Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: (ノ ´ ▽ ` )ノ ที่ มกราคม 20, 2019, 16:52:04
-
ขอเปิดประเด็นเครียดๆ ที่อยู่ในกระแสสื่อตอนนี้กันครับ เรื่องของมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ PM 2.5 ที่สูงขึ้นเยอะ ทั้งเขต กทม. + ปริมณฑล และเขตเมืองจังหวัดใหญ่ๆ ที่หลายฝ่ายออกมาให้ข้อมูลตรงกันว่า ไอเสียจากเครื่องยนต์ Diesel เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการเพิ่มมบภาวะนี้ และภาครัฐกำลังปับปรุงนโยบายให้มีมาตรฐานควบคุมที่เข้มงวดขึ้น
แต่อย่างที่ชาว Headlightmag ทราบกันทั่วไปว่า เมื่อเปรียบเทียบรถ Hybrid , EV กับรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป รถเครื่องยนต์ปกติดูจะทนทาน และจุกจิกน้อยกว่าเยอะ รวมถึงมีค่าใช้จ่าย maintenance ที่ต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบรถ Diesel กับรถ PHEV ที่พวกค่ายรถ premium ของยุโรปกำลังทำตลาดในไทย โดยนิยมทำออกมา 2 แบบนี้ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าให้แต่ละท่านตอบตามความในใจจริงๆ คิดว่าตอนที่ตัดสินใจซื้อรถ พวกเราจะยอมซื้อรถ PHEV (หรือ EV ในอนาคต) ที่อาจราคาแะงกว่า และค่าใช้จ่ายจุุุุกจิกกว่า ทนทานน้อยกว่า แต่ว่ามีส่วนช่วยลดมลพิษในอากาศ ให้ชุมชนสังคมโดยรวมของเราปลอดภัยขึ้น หรือพวกเราจะให้ความสำคัญกับความทนทาน ไม่ยุ่งยาก และประกนัดค่าใช้จ่ายของรถเครื่องยนต์สันดาป แม้มันจะก่อมลพิษทางอากาศก็ตาม
อันนี้ไม่ได้ชี้ว่าใครผิดใครถูกนะครับ เพราะผมเองก็ตัดสินใจยากเหมือนกัน แต่สภาวะทางอากาศตอนนี้มันก็ชัดเจนดังตาเปล่ามองเห็นเช่นกัน เลยอยากถามความรู้สึกจริงๆของแต่ละท่านครับ
-
ถ้ารถ ev ออกขายในราคาที่จับจ้องได้ ผมก็ยินดีจะลองนะครับ
รวมถึงต้องมีปัจจัยอื่นๆลองรับด้วย เช่นมีสถานีชาร์ตทั่วประเทศ มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหรือ maintain ไม่แพงมาก
จริงๆกระบวนการผลิตและทำลายแบตเตอรี่นี่ตัวสร้างมลพิษเลย แต่มันควบคุมให้อยู่ในเขตอุตสาหกรรมได้
แต่รถ EV ถ้าออกมาช่วงแรกๆแล้วปัญหาเยอะ ผมก็คงจะรอสักพักถึงเอามาใช้ ไม่ซื้อเป็นคนแรกๆแน่
-
ใช้ hybrid ไปก็เท่านั้นครับ ผมเป็นคนรักสิ่งแวดล้อม
แต่ฝุ่น PM 2.5 มันมาจากกระบะเก่าๆ รถบรรทุก รถตู้และรถเมล์
Mazda 2 ดีเซลถ้าไม่ตัด Cat ก็ปล่อย PM 2.5 น้อยมาก
แค่รถบรรทุกเก่าๆ 1 คัน เหยียบคันเร่ง ก็ปล่อยฝุ่นมากกว่า Mazda 2 10 คันรวมกันแล้วครับ
