Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Panuss ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2019, 08:29:33
-
สวัสดีครับ ผมมีแผนที่จะเปลี่ยนรถเร็วๆนี้ ตอนนี้ใช้ C-segment รถญี่ปุ่นอยู่ แต่แฟนยื่นคำขาดให้รถคันใหม่เป็นรถยุโรปเพื่อความปลอดภัย เป้าหมายคือ BMW หรือ Benz มือสองก็ได้
คราวนี้เลยอยากจะรู้ข้อมูลของรถโดยผมมีความต้องการดังนี้ครับ
1. ผมใช้รถค่อนข้างเยอะวันละ 80 กิโลเป็นอย่างต่ำ เลยขอประหยัดน้ำมันหน่อย ติดแกสได้ยิ่งดี
2. ผมชับรถไม่เร็วมาก บนทางด่วนก็ 110-120 นานๆจะกดถึง 160 สักครั้ง
3. Budget ค่าซ่อมบำรุงสำหรับมือสอง 50000 - 100000 บาทต่อปี
4. ผมต้องขับไปทำงานทุกวัน เลยขอที่ไม่เสียบ่อยๆ หรือเสียแต่ซ่อมไม่นาน
5. ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน
6. แฟนผมplan จะมีลูกแฝด เลยอยากได้คันใหญ่หน่อย
ขอบคุณมากนะครับ ผมมาถามใน Board นี้2-3 ครั้งแล้ว ได้รับคำตอบที่อบอุ่นทุกครั้ง
-
เป็นความเข้าใจผิดพอสมควรที่คิดว่ารถยุโรปปลอดภัยกว่ารถญี่ปุ่น
รถมือ 2 คือรถเก่า เทคโนโลยีเก่า รถใหม่คือเทคโนโลยีใหม่
รถมือ 2 ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร ไม่มีคำว่าไม่จุกจิก มันพร้อมเสียทุกอย่าง มันอยู่ที่คุณรับได้แค่ไหน 3 เดือนเจ๊งแน่ 1 อย่าง
-
ไป lexus จะจุกจิกน้อยกว่าครับ ลองถามแฟนดูว่าพอจะผ่านไหม
ยุโรปยุคนี้ ป้ายแดงยังจุกจิกเลยครับ ยุคเก่าก็อายุเยอะ ทะยอยเสีย
-
อ่านเงื่อนไขของ จขกท. แล้ว "คุณไม่สมควรใช้รถยุโรป"
เพราะ
ตอบ
1 ใช้รถเยอะ และยังเน้นแก๊ซ ซึ่งเป็นตัวเพิ่มความสึกหรอกับเครื่องยนต์ และเพิ่มความน่าเป็นกังวลกับระบบไฟ
ถ้าเป็นดีเซลก็ว่าไปอย่าง ประหยัด ใกล้เคียงแก๊ซ LPG
2 รถ Jap ก็ตอบโจทย์ได้
3 ค่าซ่อมบำรุงอาจจะไม่พอ
4 Euro จุกจิกกว่า Jap แน่นอน
5 MB BMW ขั้นต่ำ 6 ปีขึ้น เป็นระยะซ่อมใหญ่พอดี แต่ถ้าซ่อมให้ถึง ซ่อมให้สุด ก็อยู่ยาว
6 คันใหญ่ ก็ต้อง D-Seg หมายถึง E-Class, 5serie ถ้าจะต้องซื้อจริงๆ เลือกดีเซลเท่านั้น
กลับไปที่ต้นคำถาม "แฟนยื่นคำขาดให้รถคันใหม่เป็นรถยุโรปเพื่อความปลอดภัย"
อาจจะปลอดภัยต่อชีวิตขึ้น??
แต่อาจไม่ปลอดภัยต่อเงินในกระเป๋า!!
ถ้าโชคดีได้รถดีก็แล้วไป
จะเล่น รถ Euro เงินเผื่อซ่อม/ดูแล ต้องถึง และสบายตัวพอควรถึงน่าเล่น
แต่ถ้าครึ่งๆ กลางๆ และถ้าเจอรถไม่ดี อาจจะต้อง "เหนื่อยมาก"
ไหนจะค่าซ่อมรถ... ไหนจะค่าลูกที่กำลังจะเกิด... ไหนเวลาที่มีจำกัด 24 ชั่วโมงอีก...
