Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ZeroAda ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2019, 15:53:54
-
จากปัญหาด้านการตลาด คุณภาพรถ การให้บริการและวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะทางของรถ2ยี่ห้อข้างต้นนี้
พี่ๆคิดว่า2เจ้านี้ทำตัวเองอย่างเต็มตัวหมดมั้ยครับหรือมีปัจจัยอื่นๆในตลาดรถยนต์มาเกี่ยวข้องยังไงบ้าง :-\
*เคสของนิสสันคือการโฆษณา การตลาดที่ย่ำแย่ทั้งที่มีของดีในตลาดโลกเพียบ
*เคสมาสด้าก็ปัญหาตัวรถทั้งปั๊มติ๊กCX5เบนซินพังในตัวเก่าและใหม่,ดีเซลน้ำดันของCX5ตัวดีเซลและเครื่องสั่น เกียรพังในMazda 2
-
-Nissan เหมือนเสือหลับลึกก หลับนาน ..คงต้องใครซักคนมาปลุก!
-Mazda เหมือนเด็กที่กินยาโตเร็ว ส่วนต่างๆร่างกายยังไม่พร้อมโต
skyactiv เป็นยาเร่งโต แล้วก็ย้อนทำร้ายตัวเอง ยาตัวใหม่ๆที่จะนำเสนอเข้ามาคงไม่ได้ผล
(มีอาการดื้อยาแล้ว)
-
mazda นี่อาการเริ่มน่าเป็นห่วงแล้ว เพราะโตไวเกินกว่า ระบบการทำงานของบริษัทและศูนย์จะรองรับทัน ถ้าไม่รีบปรับปรุงมีแววตาม nissan รถดีแค่ไหนก็ขายไม่ออก
-
-Nissan เหมือนเสือหลับลึกก หลับนาน ..คงต้องใครซักคนมาปลุก!
-Mazda เหมือนเด็กที่กินยาโตเร็ว ส่วนต่างๆร่างกายยังไม่พร้อมโต
skyactiv เป็นยาเร่งโต แล้วก็ย้อนทำร้ายตัวเอง ยาตัวใหม่ๆที่จะนำเสนอเข้ามาคงไม่ได้ผล
(มีอาการดื้อยาแล้ว)
เห็นภาพเลยครับ ชัดเจนมากๆ
-
ผมมองว่า
Nissan (Thailand เท่านั้น)
- ลดต้นทุนหลายอย่างมากไป อะไหล่บางตัวเสียก่อนแสน เช่นตู้แอร์ Almera และต่อให้เปลี่ยนอะไหล่แท้มาแล้ว ก็ยังเสียไวอยู่ดี เพราะลดต้นทุน
- เหมือนจะบอกว่าตัวเองนำด้านเทคโนโลยีแบบกล้องรอบคัน แต่กลับใช้เครื่องยนต์เก่าๆ ลดต้นทุนไปก่อน ค่อยมาลดราคาภายหลัง อย่างเครื่อง March 8 ปีแล้ว ก็ยังเอามายัดใส่ Note ความเร็วต่างกับคู่แข่งเป็นหางว่าวแล้ว อย่าง Swift 0-100 ก็ 13 วิ Note นี่ล่อไป 16 กว่า แต่ขายในนาม Eco Car คนชอบก็ซื้อ ขายน้อยลงก็อัดโปร แบบ Almera มีโปรตลอดปีตลอดชาติ ออกรถง่าย แทบไม่ต้องจ่ายเงินดาว์น
Mazda
- ช่วงล่างดี เพราะรถมาสไตล์ช่วงล่างแข็ง ออกตัวหลังกระแทกเบาะได้ฟิลแรงทั้งเสียงเครื่องและพวงมาลัย หรือที่เรียกว่า Feel The Drive ตามสโลแกน แต่ถ้าวัดเป็นตัวเลข รถตลาดหลายๆ เจ้าเร็วกว่าชัด เพียงแต่ฟิลลิ่งมันนุ่มนิ่มดูไม่แรงแค่นั้นแหละ ขับปกติเกาะดีนะ แต่ถ้าขับซิ่งๆ ก็ต้องเข้าใจสไตล์ช่วงล่างแข็ง ฟิลลิ่งเสียวๆ ตอนเข้าโค้งแรงๆ จนต้องเบรคจะไม่มี (แบบพวก Honda Toyota) รู้ตัวอีกทีคือล้อลอยขึ้นมาแล้ว แบบ Clip Moose Test CX3