ถ้ารัฐไม่ควบคุมภาคขนส่ง และไม่ปลูกจิตสำนึกให้คนรักสิ่งแวดล้อมแต่เด็ก ประชาชนส่วนมากก็ต้องทนอยู่กับฝุ่นพิษต่อไปครับ
-
ใช้ hybrid ไปก็เท่านั้นครับ ผมเป็นคนรักสิ่งแวดล้อม
แต่ฝุ่น PM 2.5 มันมาจากกระบะเก่าๆ รถบรรทุก รถตู้และรถเมล์
Mazda 2 ดีเซลถ้าไม่ตัด Cat ก็ปล่อย PM 2.5 น้อยมาก
แค่รถบรรทุกเก่าๆ 1 คัน เหยียบคันเร่ง ก็ปล่อยฝุ่นมากกว่า Mazda 2 10 คันรวมกันแล้วครับ
ถ้ารัฐไม่ควบคุมภาคขนส่ง และไม่ปลูกจิตสำนึกให้คนรักสิ่งแวดล้อมแต่เด็ก ประชาชนส่วนมากก็ต้องทนอยู่กับฝุ่นพิษต่อไปครับ
+1 จริงเลยครับ พวกกะบะดันรางอีก 8)
ถ้ารัฐเข้มแข็งมีนโยบายชัดเจน หลายๆ อย่างคงดีกว่านี้
-
ถ้าต้องเลือกซื้อ PHEV/EV แล้วต้องมากังวลกับการดูแลรักษาในอนาคต ผมคงยังตัดสินใจกับรถน้ำมันเหมือนเดิม แต่ผมจะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน โดยไม่ไปถอดหรือดัดแปลงเพื่อส่งผลเสียกับสิ่งแวดล้อม ถ้ารถรุ่นนั้นมีปัญหาจุกจิกก็ใช้วิธีไม่ซื้อยี่ห้อหรือรุ่นนั้นไปเลย
-
เริ่มเห็นภาพว่าทำไมเมืองใหญ่ๆในยุโรปเค้าจะห้ามดีเซลกัน
-
ทุกคนสามารถช่วยได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพราะแหล่งกำเนิดฝุ่นมาจากหลายๆทาง
ลองดูแหล่งกำเนิดฝุ่นตามภาพได้เลยครับ
สุดท้ายเรื่องรถก็ต้องบาลานซ์ตามปัจจัยแต่ละคนให้ได้ครับ
เพราะรถก็ไม่ใช่ที่สุด แต่ต้องดูแลรถตัวเองอย่าให้ก่อมลพิษเพิ่มกว่าเดิมก็ชื่นใจแล้วครับ
http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/pm25/blog/61132/
-
บางคนมองว่า ต่อให้เป็นรถ EV/PHEV ก็ทำลายสภาพแวดล้อมทางอ้อม
ผมก็เห็นด้วย แต่ "มันต้องพิจารณาแยกกัน และระหว่างการใช้งาน ก็ก่อมลพิษน้อยกว่า"
ดังนั้น สภาพอากาศในเมืองที่ดี ก็คือต้องใช้รถมลพิษต่ำที่คุณภาพเชื่อถือได้ และสมรรถนะเพียงพอ
ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องเลือกรถสมรรถนะต่ำหรือขอแค่ให้ได้เป็น Trendsetter โดยไม่ดูสถานะตัวเองครับ
มันไม่สำคัญว่าคุณต้องใช้รถที่ CO2 ต่ำๆ แต่คุณรู้จักประมาณตน มีคันเดียวใช้ทั้งบ้าน คุณก็ลดขยะได้เยอะแล้ว
ไม่จำเป็นว่าคุณต้องใช้ไฮบริด คุณกำลังทรัพย์น้อย ใช้อีโคคาร์มลพิษต่ำ ก็ถือว่ารักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่
แค่ใช้เชื้อเพลิงที่มีคุณภาพ ดูแลรักษารถให้ได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ไปจูนบ้าๆ บอๆ ที่ควันท่วมๆ ก็ดีมากแล้ว
ไลฟ์สไตล์เป็นยังไง ก็ใช้ให้มันเหมาะสมและพอเพียงครับ
-
ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมแน่นอนครับ (แต่ไม่ 100% แน่ๆ บางอย่างยังเลี่ยงไม่ได้)
แต่โดยส่วนตัวผม ถ้าซื้อรถมาแล้วมันจุกจิกนัก ผมขายทิ้งซื้อใหม่ คิดไปคิดมาก็กระทบสิ่งแวดล้อมอีก
คือถ้ารถปล่อยมลพิษน้อย พร้อมกันนี้รถยังทนทาน มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ดีสำหรับสภาพแวดล้อมครับ
-
ตอบตามห้วข้อก็ให้ความสำคัญกับความไม่จุกจิกของรถมากกว่าครับ เพราะตังผมน้อย+ใช้รถไม่มากและทุกครั้งที่ใช้ต้องการความมั่นใจว่าจะพาผมไม่ยังจุดหมายได้แน่นอนแต่ถ้าให้ใช้กระบะพ่นควันพ่นหมึกก็ไม่เอาเด็ดขาดครับ
-
ผมให้เรื่องความจุกจิกมากกว่า
ถ้าจุกจิกมาก ก็ขายทิ้งซื้อใหม่
มลพิษ บางครั้ง เลี่ยง ไม่ได้
เจอปิดถนน 10 นาที
มลพิษ ก็สะสม รถก็ต้องติดเครื่องรอกัน
เจอรถมีอุบัติเหตุ รถคันอื่นก็ติด ยาวหลาย กม.
แต่ผมช่วยลด มลพิษด้านอื่น เช่น ถ้าเดินได้ ผมไม่ใช้รถ
บางทีเลี่ยงไปขึ้น bts ครับ
ผมว่า รถ ไฮบริด คงต้องรอเวลา เรื่องราคา และ เทคโนโลยี
สักวัน ก็คง เปลี่ยน กันเยอะ จน รถที่ใช้น้ำมันน้อยลงไปเอง
-
ไม่จุกจิกครับ
เรื่องมลพิษอย่าพูดเลยครับ ร้อยละ80มาจากรถใหญ่ รถขสมกซะเยอะ
-
เรื่องจุกจิกสิครับ ผมคิดเล่นๆ ถ้ามันจุกจิก ซ่อมบ่อย มีใครมาออกค่าซ่อมให้ผมไหมล่ะ (ฮา)
ตราบใดที่มีการผลิตเครื่องสันดาบออกมาให้ซื้อ ผมก็ซื้อ ถ้ารักโลกกันจริงก็เลิกผลิตไปเลยสิ ผลิตมาแต่รถไฟฟ้า แล้วก็ช่วยออกมาตรการ สนับสนุนแบบ"จริงใจ"ให้คนทั่วไป ซื้อได้ด้วย ไม่ใช่เห็นแต่ได้ ปากบอกรักษ์โลก แต่หวังแดกภาษี ออกมตรการมาเพื่อให้ได้รายได้เยอะขึ้น อันนี้พูดลอยๆ ::)
-
เห็นเรื่องที่จะต้องใช้รถยังไงมากกว่า เรื่องอื่นคือของแถมและอีกอย่างเป็นคนที่ใช้รถเดิมๆไม่เคยแต่งอะไรไปมากกว่าไฟแต่ง จึงไม่ค่อยสำเหนียกเรื่องมลพิษมากขนาดนั้น แต่ใช้พลังงานทางเลือกตลอดนะอย่าง E20-E85 แต่ทางดีเซลไม่ขอลองละกัน B20
-
คำถามนี้ ถ้ามองไปที่การเลือกซื้อรถ คำตอบมันจะออกมาแนวดราม่า แล้วไม่พ้นก็ชี้นิ้วไปโทษคนอื่น
โทษรัฐ โทษฝ่ายปกครอง โทษฝ่ายกฏหมาย โทษตำรวจ แต่ก็ซ่อนความต้องการลึก ๆ ของตัวเองเอาไว้
ไม่ต้องไปมองถึงการซื้อรถหรอกครับ เอาแค่ตั้งคำถามที่ว่า
1. ถ้ารถตัวเองใช้งานมานานมากแล้ว จน CAT หมดอายุ จะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
ก. เปลี่ยน CAT ใหม่ ข. ตัด CAT ทิ้ง แล้วใช้งานแบบไม่มี CAT
2. ถ้ารถดีเซลของตัวเองเริ่มอืด เร่งไม่ขึ้น เครื่องสั่น จะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
ก. ล้าง DPF ข. อุด EGR