"เหนื่อยไหมดาว"
-
สวัสดีครับ ผมมีแผนที่จะเปลี่ยนรถเร็วๆนี้ ตอนนี้ใช้ C-segment รถญี่ปุ่นอยู่ แต่แฟนยื่นคำขาดให้รถคันใหม่เป็นรถยุโรปเพื่อความปลอดภัย เป้าหมายคือ BMW หรือ Benz มือสองก็ได้
คราวนี้เลยอยากจะรู้ข้อมูลของรถโดยผมมีความต้องการดังนี้ครับ
1. ผมใช้รถค่อนข้างเยอะวันละ 80 กิโลเป็นอย่างต่ำ เลยขอประหยัดน้ำมันหน่อย ติดแกสได้ยิ่งดี
2. ผมชับรถไม่เร็วมาก บนทางด่วนก็ 110-120 นานๆจะกดถึง 160 สักครั้ง
3. Budget ค่าซ่อมบำรุงสำหรับมือสอง 50000 - 100000 บาทต่อปี
4. ผมต้องขับไปทำงานทุกวัน เลยขอที่ไม่เสียบ่อยๆ หรือเสียแต่ซ่อมไม่นาน
5. ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน
6. แฟนผมplan จะมีลูกแฝด เลยอยากได้คันใหญ่หน่อย
ขอบคุณมากนะครับ ผมมาถามใน Board นี้2-3 ครั้งแล้ว ได้รับคำตอบที่อบอุ่นทุกครั้ง
ุ6 ข้อ ที่ว่ามาไม่จำเป็นต้องรถยุโรปหรอกครับ รถญี่ปุ่น B Seg ก็ใช้งานตามโจทย์นั้นได้ครับ แถวบางข้อมีข้อดีกว่ากันด้วย เช่น ค่าบำรุงรักษา
ยกเว้น ว่า "คุณอยากได้รถยุโรป" ซึ่งไม่ต้องหาเหตุผลมา support ก็ได้ครับ อยากได้ก็คือยากได้ เช่นเดียวกับผม(สุดท้ายผมก็กลับมาคบรถญี่ปุ่นด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง)
-
ยุโรปมือ 2 ไม่ตอบโจยท์คุณเลยครับ
ราคา 1.5 ไม่จุกจิกนี้ไปด้วยกันไม่ได้แน่ งบนี้ได้รถอายุเยอะ ก็ต้องดูแลเยอะ รถยุโรปไงก็ต้อรออะไหล่นานกว่ารถญี่ปุ่น
คนรู้จักผมซื้อ X3 มือ2ราคา 2 ล้าน นั่ง 2 คน ถ้าไปหลายคนก็ยังต้องเอาคันอื่นไป ถ้าอยากได้คันใหญ่งบนี้รถยุโรปก็ไม่ตอบโจทย์อีก
ไปรถญี่ปุ่นมือ 1 ตัวท๊อปญี่ปุ่นดีกว่าครับ
ถ้ารีบก็จองแคมรี่เลย กว่าจะได้รถอาจจะประมาน มีนา-เมษา
-
1.ใช้รถเยอะ ประเด็นนี้ถ้าดูแลรถดีๆก็วิ่งได้ครับ XJ เก่าผมบางวันวิ่ง 2 ร้อยโลสบายๆ แต่ติดแก๊สเกรงว่าเหมือนจะยิ่งเพิ่มการบำรุงรักษาแทนที่จะได้ประหยัดหรือเปล่าครับ
2.รถญี่ปุ่นรุ่นใหญ่อย่าง Teana, Camry ถือว่าทำผลงานได้ดี แต่แน่นอนว่าไม่เท่ายุโรปในระดับ 5er, E
3.,4.ขอรวมครับ ค่าซ่อมบำรุงอันนี้ผมกะไม่ถูก ต้องดูก่อนว่าสุดท้ายตัวเลือกจะเป็นรุ่นไหน แต่งบเท่านี้ผมว่าถ้าเน้นยุโรปควรเพิ่มอีกครับ
เพราะคล้ายๆข้อ 1 คือดูแลดีๆ ซ่อมให้ถึง ที่สำคัญค่าใช้จ่ายจะสูงตามระดับรถ อย่าลืมว่าราคารถคือราคามือสอง แต่ค่าบำรุงรักษาตามระดับราคาป้ายแดงนะครับ
5.,6.ขอรวมครับ งบประมาณนี้ได้ใหญ่สุดของ Sedan คือ 5er, E ล่ะครับ ถ้า SUV ใหม่ๆก็ได้ X3 หรือเก่าลงไปมีพวก X5, ML
และถ้าไม่รังเกียจ Lexus แนะนำให้ลองดู RX ครับ จะสบายใจกว่ายุโรปเยอะ รถเก่าไม่มากพอๆกัน แต่ไม่ดูดีเท่า MB, BMW เท่านั้นเองครับ
สรุป ถ้าอยากได้ยุโรปเท่านั้น ช่วยกันเพิ่มงบแล้วป้ายแดงไปเลยจะสบายใจที่สุดครับ (ผมห่วงตอนมีลูกแล้วรถสถาพไม่ค่อยพร้อม)
หรือถ้ายืนยันว่ายอมเอามือสองขอให้เป็นยุโรป แนะนำให้เพิ่มงบซ่อมครับ แล้วเวลามีอะไรให้ซ่อม/เปลี่ยนไปเลย แบบนี้ใช้สบายใจเหมือนกัน
