Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Karn2002 ที่ มีนาคม 07, 2019, 18:48:55
-
มาชมสุดยอด Hypercar ปี 2019 จากงาน Geneva Motor Show กันครับ
Bugatti La Voiture Noire
Koenigsegg Jesco
Pininfarina Battista
https://youtu.be/rg9d1MP00UQ (https://youtu.be/rg9d1MP00UQ)
https://youtu.be/3sStmxMTI2c (https://youtu.be/3sStmxMTI2c)
https://youtu.be/56lEOtKZHHM (https://youtu.be/56lEOtKZHHM)
-
Bugatti La Voiture Noire มาไทยนี้ ราคาน่าจะประมาณพันล้านบาทน่ะนั้น
Koenigsegg Jesko ความเร็วสูงุด 482 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บ้าไปแล้ว เร็วกว่า ชินคันเซ็น ซ่ะอีก
-
สวยทุกคัน bugatti ตัวนี้สวยกว่าเดิมเยอะอยู่ konigsegg นี่ก้แรงขึ้นไปเรื่องอนาคตจะแตะ500Km/hมั้ย 55555
-
Bugatti La Voiture Noire
ราคา 12 ล้านปอนด์ แปลงเป็นเงินไทยราวๆ 505 ล้านบาท ถ้านำเข้ามาเจอภาษีสูงสุดของประเทศไทย 328% เท่ากับ 1,656 ล้าน 4 แสนบาท ไม่คิดค่าขนส่งและอื่นๆ
อื้อหือ ถ้าใครซื้อมานี่ ต้องโคตรของโคตรเงินเหลือเลย
-
Bugatti ตั้งราคาได้สุดโต่งมาก
-
มันมียางรองรับด้วยแฮะพวกระดับแรงม้าขนาดนี้ กับความเร็วสูงมากๆ
-
ปกติดีไซน์ Bugatti นี่ไม่รักก็เกลียดเลย แต่คันนี้สุดๆจริงๆ :-*
-
Koenigsegg นี่สุดจริง โคตรพ่อไฮเปอร์คาร์
ตั้งแต่รุ่น one ละ ตบทุกสำนัก
ราคา บูกัตติ ซื้อสวิฟต์ได้ประมาณ 1500คัน 55555
-
ราคาแต่ละคันถูกเป็นอุจจาระ... ;D
-
สามคันนี้ยางเจ้าเดียวกัน ยางเกินรถไปเยอะ
รอหลายสิบปีกว่ารถบ้านจะตามทัน f1แก้มหนากว่านี้ ยังแรงกว่า เค้นได้มากกว่า
นุ่มหนึบกว่า พอมีโช้คไฟฟ้า ยางแก้มเตี้ยลง รถยังไม่เด้ง บินไปอัฒจรรย์
ราคายางรถบ้านแรงแพงกว่า รถบ้านต้องเน้นทน ทำทีใช้น้อยกว่ารถแข่ง
เวลาทำรถแรงขายก็ถามบ.ยางก่อนว่า มีแม่พิมพ์รอ หรือสั่งทำได้ ไม่งั้นทำขายไม่ได้
แค่เครื่องบินขับไล่กระชากตัวจาก แท่นปล่อยบนเรือ ยางรับแรงเค้นมากกว่ารถแข่งเยอะ
เวลาลงบนเรือ แรงกระแทกก็มากกว่า ล้อแม็กยังใส่ยางทรงเดิมไม่มีอะไรใหม่
รถดำ
เหล้าเก่าในขวดใหม่ ตั้งแพง ทำแค่คันเดียวก็ไม่แปลก เพราะเน้นโชว์มากกว่า
ทรงรถค่อยสมเป็นค่ายเศสหน่อย ทั้งที่เยทำทั้งคัน ให้ลี่ออกแบบ ถึงไม่มีกลิ่นน้ำหอมเลย