3. ถ้ารถกระบะคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเป็นเครื่องดีเซลรุ่นใหม่ที่เครื่องเล็กลง เน้นประหยัดน้ำมัน
แต่แรงไม่เยอะ จะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
ก. ปรับตัว ใช้แบบเดิม ๆ จากโรงงาน ข. ไปจูนกล่องให้จ่ายน้ำมันเพิ่ม แต่ควันดำก็มาด้วย
4. รถ ECO คันใหม่ที่เพิ่งถอยมา หน้าตาดูเรียบร้อย ล้อเล็ก ยางหน้าแคบ แต่ประหยัดน้ำมัน
ดูแล้วธรรมดา ไม่เด่น ไม่เท่ห์ คุณจะเลือกทำอย่างไรระหวาง
ก. ใช้ตามสเปกเดิมนั่นแหละ ประหยัดดีแล้ว
ข. เปลี่ยนล้อใหญ่ ลายสวย ยางหน้ากว้าง ใส่ Aero part รอบคัน แต่รถกินน้ำมันขึ้น
เอาแค่นี้ก็รู้ละฮะว่า เราคิดยังไงกับเรื่องพวกนี้น่ะครับ
-
ลองตอบดูนะครับ
1. ถ้ารถตัวเองใช้งานมานานมากแล้ว จน CAT หมดอายุ จะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
ก. เปลี่ยน CAT ใหม่ ข. ตัด CAT ทิ้ง แล้วใช้งานแบบไม่มี CAT
คงตัดทิ้งก่อนถ้าเหม็นมากก็หาซื้อมือสองพกตัดทิ้งแต่แรกมาใส่
2. ถ้ารถดีเซลของตัวเองเริ่มอืด เร่งไม่ขึ้น เครื่องสั่น จะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
ก. ล้าง DPF ข. อุด EGR
ล้างครับ แต่คงไม่รอให้อืดค่อยล้าง
3. ถ้ารถกระบะคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเป็นเครื่องดีเซลรุ่นใหม่ที่เครื่องเล็กลง เน้นประหยัดน้ำมัน
แต่แรงไม่เยอะ จะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
ก. ปรับตัว ใช้แบบเดิม ๆ จากโรงงาน ข. ไปจูนกล่องให้จ่ายน้ำมันเพิ่ม แต่ควันดำก็มาด้วย
ปรับตัว ใช้แบบเดิม ๆ จากโรงงาน ถ้าจะเน้นแรงคงไม่ซื้อ
4. รถ ECO คันใหม่ที่เพิ่งถอยมา หน้าตาดูเรียบร้อย ล้อเล็ก ยางหน้าแคบ แต่ประหยัดน้ำมัน
ดูแล้วธรรมดา ไม่เด่น ไม่เท่ห์ คุณจะเลือกทำอย่างไรระหวาง
ก. ใช้ตามสเปกเดิมนั่นแหละ ประหยัดดีแล้ว
ข. เปลี่ยนล้อใหญ่ ลายสวย ยางหน้ากว้าง ใส่ Aero part รอบคัน แต่รถกินน้ำมันขึ้น
สเปคเดิมครับ ผมไม่คิดจะเสียเงินหลายชั้น
-
ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม แต่ไม่เลือก hybrid หรือ EV ในตอนนี้ครับ
เพราะคงต้องมองความเป็นจริงว่าผมยังยอมรับราคาอะไหล่ กับราคาขายต่อไม่ไหว
ตอนนี้ที่ทำได้คือเลือกซื้อรถที่ใช้ e20,e85 ได้ และเติมเป็นประจำ
รถเครื่อง ดีเซล ก็ไม่ดัดแปลงอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้คงช่วยได้เท่านี้ครับ
-
รถไฟฟ้าพลังสะอาดจริง แต่ๆโรงไฟฟ้าละครับ
