Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tkteana ที่ สิงหาคม 06, 2010, 08:05:32
-
รบกวนสอบถามเครื่อง 6สูบ กับ 4สูบ แต่งกันอย่างไร ผลดีเสียต่างกันอย่างไรครับ
-
ก็เหมือนเครื่องยนต์ 6สูบเรียง กับ 4สูบเรียง ครับผม
ต่างกันที่จำนวนกระบอกสูบครับ
ดีต่างกันอย่างไร กระบอกสูบมาก ถ้าความจุกระบอกสูบเท่ากัน ก็จะมีกำลังมากกว่าครับ
เครื่องวี ข้อดีก็น่าจะเป็นที่ขนาดเล็กละมั้งครับ
-
เครื่องตัววีกินน้ำมันมากกว่าแต่แรงบิดจะเยอะกว่าและกว้างกว่า เวลาแล่นทางไกลจะเร่งแซงทีความเร็วสูงได้ต่อเนื่องกำลังไม่ตกกว่าสี่สูบ แล้วก็รอบนิ่งเครื่องเงียบกว่าด้วยยยยย ;D
-
เครื่องตัววีกินน้ำมันมากกว่าแต่แรงบิดจะเยอะกว่าและกว้างกว่า เวลาแล่นทางไกลจะเร่งแซงทีความเร็วสูงได้ต่อเนื่องกำลังไม่ตกกว่าสี่สูบ แล้วก็รอบนิ่งเครื่องเงียบกว่าด้วยยยยย ;D
เห็นด้วย เพราะรถรุ่นที่ผมใช้เป็นเครื่อง 2000cc. มีเครื่อง 4สูบเรียง และเครื่อง V6
จะเป็นตามที่คุณ 2k ว่ามาเลยครับ
แต่ถ้าเป็นแบบสูบ V เหมือนกัน ต่างกันที่จำนวนสูบ......น่าจะไม่แตกต่างกันมาก อารมณ์ประมาณเดียวกันแหละครับ
-
แล้วเครื่อง boxer มีข้อดีข้อเสียก่วายังไรบ้างครับ ;D
แล้วเครื่อง rotary ล่ะครับ
ขอบคุณครับ
-
เครื่อง boxer ของซูบารุใช่ปะครับ มันจะเป็นสูบแบบนอนยัน หลักการทำงานมันจะเหมือนกับ คน 4 คนนอนเรียงกัน แต่หันหัวไปคนละทาง
คนแรกหันขึ้น คนที่2กับ3เอาหัวลง ส่วนคนที่ 4 เอาหัวขึ้นเหมือนกันกับแรก
โดยปกติการจุดระเบิดของสูบปกติ จะมีการจุดทีละสูบ แต่ของ boxer จะจุดทีละ 2 สูบครับ ลองดูจากรูปที่ผมหามาให้แล้วกันนะ
เคยเซฟมานานแล้วอะครัล ไม่แน่ใจมาจากเวปไหน ยังไงต้องขอโทดด้วยที่ไม่ได้ลงเครดิตไว้นะครับ
ส่วนข้อดีก็คาดว่าน่าจะทำให้ได้กำลังสูงกว่าเครื่องปกติอะครับ
-
เครื่อง boxer ของซูบารุใช่ปะครับ มันจะเป็นสูบแบบนอนยัน หลักการทำงานมันจะเหมือนกับ คน 4 คนนอนเรียงกัน แต่หันหัวไปคนละทาง
คนแรกหันขึ้น คนที่2กับ3เอาหัวลง ส่วนคนที่ 4 เอาหัวขึ้นเหมือนกันกับแรก
โดยปกติการจุดระเบิดของสูบปกติ จะมีการจุดทีละสูบ แต่ของ boxer จะจุดทีละ 2 สูบครับ ลองดูจากรูปที่ผมหามาให้แล้วกันนะ
เคยเซฟมานานแล้วอะครัล ไม่แน่ใจมาจากเวปไหน ยังไงต้องขอโทดด้วยที่ไม่ได้ลงเครดิตไว้นะครับ
ส่วนข้อดีก็คาดว่าน่าจะทำให้ได้กำลังสูงกว่าเครื่องปกติอะครับ
ที่สำคัญได้เสียงเครื่องที่ไม่เหมือนใครด้วย
ผมโคตรชอบเสียงพวกเครื่อง Boxer จิงๆ พับผ่าสิ
-
Boxer มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่าเครื่องแบบอื่นอีกด้วยครับ ส่วนเรื่องกำลังไม่ได้ต่างจากเครื่องแบบอื่นครับ
ปล. เสียงก็เป็นเอกลักษณ์สุดๆ
-
ขอพูดเท่าที่รู้นะครับ 6สูบดีกว่า ตรงที่ มันbalanceในตัวเองครับ(เหมือนเวลาดับเครื่องนี่ สังเกตุได้เลย ว่ามันลากไปได้ไกลกว่าเหมือนไม่ค่อยอยากดับ เสียงดับจะยาว เฮ้อ อธิบายไม่ถูก แต่ถ้า4สูบสั่นกึกดับเลย ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้เวลาเร่งมันนิ่งกว่าครับ