ปล.1 มี plan เรื่องลูกและลูกแฝดด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายไม่พูดถึงเพราะผมมั่นใจว่าพร้อมอยู่แล้ว แต่ย้ำว่าผมห่วงเรื่องรถเสียครับ
ปล.2 คนยื่นคำขาดน่าจะช่วยออกเงินเล่นๆซัก 5 แสน ล้านนึงก็ดีนะครับ ดีไม่ดีได้ยุโรปป้ายแดงใช้ยาวไปเลยด้วยครับ
-
อ่านมา ไม่เหมาะกับยุโรปนะครับ
จุกจิกมีแน่ครับ พร้อมเสีย ถ้ามือสอง
ขนาดมือ 1 ยังมีเลยครับ
-
ผมว่าปัจจุบันรถญี่ปุ่นเองก็มีระบบความปลอดภัยทั้ง active และ passive มากขึ้นนะครับ บอกเลยว่าถ้ายังมีคำว่ากลัวจุกจิกอย่ามาใช้รถยุโรป รถยุโรปต้องหมั่นดูแลเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะทางและเวลาที่กำหนดยิ่งจะซื้อมือสองยุโรปยิ่งไปกันใหญ่เลยถ้าไม่มีความรู้ด้านการบำรุงรักษาเบื้องต้น ถ้าอยากได้รถยุโรปแนะนำป้ายแดงดีกว่า
ผมเคยมีโจทย์เหมือนเจ้าของกระทู้มีลูกเล็กๆซึ่ง Toyota Corolla ขนของได้ไม่พอและต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆเร่งแซงก็ไม่ไหว ผมเลยไปซื้อ Volvo 850 Van มาใช้ มันก็ตอบโจทย์ได้ดีมากขนของได้มากพับเบาะหลังราบให้ลูกๆนอนได้สบายเร่งแซงทันใจ สำหรับผมมันไม่จุกจิกเลยนั่งสบายภรรยาก็ชอบ ใช้ไป 5 ปี ผมวิ่งไป แสนกิโล ขายไปเลขกิโลเกือบ 4 แสน คันนี้ไม่เคยซ่อมเครื่องนนต์และเกียร์เลย ในขณะที่บางคันแสนกว่าก็พังแล้วมันอยู่ที่คุณเข้าใจหรือรู้จุดอ่อนของรถรุ่นนั้นมากน้อยแค่ไหน ที่ตัดสินใจเปลี่ยนเพราะไปเดินเที่ยวที่เซ็นทรัลมีบูทีของVolvo มาออกงาน เลย้ข้าไปดูเซลล์ชวนไปลองรถพอดีศูนย์มีงานจัดทริปพาลูกค้าไปนครนายกเช้ากลับเย็น เลยได้มีโอกาสขับเต็มๆ 1 วัน ได้ลองระบบอำนวยความสะดวกระบบความปลอดภัย กลับมาที่ศูนย์ก็เลยจ่ายเงินจองรถ V60 รุ่นที่หัวฉีดรั่วบ่อยๆครับ ตอนนี้ใช้มา 6 ปีละก็ใช้ได้ดีอย่างเดียวที่ภรรยายังบ่นๆคือมันเล็กกว่า 850 Van ค่าบำรุงรักษาตอนนี้ที่จ่ายเองตั้งแต่ซื้อมาก็ 20,000 ไม่รวมยางและแบต เดือนหน้าเช็ค 120,000 อันนี้ค่าใช้จ่ายน่าจะ 40,000-50,000 เชื่อว่ายุโรปยี่ห้ออื่นก็ไม่ต่างกัน แต่ระบบ safety Volvo ดีจริงๆผมรอดจากการชนมาหลายครั้งแล้วเป็นยี่ห้ออื่นคงชนไปแล้ว
-
ลองดูพวกรถญี่ปุ่นนำเข้ามือสอง พวก Toyota Lexus ก็ได้ครับ บางรุ่นผมว่ารถยุโรปยังอายนะ
-
ถ้ามือสองซื้อปีใหม่ๆดีกว่าครับ ลองดู C200 ไม่ก็ 320d ครับ ผมว่าราคาน่าใช้ดี แล้วราคาตกมาเท่านั้นถือว่าคุ้มแล้ว ไม่เหมือนซื้อตอนมือ 1 สำหรับปีใหม่ๆค่าซ่อมบำรุงปีละเท่านั้นผมว่าชิลๆ อย่างbenz A250ที่บ้านก็ตกปีละ สองหมื่น5 (แต่มันยังไม่ได้มีอะไรพังเสียแค่ค่า maintenance) อย่าง320dเครื่องสหกรณ์ทถึกผมว่ามันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใรช่วง7ปีแรก
แต่พูดถึงเพิ่มเงินอีกหน่อยได้ V40 T4 มือ1 เอาจริงๆผมใช้มา5ปี ผมว่ามันไม่จุกจิกนะครับ ศูนย์ก็โอเค(ถ้าเข้าถูกศูนย์) ราคาขายต่อก็ตกพอๆกับbenz bmw ค่าmaintenanceไม่ต้องเสีย5ปี ปลอดภัยแน่ๆ ช่วยผมรอดตายมาหลายรอบแล้ว กรองแอร์ก็กรองPM2.5ได้ ถ้าชอบhatchbackเตี้ยๆแบนๆอาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายของvolvoแล้ว ติดตรงรถมันออกมานานแล้ว