ตราบใดที่เรายังสร้างโรงไฟฟ้าพลังสะอาดไม่ได้ การใช้รถถ่ายก็เป็นเหมือนการย้ายแหล่งสร้างมลพิษแค่นั้นเอง
แถมแบตก็ยังเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
-
โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็ค่อนข้างให้ความสำคัญกับอากาศและสิ่งแวดล้อมเหมือนกันครับ
แต่ผมขอไม่เลือกทั้งรถ EV และ Hybrid ครับ ผมยอมใช้รถเบนซินเติม E85 ดีกว่าครับ
อย่างน้อยก็ช่วยสิ่งแวดล้อมได้เยอะเหมือนกัน และขับยาวหลายๆปีสบายใจกว่าด้วยครับ
-
ผมว่าวันนี้เป็นวันที่พีคสุดของอากาศในเมืองแล้วครับ AQI ขึ้นไปถึงช่วง 150-200 หลายที่แล้ว
ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ใหญ่ที่แข็งแรงดีบางคนได้รับผลกระทบ
เด็กๆ เริ่มป่วยเป็นหอบหืดมากขึ้น https://www.facebook.com/drpambookclub/posts/809955022672526?__tn__=K-R
ผู้ใหญ่จะอยู่ในที่โล่งแจ้งลำบาก แสบจมูก โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคปอด หัวใจ
และถ้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิน 200 ผู้ใหญ่ที่แข็งแรงดีทุกคนก็จะอันตรายครับ
อีกเรื่อง อนุภาคพวกนี้เหมือนบุหรี่ อาจทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้น และเป็นโรคหัวใจขาดเลือด กับสมองขาดเลือดมากขึ้น รวมถึงมีโลหะหนักอยู่ในนั้นด้วย
https://www.facebook.com/ramachannel/videos/621562401610279/
อันที่จริงผมกลับมองว่า ให้อากาศมันแย่สุดๆAQI 200จนอยู่ไม่ได้และมีคนป่วยจากเรื่องนี้เยอะๆเหมือนที่จีน หรือ ลอนดอน ญี่ปุ่น ดีทรอยท์ ที่เคยเป็นไปเลยก็ดี
จะได้เป็นการทำให้ประชากรทุกคน เห็นว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญขนาดไหน เพื่อที่จะเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสในการแก้ไขปัญหาครับ
ปัญหามันเกิดจากมนุษย์ ก็ต้องแก้ที่มนุษย์
สิ่งที่เราทำๆกันได้ทุกวันนี้คือ
-ถ้ามีระบบ start/stop ก็อย่าปิด โดยเฉพาะเครื่องดีเซล
-งดซิ่ง
-เลือกใช้รถ hybrid PHEV + ชาร์จ เพื่อปล่อยมลพิษน้อยที่สุด
-หลีกเลี่ยงการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล
-ใครพอมีเงินก็ซื้อ EV มาขับเลยครับ
-หลีกเลี่ยง การกินอาหารปิ้งย่าง ที่ใช้ถ่าน และหมูปิ้ง
-เจอการเผาหญ้าก็รายงานเจ้าหน้าที่
อันสุดท้ายที่สำคัญคือ ปลูกต้นไม้ ให้มากที่สุด เพราะ ต้นไม้ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ดูดซึม pm 2.5 ได้หลายตันต่อปี https://stem.in.th/urbantreeremovepm25/?fbclid=IwAR2K5RC67NZ9G7sdfLKfjFBs45p1HhFX29eyGMxRegcFp3I_OplniZNRp94
