Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Krongbun ที่ มกราคม 22, 2019, 08:42:14
-
อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ล้างภายนอกรถอยู่ชั่วโมงกว่า เหนื่อยแท้ ::)
จากนั้นเปิดห้องเครื่องเช็ครถ เห็นเลอะเทอะมาก ด้วยความขี้เกียจเลยลองเอาสเปรย์โฟมฉีดล้อมาลองดู
ผลที่ได้คือล้างง่ายมาก ฉีดทิ้งไว้ แล้วคอยเช็ดตรงบริเวณที่น้ำยามันไหลไปรวมกัน ฝุ่นมันไปรวมกันตรงนั้น
จากนั้นรอให้แห้ง แล้วสตาร์ทรถวอมให้ร้อน ขับไปโฉบเฉี่ยวในหมู่บ้านนิดหน่อย
ประหยัดเวลากับลดความเสี่ยงเรื่องโดนบาดมือไปเยอะเลยครับ
เข้าคำถามเลยละกัน เคยทำแบบนี้กันไหมครับ มีผลเสียรึปล่าว (ทดลองเองเลย ::))
เห็นร้านบล้างรถนี่เอาน้ำฉีดกันเลย ผมคงไม่ทำขนาดนั้นแน่ๆ
-
ผมทำครับ เอาแปรงทาสีมาปัด ๆ ฝุ่นก่อน ฉีดสเปรย์ทายางดำ แล้วเช็ดออกเฉพาะจุดที่ไม่อยากให้โดน
-
ผมเอาสเปรย์แดงๆ ฉีดให้ทั่ว ไม่คลุมอะไรทั้งนั้น ขี้เกียจ ;D ;D ;D ;D
นับ 1-100 แล้วเอาอันฉีดๆๆๆ แล้วเอาลมเป่าก็สะอาดแต่ไม่เงาเลยเสริม wax ห้องเครื่องอีกอันฉีดพร้อมลม แล้วเช็ดๆ
ข้อดีคือมันไม่เหนียวเหมือน wax ทั่วๆไป
ข้อเสียแพง
Cost ล้างห้องเครื่องเอง เกือบๆ 200 บาทแน่ะ
-
ผมก็ทำนะใ้ชแว็กซี่ฉีดเคลือบหนังหรือยางดำแล้วเช็ดเอา ::) ไม่รู้ว่าถูกต้องไหมแต่ก็ทำประจำครับ
-
ถ้าเลอะผมก็ล้างเอาอ่ะ
ยิ่งฉีดน้ำมันยิ่งเหนียวฝุ่นยิ่งจับแน่นกว่าเดิมอีก
(https://sv1.picz.in.th/images/2019/01/22/TdHR2b.jpg)
-
แฮะๆ ผมทำประจำครับ
ก่อนฉีด ก็เอาถุง 7-11 คลุมคอยล์จุดระเบิด แอร์โฟร์ และทางเข้าอากาศ
แล้วฉีดโฟมอัด รอให้ไหลลงไป จากนั้นล้างน้ำอีกรอบ แล้วเอาแว็กซี่เช็ดจุดที่ด่างๆซ้ำอีกที
เงาแว้บครับ
-
เคยเข้าร้านล้างรถ ร้านเปิดกระโปรงเอาสายยางฉีดเข้าห้องเครื่อง
คนงานจะถอยออกมาเช็ด ระบบไฟรวน สตาร์ทไม่ติด งานเข้าเลยครับ แต่รอสักพักก็สตาร์ทติดขับกลับบ้านได้แบบใจหวิว หุหุ
หลังจากนั้นมาไม่ให้ใครแตะต้องห้องเครื่องอีกเลย แค่โบลเวอร์เป่าพอ
-
ผมก็ทำนะใ้ชแว็กซี่ฉีดเคลือบหนังหรือยางดำแล้วเช็ดเอา ::) ไม่รู้ว่าถูกต้องไหมแต่ก็ทำประจำครับ