- อะไหล่ชอบใช้ของตัวเอง เทคโนโลยีใหม่ๆ มาไวมาก ลุ้น Defect ได้เลย ตั้งแต่สมัย Skyactiv ตัวแรกออกมาแล้ว ต้องผ่านไปซักปี ถึงจะนิ่ง รถดีนะ ถ้ามีเงินสู้ราคาอะไหล่ และค่าแรงไหว Mazda ไม่ใช่รถอะไหล่ถูกแบบ Suzuki Toyota เลย
-
ผมมองว่า
Nissan (Thailand เท่านั้น)
- ลดต้นทุนหลายอย่างมากไป อะไหล่บางตัวเสียก่อนแสน เช่นตู้แอร์ Almera และต่อให้เปลี่ยนอะไหล่แท้มาแล้ว ก็ยังเสียไวอยู่ดี เพราะลดต้นทุน
- เหมือนจะบอกว่าตัวเองนำด้านเทคโนโลยีแบบกล้องรอบคัน แต่กลับใช้เครื่องยนต์เก่าๆ ลดต้นทุนไปก่อน ค่อยมาลดราคาภายหลัง อย่างเครื่อง March 8 ปีแล้ว ก็ยังเอามายัดใส่ Note ความเร็วต่างกับคู่แข่งเป็นหางว่าวแล้ว อย่าง Swift 0-100 ก็ 13 วิ Note นี่ล่อไป 16 กว่า แต่ขายในนาม Eco Car คนชอบก็ซื้อ ขายน้อยลงก็อัดโปร แบบ Almera มีโปรตลอดปีตลอดชาติ ออกรถง่าย แทบไม่ต้องจ่ายเงินดาว์น
Mazda
- ช่วงล่างดี เพราะรถมาสไตล์ช่วงล่างแข็ง ออกตัวหลังกระแทกเบาะได้ฟิลแรงทั้งเสียงเครื่องและพวงมาลัย หรือที่เรียกว่า Feel The Drive ตามสโลแกน แต่ถ้าวัดเป็นตัวเลข รถตลาดหลายๆ เจ้าเร็วกว่าชัด เพียงแต่ฟิลลิ่งมันนุ่มนิ่มดูไม่แรงแค่นั้นแหละ ขับปกติเกาะดีนะ แต่ถ้าขับซิ่งๆ ก็ต้องเข้าใจสไตล์ช่วงล่างแข็ง ฟิลลิ่งเสียวๆ ตอนเข้าโค้งแรงๆ จนต้องเบรคจะไม่มี (แบบพวก Honda Toyota) รู้ตัวอีกทีคือล้อลอยขึ้นมาแล้ว แบบ Clip Moose Test CX3
- อะไหล่ชอบใช้ของตัวเอง เทคโนโลยีใหม่ๆ มาไวมาก ลุ้น Defect ได้เลย ตั้งแต่สมัย Skyactiv ตัวแรกออกมาแล้ว ต้องผ่านไปซักปี ถึงจะนิ่ง รถดีนะ ถ้ามีเงินสู้ราคาอะไหล่ และค่าแรงไหว Mazda ไม่ใช่รถอะไหล่ถูกแบบ Suzuki Toyota เลย
Nissanน่าห่วงแต่ของบ้านเราและเอเชียไม่กี่ที่ซึ่งต้องแก้แต่ที่อื่นก็โอเคนะ ยังไงก็ขอบคุณพี่หมีที่แจงมาครับ
-
จขกท. เมมเก่าไปไหนครับ หรือผมเข้าใจผิดคน - -a
-
ถ้าเทียบเรื่องการตอบสนองของปัญหานิสสันยังดีกว่ามาสด้าเยอะ เรียกว่าเป็นอันดับต้นๆในแบรนด์รองเลย แม้ว่านโยบายจากประธานคนปัจจุบันจะทำให้แย่ลงบ้างก็ตาม รับ feedback จากลูกค้าดีอยู่ อะไหล่หลายตัวก็มีแยกชิ้นขายหลังจากโดนลูกค้าสวดเยอะเข้า โตโยต้าอะไหล่หลายตัวยังไม่ยอมแยกขายก็มี
-
จากประสพการณ์ใช้นิสสันมา 7 ปี ตั้งแต่สมัย March ยัน Note
อย่างมาร์ชผมเคยปั้มติ๊กดัง ลูกปืนล้อดัง แตรไม่ดัง ก็เคลมให้ไม่มีงอแง