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การปลูกต้นไม้ของสิ่งแวดล้อมในใจคนครับ ถึงแม้มันจะเป็นการกระทำเล็กๆน้อยๆ เช่น เปิดระบบ start /stop แต่เริ่มทำจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของกิจกรรมลดมลพิษต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ไม่ต้องโทษว่าเป็นปัญหาของใคร แต่มองที่ตัวเราเองหรือแผนการในอนาคตว่าเราจะทำอะไรได้ให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น และ "ทำ" มันให้ดีที่สุด
อีกหน่อยคนรุ่นเราก็ตายไปแล้ว
แต่ลูกๆของเราต้องอยู่บนโลกใบนี้อีกนาน
เราจะไม่เป็นส่วนนึงในการทำให้โลกใบนี้น่าอยู่มากขึ้นเพื่อลูกหลานของเราเลยหรือ?
ตอบ จขกท ผมเลือกใช้ Hybrid PHEV หรือ EV เพราะเห็นคนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยมามากมาย จึงทำให้เข้าใจว่าสุขภาพสำคัญกว่าเรื่องอื่นๆเยอะ
แต่ถ้า จขกท กลัว จุกจิกก็ไฮบริดโตโยต้า หรือ bmครับ เท่าที่ศึกษาดู ไม่ค่อยจุกจิกครับ
-
เลือกความไม่จุกจิกแน่อน เพราะ รถ EV ก็ก่อมลพิษเหมือนกัน แค่ต่างที่
-
ประชาชนใครจะไม่อยากใช้ ถึงรถ ev จะจุกจิกแต่ถ้าราคามันถูกแบบจับต้องได้ คนก็อยากใช้มากขึ้น อยู่ที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองแหล่ะ จะเห็นแก่ผลประโยชน์ของกลุ่มทุน หรือประชาชนในชาติมากกว่ากัน
-
ไม่อยากให้มองเรื่องซื้อรถใหม่
ดูรถที่เรามีอยู่นั้นแหละ ระบบกรองไอเสีย สภาพเครื่องยนต์ต่างๆ ดูแลให้มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าทุกคนทำได้เช่นนี้
แค่นี้ก็ช่วยสภาพแวดล้อมไปพอควรแล้ว
-
มลพิษ รถทุกประเภท ก่อมลพิษหมด อยู่ที่ว่าจะก่อที่ไหน ปัญหาเกิดที่ไหน
พอมองว่า PHEV ก่อมลพิษน้อย หรือ EV ไม่มีมลพิษเลย(ไม่มีควัน) แล้ว มีใครเคยออกมาบอกยังครับว่า ถ้าแบตเตอรี่หมดอายุ จะเอาไปทำอะไร? เอาไปทำลายที่ไหน? เอาไปรีไซเคิลยังไง? เพราะทุกสนใจแต่ว่า อยากให้ EV เกิด
ส่วนรถดีเซล ผมก็มันมีปัญหา ไม่ใช่เพิ่งมี แต่มีนานแล้ว เอาง่ายๆ ว่า ทำไมยุโรปเขาถึงจะหยุดผลิต หยุดใช้รถดีเซล เพราะเขามองเห็นปัญหา
ส่วนเรื่องจุกจิก ผมเฉยๆ เพราะรถมันก็มีปัญหาพอกัน(เฉพาะเรื่องเบนซิน ดีเซล นะ ไม่ใช่เรื่องระบบไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ควบ) ดังนั้น ผมรับได้
การบังคับใช้กฏหมายต่างหาก ที่ผมเป็นห่วง ช่วงที่ผ่านมา ทุกคนคงเห็นข่าว่า จะไม่ให้รถเมล์ควันดำ จับรถบรรทุกควันดำ
ผมถามหน่อย
รถควันดำเพิ่งมีเหรอ?