ใช้เหมือนกันครับ ใช้ตรงพวกพลาสติกสีดำที่มันเริ่มจะเทาๆ ใช้โฟมมันดำไม่ถึงใจ
ถ้าเลอะผมก็ล้างเอาอ่ะ
ยิ่งฉีดน้ำมันยิ่งเหนียวฝุ่นยิ่งจับแน่นกว่าเดิมอีก
อันนี้โหด ;D
-
พวกล้างน้ำยาง เคลือบน้ำยา ตอนใหม่ๆ สวยครับ แต่พอสักพัก ดูไม่จืดเลย ฝุ่นมันจับหนักกว่าเดิมอีก
น้ำล้างดีกว่า แต่ต้องหาถุงดำ หรือ พลาสติก คลุมต้องจุดที่ต้องระวังๆ หน่อย เช่น ข้อต่อไฟ เซนเซอร์ต่างๆ เป็นต้น แบบนี้สะอาดทน สะอาดนาน ทำง่าย และ ประหยัดด้วย
-
ผมใช้น้ำยาก สีเขียวๆ แดงๆ พวก ฟาสต์ๆ อะไรทะ้งหลาย ฉีดทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วก็เปิดก๊อกน้ำเปล่าล้างปกติครับ ไม่คลุมอะไร แค่ไม่ไปฉีดพวกคลีนเนอร์ตรงพวกอุปกรณ์ที่มีส่วนเคลื่อนไหวพวกลูกปืนตรงๆ ;)
-
ผมไม่ยุ่งครับ ห้องเครื่องเป้นอะไรที่ผมกลัวมันจะมีปัญหามากที่สุด
ล้างที่ศูนย์เท่านั้น เก็บใบเสร็จไว้เป็นปี มีอะไรโวยวายได้
ทำเองอย่างมากก็ปัดฝุ่น เช็ดฝุ่น ไม่ฉีดน้ำอะไรทั้งนั้นครับ
-
เคยใช้เหมือนกันแต่มันแรงสู้พวก น้ำยาล้างสูตรเชียงกงไม่ได้ แต่ส่วนมากผมเอามาลงคอนโซล ลูบกับยางขอบประตูบอกเลยว่าดีโคตรดำเงาได้ใจติดทนอีกต่างหากเอาแวกซ์ลงอยู่ได้นานไม่เท่าเลย ช่วยลดเสียงจากยางขอบประตู ขอบสักหลาดได้อย่างชัดเจน
-
ห้องเครื่องผมใช้ทิชชู่เปียกแบบเช็ดก้นเด็กเช็ดตลอดเลยครับ
-
ผมใช้วิธี เปิดน้ำจากสายยาง ล้างเฉพาะจุด ไม่ได้ฉีดน่ะครับ เปิดเบาๆ เสร็จแล้ว รีบใช่โบว์เวอร์เป่า แล้วเช็ดน้ำยาต่างๆ จะไม่ใช้น้ำยาอะไรทั้งนั้น เะราะมีนเก็บ และดูดฝุ่นครับ
-
ถ้าเลอะผมก็ล้างเอาอ่ะ
ยิ่งฉีดน้ำมันยิ่งเหนียวฝุ่นยิ่งจับแน่นกว่าเดิมอีก
(https://sv1.picz.in.th/images/2019/01/22/TdHR2b.jpg)
แบบนี้เช่นกันครับ
รอให้เครื่องเย็น น้ำฉีดเบาๆ ถ้ามีลมเป่าไล่น้ำก็ดี เช็ดด้วยผ้า แล้วขับออกไปซัดสัก1-2กิโลครับ (อยู่บ้านนอก ถนนโล่ง)
-
ที่ศูนย์รถยนต์เค้าล้างให้เป็นแบบที่ฉีดน้ำผสมน้ำยาเป็นฟองพ่นไปทั่วห้องเครื่องครับ แล้วทิ้งไว้แปปเดียวเอาที่ฉีดอันเดิมฉีดน้ำพร้อมลมไล่ฟอง โดยไม่ได้แตะอะไรเลย จากนั้นเค้าเป่าลมให้แห้ง
เสร็จแล้วสะอาดมากครับ แอบทึ่งอยู่เร็วด้วย