ข้อเสียก็อยู่ที่ซดน้ำมันนี่แหละครับ
-
รู้แค่ว่าโรตี มาตอนรอบสูงๆ
-
พอดีรถผมตอนนี้ 3คัน มีทั้ง V6 , L6 , L4 ครบเลย
(แต่ต่าง cc)
มองว่าถ้า cc เท่ากัน V6 จะนุ่ม ลื่น เงียบ ต้นหนืด ปลายไหล กินน้ำมัน สุด
L4 จะไม่สมูทเท่า แต่ต้นดี ประหยัดน้ำมันกว่า
L6 จะอยู่ครึ่งๆระหว่าง V6 กับ L4 คือ สมูทกว่า L4 แต่ไม่เท่า V6 อัตราเร่ง และกินน้ำมันกลางๆ
(แต่ L6 ก็แล้วแต่บางตัวด้วย เช่น L6 ของ BMW ใน 25i กับ 23i พวกนี้ กำลังดีต้น-ปลายเลย แต่กินน้ำมันกว่า V6 ของคู่แข่ง)
-
เรื่องรูปแบบเครื่องยนต์ หลายท่านตอบไปละ ถูกตามนั้น จริงๆยังมีอีกหลายเรื่อง จำนวนสูบที่ต่างกัน ระยะหมุนองศาเพลาข้อเหวี่ยงที่ต่างกันในแต่ละสูบก็ไม่เท่ากัน
อย่างเรื่องเสียงเครื่อง เครื่อง 4 สูบเรียงข้อเหวี่ยงหมุน 1 รอบ มีเสียงจากการจุดระเบิดดัง 2 ครั้ง เพราะจุดสองสูบ
เครื่อง 6 สูบเรียง หมุน 1 รอบ มีเสียงสามครั้ง
ดังนั้นถ้าหมุน 6000 รอบเท่ากัน เสียงจากเครื่อง 6 สูบมีความถี่จากการเกิดของเสียงมากกว่าเลยฟังดูต่อเนื่องกว่า
ส่วนเครื่อง Boxer นั้น เสียงบุ่มบั่มที่เป็นเอกลักษณ์นั้นมาจากความไม่สมมาตรของท่อไอเสียทั้งสองด้าน
เครื่อง Boxer เทอร์โบเดี่ยว เทอร์โบจะแขวนอยู่ด้านคนขับ (ซ้าย ถ้ามองจากหน้ารถ) ท่อไอเสียที่มาจากฝาสูบด้านซ้าย
เดินทางสั้นนิดเดียว แต่ท่อที่อยู่ฝาสูบด้านขวาต้องเดินอ้อมอ่างน้ำมันเครื่องมา เมื่อไอเสียมาเป็นจังหวะเจอกันอย่างไม่เป็นระเบียบ
ก็เลยเป็นเสียงไอเสียตีกันเอง
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=OrXUi9COQ7M&feature=related[/youtube]
อันนี้เป็น WRX ที่ใช้ท่อร่วมไอเสียแบบด้านไม่เท่า (แต่โมดิฟายมานะ)
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=By4G4HD17S8&feature=related[/youtube]
อันนี้เป็น STi S203 ใช้ท่อร่วมแบบที่มีความยาวท่อสองด้านเท่ากัน เสียงจะเรียบกว่าแต่ดุไปอีกแบบ
-
โอ้โห คลิบที่สองนี่ นกกระจอกยังกินน้ำไม่เสร็จเลย
แต่พี่เสร็จซะและ ( 0 ->100-> 0 )
-
;D ;D ;D..................just from my own view may descripe followings:-
- for 4 cylinders the most engine will timing ignite 1-3-4-2........that means 1 to 3, 3 to 4 and 4 to 2 still got wide gap range
while ignition firing which created longer vibrations!
- but 6 cylinders for the most may set timing as 1-5- 3-6-2-4...........so in one revolution cycle as per the same rpm. of 4 cy.
thier firing ignition closer sequential and more smoother than 4 cy. engine as you may notice of engine moving quite sound!
and that's all folks........................yogibear
PS. to modifying i would suggest go for L6 which much riding more powerful torque and horses than V6 or those junior 4 cy.