ทำไมพึ่งมาจับ?
แต่ก่อนไม่จับ?
รถวิ่งตามหลังนึกว่าควัน apollo 11 คนที่บังคับใช้กฏหมาย(ไม่ใช่เฉพาะตำรวจนะ) เขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เหรอ?
เหมือนวัวหายแล้วล้อมคอก ผักชีโรยหน้า ไปวันๆ
-
ใช้ hybrid ไปก็เท่านั้นครับ ผมเป็นคนรักสิ่งแวดล้อม
แต่ฝุ่น PM 2.5 มันมาจากกระบะเก่าๆ รถบรรทุก รถตู้และรถเมล์
Mazda 2 ดีเซลถ้าไม่ตัด Cat ก็ปล่อย PM 2.5 น้อยมาก
แค่รถบรรทุกเก่าๆ 1 คัน เหยียบคันเร่ง ก็ปล่อยฝุ่นมากกว่า Mazda 2 10 คันรวมกันแล้วครับ
ถ้ารัฐไม่ควบคุมภาคขนส่ง และไม่ปลูกจิตสำนึกให้คนรักสิ่งแวดล้อมแต่เด็ก ประชาชนส่วนมากก็ต้องทนอยู่กับฝุ่นพิษต่อไปครับ
+1
ผมว่าบ้านเราขาดเรื่องการเอาจริงด้วย
อย่าเรื่องดวันดำผมจำได้ว่าเริ่มมีนโนบายนี้มา นาน...... มาก.....แล้ว
แต่ก็ยังมีรถควันดำวิ่งกันเกลื่อน ไม่ว่าจะรถขนของ รถโดยสาร รถแต่งดันราง
จิตสำนึกมันจะมาหลังจากเสียตังค์ครับ เสียบ่อยๆจ่ายไม่ไหว ก็เลยต้องเปลี่ยนนิสัยแทน
-
สำคัญกับสิ่งแวดล้อมไม่มีผลกับการตัดสินใจซื้อรถเลยครับ สำหรับผม
แต่ผมไม่ดัดแปลงรถที่ทำให้ทำลายสิ่งแวดล้อม
ปัญหาหลักๆ พวกรถใหญ่ รถโดยสาร กระบะดันรางดัดแปลงสารพัด
-
จริงแล้วถ้าเพิ่มการปลูกต้นไม้ หรือลดการเผาไร่ น่าจะช่วยได้ดีและง่ายกว่า ส่วนรถอย่างที่หลายความเห็นกล่าวคือพวกรถที่ำม่ฃด้มาตราฐาน แต่งดันราง ก็ต้องควบควบคู่กัน
-
ส่วนตัวให้น้ำหนักกับความไม่จุกจิกครับ แต่จะไม่ซื้อรถที่ต้องดัดแปลงเพื่อไม่ให้จุกจิกเด็ดขาดครับ และก็ไม่คิดจะดัดแปลงรถยนต์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อนหรือส่งผลต่อมลพิษที่ปล่อยออกจากรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศหรือทางเสียงด้วยครับ ถ้าผลิตออกมาได้ควรผ่านมาตรฐานมลพิษเบื้องต้นอยู่แล้วในกรณีที่ไม่ได้ดัดแปลงใดๆเพิ่มเติม ทีนี้ก็เป็นตัวผมเองที่จะเลือกรถยนต์ให้เข้ากับการใช้งานของตัวเองครับ
-
ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกร้อน ปัญหาอีกสารพัด
มีรัฐบาลไหนในโลกคิดจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุบ้าง? มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนกลุ่มไหนในโลกชี้ไปที่ต้นเหตุจริงๆบ้าง?
(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/35/World_population_percentage.png)