-
ผมแนะนำครับว่าอย่าเล่นเลย ผมเพิ่งมาเล่นรถยุโรปเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ผมซื้อ W123 มาเป็นรถที่ไม่จุกจิกเลย เพราะเป็นระบบกลไลแทบไม่มีไฟฟ้าเลย ถ้าคุณมาเล่น W123 แฟนคุณไม่ยอมแน่
จะให้เล่นรถปีใหม่กว่านี้ ระบบไฟฟ้า เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ผมแนะนำเป็น เล็กลัส ดีกว่าครับ
-
ผมเคยซื้อตราดาวมือสอง ราคาประมาณคุณเจ้าของกระทู้
ภายนอก ภายใน สวยมากกกก
แต่ใช้ไปซ่อมไป...3 ปี ขาย
โดยรถผมไม่ได้ติดแก๊ส
ซ่อมอู่ใน (ไม่ไหว) อู่นอก (ไม่จบ) อู่ตัวแทนของรุ่นพี่ (ก็ยังแพง)
เหนื่อยใจจริง ๆ ครับ :'( เวลามันจะเสีย คันผม เสีย ต่อเนื่อง จากจุด 1 ไป 2,3,4... เสียดายเงินจริง ๆ
1. ผมใช้รถค่อนข้างเยอะวันละ 80 กิโลเป็นอย่างต่ำ เลยขอประหยัดน้ำมันหน่อย ติดแกสได้ยิ่งดี
( ถ้าคิดจะติดแก๊ส ผมว่าอย่าเลยเผื่อไม่จบ )
2. ผมชับรถไม่เร็วมาก บนทางด่วนก็ 110-120 นานๆจะกดถึง 160 สักครั้ง
( อันนี้ได้หลายรุ่นเลย )
3. Budget ค่าซ่อมบำรุงสำหรับมือสอง 50000 - 100000 บาทต่อปี
( อย่าลืมว่าคุณซื้อรถมือสอง จากราคา 3-4.5 ล้าน เวลาซ่อมบำรุงก็ราคาประมาณนั้น ยกเว้นอะไหล่มือสอง )
4. ผมต้องขับไปทำงานทุกวัน เลยขอที่ไม่เสียบ่อยๆ หรือเสียแต่ซ่อมไม่นาน
( .......ขับ camry / accord มือสองอายุสัก 2-3 ปี น่าจะโอเคกว่านะ ราคาสวย ๆ เลย )
5. ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน
( ซื้อมือ 1 d segment สบายใจกว่าเย๊อะ )
6. แฟนผมplan จะมีลูกแฝด เลยอยากได้คันใหญ่หน่อย
( คงกะใช้ยาว crv ก็น่าจะพอได้นะครับ ภายในกว้างขวางอยู่ )
ขอให้คุยกับแฟนให้จบครับ 8)
-
เรื่องจุกจิก รถอะไร ถ้ามันเก่าแล้ว มันก็เสียครับ ไม่มีอะไรรับประกัน ว่า มันจะไม่เสีย แม้กระทั่งรถตลาด แบบพี่โต บรรรทัดฐานความคิดของบ้านเรา ถ้าไม่ญี่ปุ่น จุกจิกหมด
ผมใช้ Volvo V40 มา 6 ปี ประทับใจมาก ไม่จุกจิก แต่ อะไหล่ ไม่ถูก Service ไม่ถูก อะไหล่ บางชิ้น รอนานมากกกก การวิเคาระห์หา สาเหตุไม่เก่ง ระบบมันเยอะ และ รอคิวซ่อมนาน กว่า ญี่ปุ่น เคยรอ Rack พวงมาลัย เดือนนึง
เพื่อน ออก Benz 250D มา ซื้อมือ 2 รถ 4 ปี ออกห้าง 4 ล้าน ซื้อมา 2 ล้าน มีซ่อมตามอายุ บ่นหน่อย ว่า อะไหล่แพง ทำเบรคทีนึง 5-6 หมื่น เปลี่ยนจาน หรือ แอร์ ทั้งระบบ แสนกว่า และ รอคิวนานเหมือนกัน รถเสียก็นั่ง Taxi เอา สบาย ไม่ต้องขับ ยกเว้นต้องขนของ
รับได้ไหมครับ ถ้ารับได้ รถยุโรบขับดีกว่า แน่นอน ถ้าคุณชอบขับรถ
รับได้ไหมครับ รับได้ จัดไป จะได้ไม่คาใจ
-
benz w124 volvo940 วาง JZ ติดแก๊ส
-
ถ้า จขกท.ต้องการความปลอดภัย ผมว่า D seg. Japan ป้ายแดง ปลอดภัยกว่า ยุโรปมือ 2 อายุ 6 ปี ทั้ง active & passive safty
ลอง เข้าไป web iihs เลือกรุ่น + ปี ที่ เราต้องการ ยุโรปบางเจ้า ที่เราว่ารถเค้าแข็งนี่ ทดสอบได้ poor ด้วยซ้ำ หลังปี 2016 ถึงได้พัฒนา