แม้กระทั่งพัดลมไฟฟ้าที่ขึ้นชื่อว่าพัง แต่ตอนนั้นรถผมยังแรงปกติไม่มีเสียง ก็เคลมให้นะครับ
อะไหล่ก็ไม่น่าห่วง ของจุกจิกเบิกศูนย์ถูกกว่าเจ้าตลาดพอสมควร
เรื่องการแก้ปัญหา ถือว่าทำได้ดีครับ มีฝ่ายเทคนิคประจำทุกศูนย์ ส่งเรื่องไป NMT ได้เลย
ผมเอา Note เข้าไปเช็คเรื่องเกียร์ดังตอนความเร็วต่ำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ฝ่ายเทคนิคเองทำการอัดเสียงส่งบริษัทแม่เพื่อประเมิน และประสานงาน Jatco เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมด้วย
โดยล่าสุด ทางศูนย์ขอนัดพุธหน้าเพื่อทำการตรวจสอบ ก็ถือว่าเร็วดีครับ
ถ้ามองว่าปัญหาของนิสสัน มีแค่เรื่องการตลาดเท่านั้นครับ เพราะต้องอิงกับ Nissan Oceania เราทำอะไรไม่ได้มาก
ส่วนคุณภาพรถผมถือว่าดีใช้ได้ การประกอบแน่นหนาใกล้เคียงยุคก่อน
นิสสันไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องลดต้นทุนการผลิต แต่จะมีปัญหาเรื่องชี้นส่วนบางชี้นที่พังเร็ว
เพราะเป็นเรื่องที่บีบให้ Supplier ลดต้นทุน อะไหล่ออกมาจึงได้แค่มาตรฐาน -+0 ผิดกับโตต้า ที่อะไหล่มาตรฐาน +1 หรือ +2 เสมอ
-
ระหว่างสองยี่ห้อนี้ ผมไว้ใจ Nissan มากกว่าครับ อย่างน้อยผมก็ใช้รถได้สบายใจกว่าในระยะยาว
-
ปัญหาของ NISSAN ในมุมผม ไม่ได้อยู่แค่การตลาดนะ
ในมุมเรื่องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยครับ มันไม่ใช่แค่ การเคลมง่าย นะ แต่มันต้องนำสิ่งที่เกิดกลับไปแก้ไข part ชิ้นนั้น ให้หมดปัญหาด้วยครับ ตรงนี้ ที่ nissan ยังเป็นรอง 2 แบรนด์ดังครับ 2 เจ้านั้น พอเกิดปัญหา เค้า action แก้ไข part ในระดับที่เร็วมากๆครับ
ถ้า nissan ทำตรงนี้ได้ รถมันก็จะทนขึ้น ปัญหาติดตัวประจำรุ่น มันก็น้อยลง (อาจจะมีแค่เปิดตัว) แล้วยอดมันก็จะดีขึ้นครับ
-
ผมว่า Nissan แก้ยากมากครับ เพราะมันเป็นเรื่องของการออกแบบ ต่อให้รถไม่มีปัญหา คนก็ไม่ซื้ออยู่ดี
Mazda แก้ง่ายกว่า แค่ QC รถให้ไม่มีปัญหา จบ ขายดีกว่าเดิม
-
ผมว่าน่าห่วงทั้งคู่ เรื่องหลังการขาย ต้องรีบพัฒนาด่วน
-
จขกท. เมมเก่าไปไหนครับ หรือผมเข้าใจผิดคน - -a
ผมลบแอคเคาท์เก่าไปแล้วครับ เพราะว่าเคยไปมีดราม่าบ้างใน1ปีนี้
-
ผมว่า Nissan แก้ยากมากครับ เพราะมันเป็นเรื่องของการออกแบบ ต่อให้รถไม่มีปัญหา คนก็ไม่ซื้ออยู่ดี
Mazda แก้ง่ายกว่า แค่ QC รถให้ไม่มีปัญหา จบ ขายดีกว่าเดิม
mazda ก็มีเรื่องการออกแบบนะครับ ใน sky ดีเซลก็จากการออกแบบ ไม่ใช่หรือครับ