เส้นแบ่งครึ่งตัวถังรถ จางลงทำให้ดูดีขึ้นมาก ไฟหน้าแก้เป็นผู้เป็นคนขึ้น ไม่บวมอืด
ท้ายยกสูง ตูดลาดมน ลงตัว ไฟท้ายแก้จากชิรอน
ท่อสูตรคงรวมสูบที่ยาวให้มัดรวม ไม่ยักเป็นแปด
ปัญาที่เจอมาคือ ยิ่งปลายไหลได้มาก ยิ่งซดหนัก
แรงต้านอากาศมาก ทรงรถมีแรงต้านเท่าๆเดิม ไม่ลู่ลมขึ้น
ต้องใช้พลังเครื่องออกแรงมากขึ้น เกียร์ก็เดิมๆ
ข้างในต้องหรูอีก น้ำหนักรถก็มากกว่าชาวบ้าน ต้องแรงกว่าด้วย สวยด้วย
เท่ไม่ซ้ำใครด้วย ไม่ขายแพงขนาดนี้ คงขาดทุนบาน
ชิรอนถ่ายของเหลวทั้งคันทีเกินครึ่งล้าน คันดำคงไม่เกินล้าน
โคนิคเซ็ค
กล้าทำหางลู่หน้า คงมั่นใจว่าปลายหางแข็งแรง ถ้าขยับผิดมุมขึ้นมารถจะพลิก หมุนทันที
ไม่คิดว่าจะกล้าปล่อยให้ปลายปีก ลอยตัวขนาดนี้ มีเสายึดแบ่งลมเป็นช่องจะอุ่นใจกว่า ไม่ส่ายแน่นอน
ปีกลู่หน้ามีแต่ในเครื่องบินขับไล่ต้นแบบ สุดท้ายไม่กล้าทำขาย เพราะปีกลู่หน้าเป็นจุดอ่อนร้ายแรง
ไม่ปีกขาด ก็ตัวขาด เพราะต้านลมไม่ไหว ให้แรงยกตัวดี เลี้ยววงแคบกว่าปีกลู่หลัง
แต่ต้นทุนสูงมาก ต้องเสริมที่ปีกและลำตัวให้แข็งแรงกว่าปกติหลายเท่า
ตัวหนักขึ้น แพงขึ้น เครื่องต้องแรงขึ้น กินน้ำมันมากขึ้น บินไกลสู้ชาวบ้านลำบาก
เวลาที่เครื่องบิน เสียการทรงตัว ควงสว่าน แก้คืนยากกว่าปีกลู่หน้า นักบินดีดตัวยากกว่า
รถจึงแก้เกียร์ให้กินแรงน้อยลง แก้เครื่องให้กินเหล้ามากกว่าน้ำมัน ฝาสูบเย็นขึ้น
อุณหภูมิห้องเผาไหม้คงตัวขึ้น ท่อไอเสียพาความร้อนจากเครื่องดีขึ้น
รถน่าจะบังคับที่150กม.ขึ้นไปดีขึ้นเห็นๆ ซดน้อยลง เครื่องเกียร์เย็นลง
นับว่าเกาถูกที่คัน แต่คงต้องรอดูกว่าหางปีกลู่หน้า จะเสถียรจริงรึเปล่าเมื่อเสียหาย ผิดมุม
ฟินินฟาริน่า
อี ฟอร์มูล่าตีทะเบียน คัสซีคล้ายxเฟรมหรือ อีจาก้วย ของคอลลิน แชปแมน ยอดวิศวกรอังกฤษ
แปลกที่ขับหน้า น่าจะขับสี่ สี่มอเตอร์จะสมกับแรงบิดที่มากขนาดนี้
ต้องเห็นรางถ่าน ระบบอุ่น เย็น ไฟฟ้าของรถ ดูถ้าจะเหมาะกับอากาศแห้ง หนาวมากกว่าร้อนชื้น
เวลาอัดไฟต้องใช้แท่นเกิน 120แอมป์ไม่งั้นรอนาน ไฟเลี้ยงคงแรงกว่ารถบ้าน 2-3เท่า
ทำรถทีใส่ถุงมือ รองเท้า ชุด พันโวลต์ทุกครั้งแน่นอน รักษ์โลก แต่อาจรักช่างมากกว่าเจ้าของ
ขนาดเขาควายยังไม่ค่อยนิ่ง ชาวบ้านทำก็ไม่ง่าย ยิ่งแรงกว่า กินไฟกว่า ปัญหาก็มากกว่า
-
ชอบ Jesko :) :) :) :)