-
ติดแก๊สประหยัดกว่ากันไม่ได้มากเท่าไรหรอกครับ ระดับราคา 1.5 ล้านได้รถซีเซกเมนต์อย่าง serie3 c class สบายแต่จะคันใหญ่พอรึป่าวเอาใหญ่กว่านี้เกรงว่ามันจะต้องซ่อมจุกจิกนะครับ อายุราวๆ 3-4 ถ้าได้รถดีๆไม่จุกจิกครับ บางคันยังไม่เคยทำอะไรเลยอย่างรถผมf30ไม่เคยซ่อมอะไรเลยไม่มีดีเฟคอะไร ขับดีเงียบนุ่มมาก
ถ้าจะติดแก๊สคิดผิดตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเอาค่าซ่อมค่าจูนหลายหมื่นหรืออาจจะถึงแสน ไหนจะค่าเสียเวลาเสียอารมณ์มาเป็นส่วนต่างน้ำมันดีกว่านะ อีกอย่างเทคโนโลยีในอายุไม่เกินห้าปีมานี้ลิตรนึงวิ่งไม่เร็วอย่างที่ผมดูไอไดรฟ์ก็เฉลี่ยเกิน 14 โลลิตรตลอดกดบ้างเรื่อยๆบ้างไม่เคยใช้อีโค่โหมดเลย ส่วนดีเซลได้มากกว่านี้เยอะครับขับดีๆมีถึงยี่สิบก็เพิ่งจะโลบาทกว่าไม่หนีแก๊สแล้ว ไม่เหมือนยุคก่อนๆที่มีแต่เลขตัวเดียว
-
ต้องตีความคำว่าจุกจิก ไหม? สำหรับผม หมายความว่า ซ่อมที่จุดเดิมซ้ำ ๆ นั่นคือจุกจิก แต่ถ้าเปลี่ยนตามอายุที่มันต้องเปลี่ยน เช่น
เดือนนี้ เปลี่ยนคอล์ยจุดระเบิด เดือนหน้า ปีกนกออกอาการ ต้องเปลี่ยน อีกเดือนต่อมาแอร์ไม่เย็น ซ่อมระบบแอร์ อีกสามเดือน เกียร์พัง ซ่อมเกียร์
แบบนี้ ไม่ใช่จุกจิก แต่มันเสียตามวาระของมัน... ปัญหาคือค่าอะไหล่มันแพงตามค่าตัวตอนป้ายแดง นั่นแหละครับ
ถ้าคุณยอมรับตรงนี้ได้ เลือกมาเป็นเพื่อนผมได้ saab 95 ตอบสนองคุณได้ทุกข้อในราคาสองสามแสน ส่วนเงินที่เหลือไว้ปรับเปลี่ยนส่วนที่มันเสียตามอายุ แม้อายุเยอะ แต่
โนฮาวด์ที่มี ดีมาก รถผม ใช้ อี 85 พร้อมติดแก๊สด้วย ถ้าวิ่งนอกเมือง 10.5 กม/ลิตร (ทั้งแก๊สและ อี 85) เอาเป็นว่าค่าเชื้อเพลิง รถเครื่องพันห้าอายได้แล้วกันครับ
-
ทำไมอ่านแล้วคิดว่าคุณยังไม่ควรใช้รถยุโรปยังไงก็ไม่รู้นะครับ แต่ข้อจำกัดเยอะขนาดนี้ ซื้อมือ 2 มากลัวใช้จริงแล้วจะเซ็งเอาถ้ามาโดนชิ้นแพงๆเสียอีก
-
รถรถยุโรปมือสองจุกจิกมั้ย ผมอาจจะตอบไม่ได้ แต่ขอตอบในฐานะ คุณพ่อลูก 2 เลยนะครับ
Alphard มือ 2 ตอบโจทย์ ข้อ 5,6 ครับ โดนเฉพาะ เหตุผลข้อ6 มันจะทำให้ข้ออื่นหมดความสำคัญไปเลย
-
ถ้าใจมันมา งบเท่านี้ ค่าบำรุงเท่านี้ อยากได้รุ่นไหนก็ซื้อไปเลยครับ ถ้าดวงดีต่อให้เป็นรถเทพมันก็ไม่จุกจิก
แต่ถ้าตัดเรื่อง ของมันต้องมี ออกไป ซื้อ Camry ใหม่ดีกว่า เพราะผมไม่รู้สึกว่ารถยุโรปในงบ 1.5 ล้าน มันจะเหนือกว่า Camry เลยแม้แต่ในด้านเดียว ต่อให้เป็นรุ่นก่อนหน้านี้ก็ตาม
แต่ถ้าอยากมี ก็ซื้อเลยครับ
-
เจ้าของกระทู้ไม่ควรบอกเหตุผลครับ
เพราะการอยากได้รถยุโรปดูแพง ในราคาย่อมเยาแบบมือสอง
มันไม่ได้ใช้เหตุผล หากแต่ใช้อารมณ์ล้วน ๆ ครับ
5555
ไหน ๆ เค้าก็อยากได้แล้ว พี่ ๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ
-
Lexus, Alphard, Estima ครับ
-
ยุโรปมือสองติดแก๊สนี่หนทางสู่หายนะเลยครับ
กำลังจะมีลูกคุยกันดีๆนะครับ รถมือสองมีโอกาสซ่อมถ้าลูกอ่อนและคุณสามีต้องเอารถออกไปซ่อม คุณภรรยาอยู่บ้านดูลูก (แฝด) เอง เธอรับได้รึเปล่าตกลงกันก่อนเลยนะครับ
