดีมากเลยนะ โดยเฉพาะทาง ไปเชียงใหม่ ผมสามารถขับซ้ายแบบ130+ โดยรถขวาบางคันต้องมี160-170เเน่ๆ เเต่เห็นทางใต้มีคนบอกยังเเย่โดยส่วนตัวไม่ได้ไปหลายปีเเล้ว ถ้าซ้ายถนนไม่ดี ก็ออกขวาพอมีรถมาก็ตบไฟซ้ายเเต่เนิ่นๆเเล้วหลบพอเขาเเซงก็มาขวาใหม่ทำงี้ไปเรื่อยๆ ไม่น่าจะมีปัญหา