Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: V221 ที่ มีนาคม 07, 2019, 20:19:31
-
ได้ข่าวมาจากตัวแทนหลายแห่งว่า E Class Diesel facelift w213 กำลังจะกลับมาขายในบ้านเราเร็วๆนี้ครับ น่าจะมาเร็วกว่า Audi A6 sedan ใหม่ด้วยซ้ำครับ
-
ควรมีไว้เป็นทางเลือกให้ผู้ซื้อตั้งแต่แรกแล้วครับ วิธีการบังคับให้คนซื้อต้องซื้อรถไฮบริดอย่างเดียวน่าเกลียดมาก
-
คงต้องรอ E Facelift แล้วขายเฉพาะเครื่องยนต์ปกติไปช่วงแรก แล้วตามด้วยเสียบปลั๊กเหมือนอย่าง C,S Facelift เครื่องยนต์เบนซินพ่วงเสียบปลั๊กตัวใหม่เห็นใช้รหัส 300e (ดีเซลก็มี 300de) คงต้องรอการปรับเปลี่ยนในสายการผลิตช่วงแรก
-
ถ้าผมเป็นผู้บริหารเบนซ์ จะไม่เอาตัวplug-inเข้ามาขายแต่จะคงตัวสันดาปทั้งเบนซิน ดีเซลไว้ก่อนครับ
-
นาทีนี้เครื่อง Hybrid คงไปค่ายญี่ปุ่น
ส่วนยุโรปโดยเฉพาะเบนซ์ ผมมองว่าเครื่องมีประสิทธิภาพสูง แต่ในแง่ reliability ยังต่ำกว่าญี่ปุ่นมาก
เหมือนทำเครื่องให้เจ๋ง แต่ทำให้ดียังไม่ได้ ครับ
-
ถ้าผมเป็นผู้บริหารเบนซ์ จะไม่เอาตัวplug-inเข้ามาขายแต่จะคงตัวสันดาปทั้งเบนซิน ดีเซลไว้ก่อนครับ
ยังไงตัว plugin ก็กำไรมากกว่า เสียภาษีก็ต่ำกว่า คนนอกไม่รู้ตัวเลขทางบัญชี ต้นทุน ภาษีอะไรเลยแบบเรา คิดแต่เรื่องที่เราชอบ คนน่าจะชอบ ซึ่งมันไม่ถูกเสมอไปครับ
ผู้บริหารเบนซ์ ไม่ได้โง่นะครับ
-
ถ้าผมเป็นผู้บริหารเบนซ์ จะไม่เอาตัวplug-inเข้ามาขายแต่จะคงตัวสันดาปทั้งเบนซิน ดีเซลไว้ก่อนครับ
ยังไงตัว plugin ก็กำไรมากกว่า เสียภาษีก็ต่ำกว่า คนนอกไม่รู้ตัวเลขทางบัญชี ต้นทุน ภาษีอะไรเลยแบบเรา คิดแต่เรื่องที่เราชอบ คนน่าจะชอบ ซึ่งมันไม่ถูกเสมอไปครับ
ผู้บริหารเบนซ์ ไม่ได้โง่นะครับ
เขาเก่งเรื่องทำตัวเลขให้บริษัทสวยๆไงครับ ยังไงการมัดมือชกแบบนี้ผมก็ไม่ชอบ
ส่วนเรื่องรักษ์โลกนี่ใช้เป็นข้ออ้างกันซะเยอะ ยังไง process การผลิต/รีไซเคิลแบต มันย่อมส่งผลกระทบต่อธรรมชาติอยู่แล้ว
-
C43 SDนี่ไม่มาแล้วใช่ไหม
-
ดีเลยครับ
-
คนอยู่ภายนอกใครๆ เขาก็คิดแบบนี้แหละ แต่ถ้าคุณเป็นผู้บริหารเจอภาษีสรรพสามิต 30-35% vs 10% ส่วนต่างมากขนาดนี้คุณจะเลือก 30-35% งั้นหรือ
ถ้าผมเป็นผู้บริหารเบนซ์ จะไม่เอาตัวplug-inเข้ามาขายแต่จะคงตัวสันดาปทั้งเบนซิน ดีเซลไว้ก่อนครับ
-
C43 SDนี่ไม่มาแล้วใช่ไหม
ผมว่ามันคงเรียกราคาไม่ได้ เหมือนรถคูเป้
-
นอกจาก E class ดีเซลแล้ว