เรื่องค่าซ่อมเกินจะคาดเดา บางคันก็ซ่อมน้อย บางคันบิลเดียวแสน มันจะเหมาะกับคนที่คิดว่าซ่อมยังไงก็ถูกกว่ามือหนึ่งเท่านั้น
-
งบ 1.5 ล้านไป camry hybrid เถอะครับแรงประหยัดช่วงล่างดี ความปลอดภัยก็ไม่ได้แพ้ยุโรปนะครับรุ่นใหม่ๆเนี่ย ยุโรปก็ไม่ได้ปลอดภัยขนาดนั้นหรอกครับ ฟาดเสา ฟาดต้นไม้ ก็เละพอๆกันครับ
ปล.ขับแล้วไปเสียกลางทางนี่ไม่ปลอดภัยนะครับ
///////ตอบตามกัวข้อมือสองยุโรปที่ไม่จุกจิก บอกเลยว่าแทบไม่มีครับ
-
1.5 ล้าน ได้ F30ที่กำลังจะตกรุ่น มี BSI เหลือ อีก2-3 ปี ไม่ต้องกังวลครับมีปัญหาเข้าศูนย์ฟรี แต่หลังจากนั้นค่อยว่ากัน แต่ราคานี้ก็ได้ แคมรี ใหม่ๆ น่าคิดๆ คุ้ม ครบ จบในคันเดียว ติดที่มันไม่ใช่รถยุโรบแค่นั้นเอง
-
แนะนำ Benz e class ตังถังรหัส w211 รุ่น E200 ngt ผมใช้อยู่ติดแก๊สจากโรงงานไม่จุกจิก งบนี้เอาปีล่าสุด2009 เลือกที่มีประกันไม่เคยชนหนักหรือจมน้ำราคาน่าจะไม่เกิน7ถึง8แสน เหลือเงินเผื่อซ่อมสัก2แสนจบแน่นอน
-
ถ้ากำลังจะมีลูก แต่อยากได้มือ2 ผมว่ามันไปด้วยกันไม่ค่อยได้นะครับ ผมว่าหามือ1 ชัวร์กว่า ถ้ารถเกิดไปเสียกลางทาง ในรถมีลูกแฝดน้อยๆและภรรยาที่กำลังต้องให้นมลูก ผมว่าไม่ดีแน่ๆครับ
ถ้าไปหาพวก c class หรือ 3-series ผมว่าก้เล็กเกินไป ไม่พอแน่ๆครับ หาพวก MPV ดีกว่า
ถ้าอยากได้รถที่ดูมีภาพลักษณ์หน่อย จะไปมือ2 Alphard Vellfire ก้พอได้ครับ
-
ถ้าเอาคำถาม จขกท. มาตั้งเป็นโจทย์ในการสอบเก็บคะแนน ถ้าตอบว่าซื้อรถยุโรปมือสองเหอะ คงเป็นคำตอบที่ผิด ไม่ได้คะแนน
เรามาดูเงื่อนไขที่คุณตั้งกัน ราคา 1.5 รถต้องใหญ่กว่า C seg มีลูกแฝด และต้องการความปลอดภัย? รถยุโรป ก็ต้องมองไปที่ E หรือ Series 5 ซึ่งมือสอง ราคา 1.5 ส่วนใหญ่รถ 5 - 6 ปี ขึ้นไป ระบบต่างๆในรถมันตกรุ่นล้าสมัยแล้วครับ ไม่มีทั้ง Cruise control, Blidspot , เตือนออกนอกเลนส์ ช่วยจอด ออกตัวในทางชัน บลาๆ พวกนี้ไม่มีเลย (อย่าว่าแต่มือสองเลยครับ ป้ายแดงยุโรป พศ.นี้บางตัวยังไม่มีพวกนี้ให้เลย) กลับกันที่รถ D-seg ญี่ปุ่นป้านแดง ราคาพอๆกัน ให้มาครบทุกอย่างเหลือๆ
นี่ยังไม่ไปที่ข้อต้องซ่อม และมีรถใช้คันเดียว ขับทุกวัน 80 โล ต้องซ่อมไม่นาน นี่แทบจะตัดออกจากตัวเลือกไปเลยครับ หาไม่ได้ในรถยุโรปมือสองแน่นอน
ผมว่าลองคุยกับเมียดูครับ ว่าต้องการรถยุโรปเพราะอะไร ถ้าต้องการเพราะหน้าตา ภาพลักษณ์ และชอบแล้วล่ะก็ ไม่ต้องฟังใคร ซื้อมาโลดครับ แล้วก็เตรียมรับปัญหาทั้ง 6 ข้อให้ดี แต่ถ้าจะเอาคุ้มค่า คุ้มราคา และตอบโจทย์ ผมว่าไปรถญี่ปุ่นป้ายแดงเถอะ ถ้าชอบซีดาน ก็มอง Camry Accord Teana ถ้าไป SUV ก็ CRV Terra หรือไป PPV ก็ Fortuner Everest Mux ไปโน่นเลยครับ
หรือจะเก็บตังอีกสักนิด เพื่อเอายุโรปป้ายแดงก็ไม่เลวนะครับ ซีรี่ห้าตัวที่ใกล้เปลี่ยนรุ่น ล่าสุดลดลงมาต่ำ 3 ล้านแล้ว อย่างน้อยมีประกัน ก็ยังช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการซ่อมได้
-
ถ้ายังอยากได้ยุโรปอยู่ คงต้องหาติดแกสจากโรงงาน
มีรุ่นเดียวคือ E200 ngt หาปีท้ายๆ ประมาณ ปี 2012 (สังเกตง่ายๆ กันชนหน้า มีไฟ DRL แล้ว ล้อแมกซ์ ลาย avantgarde)
ที่บ้านผมใช้อยู่ 6ปี แสนสองหมื่น กม. ยังไม่มีอะไรเสียหนักๆเลยคับ
ว่าจะปล่อยอยู่เหมือนกัน แต่ยังหารถที่แทนคันนี้ไม่ได้คับ
ราคาอยู่ในงบ แถมเผื่อเหลือ ซ่อมบำรุงด้วยคับ
-
อย่าหายุโรปเลยครับ ยิ่งพวกรภที่ค่อนข้างใหม่ที่เป็นระบบ CGI นี่จะติดแก๊สไม่ได้นะครับ รวนไม่จบ เคยถามช่างแล้วเขาบอกไม่มีใครใส่มันรวน
-
8) 8) 8).....BMW / Mercedes ดีเซล 2 ยี่ห้อนี้ ซื้อมือสองได้ ไม่จุกจิก แต่ควรห่าง ดีเซล ของ Mini,Volvo & Ford มือสองให้ไกลไว้ :-X
-
ผมว่าไม่เหมาะครับสำหรับยุโรปมือสอง แต่ถ้ามีคันสำรองที่ไว้ใจได้ก็พอไปไหวครับ
หลายๆท่านแนะนำไปเกือบหมดแล้ว ผมขอแนะนำแค่ถ้ายังคิดจะเน้นความปลอดภัย ให้เริ่มจากการปฏิบัติของตัวเองครับ มีลูกให้นั่ง Car Seat สำหรับเด็ก รัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งทุกตำแหน่ง เลือกรถที่มีระบบ passive ครบๆ
และยิ่งรถรุ่นใหม่ยิ่งดีเพราะมาตรฐานในการทดสอบความปลอดภัยจะเข้มงวดขึ้นทุกปี ลองเชคเวปทดสอบจากต่างประเทศได้ครับ ต่อให้เป็นยุโรปแต่ถ้าเป็นรุ่นเก่า บางรุ่นก็ผ่านแบบไม่สวยเหมือนกัน
-
โจทย์แบบนี้ ยุโรปมือสองตอบโจทย์ไม่ได้เลย ยกเว้นอย่างเดียวคือได้ "brand"
D Segment ญี่ปุ่นตอบโจทย์คุณกว่าเยอะ
-
ถ้าเน้นความปลอดภัยที่ ผ่านการทดสอบ small overlap การชนด้านหน้าแบบเยื้อง 25% รถยุโรปก็ต้องปี 2014 ขึ้นไปครับถึงจะ good ครับ
-
งบ1.5ล้าน เสนอข้อมูลตามลำดับดังนี้
1 Camry accord ใหม่เลยครับสบายใจกว้างขวางถุงลมเยอะแล้ว
ความเร็วที่ท่านใช้ประมาณ100 ญี่ปุ่นยุโรปต่างกันไม่มากครับ
เทียบ Camry(ของเพื่อน) กับ bm F10(ใช้เอง)
2ถ้ายุโรปมือ2 ผมใช้xc90 D5 หลังหมด warrantyมาแล้ว3ปี
จ่ายค่าซ่อมยังไม่ถึง100,000 ครับ เลือกใช้ก็เพราะความแข็งแรง
บริโภคก็10กิโลลิตร แนะเลือกปี12ขึ้นไป
สนใจลองศึกษาข้อมูลใน volvo xc90 clubthailandครับ
ส่วนตัวผมเชียร์ข้อ 1ครับ
มีลูกค่าใช่จ่ายมากครับ และตัดปัญหาเรื่องรถไปเลย
ลูกอยู่ในรถขับช้าแน่ๆ ยินดีด้วยครับ
-
E300 W212 ตัวแรกที่เป็นเครื่อง 3.0 เห็นเพื่อนใช้อยู่ ไม่มีอะไรพัง
ส่วนตัวอื่น ถ้าผมจะลองเสี่ยงก็ 523i F10
-
สวัสดีครับ ผมมีแผนที่จะเปลี่ยนรถเร็วๆนี้ ตอนนี้ใช้ C-segment รถญี่ปุ่นอยู่ แต่แฟนยื่นคำขาดให้รถคันใหม่เป็นรถยุโรปเพื่อความปลอดภัย เป้าหมายคือ BMW หรือ Benz มือสองก็ได้
คราวนี้เลยอยากจะรู้ข้อมูลของรถโดยผมมีความต้องการดังนี้ครับ
1. ผมใช้รถค่อนข้างเยอะวันละ 80 กิโลเป็นอย่างต่ำ เลยขอประหยัดน้ำมันหน่อย ติดแกสได้ยิ่งดี
2. ผมชับรถไม่เร็วมาก บนทางด่วนก็ 110-120 นานๆจะกดถึง 160 สักครั้ง
3. Budget ค่าซ่อมบำรุงสำหรับมือสอง 50000 - 100000 บาทต่อปี
4. ผมต้องขับไปทำงานทุกวัน เลยขอที่ไม่เสียบ่อยๆ หรือเสียแต่ซ่อมไม่นาน
5. ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน
6. แฟนผมplan จะมีลูกแฝด เลยอยากได้คันใหญ่หน่อย
ขอบคุณมากนะครับ ผมมาถามใน Board นี้2-3 ครั้งแล้ว ได้รับคำตอบที่อบอุ่นทุกครั้ง
อ่านแล้วปวดตับแทน เจอยังงี้เหนื่อยแน่ๆ ตัด c-seg ของญี่ปุ่นและยุโรปทิ้งทั้งหมดครับ น้องสาวผมใช้ c class w204 แค่กระโปรงหลังมันยังใส่รถเข็นแทบจะไม่ได้แล้วต้องยัด ใส่ของได้อีกนิดนึง มากองหลังคนนั่งแทน ขนาดผมเอา g8 แอคคอร์ดให้ใช้ยังใส่ของได้ไม่ครบเท่าไหร่เลย นี่ขนาดลูก 1 คนนะ ถ้าแฝด เลิกคิดครับ
ในตัวเลือกที่พอจะนึกออกผมเชีย alphard ครับ หรือจะ estima ก็ได้ แต่อัลพารืดซ่อมง่ายกว่าหน่อยๆ หรือถ้าอยากยุโรปจริงๆก็ e60 520d หรือ f10 520d แต่อย่าหวังว่ามันจะไม่จุกจิกนะครับ เพราะรถมันครบอายุซ่อมใหญ่แล้ว จะเริ่มซ่อมไปเรื่อยๆทีละอย่างๆ ที่จะเจอจริงๆคือ รถไปเสียกลางทางอันนี้จะน่ากลัวสุด ผมบอกเลย เรื่องประหยัดคงหายห่วง ส่วนตัวเคยใช้เบ๊นตากลมมือสองไม่ถึงแสนโล ไม่มีชน รถเนี้ยบมากมาระยะ 3 ปี ซ่อมไป 5 แสน เจอค่าแร็คพวงมาลัย สายไฟ ecu กับเซนเซอร์ เลยตัดสินใจเลิกครับ กลับมาหารถ d-seg jp ใช้ดีกว่า ใช้งานง่าย สบายใจ ไม่ต้องระวังมาก
และเท่าที่อ่านจากสิ่งที่ต้องการ คุณไม่เหมาะกับรถมือสองยุโรปเลยเอาจริงๆ เสี่ยงมากไป ถ้าไม่มีลูกนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามีนี่อีกอย่างเลย รถเสียกลางทางไม่สนุกครับ โดนมา 2 ครั้งนี่เข็ดแล้ว ทิ้งแพลนทุกอย่าง หารถสไลด์กลับ ค่าสไลด์ทีเกือบหมื่น ยืนตากแดดร้อนๆ 3-4 ชมเพื่อรอรถมารับไปส่งอู่
-
ลูกแฝด รถ 4 ประตูยังไงก็ลำบาก สุดท้ายก็ต้องไปแนวรถตู้ MPV ... เด็กๆของเยอะนะครับ ไหนจะรถเข็นx2 ไหนจะ car seat X2 ..แล้วถ้าจะมีพี่เลี้ยงไหม ถ้ามีรถ 4 ประตูก็เริ่มลำบากแล้ว ถ้ามีปู่ย่า ตายาย ร่วมเดินทางด้วยอีกล่ะ ... ผมว่าไป alphard, estima หรือจะเล็กหน่อยก็ voxy, stepwagon น่าจะใช้สบายใจกว่าครับ
-
ยอมเจ็บค่าน้ำมันเถอะครับ bmw f30 ครับ
-
ไม่อยากห้าม เพราะฟังดูกิเลศมาเต็ม ผมแนะนำ BMW 520d ประมาณ 6-8 ปีครับ ราคาล้านกลางถึง 2 ล้านหาได้ แต่ที่ต้องย้ำคือ ถ้าต้องซ่อม ผมว่าควรมีงบไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นต่อปีครับ และอาจจะมากกว่านี้ได้ถ้าชิ้นใหญ่ๆ เสีย
รถทน ไม่จุกจิก แต่ถ้าไฟโชว์ หรืออะไรเสีย ต้องซ่อมให้ถึง ถ้าซ่อมไม่ถึง ซ่อมไปที มันจะจุกจิกครับ แต่ถ้าโยนเงินไปเลย เปลี่ยน part ใหม่ไปเลยงี้ มันทนทานแน่ๆ
ดีเซลของ BMW ทน ไม่จุกจิก แต่เรื่องไฟฟ้า และเซ็นเซอร์ต่างๆ ของ BMW ถือว่าเยอะ และถ้าอะไรเพี้ยนนิดหน่อย มันเตือนตลอดครับ แต่ไม่ค่อยเสียกลางทางหรอก
ปล. ถ้าให้ตัวเลือก ผมเชียร์ซีรี่3 มากกว่า เพราะจะได้ปีที่ใหม่ขึ้น และเชียร์ 320d ครับ ไม่จุกจิก ซ่อมง่าย อู่ BMW มีเยอะ ทำการบ้านหน่อย หรือถ้ามาเต็ม ก็เอาเข้า 0 ไปเช็คทั้งคันเลยครับ ยอมจ่าย เปลี่ยน และจะได้ใช้ยาวพร้อมประกัน 0 ด้วยหลังการซ่อม