มีข่าวของเครื่อง"เบนซินล้วนๆ"ไหมครับ
-
ถ้าผมเป็นผู้บริหารเบนซ์ จะไม่เอาตัวplug-inเข้ามาขายแต่จะคงตัวสันดาปทั้งเบนซิน ดีเซลไว้ก่อนครับ
ยังไงตัว plugin ก็กำไรมากกว่า เสียภาษีก็ต่ำกว่า คนนอกไม่รู้ตัวเลขทางบัญชี ต้นทุน ภาษีอะไรเลยแบบเรา คิดแต่เรื่องที่เราชอบ คนน่าจะชอบ ซึ่งมันไม่ถูกเสมอไปครับ
ผู้บริหารเบนซ์ ไม่ได้โง่นะครับ
เขาเก่งเรื่องทำตัวเลขให้บริษัทสวยๆไงครับ ยังไงการมัดมือชกแบบนี้ผมก็ไม่ชอบ
ส่วนเรื่องรักษ์โลกนี่ใช้เป็นข้ออ้างกันซะเยอะ ยังไง process การผลิต/รีไซเคิลแบต มันย่อมส่งผลกระทบต่อธรรมชาติอยู่แล้ว
ใช่ครับ รถ plugin ถ้าขายกันตามราคาป้ายก็จะได้กำไรมากกว่าแน่นอน แต่....ในความเป็นจริงเวลาขายก็มัก
ไปมีส่วนลดมากกว่าเครื่องน้ำมันล้วนอยู่ 3-4แสน/คัน แถมด้วยยอดขายจำนวนคัน
ผมมั้นใจประมาณ 98% ว่า plugin ขายสู้เครื่องน้ำมันล้วนไม่ได้ครับ....สรุป ถ้าผมมองในมุมมองของผม
โดยถัวเฉลี่ยกำไรต่อคันหลังหักส้่วนลด+ยอดขายที่จะขายได้ ผมว่าขายเครื่อง Plug in ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นมากนัก
ปล. ผมอาจไม่ถูกก็ได้ครับ แค่คิดตามมุมมองของผมเท่านั้นครับ
-
สุดท้ายคนซื้อไม่ได้บ่น คนบ่นไม่ได้ซื้อ แล้วจะแคร์เพื่อ??? แค่นี่ก็ขายชิลๆกันอยู่ล่ะ
-
อยากได้เครื่องเบนซินอย่างเดียวมากกว่า
เครื่องดีเซลไม่ชอบเสียงดัง
-
สุดท้ายคนซื้อไม่ได้บ่น คนบ่นไม่ได้ซื้อ แล้วจะแคร์เพื่อ??? แค่นี่ก็ขายชิลๆกันอยู่ล่ะ
บางทีคนบ่นไม่ได้ซื้อ ก็ไม่ใช่ไม่อยากซื้อนะครับ แต่กลัวว่าซื้อมาแล้วจะบ่นเยอะกว่าเดิม เลยไม่ซื้อดีกว่าครับ
เพราะที่ซื้อมาอยู่ตอนนี้ก็ยังมีเรื่องให้บ่นอยู่ตลอด
-
สุดท้ายคนซื้อไม่ได้บ่น คนบ่นไม่ได้ซื้อ แล้วจะแคร์เพื่อ??? แค่นี่ก็ขายชิลๆกันอยู่ล่ะ
บางทีคนบ่นไม่ได้ซื้อ ก็ไม่ใช่ไม่อยากซื้อนะครับ แต่กลัวว่าซื้อมาแล้วจะบ่นเยอะกว่าเดิม เลยไม่ซื้อดีกว่าครับ
เพราะที่ซื้อมาอยู่ตอนนี้ก็ยังมีเรื่องให้บ่นอยู่ตลอด
ที่บ่นแล้วไม่ซื้อเพราะเป็น Hybrid เนี่ยแหล่ะครับ ถ้ามีทางเลือกทั้งเครื่องสันดาปและ Hybrid จะไม่มีใครบ่นเลยครับ
-
ค่ายนี้ขยันเปลี่ยนเครื่องยนต์มากครับ หลังๆช่างเฉพาะทางซ่อมยากเพราะแปปๆเปลี่ยนๆกลายเป็นต้องเข้าศูนย์อย่างเดียวเลย ขนาดช่างศูนย์ยังงงๆ
-
น่าจะมาแหละครับ ส่วนตัวไฟฟ้า จะกลายเป็น EQ ไป
ปล. A6 น่าสนใจมากๆ กวาดมาหลายรางวัลในยุโรปเลย